ว่าด้วยลักษณอุจจาระธาตุ

บัดนี้จักสำแดงในลักษณะอุจจาระธาตุ ซึ่งจะให้วิปริตต่างๆ นั้นเหตุว่า มูลนั้นเสียด้วยโกฐาสยาวาต มิใช่พัดชำระปะระเมหะแลเมือกในลำไส้ให้ตก เปนกรันติดคราบไส้อยู่ระคนด้วยอุจจาระ ครั้นเดินสู่ลำซ่วงก็ลำลาบแตกออกเปนโลหิต บางทีเปนเม็ดยอดขึ้นตามขอบทวารให้เจ็บ, แสบ, ขบ บางทีขึ้นที่ต้นไส้ต่อลำกะรีสะมัคนั้นก็มี ทำอาการดุจนิ่วแลไส้ล่วนไส้ลาม แลสัตรีดุจมีครรภ์ต่ำลงไปนั้น ถ้าแพทย์มิรู้ถึงมิได้แจ้ง ในอุจจาระธาตุวิธีอธิบายก็สมมุติเรียกต่างๆ บางทีก็ว่าตานเถา บางทีก็ว่ามุตรฆาฏ บางทีก็ว่านิ่วเปนปะระเมหะ บางทีก็ว่าเปนกระสายกล่อน บางทีก็ว่าเปนริศดวง บางทีก็ว่าลามกอติสาร ซึ่งว่ามาทั้งนี้จะได้ผิดจากธาตุโรคนั้นหามิได้ แต่ว่าเปนนิไสยแห่งแพทย์ จะประมาณเอาเปนเที่ยงนั้นมิต้อง ให้พึงสำคัญสัญญาเอาในพระคัมภีร์จะละนะสังคะหะนี้จึงจะควร แลโทษดังนี้เกิดแต่กองลามก แต่จะได้ถึงลามกอติสารนั้นหามิได้ โดยเหตุว่าลามกเปนมนทินในมูลธาตุโรคทั้งปวงดุจกล่าวมาดังนี้

อนึ่งอันว่าลักษณะแลประเภทซึ่งแจ้งมาแล้วนั้น ก็ระคนกลั้วไปในธาตุอภิญญาณ แลอสุรินทัญญาณธาตุเปนจัตุสมาธาตุเปนดาน, เถา, ในสมุฏฐานพิกัต ตกเข้าในระหว่างอชินธาตุวิธี ดังนี้แจ้งอยูในคัมภีร์ธาตุวินิจฉัยแลสมุฏฐานพิกัตโน้นแล้ว ในพระคัมภีร์นี้ท่านสงเคราะห์เอาแต่ที่เปนแก่นสาร คือใจความว่าพอเปนที่สังเกตแห่งแพทย์ทั้งหลาย จะได้พยาบาลโรคสืบไปเบื้องน่า ให้พิจารณาจงเที่ยงแท้โดยไนยท่านกล่าวไว้ดังนี้ ไนยหนึ่งแพทย์ผู้ใด จะพยาบาลในวิธีอุจจาระธาตุทั้ง ๔ นี้ พึงให้สอบสวนในคัมภีร์เวชศาสตร์ทั้งหลายให้แม่นยำ จึงจะอาจองแลซึ่งจะประกอบสาตราคมแลว่านยาสรรพสิ่งใดสิ่งหนึ่งก็ดี ให้ต้องเวชพิกัตในประเภทโรคแลธาตุโรค สมุฏฐานโรค อายุโรค กาลโรค ฤดูโรค โรคกำเนิดทั้งหลายนี้ จึงพยาบาลอุจจาระธาตุได้ด้วยเปนภูมกว่าโรคทั้งปวง มีฉันนวุติกะโรคเปนอาทิ โรคอันเสศเปนที่สุด ถ้าวางยามิถอยมูลนั้นคงอยู่นานเข้า ก็จะแปรถึงอะสาทิยอุจจาระคันธะธาตุจะบังเกิดปะระเมหะ ๒๐ ทุลาวะสา ๑๒ เปนอะสาทิยะลามกพิคัตภินธาตุโดยแท้ ถ้าวางยาต้องด้วยโรคก็จะบันเทาหาย โดยประมาณด้วยพระคัมภีร์นี้หากำหนดมิได้ เปนแต่เค้าแห่งโรค อนึ่งซึ่งจะวางยานั้นอย่าให้เสียยาพรหมภักตร์ทั้งสาม เปนยาชำระปะระเมหะแลเมือกมันให้สำเร็จให้สิ้นเชิง แล้วจึงวางยาอันชื่อว่า อัศฏาธิวรรค, บุษราธิคุณ, สงขสุวรรณมหานที, สรรพนัตนาธิคุณ, มหาอนันตคุณ, โอสถมาตาธิคุณ, ปัตโตฬาธิคุณ, มหาปัตโตฬาธิคุณ, ปัตโตฬาธิวาต, มหาธาราธิคุณ, ธาณจักรสังขสุวรรณแพทยา, ยา ๑๒ ขนานนี้ แจ้งอยู่ในพระคัมภีร์ตะติยะภินสันนิบาตเสร็จแล้ว จึงประกอบขึ้นให้วางต่อไปตามลำดับโรค อันเปนจะละนะธาตุเสียก่อนจึงเสื่อมหาย แล้วจึ่งแต่งยาอันชื่อว่าอินทรีย์ธาตุต่างๆ สำหรับได้แก้ในกองมหาภูตรูป แลสมุฏฐานรูปซึ่งเปนชาติธาตุนั้น ให้บริบูรณ์โดยแท้ต่อภายหลัง ดุจในท่านกล่าวไว้ดังนี้

ยาชื่อพรหมภักตร์ เอาโกฐทั้ง ๕ เทียนทั้ง ๕ สิ่งละส่วน ตรีผลา ตรีกฏุก เปราะหอม ผลเอ็น สิ่งละ ๒ ส่วน ผลจันทน์ กานพลู การะบูร ขิง ยาดำ สิ่งละ ๔ ส่วน ยางสลัดใดประสะตามวิธี ๒๐ ส่วน ทำเปนจุณเอาน้ำเปลือกมะรุมต้มเปนกระสาย บดทำเปนเม็ดไว้ให้กิน ชำระปะระเมหะเมือกแลตามกำลัง ขับทั้งลมคูธวาตให้เปิดอุจจาระเสียนั้นให้เปนปรกติ แก้ปวดมวนหายวิเศษนัก

ยาชื่อมหาพรหมภักตร เอาโกฐสอ ๑ โกฐเขมา ๑ โกฐบัว ๑ โกฐชฎามังษี ๑ เทียนดำ ๑ เทียนขาว ๑ สิ่งละส่วน เปราะหอม ๑ ผลเอ็น ๑ ผลผักชีทั้ง ๒ ผลโหระพาเทศ ๑ สิ่งละ ๒ ส่วน รากส้มกุ้งน้อย ๑ เปล้าน้อย ๑ สิ่งละ ๓ ส่วน สหัศคุณเทศประสะ ๑ ยาดำ ๑ สิ่งละ ๔ ส่วน ตรีกฏุก ๑ มหาหิงคุ์ ๑ กานพลู ๑ การะบูร ๑ สิ่งละ ๕ ส่วน สมอไทย ๘ ส่วน ยางสลัดใดประสะ ๒๔ ส่วน ทำเปนจุณเอาน้ำโสฬศเบ็ญจกูลเปนกระสาย บดทำเปนเม็ดไว้กินตามกำลัง อุจจาระธาตุซึ่งวิปริต อันบังเกิดแต่กองวาโยเปนอาทิ

ยาชื่อมหิทธิมหาพรหมภักตร เอาโกฐกระดูก ๑ โกฐเชียง ๑ โกฐจุลาลำพา ๑ โกฐจุลารส ๑ เทียนดำ ๑ สิ่งละส่วน ผลราชดัด ๑ ผลโหระพาเทศ ๑ ผลผักชีทั้ง ๒ สิ่งละ ๒ ส่วน เปราะหอม ๑ สมุลแว้ง ๑ จันทน์ทั้ง ๒ สิ่งละ ๓ ส่วน ตรีกฏุก ๑ มหาหิงคุ์ ๑ ยาดำ ๑ สหัศคุณเทศประสะ ๑ รากจิงจ้อประสะ ๑ รากส้มกุ้ง ๑ สิ่งละ ๔ ส่วน สมอไทย ๑ กานพลู ๑ ผลจันทน์ ๑ การะบูร ๑ สิ่งละ ๘ ส่วน ยางสลัดใดประสะ ๓๒ ส่วน ทำเปนจุณ ตามพิกัตเบญจกูลเปนกระสาย บดทำเม็ดไว้ให้กินตามกำลัง ชำระอุจจาระธาตุ อันบังเกิดแต่กองมหาภูตรูปนั้นให้อันตรธานหาย แลชำระธาตุโรคทั้งปวงวิเศษนัก ยา ๓ ขนานนี้ให้ละลายน้ำผึ้งให้กิน โดยวิธีอันมีในมหาพิกัต หนักแลหย่อนทั้งปวงนั้น อาจารย์ท่านสรรเสริญว่ามีคุณยิ่งนัก

ยาชื่ออัศฏาธิวัค เอาดอกบุนนาก ๑ เกสรบัวหลวง ๑ เทียนดำ ๑ สิ่งละ ๒ ส่วน เบญจกูล ๑ กะทือ ๑ ไพล ๑ ข่า ๑ กะชาย ๑ หอม ๑ กะเทียม ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ ผลมะตูมอ่อน ๑ สิ่งละ ๔ ส่วน ยาดำ ๕ ส่วน สมอเทศ ๑ สมอพิเภก ๑ สิ่งละ ๘ ส่วน สมอไทย ๒๔ ส่วน เปลือกต้นไข่เน่า ๑ รากเล็บมือนาง ๑ รากอ้ายเหนียว ๑ กะพังโหม ๑ สิ่งละกำมือ ชุมเห็ดไทยทั้ง ๕ กะเพราทั้ง ๕ ฝักราชพฤกษ์ ๑๐ ฝัก ขยำเอาน้ำเปนกระสาย ต้มตามวิธีให้กินแก้อุจจาระธาตุลามกอติสารวัค แก้วาโยอุดทวารรัดรึงมิให้เดิน แก้จุกเสียดแก้อาเจียนบริโภคอาหารมิได้ แลปวดท้องให้อุจจาระหยดย้อยเหน้าเหม็นโขลง ไปวันละ ๓, ๔, ๕, ๖, เวลา แลครอบมูลริศดวงทั้งปวง

ยาชื่ออินทรีย์ธาตุเตโช เอาโกฐทั้ง ๕ เปราะหอม ๑ ผลเอ็น ๑ ผลผักชีทั้ง ๒ ผลช้าพลู ๑ หญ้าตีนนก ๑ กกลังกา ๑ น้ำตาลกรวด ๑ เอาสิ่งละส่วน เถาสะค้าน ๑ ดีปลี ๑ รากช้าพลู ๑ ขิงแห้ง ๑ เอาสิ่งละ ๒ ส่วน รากเจตมูลเพลิง ๔ ส่วน ทำเปนจุณบดด้วยน้ำดอกไม้เปนกระสาย บดทำแท่งไว้ละลายน้ำดอกมะลิสดแซกพิมเสน รับประทานแก้อินทรีย์ธาตุเตโช ซึ่งกระทำให้บริโภคอาหารไม่มีรส ให้หิวโหยหาแรงมิได้ แลแก้จัตุกาลเตโชในอสุรินทัญญาณธาตุให้ตก

ยาชื่ออินทรีย์ธาตุวาโย เอาผลจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ สิ่งละส่วน ตรีกฏุก ๑ รากช้าพลู ๑ รากเจตมูลเพลิง ๒ สิ่งละ ๔ ส่วน เถาสะค้าน ๖ ส่วน ทำเปนจุณบดละลายน้ำผึ้ง, น้ำขิง, น้ำร้อนก็ได้ รับประทานแก้อินทรีย์ธาตุวาโยซึ่งเปนวิสมาคินี, มันทาคินี, ติกขาคินีนั้นแล แก้สรรพลมทั้งปวงต่างๆ แก้ริศดวงแห้งผอมเหลือง แก้ลมแน่นอกลมขึ้นสูงแลลมขึ้นกระหม่อม แก้ลมจรทั้งปวง

ยาชื่ออินทรีย์ธาตุอาโป เอารากพุดซ้อน ๑ รากคัดเค้า ๑ รากประคำดีควาย ๑ รากส้มกุ้ง ๑ รากส้มป่อย ๑ รากชุมเห็ดทั้ง ๒ แก่นแสมทั้ง ๒ ชะเอมไทย ๑ ผลมะเกลือ ๑ กะเพรา ๑ บอระเพ็ด ๑ เทียนดำ ๑ สิ่งละส่วน ดีปลี ๑ เถาสะค้าน ๑ รากเจตมูลเพลิง ๑ ขิงแห้ง ๑ สิ่งละ ๒ ส่วน รากช้าพลู ๑๒ ส่วน ต้มตามวิธีให้รับประทานแก้อินทรีย์ธาตุอาโป อันบังเกิดในอสุรินทัญญาณธาตุ ให้เจริญอาหารแลให้ตั้งซึ่งสุคติธาตุ แก้อาเจียร ๔ ประการ ในสมุฏฐานพิกัตนั้นหาย

ยาชื่ออินทรีย์ธาตุปถวี เอาตรีผลา ๑ ผลมะตูมอ่อน ๑ เมล็ดในโคกกะออม ๑ เทพทาโร ๑ แก่นกันเกรา ๑ ใบสะเดา ๑ ใบเสนียด ๑ ตุมกาแดง ๑ กะเทียม ๑ เอาสิ่งละส่วน เถาสะค้าน ๑ รากช้าพลู ๑ รากเจตมูลเพลิง ๑ ขิงแห้ง ๑ เอาสิ่งละ ๒ ส่วน ดีปลี ๒๐ ส่วน ทำเปนจุณเอาน้ำกะเทียมเปนกระสาย บดทำแท่งไว้ละลายน้ำร้อนก็ได้ น้ำส้มซ่าก็ได้กินแก้อินทรีย์ธาตุปถวี ซึ่งกระทำให้บริโภคอาหารไม่มีรส ให้ผอมเหลือง ให้บวมมือบวมท้องแลบวมเท้า แก้อุจจาระปัสสาวะวิปริตด้วยเตโชเปนมันทาคินีธาตุ ให้อ่อนหิวหาแรงมิได้ แลกระทำให้เจริญอาหารเจริญลัคนีผลให้วัฒนะโดยปรกติ

ยาชื่ออินทรีย์ธาตุประชุม เอาโกฐทั้ง ๕ เทียนทั้ง ๕ สิ่งละ ๑ ส่วน ผลจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ กระวาน ๑ กานพลู ๑ เอาสิ่งละ ๒ ส่วน อบเชย ๑ ชะเอม ๑ แก่นกันเกรา ๑ เอาสิ่งละ ๔ ส่วน กะทือ ๑ ไพล ๑ ข่า ๑ พริกไทย ๑ กกลังกา ๑ เอาสิ่งละ ๕ ส่วน ผลมะตูมอ่อน ๑ เปลือกโมกมัน ๑ รากส้มกุ้ง ๑ แห้วหมู ๑ บอระเพ็ด ๑ เอาสิ่งละ ๗ ส่วน ชุมเห็ดไทย ๑๐ ส่วน รากเจตมูลเพลิง ๔ ส่วน เถาสะค้าน ๖ ส่วน ขิงแห้ง ๑๐ ส่วน รากช้าพลู ๓๒ ส่วน ดีปลี ๒๐ ส่วน กะเพราแห้ง ๕๒ ส่วน ทำผงก็ได้ต้มก็ได้ ให้รับประทานตามพิกัตประชุมมหาภูตรูป แลสมุฏฐานรูปมิให้วิปริต แก้ธาตุโรคแลธาตุกำเนิด แลโรคเกิดแต่ฤดู ๓ ฤดู ๖ นั้นหาย

ยาชื่อทศเบญจะกูล เอาปูนผงส่วน ๑ สมอร่องแร่ง ๑ ข่าตาแดง ๑ พริกล่อน ๑ กะเทียม ๑ ไพล ๑ สิ่งละ ๕ ส่วน เบญจะภูลตามพิกัต ๑๑ ตำเปนจุณบดละลายน้ำขิง, น้ำข่า, น้ำผึ้ง, น้ำร้อน, น้ำไพล, ก็ได้ ให้กินเปนยาเผาธาตุทั้ง ๔ อันพิกล ซึ่งทำให้ร้อนกระสับกระสายแลแปรให้เปนลมต่างๆ คือ ลมอัมพฤกษ์ ลมอัมพาธ ลมปัฏฆาฏ ลมราทยักษ์นั้นเปนต้น ทำให้มือเท้าสั่นแลลมจุกเสียด ลมสลักเพ็ด ลมขัดอกยอกอก ซึ่งกล่าวมานั้น

ยาชื่อมหาพิกัตเบญจกูล เอาเบ็ญจมูลเหล็ก วัลเปรียง แห้วหมู สิ่งละกำมือ ๑ ตรีผลาสิ่งละ ๑๕ ผล พริกล่อน ข่า สิ่งละ ๔ บาท เบ็ญจะกูลตามพิกัตต้มตามวิธีให้กิน แก้ธาตุวิปริตในกองสมุฏฐานกำเริบ แก้จับเจลียงทั้งสิ้น ด้วยพิษในระดู ๓, ๖, เปนเพื่อเส้นนั้น

ยาชื่ออภิญญาณเบ็ญจะกูล เอาแฝกหอม วัลเปรียงแดง แห้วหมู บอระเพ็ด แก่นขี้เหล็ก แก่นกันเกรา ผลมะตูมอ่อน กกลังกา เปลือกโมกหลวง สิ่งละ ๔ ส่วน ข่า พริกล่อน ผักแพวแดง เปราะหอม อบเชย สมุลแว้ง ชะเอมเทศ สิ่งละ ๘ ส่วน เบญจกูลตามพิกัตต้มตามวิธี ให้กินแก้ธาตุอภิญญาณซึ่งเปนชาติจะละนะโทษในสมุฏฐานพิกัต แลอุจจาระสันนิบาตนั้น จำเริญอัคนีผลให้สุคติธาตุบังเกิดวัฒนะ แลบำบัดชินธาตุนั้นยิ่งให้ปรกติ

ยาชื่อเตโชสมุฏฐาน เอาโกฐทั้ง ๙ เทียนทั้ง ๗ เบญจะกูล ผลเอ็น กานพลู เปราะหอม ผลผักชี สิ่งละส่วน แฝกหอม ภินเสน จันทน์ทั้ง ๒ บอระเพ็ด สิ่งละ ๒ ส่วน ใบกระวาน ๔ ส่วน น้ำตาลกรวด ๗ ส่วน ตรีผลาตามพิกัต ๓๕ ทำเปนจุณ ระคนด้วยเกลือสินเธาว์ เอาน้ำดอกไม้เปนกระสายบดทำแท่งไว้ละลายน้ำดอกมะลิสด กินแก้สมุฏฐานเตโชอันวิปริต กระทำให้ร้อนกระวนกระวาย นอนมิหลับบริโภคอาหารมิได้แลให้อาเจียร

ยาชื่อวาโยสมุฏฐาน เอาผลจันทน์ ดอกจันทน์ กะวาน กานพลู สิ่งละส่วน เทียนทั้ง ๗ บอระเพ็ด ผลกะดอม ผลมะตูมอ่อน พริกล่อน เบญจกูล สิ่งละ ๒ ส่วน เทพทาโร ข่าต้น สิ่งละ ๔ ส่วน การะบูร ๕ ส่วน ตรีผลาตามพิกัต ทำเปนจุณระคนด้วยเกลือสินเธาว์ บดละลายน้ำขิง, น้ำร้อน, น้ำส้มซ่าก็ได้ กินแก้สมุฏฐานวาโย อันพิกลต่างๆ คือให้ท้องขึ้นท้องพอง ให้จุกเสียดแน่นอก ให้เมื่อยให้ขบทั้งตัว ให้อาเจียรบริโภคอาหารมิได้นอนมิหลับ

ยาชื่ออาโปสมุฏฐาน เอาเปราะหอม ผลเอ็น กานพลู แก่นแสมทะเล รากส้มกุ้ง ชะเอมเทศ อบเชย สมุลแว้ง สิ่งละส่วน โกฐกระดูก เทียนดำ เทียนขาว การะบูร แฝกหอม ใบกระวาน บอระเพ็ด สิ่งละ ๓ ส่วน พริกไทย เบญจกูล สิ่งละ ๕ ส่วน ตรีผลาตามพิกัต ๒๓ ทำเปนจุณระคนด้วยเกลือสินเธาว์ บดละลายน้ำขิง, น้ำดีปลี ต้มก็ได้ กินแก้สมุฏฐานอาโป ซึ่งวิบัติกระทำให้ตัวชุ่มไปด้วยเสมหะเปนอันมาก แลให้เสมหะปะทะเนืองๆ ให้อุจจาระไปวันละ ๓, ๔, ๕, ๖, ๗, เวลา หยดย้อยมิได้เปนปรกติ บริโภคอาหารไมมีรส ให้ผอมซีดให้บังเกิดละออง ๓ ประการ ให้คลื่นให้เหียนให้อาเจียร แลให้ปลายมือปลายเท้าเย็นซีด

ยาชื่อปถวีสมุฏฐาน เอาแก่นกันเกรา เปลือกกันเกรา เทพทาโร ผลมะตูมอ่อน ขมิ้นอ้อย สิ่งละส่วน สะเดาทั้งใบทั้งดอก การะบูร บอระเพ็ด สิ่งละ ๓ ส่วน กะเทียม ไพล เบญจะกูล สิ่งละ ๕ ส่วน ตรีผลาตามพิกัต ๒๐ ทำเปนจุณระคนด้วยเกลือสินเธาว์ บดละลายน้ำร้อน, น้ำส้มซ่า, น้ำกะเทียมก็ได้ กินแก้สมุฏฐานปถวี ซึ่งเปนชาติจะละนะ อันบังเกิดแดสมุฏฐานทั้ง ๓ กระทำให้บริโภคอาหารมิได้ ให้ผอมเหลือง ให้บวมเท้าเปนโสภะโรควิปริตธาตุ ให้อุจจาระเปนลามก สันนิบาตวิปริตต่างๆ ให้หิวโหยหาแรงมิได้ แก้ให้สุคติจำเริญขึ้น แก้ปวดท้องจุกเสียด

ยาชื่อมหาโสภะโรค เอาใบผักเสี้ยนผี ๒ ส่วน ใบขึ้เหล็ก ๓ ส่วน ใบประคำไก่, ไพล กะชาย ข่า กะเทียม กระดองเต่าเผา ปูนขาว สิ่งละ ๔ ส่วน ว่านนางคำ ๘ ส่วน สุพรรณถันแดง ๑ บาท ตรีกะฏุกตามพิกัต ๑๔ ทำเปนจุณบดเปนแท่งไว้ ละลายน้ำกระสายต่างๆ ทาแก้บวม ๕ ประการ แลบวมทั้งกายบวมเพื่อบุพโพ โลหิต กำเดา ในกองสมุฏฐาน

ยาชื่อเทพประสิทธิ์ เอาเบญจกูล ตรีผลา โกฐทั้ง ๙ เทียนทั้ง ๗ ผลจันทน์ ดอกจันทน์ สิ่งละส่วน ผิวมะกรูด ผิวมะนาว ผิวส้มซ่า ผิวมะงั่ว สิ่งละ ๒ ส่วน กฤษนา กะลำภัก ชะลูด ขอนดอก จันทน์แดง ดอกพิกุล เกสรบุนนาก เกสรสาระภี อบเชย สิ่งละ ๕ ส่วน การะบูร กะแจะตะนาว ชะมดเชียง สิ่งละ ๕ ส่วน จันทน์เทศ พิมเสนเกล็ด สิ่งละ ๘ ส่วน ดอกมะลิ ๓๒ ส่วน ทำเปนจุณ น้ำดอกไม้เทศเปนกระสาย บดทำแท่งไว้ละลายน้ำกระสายอันควรกับโรค แก้วาโยในกองสมุฏฐาน ชาติ, จะละนะ, ภินะ ธาตุอันระคนด้วยพิษในปัจฉิมที่สุด ซึ่งตกเข้าระหว่างมหาสันนิบาต

กล่าวมาในลักษณะอุจจาระธาตุทั้ง ๔ ประการจบแต่เพียงนี้

----------------------------

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ