๑๑

อย่างไรก็ตาม แผ่นดินไทยเป็นของเรา แผ่นดินไทยไม่ใช่เป็นสมบัติส่วนตัวของเทวดาองค์ใด เรายังคงเคารพสิทธิของเราอยู่ เพราะฉะนั้นเราก็พยายามยกธงประชาธิปไตยของเราขึ้นอีกคันหนึ่ง

เราออกหนังสือพิมพ์กันอีกฉะบับหนึ่ง หลังจากที่ฉะบับแรกของเราได้ถูกทะลายไปแล้ว และหนังสือฉะบับนี้ เทวันบอกว่าเป็นของประชาชน และจะต่อสู้เพื่อประชาชน.

ข้าพเจ้าอนุโมทนาในน้ำใจอันสูงของเทวัน ข้าพเจ้าพอใจที่เขายังคงรักษาจิตใจของนักสู้ผู้มีวาจาสัตย์ไว้ได้โดยสม่ำเสมอ เขาต้องการเสรีภาพของหนังสือพิมพ์ เพราะหนังสือพิมพ์เป็นปากของราษฎร เขาบอกว่าประชาธิปไตยจะอยู่ได้ก็เพราะหนังสือพิมพ์ยังพูดได้ เขาพูดด้วยความแน่ใจว่า ผู้ใดทำลายเสรีภาพของหนังสือพิมพ์ ผู้นั้นก็คือศัตรูของประชาชน และเขาจะต้องยืนขึ้นต่อสู้จนกระทั่งสิ้นลมหายใจ

นี่คือคำมั่นของเทวัน–พ่อเทพบุตรนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย !

หนังสือพิมพ์ของเราได้ออกมาในท่ามกลางมรสุมของการเมือง เมืองไทยกำลังเต็มไปด้วยความมั่นป่วนของพายุสงคราม สงครามมหาอาเซียบูรพาดังที่เขาเรียกกันได้ระเบิดออกในทันทีทันใดแทบจะไม่รู้ตัว ประเทศไทยทั้งประเทศตกอยู่ในเงื้อมมือของประเทศญี่ปุ่น ภายในไม่กี่วันนโยบายสู้ตายของผู้ครองอำนาจ ได้เปลี่ยนรูปไปเป็นนโยบายไม่สู้อย่างรวดเร็วเท่ากับฝีเท้าของการเดินทัพของญี่ปุ่น ราษฎรไทยที่ถูกสอนไว้ให้ใช้ทุกสิ่งทุกอย่างแม้แต่หมามุ่ยเข้าสู้รบกับผู้รุกรานก็ตกอยู่ในความพิศวงงงงวย แต่ความจำเป็นที่จะต้องปฏิบัติไปเช่นนั้น อาจเป็นความจำเป็นซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะฉะนั้นคนบางคนจึงให้ความเห็นว่าความผิดที่แท้จริงอยู่ที่การวินิจฉัยผิดในเบื้องแรก เพราะฉะนั้นจึงตระเตรียมทุกสิ่งทุกอย่างไปในทางที่ผิด ซึ่งนำออกใช้ไม่ได้เมื่อสภาพสงครามอันแท้จริงได้มาเผชิญอยู่เฉพาะหน้า

สงครามได้ทำให้ประเทศไทยถลำลงไปในเหวของลัทธิเผด็จการอย่างที่ถอนตัวไม่ขึ้น สงครามทำให้เสรีภาพของหนังสือพิมพ์ซึ่งได้ถูกหั่นแทบแหลกไปแล้วนั้น ต้องแหลกลาญยิ่งขึ้นด้วยวิธีเซนเซอร์ของผู้มีอำนาจในสมัยนั้น พวกเราเห็นใจกับหลักการที่ต้องเซนเซอร์หนังสือพิมพ์ในยามสงคราม แต่เราไม่เห็นพ้องด้วยกับวิธีการเซนเซอร์ที่เตลิดเลยออกไปจากเหตุผลของสงคราม มันเป็นสมัยของการกดขี่ ซึ่งถ้าเทวดาผู้มีอำนาจมาเป็นตัวเราบ้างแล้ว ก็จะต้องรู้สึกอย่างที่เรารู้สึก

เทวันได้นำหนังสือพิมพ์ของเขาผ่านไปในคลื่นลมที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นทุกขณะ เขาบอกข้าพเจ้าว่า “ขอให้เธอเป็นพยาน ฉันจะต่อสู้เพื่อประชาชนชาวไทยไปจนถึงที่สุด ฉันจะต่อสู้เพื่อความถูกต้อง เพื่อหลักการ ไม่ใช่เพื่อบุคคล ฉันไม่มีความโกรธเกลียดกับเขาเป็นการส่วนตัว ถ้าเขาทำถูกฉันจะชม แต่ถ้าเขาทำผิดฉันก็ต้องคัคค้าน ฉันไม่ต้องการจะโค่นเขา ฉันต้องการแต่เพียงจะโค่นหลักการที่ไม่ถูกต้องเท่านั้น ฉันเป็นของประชาชน ฉันไม่มุ่งหวังจะเป็นใหญ่เป็นโตออกไปจากวงของประชาชน ประชาชนเป็นเลือดเนื้อของฉัน ฉันจะต่อสู้แทนประชาชนต่อไป ฉันจะไม่มีหนีประชาชนไปเป็นขุนนางผู้ใหญ่อย่างที่เขาทำกันเป็นอันขาด”

นี่คือคำมั่นอีกคำหนึ่งของเทวัน เขากล่าวแก่ข้าพเจ้าบ่อยครั้งเมื่อเราพูดถึงหลักการและบุคคล ข้าพเจ้าชื่นชมในตัวเขาและพร้อมที่จะสร้างอนุสาวรีย์ให้เขา เมื่อเขาได้ตายไปแล้ว

ความบีบรัดของลัทธิเผด็จการในสมัยนั้น เป็นความบีบรัดที่ไม่มีใครทนได้ นอกจากพรรคพวกของผู้ครองอำนาจ ในนามของความยุติธรรม ข้าพเจ้าไม่ต้องการจะตำหนิทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาได้ทำกันในสมัยนั้น สิ่งที่ข้าพเจ้าต้องการจะตำหนิอยู่ก็คือวิธีการซึ่งเต็มไปด้วยความลืมตัว ในท่ามกลางของการบีบคั้นเหล่านี้ ประชาชนก็มองไปที่บุคคลหลายคนซึ่งเป็นผู้แทนของเขา และผู้หนึ่งก็คือเทวัน

เทวันได้กลายเป็นเทพบุตรแห่งนักหนังสือพิมพ์ชาวประชาธิปไตยไปแล้ว ประชาชนได้มอบความไว้วางใจให้แก่เขา ประชาชนเลื่อมใสในตัวเขายิ่งขึ้นทุกวัน เราได้มอบตำแหน่งให้เขาตำแหน่งหนึ่ง คือตำแหน่งนักต่อสู้เพื่อหลักการของประชาชนคนไทย.

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ