ว่าด้วยธาตุวิปลาศ

๑ ทีนี้จะกล่าวธาตุ วิปลาศเปนเค้ามูล ธาตุสี่มีสมบูรณ์ กำเริบหย่อนย่อมกล้าแข็ง แพทย์จงเร่งพิเคราะห์ ดังอาจารย์ท่านสำแดง จะกล่าวให้เห็นแจ้ง ในกลธาตุสิ้นทั้งสี่ กำเรีบแลหย่อนกล้า ในกองธาตุปถวี วิบัติย่อมมากมี โทษสิบสามตามอาการ เกิดเหาแลเล็นมาก ย่อมไข้ครุ่นเปนประมาณ ท้องลั่นแลพลุกพล่าน ให้ท้องขึ้นแลเจ็บท้อง เจ็บท้องบหายเหือด ให้ตกเลือดเหม็นเหน้าหนอง เสียดแทงที่ในท้อง ขัดตะโพกดังถูกชก เปนปานโรคกะไษย แลให้เจ็บที่ในอก ในเนื้อย่อมช้ำฟก เล็บตีนมือเปนสีเขียว ผิแพทย์เห็นอาการ ที่เปนไข้ดังนี้เจียว พึงอาจอย่าหวาดเสียว แก้ชำระปถวี กะเทียมแลกันเกรา ใบสะเดากะเพราดี ตรีผลาขิงแห้งมี เทพทาโรเท่ากันไซร้ ทำผงน้ำมะงั่ว แลน้ำร้อนก็กินได้ ปถวีวิการไซ้ร อาจจะดับระงับสูนย์

มิเหือดเอาย่างทราย ดีปลีกะเทียมหนูน สะค้านเจตมูล กะดอมอ่อนสมอไทย ขิงแห้งแลว่านน้ำ บดทำแท่งจงฉับไว มูตรโคละลายใส่ น้ำมะนาวเร่งให้กิน เสมหะอันทำโทษ ปถวีเหือดหายสิ้น ผู้แพทย์อย่าเมินหมิ่น โอสถนี้ดีหนักหนา

๒ ภาคหนึ่งบอระเพ็ด กะพังโหมช้าพลูมา มะแว้งทั้งสามหา รากคัดมอนทั้งพริกไทย อิกทั้งเชือกเขาพรวน แลเปลือกกวดจิงจ้อไซ้ร ทำแท่งน้ำดอกไม้ น้ำจันทน์ให้ดื่มพ่นกิน ดีเดือดด้วยปถวี แก้ได้ดีอย่าพึงหมิ่น โทษร้ายหายหมดสิ้น ในระบิลปถวี

๓ ภาคหนึ่งดีหมูเถื่อน ลูกทุลังกาสาดี ลูกมะตูมเติมตามที่ สัตตะบุษอันกลิ่นหอม กะพังโหมดอกบุนนาก เปลือกทองหลางทั้งสองพร้อม ใบมะงั่วรวบรวมรอม ตากตำผงจงเร่งกรอง น้ำร้อนเปนกระสาย แก้เลือดร้ายน้ำเหลืองหนอง ปถวีโทษทั้งผอง ก็จำต้องเสื่อมสูญหาย

๔ ภาคหนึ่งหนังจรเข้ หนังโคเผาเอามากหลาย หอยขมหอยแครงหมาย ทั้งนอแรดรวบรวมเผา ลูกจันทน์ดอกดีปลี กะเทียมกรอบแห้วหมูเอา เสมอชั่งอย่าหนักเบา แล้วตำผงชงน้ำร้อน เจ็บท้องอำมะพฤกษ์ ทั้งพรรดึกบันเทาหย่อน ปถวีโทษสังหรณ์ ซึ่งวิบัติดังกล่าวมา ยาห้าขนานนี้ ถ้ามิหายอย่ากังขา ห้าวันจะมรณา ดังกล่าวมาแม่นจริงแท้

หนึ่งเล่าเตโชธาตุ วิปลาศกำเริบแปร อาการดังนี้แน่ มักให้ร้อนปลายตีนมือ ดุจดังปลาดุกยอก ให้รุ่มร้อนดังเพลิงฮือ ในท้องในไส้คือ น้ำที่เดือดพลุ่งพล่านร้อน บวมหน้าแลบวมหลัง แลบวมท้องบได้หย่อน เปนเม็ดย่อมแสบร้อน ดังหัวผดสิ้นทั้งตัว มันจมกลับหลบเข้า กระทำเอาพึงเร่งกลัว เจ็บท้องมิใช่ชั่ว ตกมูกเลือดเหน้าเปนหนอง ผู้ไข้เปนดังนี้ เตโชธาตุให้หม่นหมอง ผู้แพทย์เร่งตรึกตรอง ซึ่งยาแก้จงฉับพลัน มหาหิงคุ์ดีปลี เจตมูลว่านน้ำหั่น ช้าพลูพริกไทยขยัน ย่างทรายทุลังกาสา ขิงแห้งมะแว้งคู่ ลูกราชดัดเร่งเรวหา บอระเพ็ดขมโสภา เสมอภาคตากตำผง ละลายน้ำอ้อยแดง น้ำร้อนซาวเข้าลง มูตรโคอย่าได้หลง ไฟดินร้ายย่อมหายสูนย์

ภาคหนึ่งมหาหิงคุ์ แต่ส่วนหนึ่งเปนเค้ามูล ว่านน้ำสองส่วนพูน ลูกช้าพลูเปนส่วนสาม ขิงสี่เยาวพานีห้า ดังตำราท่านกล่าวความ เจตมูลหกส่วนงาม โกฐสอเจ็ดสมอไทยแปด ดีปลีเอาเก้าส่วน เข้าประมวนเอาผึ่งแดด ตำผงแล้วผู้แพทย์ ละลายมูตรโคชะเอมกิน แก้โทษในเตโช วิกาโรบันเทาสิ้น ผู้แพทย์อย่าพึงหมิ่น ตำรานี้ดีนักหนา

ภาคหนึ่งเอาโกฐสอ โกฐเขมาลูกจันทน์นา เทียนเทศที่ดำตรา ลูกราชดัดมหาหิงคุ์ สาระพัดพิษกรุงเขมา จุกโรหินียิ่ง รากพลับพลึงแดงดีจริง มะแว้งเครือรากสวาด น้ำมะงั่วมะนาวกิน แก้ระบินเตโชธาตุ ชื่อเทพนิมิตรประสาท แกโทษธาตุเตโชหาย

หนึ่งแก้วาโยธาตุ กำเริบหย่อนทั้งปวงคลาย อาการวิกลกาย กระทำโทษสิบสามเพลง เปนตะคริวเมื่อยตีนมือ หูอึ้งอื้อตึงหนักเอง สันหลังย่อมขัดเคร่ง รากลมเปล่าแลเจ็บอก ให้ขัดซึ่งหัวเข่า เปนปุ่มเปาจะโป่งฟก หายใจย่อมขัดอก เปนหวัดไอให้หอบหืด ตาพรายวิงเวียนหน้า โทษเพราะว่าวาโยฝืด แพทย์เห็นอย่าจางจืด จงประกอบให้ชอบยา ดีปลีแลแฝกหอม ทั้งว่านน้ำพริกไทยมา แห้วหมูว่านเปราะหา เอาเท่ากันทำเปนผง ลายด้วยน้ำมะนาว วาโยธาตุเสื่อมหายลง ผู้ไข้จะกินจง อย่าดูหมื่นดังกล่าวมา

๑ ภาคหนึ่งเปลือกมูกหลวง รากสลอดหญ้ารังกา ว่านน้ำพริกไทยมา ขิงแห้วหมูเจตมูล สมอไทยรากไคร้เครือ ตากดำเพื่อให้เปนจุณ มูตรโคสุราภุญช์ บันเทาโทษวาโยหาย

๒ หนึ่งโสดมหาหิงคุ์ ว่านน้ำสะค้านย่างทราย ดีปลีชะเอมหมาย ทั้งโกฐขิงกรุงเขมา ตำผงลายน้ำผึ้ง หนึ่งมูตรโคชะเอมเอา กินพลันจะบันเทา โทษวาโยระงับสูนย์

๓ ภาคหนึ่งเอาชะเอม ทั้งใบหนาดเจตมูล จิงจ้อใหญ่การะบูร รากทนดีดีปลีขิง ว่านน้ำใบสลอด เกลือตำผงละเอียดจริง มูตรโคน้ำร้อนยิ่ง กินแก้โทษวาโยพลัน

๔ ภาคหนึ่งเอาดีปลี เจตภังคีขิงเร่งหั่น บอระเพ็ดหัศคุณนั้น ทั้งพริกไทยแลแมงลัก เจตมูลข่ามหาหิงคุ์ สังกะระนีเท่ากันหนัก ตำละลายอย่าได้ยัก กับมูตรโคน้ำร้อนกิน น้ำซาวเข้าก็แก้ได้ ยักกระสายอย่าดูหมิ่น บางเบาบันเทาสิ้น ในกองธาตุโทษวาโย

๕ หนึ่งเล่าเอาผักคราด ลูกผักกาดผักชีโท สะค้านกัณ๎หาโร ทั้งหอมแดงผักเสี้ยนผี ผักเปดเมล็ดแตงโม ตำเปนผงละเอียดดี นมโคน้ำผึ้งมี ทำกระสายละลายกิน แก้โทษวาโย หย่อน แลกำเริบหายสูนย์สิ้น ผู้ใดได้ดื่มกิน ซึ่งยานี้จะพลันสูนย์

๖ หนึ่งโสดธาตุอาโป วิกาโรโทษมากมูล จุกอกแลลงรูน แล้วแปรเปนกะไษยกล่อน ขัดหนักแลขัดเบา ตึงหัวเหน่ามิได้หย่อน ท้องน้อยมักเปนก้อน ย่อมเปนลูกกลิ้งขึ้นลง ตกเลือดหนองพรรดึก ร้อนหน้าหลังดังเพลิงส่ง เหลืองซีดผอมแห้งลง เกิดเสลดตีนมือเย็น ชายขัดสีข้างขวา ผิหญิงนาแสบทรวงเข็ญ สีข้างข้างซ้ายเปน ให้ยอกขัดบสะบาย เกิดเลือดระสายซ้ำ เปนไข้จับวิบัติกลาย อาโปกำเริบร้าย เกิดโทษสิบสองประการ ผิแพทย์จะแก้โทษ ในอาโปสมุฏฐาน ประกอบให้ควรการ ตามคัมภีร์ธาตุหนักเบา เปลือกโมกหลวงมะตูมอ่อน เจตมูลพริกไทยเอา ลูกผักชีว่านน้ำเล่า หญ้ารังกาน้ำเต้าขม ผิไข้เอากระดอม ขิงจิงจ้อดีปลีสม ตำผงโดยนิยม ลายมูตรโคด่างสะแก แก้โทษในอาโป วิกาโรพลันหายแน่ มืคุณยิ่งจริงแล ดังคัมภีร์ท่านกล่าวมา

๑ หนึ่งเล่าเอาจิงจ้อ ทั้งดีปลีหัวเข้าค่า กะพังโหมพริกไทยมา ลูกราชดัดขมิ้นอ้อย หัวหอมแลยาดำ ตากทำผงอย่าได้น้อย ละลายกระสายพลอย น้ำตาลทรายน้ำแตงกวา แก้อาโปพรรดึก บันเทาหายอย่ากังขา ผู้ไข้พึงภุญชา โอสถนี้อย่าดูหมิ่น

๒ หนึ่งโสดโกฐก้านพร้าว บอระเพ็ดหั่นเปนชิ้น เมล็ดในแตงกวากิน เปลือกกุ่มน้ำรากจันทน์ดี มะตูมอ่อนใบสลอด เร่งทำผงละเอียดซี น้ำร้อนสุรามี เร่งภุญชีอาโปหาย

๓ หนึ่งเล่าตรีกฏุก มะขามป้อมดังพิปราย ตรีผลาสะค้านหมาย ทั้งไพลข่าแลลูกจันทน์ เสมอภาคตากทำผง น้ำกล้วยตีบกระสายสรร อาโปวิการนั้น กินพลันดับระงับหาย

๔ หนึ่งเล่าจิงจ้อหลวง ตรีกฏุกแห้วหมูหมาย ขมิ้นอ้อยเข้าค่าราย ราชดัดกะชายไพล กะพังโหมบอระเพ็ด ข่าตาแดงมะแว้งไทย กะดอมจันทน์อันหอมไซ้ร ทั้งผักกาดแลแก่นสน เสมอภาคตากดำผง น้ำมวกเข้ากินบัดดน อาโปกำเริบรน อาจดับระงับสูนย์

(ธาตุสี่จบ)

----------------------------

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ