๑๒

เหตุการณ์ในวันนั้นยังตรึงใจข้าพเจ้าอยู่อย่างแน่นแฟ้นจนบัดนี้ ข้าพเจ้าได้เห็นทารุณกรรมอันไม่คิดว่าจะได้เห็น ข้าพเจ้าได้เห็นการต่อสู้ระหว่างอุดมคติกับกฎหมาย การต่อสู้อย่างนี้ได้มีอยู่ทุกสมัย และก็เพราะมีนักสู้ที่ยอมตายเพื่ออุดมคตินี่แหละ โลกเราจึงได้เจริญก้าวหน้ามาได้จนถึงเพียงนี้

ขอให้นักสู้เพื่ออุดมคติจงเจริญ !

ขอให้อุดมคติเพื่อสันติสุขและความยุติธรรมจึงชนะในชั่วโมงสุดท้าย !

เวลาผ่านไป ๑ สัปดาห์

ข่าวของเจียงเฟยังคงเงียบอยู่เช่นเดิม ไม่มีใครรู้ว่าเขาหายไปไหน บางคนว่าเขาถูกตำรวจจับเข้าห้องขังไปแล้ว บางคนว่าเขาหนีลงไปทางใต้–หนีไปเซี่ยงไฮ้–ป้อมปราการของนักปฏิวัติของจีนตั้งแต่สมัยโค่นราชบัลลังก์มังกร

ข้าพเจ้ามีห้องพิเศษอยู่ในหอนอนของมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ทางการของมหาวิทยาลัยได้มอบให้เป็นที่ทำงานส่วนตัวสำหรับค้นคว้าวิชาการที่ข้าพเจ้าได้รับมอบหมายให้เรียน ข้าพเจ้าใช้ห้องนี้ทำประโยชน์ให้แก่การศึกษาของข้าพเจ้าเป็นอย่างมาก นอกจากจะได้หอสมุดอันใหญ่โตเป็นตู้สมุดประจำแล้วยังได้มีโอกาสคลุกคลีกับบรรดานิสิตและนิสิตา ซึ่งล้วนมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อข้าพเจ้าเป็นอย่างดียิ่ง ข้าพเจ้าไม่ลืมมิตรภาพอันอบอุ่นซึ่งเขาเหล่านั้นได้มอบให้ ตลอดเวลาที่ข้าพเจ้าอยู่ในมหาวิทยาลัยปักกิ่งนี้ ข้าพเจ้าคิดว่าถ้ามิตรภาพอันสุจริตเช่นนี้ สามารถแผ่กระจายไปทั่วโลกได้ ความยุ่งยากของปัญหาสังคมแห่งมนุษยชาติ ก็คงจะบรรเทาลงได้อีกมากมาย ในเมืองจีนข้าพเจ้าเป็นชาวต่างประเทศเช่นเดียวกับพวกอเมริกัน, พวกอังกฤษ พวกฮอลันดา, พวกรัสเซีย คนจีนเขาเรียกข้าพเจ้าว่า “ว่ายกวอเหริน” ซึ่งแปลว่า “คนนอกประเทศ” นั่นคือ “ชาวต่างประเทศ” แต่ว่ายกวอเหรินอย่างข้าพเจ้าต่างกับว่ายกวอเหรินอื่น ๆ ข้าพเจ้าเป็นว่ายกวอเหรินชั้นพิเศษสำหรับมิตรสหายชาวจีน ทั้งนี้เพราะเขาถือว่าข้าพเจ้าเป็นชาวบูรพาเช่นกับเขา มีความรู้สึกนึกคิดในเรื่องวรรณะเช่นเดียวกันเขา, มีความเกี่ยวโยงทางไมตรีจิตมิตรภาพ ตลอดจนทางวัฒนธรรมร่วมกับเขา มีมาตุภูมิอยู่ชิดกับเขา และที่สำคัญมากก็คือ คนจีนกับคนไทยได้คบค้าสมาคมกันมาอย่างฉันท์พี่น้อง เป็นเวลานับด้วยศตวรรษ ไม่มีอะไรจะแยกออกจากกันได้อย่างเด็ดขาด ไม่มีอะไรจะทำให้มนุษย์สองชาตินี้หันหลังให้แก่กันได้โดยไร้เสียซึ่งเยื่อใยต่อกัน ข้าพเจ้าเชื่อมั่นในมิตรภาพระหว่างไทยกับจีน มิตรสหายชาวจีนของข้าพเจ้าเป็นคนมากที่ข้าพเจ้าได้พบในเมืองจีนก็เชื่อเช่นนี้ เราเชื่อว่าโลกจะเป็นสุขได้ก็มนุษย์ทั้งปวงได้สำแดงอัธยาศัยไมตรีต่อกัน มีความเห็นอกเห็นใจกัน, เอื้อเฟื้อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เรามีความแน่ใจว่าโลกจะไม่มีสันติภาพ ถ้ามนุษย์ยังถือชาติเป็นใหญ่กว่าความรักและความเห็นใจ ตราบใดเรายังทำให้คนทั้งโลกรักกันไม่ได้ ตราบนั้นคนที่ไม่มีความโกรธเคืองกันเลยก็ยังจะต้องถูกคนหมู่หนึ่งคณะหนึ่ง ซึ่งมีจำนวนเพียงไม่กี่คน ฉุดลาก, บังคับเคี่ยวเข็ญ, ปลุกปั่น ล่อหลอก ให้จับอาวุธเข้าเข่นฆ่ากันเหมือนสัตว์ป่าที่ดุร้ายและโง่เขลา นั่นย่อมหมายถึงสงครามครั้งแล้วครั้งเล่า สงครามที่เกิดมาแล้วก่อนสมัยหินจนกระทั่งถึงสงครามฮิตเลอร์และสงครามโตโจ ท่านผู้เจริญทั้งหลาย! ตราบใดที่ท่านยังไม่ถือว่าโลกนี้เป็นของท่าน ตราบใดที่ท่านยังไม่รู้สึกว่าท่านต้องรับผิดชอบร่วมกันในเรื่องความเสื่อมความเจริญของโลกที่ท่านอาศัยอยู่ ตราบใดที่ท่านยังถือเขาถือเรา ตราบนั้นโลกที่รักของท่านก็จะอยู่เย็นเป็นสุขไม่ได้เลย !

เมื่อพูดถึงจีนกับไทย ข้าพเจ้าก็อดที่จะแสดงความรู้สึกออกมาไม่ได้ ว่ามนุษย์สองชาตินี้ควรจะมีความเข้าใจกันเป็นอย่างดียิ่ง ปัญหาเรื่องจีนกับไทยถ้าหากจะมีขึ้นก็ไม่ควรเป็นปัญหาใหญ่ อย่างปัญหาข้อพิพาทต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลก จีนกับไทยได้มีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด ทั้งในทางความเป็นอยู่และทางสายโลหิต ข้าพเจ้าคิดว่าถ้าไม่มีมือที่ ๓ เข้ามายุ่มย่ามอยู่ด้วยเพื่อประโยชน์ส่วนตัวของเขาแล้ว จีนกับไทยก็ไม่น่าจะมีอะไรกัน แต่ทุกวันนี้ทุกหนทุกแห่งแม้แต่ตรอกซอกที่สกปรกตลอดจนในซ่วมสาธารณะ เรื่องของการเมืองมักจะแซกแซงอยู่เสมอ คนเขาพูดกันถึงการเมือง–พูด–พูด–พูด เราฟังเป็นเรื่องสนุก เหมือนเรื่องนิยายแห่งความฝัน แต่ว่านั่นแหละ ของใหญ่ ๆ ในโลกนี้มีตัวตนขึ้นมาได้เพราะความฝันก็มาก ฉะนั้นถ้าเขาจะฝันกันถึงเรื่องการเมือง–พูด–พูด พูดถึงเรื่องการเมือง ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ควรกระทำอยู่ แท้จริงการฝันการพูดโดยไม่ทำอะไร ถ้ามองไปอีกแง่หนึ่งก็เป็นเรื่องปลาดอยู่บ้างเหมือนกัน แต่ก็คงไม่ถึงสกปรกโสมมอย่างมนุษย์โสโครกหลายคนที่พยายามเอาเรื่องการเมืองมาเป็นประโยชน์ส่วนตัว ท่านผู้มีใจสะอาดปราศจากความลำเอียงคงจะเคยพบตัวอย่างมามากที่ “มนุษย์การเมือง” เป็นอันมาก ได้ร่ำรวยเป็นเศรษฐีขึ้นมาได้ เพราะการเมืองการปฏิวัติทั้งในประเทศใหญ่และประเทศเล็ก คนพวกนี้ได้กลายเป็นผู้มีเงินนับล้าน ๆ มีที่ดินนับด้วยพันหมื่นไร่ เขาได้ลอกคราบของความยากจนขว้างทิ้งไป ภายหลังที่ได้ทำการพลิกแผ่นดินสำเร็จ เมื่อก่อนปฏิวัติเขาได้ประชุมปรึกษาหารือกันอย่างเร้นลับ มีการสบถสาบานและทุบโต๊ะดังสนั่นขณะที่เปล่งวาจาว่า เราจะเอาศีรษะเข้าแลกกับประโยชน์ของราษฎร เพื่อราษฎร และโดยราษฎร แต่มันช่างน่าอนาถอะไรเช่นนั้น ภายหลังที่ได้ปฏิวัติสำเร็จแล้ว “มนุษย์การเมือง” พวกนี้หลาย ๆ คนได้มีเงินกันเป็นล้าน ๆ เขาเลิกเดินต๊อก ๆ ตามข้างถนน เพราะเขามีเก๋งขนาดมหึมาขี่ เขาเลิกเช่าห้องแถวอยู่เพราะเขามีตึกหลังโต ๆ อยู่ เราไม่รู้ว่าเขาร่ำรวยขึ้นมาได้อย่างไร แต่รู้ว่าเขาเป็นเศรษฐี เพราะเราได้เห็นรถเก๋งคันใหญ่บันทุกเขาไปตามถนน เห็นตึกที่งามเหมือนปราสาทผุดขึ้นดังดอกเห็ด เขาบอกว่า เขาปฏิวัติเพื่อราษฎร แต่ท่านได้พบอะไร ? ข้าพเจ้าคิดว่า เขาปฏิวัติเพื่อตัวของเขาเอง เขาปฏิวัติเพื่อเงินและอำนาจ นั่นคือ เขาปฏิวัติเพื่อจะได้มีโอกาสเดินเล่นบนหัวของราษฎร แต่มันช่วยอะไรไม่ได้ดอกท่านเอ๋ย เพราะหลายคนเขาถือกันว่าการปฏิวัติก็ดี การสละชีพเพื่อชาติก็ดี ควรมีการตอบแทน ควรจะมีค่าเหนื่อย และควรจะมีการทวงบุญคุณ ข้าพเจ้านั่งคิดนอนคิดมาหลายปี ด้วยความเอน็จอนาถใจ ความคิดของข้าพเจ้าแล่นไปไกล ข้าพเจ้าคิดถึงมหาตมะคัณฑี, คิดถึงเลนิน, คิดถึง ดร. ซุนยัดเซน คนเหล่านี้เป็นนักปฏิวัติ แต่เขาได้แสดงตัวออกมาอย่างชัดแจ้งว่าเขาไม่ได้ปฏิวัติเพื่อเงินและอำนาจ เขาปฏิวัติเพื่อให้บรรลุถึงอุดมคติของเขา เขาเป็นคนพูดจริงทำจริง เขาเป็นคนซื่อตรงต่อราษฎร ไม่ได้หวังว่าราษฎรจะต้องตอบแทนเขา และก็เพราะเขาเป็นคนจริงต่อคำพูดนี้แหละราษฎรจึงได้ยกย่องบูชาเขาเหมือนพระเจ้า รูปของเขาติดอยู่ในที่อันสูงทุกครัวเรือน รูปเหล่านี้ไม่มีใครบังคับให้เขาแขวน ไม่มีใครพิมพ์แจกล่อลวงให้เขาแขวน เขาแขวนด้วยใจบริสุทธิ์ ด้วยใจที่ได้มอบให้แก่เจ้าของรูปด้วยความเคารพบูชา เราไม่ได้ยินเสียงบ่นพึมพำอย่างที่เราเคยได้ยินในโรงมหรสพของเมืองไทยสมัยหนึ่ง เวลาฉายรูปผู้ที่คิดว่าตนใกล้จะเป็นมุสโสลินีหรือฮิตเล่อร์ เลนิน คัณฑีและซุนยัดเซ็นเป็นนักปฏิวัติที่ไม่แต่ชาติของเขาควรบูชา คนทั้งโลกที่รู้จักค่าของคน อย่างน้อยก็ยกย่องว่า นักปฏิวัติเหล่านี้เป็นอัจฉริยะบุคคล เป็นคนที่ไม่เห็นแก่ตัว เป็นคนที่ไม่ยอมทำตัวเป็นลูกโป่ง ปล่อยให้ลิ่วล้อผู้สอพลอช่วยกันเป่า จนแตกตกลงมาอย่างไม่มีชิ้นดี!

เรื่องราวของ “มนุษย์การเมือง” เป็นเรื่องยืดยาวซึ่งข้าพเจ้าคิดว่าคงจะได้มีโอกาสเขียนไว้อย่างละเอียดในบันทึกต่อ ๆ ไป สำหรับเรื่องไทยกับจีน ข้าพเจ้าสลดใจเป็นที่จะพูดอะไรได้ เมื่อรู้สึกว่า “มนุษย์การเมือง” ที่มีใจสกปรกโสมมมุ่งแต่ประโยชน์ส่วนตัวบางคนได้ยื่นมือเข้ามาทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อจะให้ไทยแตกกับจีน ทุกวันนี้ชาวโลกกำลังก่อสร้างแนวของมิตรภาพเพื่อป้องกันไม่ให้คนต้องหลงฆ่ากันอีก แต่ “มนุษย์การเมือง” บางคนเหล่านี้กลับเป็นผู้พยายามทำลายมิตรภาพระหว่างมนุษยชาติเพื่อรักษาประโยชน์ส่วนตัวของเขา มันเป็นเรื่องที่ไม่มีอะไรจะสลดเท่าเรื่องความสกปรกโสมมที่เกรอะกรังอยู่ใต้เสื้อผ้าดี ๆ ที่ช่วยหลอกคนทั้งเมืองว่าเขาเป็นผู้เจริญ.

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ