ว่าด้วยธาตุแตก

ทีนี้จะว่าด้วยธาตุแตกต่อไปแพทย์พึงรู้เถิด อันว่าลักษณเตโชธาตุแตกนั้น คือให้ขัดในอกในใจประการ ๑ ให้บวมมือบวมเท้าประการ ๑ ให้ไอเปนมงคร่อประการ ๑ ลักษณ ๔ ประการนี้ คือเตโชธาตุอันชื่อว่าปรินามมัคคีแตกแล

ถ้าจะแก้ให้เอา พักแพวแดง ๑ โกฐสอ ๑ โกฐเขมา ๑ ชะเอมเทศ ๑ ผลมะขามป้อม ๑ ตะไคร้ต้น ๑ ว่านเปราะ ๑ รากสวาด ๑ หญ้ารังกา ๑ เอาเสมอภาคทำเปนจุณละลายน้ำนมโคน้ำร้อนก็ได้ กินแก้เตโชธาตุอันชื่อว่าปรินามมัคคีแตกหายวิเศษแล

อันว่าเตโชธาตุชื่อปริทัยหคคี มักให้มือเย็นเท้าเย็น ชิพจรไม่เดิน ประการหนึ่งชีพจรขาดหลัก บางทีให้ตัวเย็นดุจน้ำ แต่ภายในร้อนให้รดน้ำอยู่มิรู้ขาด บางทีให้ตัวเย็นแล้วเสโทธาตุดุจเมล็ดเข้าโภช อันนี้เตโชธาตุชื่อว่าปริทัยหัคคีแตก

ถ้าจะแก้ให้เอา เขาควายเผือก ๑ นอแรด ๑ เปลือกหอยขม ๑ เปลือกหอยแครง ๑ เขี้ยวจรเข้ ๑ ยา ๕ สิ่งนี้สุมให้เปนถ่าน หวายตะค้า ๑ ผลจันทน์ ๑ แก่นแสมทเล ๑ แห้วหมู ๑ รากขัดมอน ๑ เอาสิ่งละ ๑ ส่วน กะเทียม ๓ ส่วน พริกไทย ๕ ส่วน ตำบดละลายน้ำร้อนแซกพิมเสนกินให้ขับไฟธาตุ ให้ร้อนตลอดปลายมือปลายเท้าให้ชีพจรเดินแล

ขนานหนึ่งแก้เสโทพิการตกนัก ให้เอานางกุ่มรุ่นๆ เท่าด้ามพร้าเอามาปอกเปลือกเสียแล้วขูดเอามวกที่ติดแก่นนั้น ๑ แสล็ดถั่วแปบ ๑ ดินสอพอง ๑ เทียนดำ ๑ พิมเสนใส่ให้มากๆ ประสมกวนให้เข้ากันทาตัวคนไข้นั้น เสโทหยุดตัวคนไข้ก็อุ่นออกมาแล

ยากินแก้กระหายน้ำแก้ร้อนภายใน ให้เอาดินถนำ ๑ เผาไฟให้ไหม้โชน รากบัวหลวง ๑ ฝุ่นจีน ๑ รังหมาร่า ๑ ชาตก้อน ๑ ดอกพิกุล ๑ ดอกบุนนาก ๑ ดอกสารภี ๑ เกสรบัวหลวง ๑ รากสลอดน้ำ ๑ รากคันทรง ๑ ก้ามปูทเลเผา ๑ ดินประสิวขาว ๑ เอาเสมอภาคบดทำแท่งละลายน้ำดอกไม้ทั้งกินทั้งพ่น แก้กระหายน้ำแก้ร้อนแล

อันว่าชิระนัคคีแตกนั้นเสโทตก คือความชะรานำพระยามัจจุราชให้มาเล้าโลมสัตว์ทั้งปวง จะให้ชีวิตรออกจากร่างกายนั้น ก็ให้คนไข้มีกายวิปริตต่างๆ คือให้น่าผากตึง ตาไม่รู้จักหน้าคนแล้วก็กลับรู้จักอีกเล่า กายนั้นสำผัสสิ่งใดๆ ก็ไม่รู้สึกตัวอีกเล่าแต่ไปๆมาๆอยู่จะได้เที่ยงลงยังไม่ได้ก่อน แต่ว่าแตกร้าวอยู่แล้ว ท่านว่าเตโชธาตุชื่อชิระนัคคีแตกจึงเปนดังกล่าวมานี้ ให้แพทย์พึงรู้เถิด

ถ้าจะแก้ เอาผลพิลังกาสา ๑ พักแพวแดง ๑ ผลโมกมัน ๑ ใบย่านทราย ๑ เอาเสมอภาคทำเปนจุณ ละลายน้ำเถามวกก็ได้ น้ำนมโคก็ได้ กินแก้ชิระนัคคีแตกพิการหายแล

อันว่าเตโชธาตุ ชื่อว่าสันตัปปัคคี แตกเมื่อใดแก้มิได้ตายแล

ลำดับนี้จะกล่าวด้วยวาโยธาตุ ๖ จำพวกแตกต่อไป คืออุทธังคมาวาตาแตกนั้น มักให้ดิ้นรนมือเท้าขวักไขว่ ให้พลิกตัวไปๆ มาๆ ทุรนทุรายให้หาวให้เรอบ่อยๆ คือลมอุทธังคมาวาต

ถ้าจะแก้เอา โกฐสอ ๑ โกฐเขมา ๑ ผลราชดัด ๑ ผลสาระพัดพิษ ผลมะแว้งเครือ ๑ รากจิงจ้อทั้ง ๒ ผลจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ เทียนขาว ๑ เทียนดำ ๑ มหาหิงคุ์ ๑ เอาเสมอภาคทำเปนจุณ ละลายน้ำมะงั่วก็ได้น้ำมะนาวก็ได้ กินแก้ลมอุทธังคมาวาตหายแล

ลมชื่ออโทคมาวาตาแตกนั้น ให้ยกมือยกเท้าไม่ได้ ให้เมื่อยขบทุกข้อทุกกระดูกเจ็บปวดยิ่งนัก

ถ้าจะแก้ให้เอา เปลือกมูกหลวง ๑ พริกไทย ๑ รากไคร้เครือ ๑ เอาเสมอภาคทำเปนจุณ ละลายน้ำมูตรโคดำก็ได้ น้ำส้มซ่าก็ได้ กินแก้ลมอโธคมาวาตา หายแล

ลมกุจฉิสยาวาตาแตกนั้น มักให้ท้องขึ้นท้องลั่นให้เจ็บอกให้สวิงสวาย ให้แดกขึ้นแดกลง

ถ้าจะแก้ให้เอา มหาหิงคุ์ ๑ ลำพัน ๑ ดีปลี ๑ เมล็ดในสวาด ๑ ผลราชดัด ๑ ชะเอมเทศ ๑ โกฐสอ ๑ โกฐเขมา ๑ ใบย่านทราย ๑ กรุงเขมา ๑ เอาเสมอภาคทำเปนจุณ ละลายน้ำขิงก็ได้น้ำร้อนก็ได้ กินแก้ลมกุจฉิสยาวาต หายแล

ลมโกฏฐาสยาวาตาแตกนั้น มักให้เหม็นคาวฅอให้อาเจียร ให้จุกเสียดให้แดกในอก

ถ้าจะแก้ให้เอา ใบสลอดต้มกับเกลือให้สุกแล้วผึ่งแดดให้แห้ง ๑ ชะเอมเทศ ๑ รากเจตมูลเพลิง ๑ รากตองแตก ๑ รากจิงจ้อใหญ่ ๑ ลำพัน ๑ พริกล่อน ๑ ดีปลี ๑ ใบหนาด ๑ การะบูร ๑ เอาเสมอภาคทำเปนจุณ ละลายน้ำนมโคก็ได้น้ำผึ้งก็ได้ น้ำร้อนก็ได้กินหายแล

อันว่าลมชื่อ อังคมังคานุสารีวาตา คือลมพัดไปทั่วสรรพางค์กายนั้นแตก ให้หูตึงคนเจรจาไม่ได้ยินแล้วเปนดุจหิ่งห้อยออกจากตา ให้เมื่อยด้นขาทั้ง ๒ ข้างดุจกระดูกจะแตก ให้ปวดในกระดูกสันหลัง ให้สบัดร้อนสท้านหนาว ให้อาเจียรลมเปล่าๆ กินอาหารมิได้ เปนดังนี้คือลมอังคะมังคานุสารีวาตแตก

ถ้าจะแก้ให้เอา ผักเสี้ยนผี ๑ ผักคราด ๑ หญ้ารังกา ๑ ผลผักชีทั้ง ๒ ผลพรรผัดกาด ๑ ดอกจงกลนี ๑ เถาสะค้าน ๑ เมล็ดแตงโม ๑ เอาเสมอภาคทำเปนจุณละลายน้ำผึ้งก็ได้ น้ำร้อนก็ได้ กินแก้ลมอังคะมังคานุสารีวาตาหายแล

อันว่าลมอัสสาสะปัสสาสะวาตานั้น จะได้ขาดสูญหามิได้ ถ้าสิ้นลมอัสสาสะปัสสาสะวาตาแล้วเมื่อใด ก็ตายเมื่อนั้นแล

ลำดับนี้จะกล่าวด้วยธาตุน้ำ คือแตกนั้นทำให้คนไข้คลั่งไคล้ไหลหลงมะเมอเพ้อพก นอนสดุ้งหวาดหวั่นบางทีให้ลงดุจกินยาทุเลา ให้ลงเขียวลงแดงลงเหลืองออกมา ทำให้หาสติมิได้

ถ้าจะแก้ให้เอา เทียนเข้าเปลือก ๑ เทียนตาตักแตน ๑ เทพทาโร ๑ เปลือกมะซาง ๑ เปลือกไข่เน่า ๑ เอาเสมอภาคทำเปนจุณ บดแซกดีจรเข้มาก ๆ ละลายน้ำดอกไม้รำหัดพิมเสน กินแก้คลั่งไคล้ไหลหลงมะเมอเพ้อพกหายแล

ขนานหนึ่งแก้ลงท้อง เอาผลจันทน์ ๑ ผลเบญจกานี ๑ เปลือกมะขามขบ ๑ ครั่ง ๑ ยาฝิ่น ๑ เปลือกผลทับทิม ๑ กำยาน ๑ เปลือกมังคุด ๑ ผลมะตูม ๑ เอาเสมอภาคทำเปนจุณ ละลายน้ำเปลือกผลทับทิมต้มกินหายแล ถ้าเสมหะตกให้จับสบัดร้อนสท้านหนาวเปนเวลา บางทีให้ลงท้องเปนเสมหะโลหิตเหน้าให้ปวดมวน

ถ้าจะแก้ให้เอา ผลผักชี ๑ ลำพ้น ๑ เปลือกโมกหลวง ๑ ผลน้ำเต้าขม ๑ กระดอมทั้ง ๕ แก่นมูลเหล็ก ๑ เอาเสมอภาคต้มกินเสียก่อน แล้วจึงประกอบยาแก้เสมหะให้กินต่อไป

พระอาจาริย์เจ้ากล่าวไว้ว่า ถ้าแพทย์ผู้ใดจะแก้เสมหะพิการ ให้ต้มยาชำระเสมหะเหน้าเสียก่อน ให้เอาใบมะขาม ๑ ใบส้มป่อย ๑ ฝาง ๑ สิ่งละกำมือ ผลสมอไทยเท่าอายุ เถาวัลเปรียง ๑ หอม ๕ หัว ต้มใส่ดีเกลือกินตามธาตุหนักธาตุเบา แล้วจึงแต่งยาให้กินต่อไปแล

ยาแก้บิดเมื่อธาตุแตก เอาเมล็ดในมะม่วงกะล่อน ๑ ผลเบญจกานี ๑ ผลจันทน์ ๑ ครั่ง ๑ ดินกิน ๑ เปลือกมะขามขบ ๑ เปลือกมังคุด ๑ เทียนดำ ๑ กระวาน ๑ กานพลู ๑ ยางตะเคียน ๑ น้ำประสารทอง ๑ สีเสียดทั้ง ๒ ยาฝิ่น ๑ เอาเสมอภาคทำเปนจุณใส่ในผลทับทิม แล้วพอกด้วยมูลโคชั้นหนึ่ง สุมไฟแกลบให้สุกแล้วจึงบดทั้งผลทับทิมทำแท่งไว้ ฝนด้วยน้ำปูนใสกับไพลกินแก้ปวดมวนเสมหะ แก้โลหิตเหน้าร้าย ถ้ายังไม่หยุดให้ประกอบยาที่แก้ดีพิการดีแตกมาแก้ก็ได้เหมือนกัน

แล้วจึงประกอบยาต้มบำรุงธาตุ อันชื่อว่าธาตุบันจบนั้นให้กินต่อไป พระอาจาริย์เจ้ากล่าวไว้ ถ้าแพทย์ผู้ใดจะประกอบยาธาตุบันจบ ท่านให้ถามตัวคนไข้นั้นให้รู้ว่า คลอดวันใดเดือนใด ขึ้นหรือแรม ครั้นเขาบอกแล้วให้พิจารณาดูว่าจะเปนฤดูธาตุอันใด ให้ประกอบยาประจำธาตุประจำฤดูอันนั้น ตั้งไว้เปนปะธานแล้วให้คิดถอยหลังเข้าไป จับวันเดือนฤดูมูลปฏิสนธินั้นว่าวันใดเดือนใดฤดูใด ให้ประกอบยาประจำธาตุประจำฤดูอันนั้น มาบันจบกันกับยาประจำธาตุเมื่อแรกคลอดนั้น เปนสองขนานแล้วแซกจันทน์ทั้ง ๒ กฤษณา ๑ ชะลูด ๑ เกสรบัวหลวง ๑ ดอกพิกุล ๑ ดอกบุนนาก ๑ ดอกสารถี ๑ ยา ๘ สิ่งนี้เอาแซกลงต้มกิน

หนองแตกไหลออกเนือง ๆ ให้กายซูบผอมกินอาหารไม่รู้จักรส มักเปนฝีภายใน ๗ ประการ ถ้าจะแก้ให้ประกอบยาดังนี้ รังมดลี่รังหนึ่ง ใบมะกา ๕ ตำลึง เทียนดำ ๕ บาท ผลสมอเทศ ๕๖ ผล รากตองแตก ๕ ตำลึง หัวหอม ๑๐ บาท ขมิ้นอ้อยยาวคืบหนึ่งเอา ๓ หัว กานพลู ๔ บาท น้ำประสารทอง ๒ บาท ต้มกินแซกดีเกลือตามธาตุหนักธาตุเบา เปนยาชำระบุพโพพิการเสียก่อนแล้วจึงประกอบยาประจำธาตุกินแก้เสมหะก็ได้ ถ้าไม่ฟังให้ประกอบยานี้

เอาเปลือกโมกหลวง ๑ ตรีกฏุก ๑ ผลราชดัด ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ รากกะพังโหม ๑ หัวเข้าค่า ๑ หอมแดง ๑ เอาเสมอภาคทำเปนจุณละลายน้ำร้อนน้ำเย็นก็ได้กิน

โลหิตพิการหรือแตกก็ดี ท่านกล่าวไว้เมื่อแรกเปนนั้น แพทย์สมมุติว่าไข้กำเดาเพราะโลหิตกำเริบ ถ้าแตกไซ้ก็เปนพิษต่างๆ ผุดขึ้นภายนอก แพทย์ทั้งปวงสมมุติว่าเปนลากสาด เข้าไหม้ใหญ่, เข้าไหม้น้อย, เปลวไฟฟ้า, ประกายเพลิง, ลำลาบเพลิงก็ว่า สมมุติเรียกชื่อต่าง ๆ เพราะโลหิตแตกกระจายส้านออกผิวมังสะ ฝ่ายข้างภายในนั้นก็ทำให้เปนต่างๆ บางทีให้อาเจียรโลหิต บางทีโลหิตนั้นแล่นเข้าจับหัวใจ ให้คลั่งให้เพ้อหาสติมิได้ บ้างว่าสันนิบาตโลหิตก็ว่า เปนเพื่อโลหิตสมุฏฐาน บางทีให้ชักเท้าหงิกมือกำ บางทีให้หนาวให้ร้อน บางทีให้ขัดอุจจาระปัสสาวะๆ ดำแดงขาวเหลืองให้เปนต่างๆ อย่างนี้ว่าแต่ที่โลหิตแตกอย่างเดียว ในธาตุน้ำนั้นถ้าแตกเปน ๒ อย่าง ๓ อย่าง ๔ อย่าง ๕ อย่างเข้าแล้ว จะแก้ไม่ได้โดยเร็วพลันใน ๒ วัน ๓ วันนั้น ถ้าเปนแต่อย่าง ๑ หรือ ๒ ท่านให้แก้ดูก่อน ที่โลหิตแตกส้านออกมาถึงผิวเนื้อนั้น ท่านให้ประกอบยาที่แก้ไข้เหนือ แก้ที่ทำภายในให้ลงโลหิตตกนั้น ท่านให้ประกอบยาที่แก้ลักกะปิดแก้เถิด

อันว่ายาในคัมภีร์ธาตุน้ำนี้ ให้แก้แต่ธาตุน้ำคือโลหิตแตก ให้เอาบอระเพ็ด ๑ ข่าตาแดง ๑ เมล็ดพรรณผักกาด ๑ ผลกระดอม ๑ ผลมะแว้งต้น ๑ ไพล ๑ กะชาย ๑ แก่นสนเทศ ๑ จันทน์ทั้ง ๒ จันทะนา ๑ เปลือกโมกหลวง ๑ หัวแห้วหมู ๑ รากขัดมอน ๑ เถาสะค้าน ๑ รากช้าพลู ๑ จุกโรหินี ๑ รากแฝกหอม ๑ รากตองแตก ๑ กฤษณา ๑ กะลำภัก ๑ ขอนดอก ๑ ชะลูด ๑ สมอทั้ง ๓ อบเชย ๑ เกสรบัวหลวง ๑ ดอกพิกุล ๑ ดอกบุนนาก ๑ ดอกสารภี ๑ สรรพยาทั้งนี้เอาเสมอภาคต้ม ถ้าจะให้ทุเลาแซกดีเกลือตามธาตุหนักธาตุเบา ยาขนานนี้ชื่อปโตฬาธิคุณ แก่ในคิมหันตฤดู

ภาคหนึ่งแก้ในวัสสันตฤดู ให้ประกอบรากเจตมูลเพลิง ๑ โกฐกระดูก ๑ โกฐสอ ๑ โกฐพุงปลา ๑ โกฐหัวบัว ๑ โกฐจุฬาลำภา ๑ โกฐเชียง ๑ โกฐสอเทศ ๑ เทียนทั้ง ๕ ผลจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ กระวาน ๑ กานพลู ๑ ผลเอ็น ๑ ดีปลี ๑ ผลมะตูมอ่อน ๑ รากตองแตก ๑ รากแฝกหอม ๑ บอระเพ็ด ๑ รากคนทา ๑ รากท้าวยายม่อม ๑ รากพุมเรียงป่า ๑ รากมะเดื่ออุทุมพร (มะเดื่อชุมพร) ๑ รากหญ้านาง ๑ ระย่อม ๑ พิศนาด ๑ น้ำนมราชสีต้น ๑ แก่นสน ๑ สักขี ๑ ตรีผลา ๑ ผลพิลังกาสา ๑ ผลประคำดีควาย ๑ ผลมะขามป้อม ๑ พรรณผักชีล้อม ๑ ผักชีลา ๑ พรรณโหระพา ๑ พระยามูลเหล็ก ๑ พระยารากขาว ๑ ขี้เหล็กทั้ง ๕ โคกกระสุน เทพทาโร ๑ จุกโรหินี ๑ ข่าต้น ๑ เปลือกสมุลแว้ง ๑ ชะลูด ๑ อบเชยเทศ ๑ กฤษณา ๑ กะลำภัก ๑ ขอนดอก ๑ ยาทั้งนี้เอาสิ่งละ ๑ ส่วน ดอกชะลูด ๑ ดอกมะกรูด ๑ ดอกมะนาว ๑ ดอกคัดเค้า ๑ ดอกกรรณิกา ๑ ดอกสุพรรณทลิกา ๑ ดอกมะลิซ้อน ๑ ดอกมะลิลา ๑ ดอกสารภี ๑ ดอกพิกุล ๑ ดอกบุนนาก ๑ ดอกการะเกด ๑ ดอกแก้ว ๑ ดอกมะกล่ำ ๑ ดอกคำไทย ๑ ดอกเกด ๑ ดอกลำเจียก ๑ ดอกกล้วยไม้ ๑ ดอกพุทธชาต ๑ ดอกจำปา ๑ ดอกกระดังงา ๑ ดอกบัวเผื่อน ๑ ดอกบัวขม ๑ ดอกบัวหลวง ๑ ดอกบัวขาว ๑ ดอกบัวแดง ๑ ดอกลินจง ๑ ดอกจงกลนี ๑ ดอกสัตบงกซ ๑ ดอกสัตบุศย์ ๑ ดอกสัตบัน ๑ ดอกสันตวา ๑ ดอกสามหาว ๑ ดอกเร่ว ๑ ดอกยี่สุ่น ๑ ดอกประทุมราชา ๑ ดอกมหาหงษ์ ๑ ดอกหญ้างวงช้าง ๑ ดอกหางนกยูง ๑ ดอกละหุ่ง ๑ ดอกราชพฤกษ์ ๑ ดอกลำไย ๑ ยาทั้งนี้ทำเปนผงแล้วให้หาสรรพดี เปนต้นว่าดีสัตว์ต่างๆ ปรุงลงในยานี้แล้วบดปั้นแท่งไว้ น้ำกระสายนั้นยักย้ายดูแต่ควรกับลักษณโรคเถิด ยานี้ชื่อว่ามหาชุมนุม เหตุว่ามั่วสุมประชุมสรรพยานั้นพร้อมโดยสำคัญ ซึ่งจะแก้สรรพโรคพร้อมทั่วไปทั้ง ๙๖ นั้นแล

เหงื่อถ้าแตกนั้นให้เหงื่อตกหนัก ให้ตัวเย็นให้ตัวขาวซีดให้สวิงสวาย ให้หากำลังไม่ได้

ถ้าจะแกให้ประชุมยา รากเจตมูลเพลิง ๑ โกฐสอ ๑ พรรณผักชี ๑ ขิง ๑ ดีปลี ๑ ผลมะตูมอ่อน ๑ เปลือกทองหลางน้ำ ๑ เปลือกกุ่มน้ำ ๑ รากถั่วภู ๑ ต้มกินหายเหงื่อ

ยานี้ชะโลมห้ามเหงื่อให้ประชุมยา หัวหอมแดง ๑ แป้งสุรา ๑ ดินสอพอง ๑ เหมือดคน ๑ เมล็ดในขนุนละมุด ๑ บดปั้นแท่งไว้ละลายน้ำดอกไม้ ห้ามเหงื่อแก้ผิวเนื้อซากชาเนื้อหดหู่ แก้กายซีดเพราะโทษเหงื่อแลมันข้นหายแล

น้ำตานั้น แตกพิการก็ให้ตามัว ให้น้ำตาตกหนักแล้วก็ตั้งแต่แห้งไป ตานั้นก็เปนดุจเยื่อผลลำไย

ถ้าจะแก้ให้ประกอบยานี้ รากคนทิสอ ๑ รากเสนียด ๑ ผลมะตูมอ่อน ๑ ขิงแห้ง ๑ ทำเสมอภาคต้มกินแล้ว จึงประกอบยาหยอดตาให้ประชุม หินในสีสะปลาช่อน ๑ บัลลังก์ศิลา ๑ พิมเสน ๑ ฝนหยอดตาสังเกตดู ถ้ามีน้ำตาไหลออกมาถึงแก้ม คนไข้นั้นก็ยังไม่ตาย ถ้าไม่มีน้ำตารักษาไม่ได้ตายแล

มันเหลวนั้นถ้าแตกกระจายออกทั่วสารพางค์ ก็ให้ตัวเหลือง ตาเหลือง เว้นแต่อุจจาระสัสสาวะไม่เหลือง บางทีให้ลงให้อาเจียรดุจเปนป่วง ลงเพราะโทษน้ำเหลือง ถ้าจะแก้ด้วยยารสฝาดไม่หยุดให้ชำระน้ำเหลืองเสียก่อน แล้วจึงประกอบยาบำรุงธาตุต่อไป ให้ประชุมตรีกฏุก ๑ ผลมะขามป้อม ๑ รากช้าพลู ๑ ข่า ๑ สะค้าน ๑ ผลจันทน์ ๑ เอาเสมอภาคทำเปนจุณละลายน้ำใบมะระ ๑ น้ำกล้วยตีบก็ได้ ให้กินแก้อาโปธาตุคือมันเหลวแตกหายแล

น้ำลายแตกไซ้ร ให้ปากเปื่อยน้ำลายเหนียว บางทีเปนเม็ดยอดขึ้นในลิ้นในฅอ ถ้าจะแก้ให้ประกอบยา จันทน์ทั้ง ๒ ว่านกีบแรด ๑ ว่านร่อนทอง ๑ ผลประคำดีควาย ๑ รากทนดี ๑ ผลจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ โกฐสอ ๑ โกฐเขมา ๑ สมอเทศ ๑ ดีงูเหลือม ๑ บดด้วยน้ำมะนาวเปนกระสายให้กินเท่าผลพุดทรา แล้วจึงประกอบยาอม ให้เอากรามแรด ๑ กรามช้าง ๑ นอแรด ๑ เขี้ยวเสือ ๑ เขี้ยวปลาพยูน ๑ ผลจันทน์ ๑ เบญจกานี ๑ ใบหว้าอ่อน ๑ ยาทั้งนี้ขั้วให้เกรียมเอาสิ่งละส่วน น้ำประสารทองสตุ ๒ ส่วน สีเสียดทั้ง ๒ สิ่งละ ๔ ส่วน บดด้วยน้ำหมากดีบปั้นแท่งไว้ฝนด้วยน้ำปูนใสกับทะลายหมากดิบกวาดหาย

แล้วทำยาบ้วนปาก เอาเปลือกตะเคียน ๑ ใบขัดมอน ๑ เปลือกหว้า ๑ ทางตาล ๑ เปลือกระกำต้น ๑ ใบสลอดน้ำ ๑ ใบทับทิม ๑ เอาเสมอภาคต้มใส่เกลือสักหน่อยหนึ่ง อมบ้วนปากวันละ ๓ เวลา หายแล

น้ำมูก เมื่อพิการแตกนั้น ให้ปวดในสมอง ให้น้ำมูกตกให้ตามัวให้ปวดสีสะ โทษ ๔ ประการนี้ ถ้าจะแก้ให้ทำยาสุมประกอบ ใบน้ำดับไฟ ๑ หัวหอม ๑ เทียนดำ ๑ ดินประสิวขาว ๑ เมล็ดฝ้ายขั้ว ๑ ใบพลูแก ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ บดเคล้ามูลน้ำมันหอมสุมกระหม่อม ๓ วันหาย

ถ้ายังไม่หายให้ประกอบยาดม หัวหอม ๑ น้ำประสารทอง ๑ น้ำประสารดีบุก ๑ เอาเสมอภาคทำเปนยานัดถุ์ก็ได้ ให้ดมสูดเข้าไปก็ได้

แล้วจึงทำยากินภายใน เอาสะค้าน ๑ ช้าพลู ๑ รากเจตมูลเพลิง ๑ ขิง ๑ ผลมะตูมอ่อน ๑ แฝกหอม ๑ สมอไทย ๑ สมอเทศ ๑ พรรณผักชี ๑ จันทน์หอม ๑ กฤษณา ๑ เปราะหอม ๑ มะขามป้อม ๑ ว่านน้ำ ๑ ดอกบัวหลวง ๑ ดอกบุนนาก ๑ เอาเสมอภาคต้มกินแก้ธาตุน้ำ คือน้ำมูกแตกหายแล

มันข้น เมื่อพิการแตกไซ้รดุจโลหิตเสียก็เหมือนกัน มันข้นพิการ ก็ซาบออกมาถึงผิวหนังดุจผดผุดออกเปนดวง ๆ บางทีแตกเปนน้ำเหลือง ให้ปวดแสบปวดร้อนยิ่งนัก

ถ้าจะแกให้ประกอบ ใบกะเม็งแดง ๑ ใบถั่วแระ ๑ เทียนดำ ๑ เทียนขาว ๑ สิ่งละ ๒ บาท เปลือกกันเกรา ๖ บาท ยาเข้าเย็นเหนือ ๖ บาท ต้มกินหายแล

ยาทาตัวให้ประกอบ ผักปลังแดง ๑ เข้าสาร ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ ดินสอพอง ๑ ตำชะโลมทั่วตัวหายแล

ไขข้อ เมื่อพิการแตกก็ดี อันว่าไขข้อนี้อยู่ในกระดูก กระทำให้เมื่อยในข้อในกระดูกทุกแห่งดุจคลากจากกัน ให้ขัดให้ตึงทุกข้อ จะแก้เปนอันยากนักด้วยอยู่ในกระดูก ให้แก้ดูตามบุญเถิด ท่านให้ประกอบยา โกฐกะดูก ๑ โกฐกัดกลิ้ง ๑ โกฐกัดกรา รากแฟบ ๑ สิ่งละส่วน แก่นมะหาด ๑ แก่นปรู ๑ แก่นสนเทศ ๑ สักขี ๑ ผลเมื่อย ๑ รากมะกล่ำต้น ๑ รากประดงข้อ ๑ ดีปลี ๑ กระดูกงูเหลือม ๑ สิ่งละ ๒ ส่วน เหมือดคน ๑ ส้มเสี้ยว ๑ ส้มสันดาน ๑ พริกไทย ๑ ขิง ๑ สิ่งละส่วน รากคนทา ๕ ส่วน ยาเข้าเย็น ๑๐ ส่วน ต้มให้กินหายแล

มูตร เมื่อพิการแตกนั้น ให้ปัสสาวะวิปลาศ คือแดงคือเหลืองแลเปนนิ่วก็ดี บางทีดุจน้ำเข้าเช็ด ให้ขัดเบาให้เจ็บหัวเหน่า ให้หัวเหน่าฟกเปนนิ่วเปนมุตรสกิจฉ์ เปนสัณฑฆาฏกาฬขึ้นในมูตรให้มูตรพิการแปรเปนต่าง ๆ

ถ้าจะแก้มูตรแตกนั้นประกอบ สะค้าน ๑ รากช้าพลู ๒ รากเจตมูลเพลิง ๓ ดีปลี ๔ ขิง ๕ ผลมะตูมอ่อน ๖ แฝกหอม ๗ สมอทั้ง ๓ พรรณผักชี ๑ จันทน์ทั้ง ๒ ยาเข้าเย็นจีน ๑ อ้อยแดง ๓ ปล้อง โคกกระสุน ๑ หัวแห้วหมู ๑ ต้มให้กินหายแล

ยาต้มแก้ขัดเบา เอาใบมะขามกำมือ ๑ ใบส้มป่อยกำมือ ๑ ใบมะนาว ๗ ใบ หอม ๓ หัว สารส้ม ๑ ดินประสิวขาว ๑ หนักสิ่งละ ๑ บาท น้ำอ้อยงบ ๑ หัก ๔ อันทิ้งเสียข้างทิศตวันตกอันหนึ่ง เหลือ ๓ อันใส่หม้อต้มให้กิน เบาออกคล่องหายแล

ถ้ายังไม่ออกสดวกดี ท่านให้แก้ในกระบวนโรคตามคัมภีร์ปะระเมหะต่อไปเถิด

บัดนี้จะว่าด้วยธาตุดินต่อไป พระอาจาริย์เจ้าจัดออกเปนแพนกแต่ละสิ่งๆ (๑) คือ ผม ถ้าพิการให้เจ็บสมองหัว ให้ผมร่วง

ถ้าจะแก้ให้ประกอบยานี้ ให้เอาทางตาลมาลนไฟบิดเอาน้ำถ้วย ๑ ใบครามตำบิดเอาน้ำถ้วย ๑ หญ้าแพรกตำบิดเอาน้ำถ้วย ๑ ขมิ้นอ้อยตำบิดเอาน้ำถ้วย ๑ น้ำมันงาถ้วย ๑ หุงให้คงแต่น้ำมัน ปรุงใส่ดีกา ๑ ดีนกกาน้ำ ๑ ดีตะพาบน้ำ ๑ ทาสีสะแก้ผมพิการหายแล

ขน เมื่อพิการ ให้เจ็บทุกขุมขนทั่วสารพางค์กาย ถ้าจะแก้ให้ทำยาน้ำมันที่แก้ผมพิการนั้นมาทาก็ได้ แล้วจึงทำยากินภายใน เอารากส้มป่อย ๑ รากพุดลา ๑ มะกรูดผล ๑ ต้มกิน แก้ได้ทั้งเกษา, โลมา, พิการหายแล

เล็บ เมื่อพิการทำให้ต้นเล็บช้ำเขียวดำก็ดี บางทีให้ฟกบวม เปนต้นเดือนกลางเดือน บางทีให้ขบเล็บช้ำเปนหนองเจ็บปวดยิ่งนัก

ถ้าจะแก้ให้ประกอบ ชะมด ต้นฝ้ายผีก็ว่า เข้าสุกเผาไฟให้โชน ขมิ้นอ้อย ๑ ยาดำ ๑ ดินประสิวขาว ๑ บดพอกหายแล

ถ้ายังไม่ฟัง เอาฟองเป็ด ๑ เอาแต่เยื่อขาวมาประสมกับปูนที่กินกับหมาก พอกเข้ารัดไว้แห้งเองแล

ถ้ายังไม่ฟัง ให้ประกอบยาใหม่ ใบผักปลัง ๑ ใบบานเย็น ๑ เข้าสาร ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ บดพอกหายแล ถ้าไม่ฟังท่านให้ทำยาเตร็ดต่อไปเถิด

ฟัน เมื่อพิการหักถอนแล้วก็ดียังอยู่ก็ดี ก็ย่อมเปนประเวณีสืบๆ กันมา ถ้าเจ็บในไรฟันในรากฟันในเหงือก ก็ให้แก้ในทางรำมะนาดนั้นเถิด

หนัง พิการให้หนังสากหนังชาไป ถ้ามดหรือแมลงวันจะไต่จะจับ ก็ไม่รู้สึกกายให้แสบร้อนยิ่งนัก เรียกว่าเปนกัมมิโทษ (คือโทษเกิดแต่กรรม) ให้ประกอบยาใส่แป้งเข้าหมาก ๑ เปลือกเฉียงพร้านางแอ ๑ โกฐหัวบัว ๑ ดอกพิกุล ๑ ดอกบุนนาก ๑ ดอกสารภี ๑ เกสรบัวหลวง ๑ เสมอภาคบดด้วยน้ำดอกไม้ชโลมกายหายแล

ยากิน ใส่ขิงแห้ง ๑ รากมะแว้งทั้ง ๒ ผลกระดอม ๑ รากมูลกาแดง ๑ สมอไทย ๑ สมอพิเภก ๑ จันทน์ทั้ง ๒ เสมอภาคต้มปรุงขันทศกรแลน้ำผึ้ง กินแก้ไข้กัมมิโทษ อันเกิดในผิวหนังหายแล

คือเนื้อ ๕๐๐ ชิ้น ถ้าพิการให้เสียวไปทั้งตัว มักให้ฟกที่นั่นบวมที่นี่ให้เปนพิษ บางทีให้ร้อนดุจไฟ บางทีให้ฟกขึ้นดุจประกายดาดประกายเพลิง

ถ้าจะแก้ให้ประสมยาเข้าก้ามปูทะเลเผา ๑ ฝางเสน ๑ รากลำโพง ๑ รากหมีเหม็น ๑ รากบัวหลวง ๑ เปลือกทองหลางน้ำ ๑ โกฐก้านพร้าว ๑ บดด้วยน้ำหางตะเข้ต้มเปนกระสาย ทาทั้งตัวหายแล

ถ้าบวม ให้เอาเข้าสุกไหม้ ๑ ใบขี้เหล็ก ๑ ยาดำ ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ บดละลายน้ำปูนใสทาหายแล

ยากินภายใน ให้ใส่ว่านเปราะ ๑ สมอเทศ ๑ เทียนดำ ๑ ไพล ๑ รากพันงูแดง ๑ ตรีกฏุก ๑ เสมอภาคทำเปนจุณ ละลายน้ำมะนาวน้ำส้มซ่าน้ำร้อนก็ได้ รำพัดเกลือกินหายแล ยานี้ชื่อว่า สังฆเภท

เอ็นเมื่อพิการ ส่วนว่าเส้นประธาน ๑๐ เส้น มีบริวาร ๒๗๐๐ เส้นนั้น ก็หวาดไหวไปสิ้นทั้งนั้น ที่กล้าก็กล้า ที่แข็งก็แข็ง ที่ตั้งดานก็ตั้งดาน ที่ขอดก็ขอดเข้าเปนก้อนเปนเถาไป เปนเหตุแต่จะให้โทษนัก แต่เส้นอันชื่อว่าสุมะนากับเส้นอำมะพฤกษ์นั้น ทำเหตุแต่จะให้ระส่ำระสาย ให้ร้อนให้เย็นให้เมื่อยให้เสียวไปทุกเส้นเอ็นทั้งตัว ตั้งแต่ที่สุดบาทาตลอดขึ้นไปถึงสีสะ ทำทางที่จะให้เจ็บเปนเวลา แต่เส้นอำมะพฤกษ์สิ่งเดียวนั้นให้โทษถึง ๑๑ ประการ ถ้าพร้อมทั้ง ๒๗๐๐ เส้นแล้วก็ตายแล ถ้าเปนแต่ ๒ เส้น ๓ เส้น ๔ เส้น ยังแก้ได้แล

ยาแก้ปถวีธาตุคือเส้นเอ็น ท่านให้เอาขิงแห้ง ๑ พริกไทย ๑ เทียนดำ ๑ ว่านน้ำ ๑ โกฐพุงปลา ๑ กระวานทั้งใบทั้งผล สะค้าน ๑ เกสรบัวหลวงขาว ๑ เกสรบัวหลวงแดง ๑ หญ้าตีนนก ๑ เกลือสินเธาว์ ๑ มหาหิงคุ์ ๑ แก่นขี้เหล็ก ๑ พยามือเหล็ก ๑ ยาทั้งนี้ทำเปนจุณละลายน้ำมะนาว น้ำมะกรูด น้ำส้มซ่า น้ำส้มสายชู น้ำสุราก็ได้ กินแก้เส้นพิการเส้นแตกหายแล

ขนานหนึ่ง เอาเปลือกหอยโข่ง ๑ หอยขม ๑ หอยแครง ๑ หอยตาวัว ๑ หอยกาบ ๑ หอยมุก ๑ หอยสังข์ ๑ หอยพิมพการัง ๑ หอยนางรม ๑ กระดูกเสือ ๑ กระดูกวัว ๑ กระดูกแพะ ๑ กระดูกเลียงผา ๑ กระดูกควายเผือก ๑ ยานี้เผาไฟให้ไหม้โชน หนักสิ่งละ ๔ บาท รากตองแตก ๑ รากส้มเสี้ยว ๑ ส้มสันดาน สิ่งละ ๖ บาท สหัศคุณเทศ ๓ ตำลึง รากมะตาดเครือ ๑๐ บาท ปูนผง ๓ บาท พริกไทยเท่ายาทั้งหลาย ทำเปนจุณแล้วจึงเอา ด่างขี้เหล็ก ๑ ด่างงวงตาล ๑ ด่างสำโรง ๑ ด่างช้าแป้น ๑ ด่างต่อไส้ ๑ ด่างผักโหมหนาม ๑ ด่างพันงูแดง ๑ ด่างบอระเพ็ด ๑ ยาทั้งนี้แช่เปนด่างอุ่นไฟให้ร้อนละลายยาเนาวหอย กินแก้เส้นเปนดานเปนเถาเปนก้อน แลแก้เส้นแตกให้ปวดกำเริบด่าง ๆ กินยานี้หายแล

แล้วท่านให้ต้มยา เบญจขี้เหล็ก ๑ สมอทั้ง ๓ มะขามป้อม ๑ ใบมะกา ๑ รากตองแตก ๑ แห้วหมู ๑ บอระเพ็ด ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ โกฐน้ำเต้า ๑ เถาวัลเปรียงสดใส่ให้มาก เทียนทั้ง ๕ หนักสิ่งละ ๒ สลึง ยาดำ ๒ บาท ราชพฤกษ์ ๕ ฝัก ต้มกินแซกดีเกลือตามธาตุหนักธาตุเบาเถิด ชำระน้ำเหลืองแก้ทั้งเส้นหายแล

กระดูกทั้งหลายประมาณได้ ๓๐๐ ท่อน ถ้าพิการว่าโทษโรคนี้จะแก้เปนอันยากยิ่งนัก แต่ท่านวางยาไว้ให้แก้ดูตามบุญของคนไข้

จึงให้ประกอบ ผลจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ กระวาน ๑ กานพลู ๑ สิ่งละส่วน มหาหิงคุ์ ๑ ยาดำ ๑ การะบูร ๑ สิ่งละ ๔ ส่วน พริกล่อนพริกหอมก็ได่ใส่เท่ายาทั้งหลาย น้ำเปลือกมะรุมเปนกระสาย บดปั้นเม็ดเท่าผลมะแว้งเครือ กิน ๙ เม็ด ๑๑ เม็ด ๑๕ เม็ด ถ้าให้ชักมือกำเท้างอน้ำตาตกน้ำลายฟูมปาก ลิ้นกระด้างคางแข็งมิรู้สึกตัว ฝนยานี้ด้วยน้ำร้อนก็ได้ น้ำเปลือกมะรุมก็ได้กินหายแล ถ้าจะให้ผายลม ละลายน้ำส้มมะขามเปียกก็ได้ น้ำมะนาวผลหนึ่งก็ได้ ฝนยา ๑๑ เม็ด ๑๓ เม็ด ๑๗ เม็ด ตามธาตุหนักธาตุเบา ยานี้ชื่อพรหมภักตรน้อยแล

ขนานหนึ่งให้ประกอบ ผลจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ กระวาน ๑ กานพลู ๑ ดีปลี ๑ หนักสิ่งละ ๒ สลึง มหาหิงคุ์ ๑ การะบูร ๑ พริกล่อน ๑ สิ่งละ ๑ บาท ยาดำ ๑ รงทอง ๑ ปิ้งไฟ สิ่งละ ๓ บาท น้ำสุราเปนกระสายบดปั้นเม็ดเท่าผลมะแว้งเครือ ยานี้ชื่อพรหมภักตรกลางประจุลมเสมหะ แลเหงื่อไคลไขข้อแก้ปถวีธาตุหายแล

ยาต้มให้ประกอบ ใบมหาสาร ๓๐๐ ใบ ใบมะนาว ๑๐๘ ใบ ๓ ใบต่อ ๑ ประดงข้อ ๑ เทียนขาว ๑ เทียนดำ ๑ สิ่งละ ๒ บาท โกฐกระดูก ๑ เถากะทั่งติด สิ่งละ ๔ บาท ขมิ้นอ้อย ๖ บาท ต้มกินแก้ปถวีธาตุคือ (กระดูก) พิการหายแล

เยื่อในกระดูกถ้าพิการแล้ว ยาแก้เหมือนยาแก้กระดูกนั้นแล

ม้าม ถ้าแตกพิการไซ้ให้ม้ามหย่อน แต่ว่ามักเลือกที่ตาย ถ้าจะแก้ให้เอา โคกกระสุนกำมือ ๑ มะกรูดผล ๑ ฝาน ๓ ชิ้น ขมิ้นอ้อย ๕ ชิ้น ปูนขาวแช่น้ำให้ใส ทำเปนน้ำต้มให้กินหายแล

ยาต้มประจำปถวีธาตุ คือม้ามแตกให้ประกอบ รากไม้รวก ๑ แห้วหมู ๑ จันทน์ทั้ง ๒ รากมะตูม ๑ รากแตงหนู ๑ เอาเสมอภาคห่อผ้าขาวต้มกินแก้เจ็บแก้ร้อนแก้หนาว แก้พิษต่างๆ แล

ดวงหฤทัย ถ้าพิการก็ดีแตกก็ดี กระทำให้เปนคนเสียจริต ถ้ายังอ่อนอยู่ก็ให้คุ้มดีคุ้มร้าย มักให้ขึ้งโกรธ บางทีให้ระส่ำระสาย ให้หิวหากำลังไม่ได้

ถ้าจะแก้เอา ผลคนทิสอ ๑ ใบสหัศคุณเทศ ๑ ผลสะบ้าปิ้งไฟ ๑ จันทน์ทั่ง ๒ ดีปลี ๑ เทียนเข้าเปลือก ๑ เทียนตาตักกะแตน ๑ เทพทาโร ๑ บดปั้นแท่งไว้ฝนด้วยน้ำดอกไม้ รำหัดพิมเสนกินหายแล แลยานี้ชื่อมูลจิตรใหญ่ ใชได้ ๑๐๘ แล

ขนานหนึ่งเอา ผลเอ็นเทศ ๑ ชะเอมเทศ ๒ ใบกระวาน ๓ ดอกบุนนาก ๔ พริกไทย ๕ ขิงแห้ง ๖ ดีปลี ๗ อบเชยเทศ ๘ รากน้ำใจใคร่ ๙ เกสรบัวหลวง ๑๐ จันทน์ขาว ๑๑ ทำเปนจุณแล้วจึงใส่น้ำตาลทรายเท่ายาทั้งหลาย ละลายน้ำร้อนกินแก้ลมแก้โลหิตจับดวงหฤทัย ให้คลั่งไคล้ทุรนทุรายหายแล ยานี้ชื่อประฐมสักขะระใหญ่ แล

ขนานหนึ่งชื่อสว่างอารมณ์ ให้เอารากบัวหลวง ๑ ผลบัวหลวง ๑ หัวถั่วภู ๑ แห้วสด ๑ กระจับสด ๑ ชะลูด ๑ ขอนดอก ๑ กรุงเขมา ๑ หญ้านาง ๑ เกสรบัวหลวง ๑ เกสรบัวขม ๑ เกสรบัวเผื่อน ๑ สัตบงกช ๑ สัตบุศย์ ๑ ดอกพิกุล ๑ ดอกบุนนาก ๑ ดอกสารภี ๑ ดอกกรรณิกา ๑ ชะมด ๑ พิมเสน ๑ หญ้าฝรั่น ๑ อำพัน ๑ เกล็ดหอยเทศ ๑ บดฝนด้วยน้ำดอกไม้เทศ กินชูกำลังแก้สวิงสวาย ถึงบริโภคอาหารไม่ได้สัก ๗ วันก็ไม่ตาย แก้หฤไทยระส่ำระสายกินหายแล

ขนานหนึ่ง ชื่อสมมิตรสวาหะ ท่านให้เอานมผา ๑ ศิลายอน ๑ บัลลังก์ศิลา ๑ สังข์ ๑ ดินถนำ ๑ แก้วแกลบ ๑ ดินดานในน้ำ ๑ เทียนทั้ง ๕ โกฐทั้ง ๙ แฝกหอม ๑ บัวบก ๑ บัวน้ำทั้ง ๕ ดอกสัตบงกช ๑ ดอกกาหลง ๑ ดอกชงโค ๑ ดอกโยทกา ๑ ดอกพิกุล ๑ ดอกบุนนาก ๑ ดอกสารภี ๑ ดอกกระดังงา ๑ ดอกจำปา ๑ ดอกคำไทย ๑ ดอกสลิด ๑ ดอกมลิซ้อน ๑ ดอกมลิลา ๑ ดอกซ่อนกลิ่น ๑ ดอกพะยอม ๑ ดอกกรรณิกา ๑ ดอกสำโรง ๑ ดอกประคู่ ๑ ดอกผักคราด ๑ ดอกมหาหงษ์ ๑ ดอกข่า ๑ ดอกกระทือ ๑ ดอกเร่ว ๑ ดอกกะเจียว ๑ ดอกแคทั้ง ๒ ดอกทองกวาวทั้งเครือทั้งต้น กระวาน ๑ กานพลู ๑ ผลจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ กะลำภัก ๑ กฤษณา ๑ ขอนดอก ๑ ชะลูด ๑ อบเชย ๑ สนเทศ ๑ ผักกะโฉม ๑ ใบพิมเสน ๑ ใบเฉียงพร้าหอม ๑ ใบชะมดต้น ๑ ใบทองพันชั่ง ๑ ว่านกีบแรด ๑ ว่านร่อนทอง ๑ สังกะระณี ๑ เนระภูษี ๑ ระย่อม ๑ พิศนาด ๑ ว่านเพ็ชรโองการ ๑ ว่านฤๅษีประสมแล้ว ๑ สิริยาทั้งนี้เอาสิ่งละ ๑ บาท ชะมด, พิมเสน, อำพัน, หญ้าฝรั่น, เกล็ดหอยเทศ, หนักสิ่งละ ๑ สลึง กระแจะตะนาว ๑ บาท บดปั้นแท่งไว้ฝนด้วยน้ำดอกไม้เทศ แซกน้ำตาลทรายกินแก้ใจพิการต่าง ๆ แก้คุณไสยอันซ้ำด้วยอาคมต่างๆ หาย

อนึ่งคือลมกำเริบเข้าจับหัวใจนอนนิ่งแน่ไป กระทำให้ลิ้นกระด้างคางแข็งอ้าปากไม่ออก ท่านให้เอาชะมดเชียงส่วน ๑ พิมเสน ๑ การะบูร ๑ เทียนดำ ๑ ดองดึง ๑ เจตมูลเพลิง ๑ สิ่งละ ๒ ส่วน กฤษณา ๑ กะลำภัก ๑ จันทน์เทศ ๑ สิ่งละ ๓ ส่วน กำยาน ๔ ส่วน ขิง ๑ ดีปลี ๑ สิ่งละ ๘ ส่วน สนเทศ ๔๐ ส่วน ทำเปนจุณแล้วใส่น้ำมะนาวเปนกระสาย บดปั้นเปนแท่งตากไว้ที่ร่มให้แห้ง แล้วใส่ขวดปิดไว้อย่าให้ลมเข้าได้ ถ้าลมจับนิ่งแน่ไปให้ฝนด้วยน้ำมะนาว ๗ เม็ด คัดปากกรอกเข้าไปฟื้นแล ถ้าจะแก้ไข้ระส่ำระสายหิวระหวยหาแรงมิได้ ให้ฝนด้วยน้ำดอกไม่ไทยไม้เทศ น้ำตาลกรวดให้กินหายแล ยานี้ชื่อมหาสดมภ์ใหญ่ วิเศษนักแล

ตับ นั้นถ้าพิการแตกก็ดี เปนเพราะโทษ ๔ ประการ ประการหนึ่งกาฬผุดขึ้นในตับจึงให้ตับหย่อน บางทีเปนฝีในตับย่อมให้ลงเปนโลหิตสดๆ ออกมา อนึ่งคือกาฬมูตรนั้นผุดขึ้นด้นเดินอยู่ในตับกระทำให้ลงเปนเสมหะโลหิตเหน้าปวดมวนอยู่เสมอ ให้ตาแดงเปนสายโลหิตผ่านอยู่ คนทั้งปวงย่อมสมมุติเรียกว่ากระสือปิศาจเข้าปลอมกิน เพราะว่าคนไข้นั้นให้เพ้อหาสติมิได้ ย่อมเจรจาด้วยผี โรคหมู่นี้หมอจะแก้เปนอันยากนัก ประการหนึ่งเปนด้วยปถวีธาตุนั้นแตกเองจึงให้ระส่ำระสาย แล้วก็ให้หอบให้ไออยู่เปนนิจ จะบริโภคอาหารก็ไม่ได้ จะหายใจก็ไม่ถึงท้องน้อย ลักษณดังนี้คือปถวีธาตุโทษทั้ง ๔ ประการ ซึ่งกล่าวมาล้วนตัดถ่ายเดียว ถ้ายังไม่พร้อมกัน ท่านให้แก้ไปด้วยสรรพคุณยาดูตามบุญเถิด ถ้าแพทย์ผู้ใดจะแก้ให้แก้ต้นข้อต้นเถา คือปถวีธาตุซึ่งแตกนั้นก่อน ท่านให้ทำยาชื่อว่าบุญจอำมฤตย์ ชำระให้ลงเสียให้สิ้นร้าย แล้วจึงแต่งยาสำหรับธาตุกินต่อไป

เอารากมะตูม ๑ รากมะดูก ๑ รากทองพันชั่ง ๑ โกฐทั้ง ๕ เทียนทั้ง ๕ ผลสมอทั้ง ๓ พรรณผักชีทั้ง ๒ สารส้ม ๑ ขิงแห้ง ๑ รากมูลกาแดง ๑ จุกโรหินี ๑ เทพทาโร ๑ สมุลแว้ง ๑ โคกกระสุน ๑ สิ่งละ ๒ ส่วน สะค้าน ๑ ดีปลี ๑ ช้าพลู ๑ สิ่งละ ๓ ส่วน เปลือกโมกมัน ๔ ส่วน หัวแห้วหมู ๘ ส่วน จะต้มก็ได้จะทำเปนจุณก็ได้ ละลายน้ำมะนาว, น้ำมะกรูด, น้ำผึ้ง, น้ำส้มซ่าก็ได้ กินหายแล

ขนานหนึ่งเอา แก่นพรม ๑ หัวใจไวยราพ ๑ แก่นแสมทั้ง ๒ มหาละลาย ๑ ขมิ้นเครือ ๑ สิ่งละส่วน ถาจะดองใส่ดีเกลือลงส่วน ๑ ดองด้วยสุรา ๕ ทนาน ถ้าจะทำเปนจุณให้ละลายด้วยน้ำใบมูลเหล็ก ๑ น้ำมะนาว ๑ น้ำมะกรูด ๑ น้ำส้มซ่า ๑ น้ำขมิ้นอ้อย ๑ ก็ได้กินแก้ตับหย่อนหายแล

ขนานหนึ่งชื่อว่ากล่อมนางนอน เปนยาล้อมตับไม่ให้ตับทรุดลงไปได้ ท่านให้เอาเทียนทั้ง ๕ โกฐทั้ง ๙ รากไคร้เครือ ๑ สังกะระณี ๑ เกสรบัวน้ำทั้ง ๕ ดอกพิกุล ๑ ดอกบุนนาก ๑ ดอกสารภี ๑ ดอกมลิ ๑ กฤษณา ๑ กลำภัก ๑ ชะลูด ๑ อบเชย ๑ ชะเอมเทศ ๑ น้ำประสานทอง ๑ ผงใบลาน ๑ กระดองปูป่า ๑ ชะมด ๑ พิมเสน ๑ เสมอภาคน้ำดอกไม้เปนกระสาย บดแล้วใส่ขันสัมฤทธิ์ลนควันเทียนให้สบกัน แล้วจึงปั้นแท่งไว้ฝนด้วยน้ำดอกไม้ น้ำกฤษณา ๑ กินแก้ระส่ำระสาย ถ้าลงเปนมูกเปนเลือดละลายน้ำกล้วยตีบ ถ้าจะแก้เสมหะน้ำมะเดื่อดิน แก้ร้อนละลายน้ำดอกไม้ทั้งกินทั้งชะโลม ถ้าล้อมตับดับพิษฝีพิษไข้พิษตาลพิษทรางขะโมยพิษฝีกาฬ เอารากหมากผู้หมากเมีย ๑ รากมะเฟือง ๑ รากต่อไส้ ๑ ฝาง ๑ ต้มทำน้ำกระสายละลายยากินหายแล

ขนานหนึ่งเอา รากมะขาม ๑ รากมะนาว ๑ รากมะกรูด ๑ ต้มน้ำ ๓ ส่วน เขี้ยวให้เหลือส่วน ๑ ให้กินเสียก่อนแล้วจึงทำยาพอก

เอากระดูกคน, กระดูกค่าง, กระดูกควาย, กระดูกสุกร, เผาให้ไหม้โชน ขมิ้นอ้อย ๑ ไพล ๑ สิ่งละเสมอภาค บดพอกยอดอกหายแล

ถ้าไม่ฟังให้ประกอบ ใบเสนียด ๑ รากผักหนาม ๑ รากตูมกา ๑ รากผีเสื้อใหญ่ผีเสื้อน้อย ๑ รากตาเสือ ๑ รากมูลเหล็ก ๑ รากมะตูม ๑ รากมะดูก ๑ รากคัดเค้า ๑

รากมะกาต้น ๑ รากมะกาเครือ ๑ โลทนง ๑ ตับเต่าทั้ง ๒ ขอบชะนางทั้ง ๒ รากปรู ๑ รากคาง ๑ รากเล็บมือนาง ๑ รากมะหวด ๑ รากซ้องแมว ๑ หญ้าปีนตอ ๑ รากผักไห่ ๑ รากฟักเข้า ๑ รากครามทั้ง ๒ ตะไคร้ทั้ง ๒ รากหมอน้อย ๑ รากสนุ่น ๑ รากคากรอง ๑ รากไก่ไห้ ๑ รากบัว ๑ รากระย่อม ๑ ว่านน้ำ ๑ สลัดได ๑ ชิงช้าชาลีทั้ง ๒ รากมะเขือป่า ๑ รากกล้วยตีบ ๑ รากกรวย ๑ รากคนทา ๑ หัวเอ็น ๑ รากเลาแลง ๑ รากมะพร้าว ๑ รากตาล ๑ สิริยา ๔๙ สิ่งนี้สับใส่หม้อต้มรมก็ได้ หุงเปนชี่ให้กินก็ได้หายแล

ถ้ายังไม่ฟังให้เอา รากละหุ่ง ๑ รากประดู่ ๑ เอื้องเพ็ดม้า ๑ หัวกระเช้าผีมด ๑ เปล้าทั้ง ๒ รากสนุ่น ๑ เถาชิงช้าชาลี ๑ รากมะเดื่อ ๑ รากขี้เหล็ก ๑ รากผีเสื้อทั้ง ๒ รากเทียน ๑ สหัศคุณทั้ง ๒ รากโรคทั้ง ๒ รากเจตมูลเพลิง ๑ รากมะงั่ว ๑ รากมะนาว ๑ รากเล็บเหยี่ยว ๑ ลับตากให้หมาดต้มน้ำ ๓ ส่วนเขี้ยวให้เหลือแต่ส่วน ๑ แล้วให้สงกากขึ้นตากทำเปนจุณ จึงเอายานี้ปรุงลงอีก พิมเสน ๑ มหาหิงคุ์ ๑ เปลือกมะซาง ๑ เทียนดำ ๑ เทียนแดง ๑ โกฐสอ ๑ โกฐเขมา ๑ จันทน์ทั้ง ๒ ขิงแห้ง ๑ ดีปลี ๑ กำยาน ๑ ยาทั้งนี้ทำเปนจุณปรุงลง แล้วจึงเอาผลสลอดหนัก ๖ บาท ประสะเสียก่อน วันที่ ๑ ให้ต้มด้วยน้ำใบพลูแก วันที่ ๒ ให้ต้มด้วยช้าพลู วันที่ ๓ ให้ต้มด้วยใบพริกเทศ วันที่ ๔ ให้ต้มด้วยใบมะขาม วันที่ ๕ ให้ต้มด้วยน้ำเกลือ วันที่ ๖ ให้ต้มด้วยเข้าสุก วันที่ ๗ ให้ต้มด้วยมูตรโคดำ ครั้นต้มด้วยยาทั้ง ๗ นี้ แล้วเอายางสลัดใด ๔ บาทประสมกันเข้า พริกไทยเท่ายาทั้งหลาย แล้วปรุงลงที่ยาผงทำไว้นั้น คลุกเข้ากับน้ำยาต้มที่รินไว้นั้น คุลีการกันเข้าตากให้แห้ง ปั้นแท่งเท่าเมล็ดพริกไทยให้กินทีละเม็ด ลงจนถึงเสมหะแก้ตับทรุดตับพิการเปนต่าง ๆ ดังกล่าวมานั้นหายแล ยาขนานนี้ใช้ได้ ๑๐๐๐ หนึ่งแล

พังพืด เมื่อพิการแตกก็ดี ทำให้อกแห้งกระหายน้ำ คือโรคริศดวงแห้งนั้นแล

ถ้าจะแก้ให้ปรุงยา เอารากเปล้าน้อย ๑ รากหญ้างวงช้าง ๑ พริกไทย ๑ ขิง ๑ หอม ๑ กะเทียม ๑ เกลือ ๑ สิ่งละ ๗ บดให้กินหายแล

ถ้าไม่ฟัง เอาสุพรรณถันเหลือง ๑ ดินประสิวขาว ๑ ผลสลอด ๑ บดด้วยน้ำกล้วยตีบ ปั้นเท่าเมล็ดพริกไทยกินทีละเม็ด ใส่ในมะนาวกินหายแล

พุง เมื่อพิการแตกนั้น ให้ขัดอกให้ลงท้องๆขึ้นท้องพองให้แน่นในอกในท้องบริโภคอาหารไม่ได้ ถ้าจะแกให้เอาเบญจกูล ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ บอระเพ็ด ๑ รากช้าพลู ๑ ผลมะตูมอ่อน ๑ รากขัดมอน ๑ พรรณผักชี ๑ แห้วหมู ๑ เสมอภาคต้มให้กินบำรุงธาตุเสียก่อน

ถ้าไม่ฟังให้เอา หญ้าพันงูแดง ๑ รากมะดูก ๑ รากไก่ไห้ ๑ รากเบญมาศ ๑ ใบพลูแก ๑ ต้มอาบหาย

ถ้าไม่ฟังให้เอาเปลือกฝรั่ง ๑ พรายชะมบ ๑ ต้มอาบ ถ้าไม่ฟังให้เอาพิลังกาสาทั้ง ๕ ต้มด้วยสุราให้กินหายแล

ปอด เมื่อพิการแตกก็ดีอาการดุจไข้พิษ คือการขึ้นในปอดให้ร้อนอกกระหายน้ำ แล้วหอบจนโครงลดให้กินน้ำจนปอดลอยจึงหายอยาก บางทีจนอาเจียรน้ำออกมาจึงจะหายอยาก

ถ้าจะแก้เอารากกะถินพิมานมาต้มกินหาย ถ้าไม่ฟังให้เอาเปลือกมูลอ้าย ๑ เชือกเขาวัล ๑ ดีงูต้น ๑ รากทรงบาดาน ๑ รากพิลังกาสา ๑ ต้มกินหาย ถ้าไม่ฟังให้ต้มเบญจธาตุบันจบให้กินหายแล

ไส้ใหญ่ เมื่อพิการแตกไซร้ คือกินอาหารผิดสำแลง ให้ปวดท้องให้ขัดอก บางทีให้ลงให้อาเจียร คือลมกรรมัชวาตพัดให้เสมหะเปนดานกลับเข้าไปในท้องในทรวงอก แล้วให้ตัดอาหารย่อมว่าไส้ตีบ

ถ้าจะแก้ให้เอาฝอยลมเผา พริก ๗ ขิง ๗ กะเทียม ๗ หอม ๗ บดละลายน้ำร้อนให้กินหายแล ถ้าไม่ฟังให้เอา ว่านไข่เน่า ๑ สหัศคุณเทศ ๑ เปล้าน้อย ๑ พริก ๑ ขิง ๑ หอม ๑ ทำเปนจุณละลายน้ำร้อนกินหาย ถ้าไม่ฟังให้เอาแก่นมะหาด ๑ พริก ๑ ขิง ๑ หอม ๑ กะเทียม ๑ สิ่งละ ๗ ต้มกินหายแล

ไส้น้อย เมื่อพิการแตกให้วิงเวียนหน้าตา จะลุกยืนขึ้นให้หาวให้เรอ ให้จุกให้เสียดให้เจ็บหลังเจ็บสะเอว ให้เสมหะขึ้นฅอ ให้ร้อนฅอร้อนท้องน้อยเปนลมโฮก ให้ตกโลหิตให้ตกหนอง

ถ้าจะแก้ เอาเหล้าแดง ๑ รากตะไคร้น้ำ ๑ หีบลม ๑ รากมะเดื่อปล้อง ๑ มะเดื่อชุมพร ๑ ต้มกินหายแล

ขนานหนึ่งเอา ดีปลี ๑ เปล้าน้อย ๑ สะค้าน ๑ รากจิงจ้อหลวง ๑ พลูป่า ๑ ขิงแครง ๑ เกลือสินเธาว์ ๑ ศิริยาทั้ง ๗ สิ่งนี้ทำเปนจุณ ละลายน้ำร้อนกินหายแล

ขนานหนึ่งเอา ใบพลวง ๑ รากอ้อยแดง ๑ รากกล้วยตีบ ๑ รากกล้วยหอม ๑ รากตาเสือ ๑ ต้มกินหายแล

ถ้าไม่ฟังเอา ใบผักหนอก ๑ รากก้างปลาแดง ๑ รากกำจาย ๑ รากป่านใบ ๑ ยอดมะม่วง ๗ ยอด พริก ๗ ขิง ๗ หอม ๗ กะเทียม ๗ เลือดแรด ๑ ทำเปนจุณบดปั้นเม็ดเท่าเมล็ดพริกไทย กินในเวลาเช้าๆ หายแล

อาหารใหม่ เมื่อพิการแตกไซร้ ถ้าบริโภคอาหารเข้าไปอิ่มแล้วเมื่อใด กิทำให้ร้อนท้องนัก บางทีให้สอึก บางทีให้ขัดในอก แล้วให้จุกเสียดตามชายโครง ให้พะอืดให้พะอมคนสมมุติว่าไฟธาตุหย่อน จะเช่นอย่างสมมุติว่านั้นหาไม่ อาการอย่างนี้ย่อมเปนโทษเพราะเสพอาหารที่ไม่เคยบริโภคนั้น ประการหนึ่งคืออาหารดิบประการ ๑ ลมกุจฉิสยาวาดพัดไม่ตลอดก็ให้เปนต่างๆ บางทีให้ลงบางทีให้เปนพรรดึก แดกขึ้นแดกลงกินอาหารไม่ได้ ถ้าจะแก้ให้เอายอดไก่ไห้ ๗ ยอด พริก ๗ ขิง ๗ กะเทียม ๗ พริกเทศทั้ง ๕ เสมอภาคบดเปนกลอนกินหายแล

ถ้ายังไม่ฟังให้เอาผลเบญจกานี ๑ พริก ๗ ขิง ๗ รากเข้าสาน ๗ รากต้มกินหายแล

แล้วจึงให้ประกอบยาแก้ปถวีธาตุ เอาพริกส่วน ๑ ขิงแห้ง ๒ ส่วน สะค้าน ๓ ส่วน รากช้าพลู ๔ ส่วน รากเจตมูลเพลิง ๘ ส่วน เปลือกโมกหลวง หัวกกลังกา ขมิ้นอ้อย สิ่งละ ๑๐ ส่วน บระเพ็ด ๑๒ ส่วน ดีปลี ๑๖ ส่วน หัวแห้วหมู ๑ เปลือกไข่เน่า ๑ ดอกบุนนาก ๑ สิ่งละ ๒๑ ส่วน ต้มกินหายแล

อาหารเก่า เมื่อพิการแตก คือทรางขะโมยกินลำไส้ ถ้าพ้นกำหนดทรางแล้ว คือริศดวงคูธนั้น

ถ้าจะแก้ให้เอา พระยาลำแพน ๑ รากหนามแดง ๑ ฝ้ายแดง ๑ เอาทั้งรากทั้งใบ รากหนามมูลแรด ๑ เมื่อต้มปรุง พริก ๗ ขิง ๗ ต้มกินหายแล

ถ้าไม่ฟังเอา รากผักเสี้ยน ๑ รากมะเกลือ ๑ รากมูลกาแดง ๑ ต้มปรุงพริก ๗ ขิง ๗ กะเทียม ๗ ต้มกินหายแล

ถ้าไม่ฟังเอา มะกรูดผล ๑ ต้มให้สุกระอุแล้วชั่งกับเบญจกูลให้น้ำหนักเท่ากัน จึงใส่การะบูร ๑ พริกไทย ๑ เกลือ ๑ สิ่งละเท่าๆ กันสิ่งละส่วน มหาหิงคุ์ ๑ กะเทียม ๑ สิ่งละ ๒ ส่วนประสมเข้าด้วยกัน บดให้กินมื้อละ ๑ สลึง กินเช้ากินเย็นบำรุงธาตุแก้ริศดวงคูธหายแล

สมองสีสะ เมื่อพิการแตก ให้เจ็บในกระบานสีสะดังจะแตกให้ตามืดให้หูตึง ปากแลจมูกเฟดขึ้นลิ้นกระด้าง เดิมเปนเพราะสันนิบาตลมปะกัง ถ้ายาใดแก้ไม่หาย

ถ้าจะแก้เอา เมล็ดพรรณผักกาด ๑ ผลผักชี ๑ หอมแดง ๑ กะเทียม ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ ไพล ๑ ยอดกุ่มทั้ง ๒ ตำพอกกระหม่อม ๓ วันหาย ถ้าไม่ฟังให้กอกโลหิตที่สีสะออกเสีย

แล้วจึงให้ประกอบยาใหม่ ใบฝาง ๑ ใบตุมกาต้น ๑ มูลแรด ๑ บดด้วยน้ำส้มมะงั่ว ห่อผ้าขาวอุ่นไฟให้ร้อน ประคบลงที่เจ็บ ๓ วันหายแล

แล้วจึงให้กินยาภายใน เปลือกโลท ๑ หญ้ารังกา ๑ หัวแห้วหมู ๑ เปลือกโมกมัน ๑ ผลผักชีล้อม ๑ ผักชีลา ๑ เปลือกสมุลแว้ง ๑ การะบูร ๑ สิ่งละส่วน ขิง ๒ ส่วน รากช้าพลู ๓ ส่วน สะค้าน ๕ ส่วน ดีปลี ๖ ส่วน เจตมูลเพลิง ๗ ส่วน ยาทั้งนี้ทำเปนจุณไว้ ละลายน้ำผึ้งกินหายแล

พระคัมภีร์โรคนิทานจบบริบูรณ์แต่เพียงนี้

----------------------------

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ