ว่าด้วยธาตุทั้ง ๔

จะกล่าวธาตุทั้งสี่ ตามคัมภีร์วิสุทธิมรรค บาฬีมีประจักษ์ พระสรรเพ็ชเทสนา สำแดงธาตุวิกล แห่งนรชนผู้โรคา ธาตุสี่วิการา ภินทนาหากร้าวแรง ให้กายคนผู้ไข้ ตึงชาไปกระด้างแข็ง มังสังหนังเหี่ยวแห้ง แข็งดังขอนก็ปานกัน เปรียบดังอะสรพิษ กัฏฐมุขจำพวกนั้น ขบตอดผู้ใดพลัน ยังผู้นั้นนอนกลิ้งแข็ง ดุจไม้ที่คนตัด ถูกแดดจัดให้ไหม้แห้ง โทษธาตุดินสำแดง แพทย์พึงแจ้งดังกล่าวมา

หนึ่งเล่าอาโปธาตุ วิปลาศอันธการ์ ยังชนผู้โรคา ย่อมพรุนเปื่อยเปนหิดฝี บางทีเปนเม็ดคัน ทั่วกายนั้นก็ย่อมมี น้ำเหลืองย่อมไหลปรี่ กอบด้วยกลิ่นเหม็นเหน้าร้าย ดังงูปูติมุข อันขบตอดคนทั้งหลาย พิษซ่านทั่วทั่งกาย ย่อมพรุนเปื่อยเหน้าเปนหนอง น้ำเหลืองไหลซึมทราบ โทษอาโปให้หม่นหมอง ปวงแพทย์พึงตรึกตรอง เห็นแม่นแล้วจึงวางยา

จักกล่าวธาตุเตโช วิกาโรภินทนา ยังชนผู้คีลาน์ ให้รุ่มร้อนเปนกำลัง ฉวีศรีหม่นไหม้ ด้านดำไปดูพึงชัง มีพิษฤทธิ์เพียงดัง อัคคีมุข์งูตัวร้าย อันขบเอาบุคคล ดังไฟลนกล่นทั้งกาย เตโชพิการกลาย พิษงูร้ายก็เหมือนกัน

หนึ่งเล่าวาโยธาตุ เมื่ออาพาธโทษมากครัน กว่าธาตุทั้ง ๓ นั้น อาการพิษให้เปื่อยพัง ให้ขาดเปนชิ้นๆ ดังมีดเชือดไม่รอรั้ง วาโยพิการดัง สัตถมุข์งูร้ายกาจ แม้ขบเอาใครเข้า ให้เปื่อยเหน้าทั่วทั่งอาตม์ พวกแพทย์อย่าประมาท อาการธาตุให้รอบรู้

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ