ว่าด้วยโทษโลหิตแห่งสัตรี

(๑๑) อนึ่ง สัตรีมีโทษชนิด ๑ว่าด้วยเสพกับบุรุษมากเหลือกำลัง บางทีปากทวารเปื่อยเหน้า บางทีกะทบกะทั่งช้ำในเปนน้ำหนองน้ำเหลืองๆ เหน้า ร้ายนักกัดตัวเองน้ำเหลืองไหลเพรื่อไป สมมุติว่าเปนช้ำรั่ว ถ้าจะแก้ท่านให้กินยารุน้ำเหลืองเสียก่อน เอาพริกไทย ๑ ขิงสด ๑ เทียนดำ ๑ ดีปลี ๑ มหาหิงคุ์ ๑ กระเทียมสด ๑ ว่านน้ำ ๑ ยาทั้งนี้เอาสิ่งละสลึง น้ำตาลหม้อหนัก ๒ สลึง ส้มมะขามเปียก ๒ สลึง ผิวมะกรูด ๒ สลึง การะบูร ๑ สลึง เอาผลสลอดปอกเปลือกผ่าเอาไส้ออกเสียก่อน แช่น้ำปลาร้าปากไหไว้คืน ๑ จึงขั้วให้เหลืองเอาห่อผ้า ๕ ชั้น ทับเอาน้ำมันออกเสีย เอาหนัก ๒ บาท ประสมเข้ากับยานั้นลง เมื่อจะบดเข้าในเรือนปิดประตูใส่กลอนเสียอย่าให้คนเห็น เมื่อจะบดยานั้นทำเปนเล่ห์ ต้องนั่งทับล่องหลกผ้าบดยา ไปกว่าจะเจ็บท้องแลผายลมออกมาก็ดี ยานั้นจึงประสิทธินัก กินหนัก ๑ สลึง ขับน้ำเหลืองลงจนเสมหะ แล้วให้กินน้ำร้อนไป ถ้าลงนักอาบน้ำทาแป้งหอม กินเข้าสวยก็หยุดลงแล ท่านตีค่าไว้ ๕ ตำลึงทอง ยานี้ชื่อมหาไวยเวกแล แล้วจึงต้มยานี้กิน เอาขมิ้นอ้อย ๕ ตำลึง เปลือกกะทุ่มขี้หมู ๘ บาท เปลือกกล้วยตานี ๑๐ บาท ตรีกฏุกสิ่งละ ๒ บาท ใบกรุงเขมา ๓ กำมือ ต้มกินวิเศษนัก แล้วจึงเอารากมะนาว ๑ ผลเบญจกานี ๑ ฝนด้วยน้ำปูนใสทาปากทวารเบา แล้วจึงเอาเปลือกมะฝ่อ ๑ เปลือกเฉียงพร้านางแอ ๑ เปลือกจิก ๑ เปลือกกรด ๑ ต้มเอาน้ำ แล้วเอาสารส้มใส่ลงกวนไป แล้วจึงชะทวาร ๗ วันหายแล

อนึ่งโรคเกิดด้วยโลหิตพิการนั้น คือคลอดบุตรอยู่ไฟมิได้ มดลูกเหน้าเปนปรวดอยู่ก็ดี ครั้นนานมาหลายปีหลายเดือนกลับเปนบุพโพโลหิตตกไป ๒ เดือน ๓ เดือน โลหิตจางไหลออกมาจึงเรียกว่าช้ำรั่ว บางทีน้ำเหลืองอันร้ายนั้นไหลออกมาถึงไหน ก็พรึงขึ้นรอบทวารเปนหัวขาวๆ แลแตกเปื่อยไปทั้งนั้น แล้วให้แสบร้อนคันเปนกำลัง ถ้าจะแก้ให้กินยาผายตามตำรานั้นเสียก่อน แล้วจึงต้มยาชำระลำไส้ เอายาเข้าเย็น ข่า หัวหอม ใบมะกา ใบมะขาม ใบส้มป่อย ใบมะนาว ยาทั้งนี้สิ่งละ ๒๐ บาท สารส้ม ดินประสิว สิ่งละ ๒ บาท ต้มกินชำระให้ปัสสาวะคล่อง แก้ปวดแก้ปัสสาวะพิการต่าง ๆ หายแล้วให้หุงน้ำมันทาปากทวาร เอาใบกะเม็ง ๑ ใบพลูแก ๑ ทะลายหมากดิบ ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ ตำเอาน้ำสิ่งละจอก หุงให้คงแต่น้ำมันทาที่เปื่อยหาย ถ้ามิหายให้รมด้วยชานหมากดิบ เผาด้วยถ่านไม้สะแกรม ๓ วัน แล้วจึงทำยาทาอีก เอาเปลือกปะโลง ๑ กฤษณา ๑ ใส้หมากดิบ ๑ เปลือกกะทุ่มขี้หมู ๑ เมล็ดในมะปราง ๑ ยาทั้งนี้เอาสิ่งละ ๒ บาท ปูนพลู ๓ จีบ บดปั้นแท่งไว้ฝนด้วยผลเบญจกานีทาทวารเปื่อยหาย ถ้ามิหายมักเปนเสกดกรังอยู่ เอาน้ำฝาดนั้นถอนเสก็ดเสียเถิด

อนึ่งเอาเสนียดทั้ง ๕ ผลทับทิม ๑ ดอกคำ ๑ ครั่ง ๑ เทียนดำ ๑ มดยอบ ๑ เมล็ดในมะกอก ๑ ใบยาง ๑ ผลไกร ๑ ไพล ๑ ระย่อม ๑ บดทาท้องน้อยแก่โลหิตเหน้าในทวารเบา ให้เจ็บให้ปวดให้ช้ำ ถ่ายปัสสาวะหยดๆ ย้อยๆ หายแล

สัตรียังไม่มีระดูข่มเหงด้วยกำหนัดยินดีนั้น ประดุจดังช้างสารอันมีกายใหญ่ เล่ห์ประหนึ่งบุทคนไล่ให้จำเภาะ เข้าไปที่ช่องแคบก็เจ็บปวดช้ำในนั้น ก็เปนบุพโพโลหิตออกมาตามช่องทวารเบา ได้ความเจ็บปวดนัก

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ