- คำนำ
- บานแพนก
- พระคัมภีร์สมฏฐานวินิจฉัย
- พระคัมภีร์วรโยคสาร
- พระคัมภีร์มหาโชตรัต
- พระคัมภีร์ชวดาร ว่าด้วยโรคเกิดในกองลมต่างๆ
- พระคัมภีร์โรคนิทาน
- พระคัมภีร์ธาตุวิวรณ์
- พระคัมภีร์ธาตุบรรจบ
- พระคัมภีร์มุจฉาปักขันทิกา
- พระคัมภีร์ตักศิลา ว่าด้วยไข้เหนือ ไข้พิศ, ไข้กาฬ, หัด.ฝีกาฬ, ไข้กระโดง, ไข้หวัด, เปนต้น
- พระคัมภีร์ไกษย เล่ม ๑ โดยสังเขป
ว่าด้วยธาตุตรีโทษ
จะกล่าวธาตุทั้งสี่ อันตรีโทษตามเค้ามูน มระณังบังเกิดพูน ธาตุกำเริบออกจากกาย ผู้แพทย์พึงสังเกต มีประเภทอันมากมาย ประเภทสิบอย่างหลาย ย่อมให้รากทรวงอกแห้ง กายแข็งท่อนไม้ปาน บทราบรสอาหารแรง จืดเค็มก็มิแจ้ง มักเปนไข้นั้นร่ำไป เจ็บอกเปนใหญ่หลวง หนึ่งอาหารกินไปใน อุทรประเดี๋ยวใจ พอหยุดกินก็แสบท้อง ในอกดังเพลิงสุม ย่อมร้อนรุ่มเร่งเศร้าหมอง ท้องขึ้นแลท้องพอง ย่อมเขียวซ้ำทั่วทั้งกาย ผิแพทย์จะเยียวยา เอาตรีผลากะเทียมหมาย ว่านน้ำร่อนทองพราย ไพลกะดอมคนทิสอ ตากแห้งตำผงไว้ น้ำร้อนใช้กระสายพอ น้ำขิงเร่งกินหนอ แก้ปถวีในตรีโทษ จะคลายไม่ช้านัก ก็คงจักเปนประโยชน์ มิหายอย่าได้โกรธ อิกห้าวันพลันม้วยมรณ์
หนึ่งเล่าอาโปธาตุ วิปลาศจากกายจร ตรีโทษที่ถาวร ย่อมวิบัติกำเริบทวี อาการสิบสามเพลง กายตนเองซูบเศร้าศรี เสโทย่อมมากมี ให้ซึมทราบทั่วสาระพางค์ ตึงตัวทั้งหน้าตา อาหารกินก็เบาบาง ร้อนรนกระมลหมาง กระหายน้ำแลขัดอก ในท้องเปนลมลั่น อยากของมันมักโกรธงก ให้ร้อนแลเย็นอก เปนไข้จับดังเลือดพูน ปากชุ่มแลขมร้อน กลับเผ็ดหวานโทษทั้งมูน อาโปตรีโทษหนูน แก่คนไข้ผู้ใดเปน ผิแพทย์จะเยียวยา ตามกุสลาหากเคืองเข็ญ จะแจ้งความให้เห็น ซึ่งโอสถเร่งปรุงหา พึงเอาเจตมูล เปลือกมูกดงมูกมันมา ลูกผักชีดีปลีรา หญ้ารังกามะตูมอ่อน ขิงแลรากเสนียด หัวว่านน้ำเร่งสังวร ตำผงใส่น้ำร้อน เร่งกินแก้อาโปหาย มิเหือดด้วยยานี้ คือชีวีจะวางวาย เจ็ดวันจะพลันตาย ในเวลากลางคืนแล
หนึ่งโสดธาตุเตโช จากกาโยวิบัติแปร ตรีโทษที่ถึงแท้ กลเพศสิบสองประการ ให้ร้อนที่ในท้อง แลไส้พุงให้พลุ่งพล่าน น้ำเดือดไม่เปรียบปาน แล้วก็ให้ตีนมือตาย ให้ไอดังขลุกๆ ในลำฅอทรวงอกหมาย เมื่อยขบทั่วทั้งกาย ให้ผอมแห้งปวดมวนท้อง ร้อนรุ่มกายสกล ซึ่งภายในดังเพลิงกอง เวียนวิงหน้าตาหมอง ย่อมแสบไส้มักเปนลม มือสั่นแลตีนสั่น ให้ร้อนเสียวดังเพลิงรม โทษสิบสี่ย่อมนิยม ด้วยเตโชวิการสลาย ผิแพทย์เห็นอาการ แห่งผู้ไข้อย่าห่างหาย ตรีโทษมาถึงกาย วิบัติโรคให้เคืองเข็ญ ผิแพทย์ผู้ใดแก้ เอาโกฐสอแลลูกเอ็น ลูกผักชีว่านน้ำเห็น ทั้งดีปลีโกฐพุงปลา แห้วหมูแลว่านเปราะ สะค้านคงเร่งปรุงหา เปลือกโมกมันเท่ากันนา ตำผงกินกับน้ำเย็น กินแก้กองเตโช วิกาโรตรีโทษเปน ดังน้ำดับไฟเย็น ย่อมวินาศให้ขาดสูญ
ภาคหนึ่งลูกช้าพลู ลูกจิงจ้อเจตมูล รากเสนียดไคร้เครือพูน สมอไทยหญ้ารังกา ว่านเปราะดีปลีขิง มะขามป้อมชะเอมหา ใบกะเพราเท่ากันมา ตากตำผงจงละลาย แก้โทษแห่งเตโช เมื่อกินเจือน้ำตาลทราย มิฟังจะถึงตาย ในเจ็ดวันเปนมั่นคง
หนึ่งเล่าธาตุวาโย ภินทะโกบตำรง วิการออกจากองค์ ดังตรีโทษหากแปรปรวน โทษสิบหกสะถาน ดังอาจารย์ท่านประมวน ผอมเหลืองบมิควร แห้งซูบเศร้าฉวีหมอง จุกอกเปนก้อนอยู่ ในอุระแลในท้อง ให้รากอาหารกอง ให้สอึกให้เรอเหียน หายใจย่อมให้สั้น ให้หวานปากมักอาเจียร ร้อนอกทั่งปวดเศียร ให้เจ็บอกให้คันตัว ผุดแดงดังสีเลือด ไอบเหือดดังหืดมัว หนักหน้าตาสลัว ย่อมวิบัติเปนมากหลาย
ผิแพทย์ผู้จะแก้ วาโยแปรระส่ำระสาย ว่านเปราะพริกไทยหมาย ทั้งแห้วหมูแลดีปลี อิกข่าแลว่านน้ำ ตากตำผงให้จงดี น้ำร้อนเร่งภุญชี แก้วาโยกำเริบสูญ มิหายด้วยยานี้ ย่อมทวีอาการพูน โรคเกิดเปนเค้ามูล ถอยกำลังขัดหนักเบา ไม่มักพอใจกิน ของมี่มันจืดเค็มเล่า พึงอย่าได้ดูเบา ในเจ็ดวันสามยามสูญ
(จบธาตุตรีโทษ)
----------------------------