๑๔

ความตื่นเต้นของเหตุการณ์ในวันนั้นไม่อาจจะสงบไปได้แม้ว่าเวลาจะได้ผ่านไปแล้วถึงสิบวัน เจียงเฟผู้มีอุดมคติสูงได้หายไปอย่างลึกลับ เขาจะเป็นตายร้ายดีอย่างไรไม่มีใครรู้ ข้าพเจ้าเองได้พลอยวิตกกังวลไปด้วยเพราะคนอย่างเจียงเฟข้าพเจ้าต้องการตัว ข้าพเจ้าต้องการให้มีคนอย่างเจียงเฟมาก ๆ ทุกวันนี้มนุษย์ ๑,๘๐๐ ล้านกำลังเร่ร่อนหลงทางอยู่ในความมืด คนเกือบทั้งโลกกำลังถูกทอดทิ้งให้หลงละเมออยู่ในกองกิเลสที่มากไปด้วยความลำเอียง, ความหลงชาติ, ความโลภ, ความเห็นแก่ตัว, คนเกือบทั้งโลกกำลังเหยียบย่ำกดขี่กันเพื่อที่จะ “เอาแต่ได้” อย่างเดียว โดยไม่มี “การให้” หรือ “การแลกเปลี่ยนอย่างคุ้มค่ากัน” คนเป็นอันมากกำลังต่อสู้ดิ้นรนอยู่บนเวทีของชีวิตโดยไม่มีกติกา คนหลายคนที่คิดว่าตนเป็นรัฐบุรุษผู้มีอารยธรรมได้กำลังนำผู้ตามที่ไร้ความผิดและผู้ขาดความสำนึกในความรักของมนุษยชาติเข้าข่มขี่ย่ำยีผู้อื่นที่กำลังน้อยกว่า ลัทธิจักรพรรดิ์นิยม ที่เป็นตัวเสนียดจัญไรแก่สันติภาพยังซ่อนตัวอยู่ภายในเสื้อคลุมอันสวยงามของลัทธิประชาธิปไตยอย่างหนาแน่น ซึ่งย่อมเป็นผลร้ายแก่สันติสุขส่วนรวมอย่างยิ่ง ความชั่วช้าของสังคมแห่งมนุษยชาติดังกล่าวมานี้ยังมีอยู่มากมายจนเกินที่เราจะฝันถึงสันติภาพถาวรได้ เพราะฉะนั้นเราจึงต้องการแสงสว่างที่จะมาส่องทางให้คนเป็นอันมากเหล่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งราษฎรผู้บริสุทธิ์ไร้เดียงสา ให้แลเห็นความผิดความถูก ซึ่งตนจะประพฤติต่อกัน เราต้องการคนดีผู้มีใจกว้างขวาง ผู้มีอุดมคติอันสูงในเรื่องความรักของมนุษยชาติมาชี้แจงชักชวนให้คนรักชาติด้วยเหตุผลของมนุษยธรรม ให้กำจัดความหลงชาติเสียอย่างเด็ดขาด ให้มีความเห็นแก่ตัวน้อยลง คนดีเหล่านี้เราต้องการตัวเขา เพราะเขาจะช่วยเป็นกำลังส่งเสริมให้โลกมีสันติสุขมากกว่านี้ ข้าพเจ้าได้พบคนดีเช่นนี้ในตัวเจียงเฟ ข้าพเจ้ารู้จักค่าตัวของเขา เขาเป็นคนดีคนหนึ่งที่โลกต้องการ แต่ในที่สุดเขาก็เป็นคนเคราะห์ร้ายอย่างคนดีหลาย ๆ คนที่ได้เคราะห์ร้ายมาแล้ว

หลังจากเดินขบวนไม่กี่วัน เจียงเหมยมาหาข้าพเจ้า แสดงความวิตกถึงพี่ชายที่หายไปอย่างลึกลับ ข้าพเจ้าพยายามปลอบใจแล้วสัญญาว่าจะพยายามทุกทางที่จะร่วมมือช่วยทำการสืบสวนให้อีกผู้หนึ่ง เพราะข้าพเจ้าบังเอิญมีมิตรสหายอยู่ในวงการสันติบาลบ้างบางคนที่พอจะกระซิบถามกันได้ ข้าพเจ้าพาเจียงเหมยไปรับประทานอาหารที่ตุงอันชื่อฉาง ตลาดใหญ่มหึมาที่เต็มไปด้วยร้านอาหารและร้านหนังสือ เจียงเหมยเพลิดเพลินพอจะลืมเรื่องพี่ชายได้ขณะหนึ่ง เย็นวันนั้นข้าพเจ้าไปส่งเธอขึ้นรถกลับมหาวิทยาลัยเยียนจิงที่หน้าสมาคม ไว. เอ็ม. ซี. บริษัทเงินทุน เอกธนกิจ จำกัด (มหาชน). ก่อนรถจะออกเจียงเหมยกระซิบว่า

“ฉันจะคอยเธออยู่ที่เบียนจิงในวันเสาร์ เธอต้องไม่เหลวนะคะระพินทร์”

ข้าพเจ้ายิ้ม มองดูดวงตาอันไร้เดียงสาแล้วตอบว่า

“ฉันจะไปกินหยางโล่วกับเธอที่ชิงหวาแล้วเราจะไปเที่ยวว่านโส้วซานกัน”

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ