(ฉบับที่ ๒๕)

เมืองอ่างทอง ขาล่อง

วันที่ ๔ พฤศจิกายน รัตนโกสินทรศก ๑๒๐

ถึงกรมหลวงเทวะวงษวโรประการ

อนุสนธิรายงาน วันที่ ๓ เวลาเช้า ๒ โมงออกจากท่าฉนวน เวลาบ่าย ๕ โมงถึงพลับพลาเมืองสิงห์ ลงเรือเล็กไปตามลำคลองฤาลำราง ซึ่งตื้นต้องขุดแก้ไขบ้าง จนตกลำน้ำแล้ว จึงไปตามลำน้ำถึงวัดพระนอนจักรศรี วันนี้เปนก่อนน่ากำหนดที่เขาจะไหว้พระ มีราษฎรที่อื่นเข้าไปด้วยมาก พระสงฆ์แลราษฎรลำน้ำเก่านั้น พากันมีความวิตกกลัวว่าจะไม่เข้าไป ได้ขอให้เทศาภิบาลคิดอ่านให้ได้เข้าไป ด้วยเหตุว่าฉันคุ้นเคยอยู่กับพวกชาวบ้านนั้น อนึ่งตั้งแต่ได้ปฏิสังขรณ์องค์พระแลวิหารแล้วสำเร็จ ก็ยังไม่ได้เคยมาเห็น จึงได้ช่วยจัดการรับรองแขงแรงมาก ดาดปรำตั้งแต่ท่าตลอดขึ้นไปจนถึงวัด ช่วยกันทำทั้งพระทั้งคฤหัสถ์ แลมานั่งคอยรับอยู่หลายร้อยคน กำแพงแลผนังก็ทาปูนใหม่หมดจด องค์พระที่ชำรุดบ้างเล็กน้อยก็ได้ซ่อมเรียบร้อยดี การทั้งปวงยังไม่สอาดหมดจด มีที่เสียอยู่ก็แต่กระเบื้องมุงหลังคา ซึ่งเปนกระเบื้องอย่างใหม่ไม่สู้ทน หักง่ายแลฝนรั่วบ้าง กรมหมื่นมรุพงศ์เลี้ยงน้ำชา แล้วออกจากวัดพระนอนจักรศรีไปตามลำน้ำขึ้นที่วัดพระธาตุ ซึ่งตั้งอยู่ห่างวัดพระนอนจักรศรี ๘ เส้น ๑๐ วา ที่วัดนั้นตั้งกำแพงพูนดินสูงขึ้นไปกว่าพื้นดินดอนเมืองสิงห์ประมาณสัก ๖ ศอก ๗ ศอก พระธาตุเปนรูปปรางค์สูงสัก ๗ วา ๘ วา ด้านตวันออกเปนพระวิหารหลวง ด้านตวันตกเปนพระอุโบสถ มีพระเจดีย์กลมเรียงรายไปอิกหลายองค์ แลที่จะมีอะไรต่อพระวิหารหลวงออกไปอิกสักหนึ่งหลัง แต่ชำรุดโทรมต้นไม้ขึ้นรก ลักษณอาการที่ทำแลอิฐที่ใช้ เปนอย่างเดียวกันกับวัดมหาธาตุเมืองลพบุรี เห็นว่าจะเปนเมืองชั้นเดียวกันกับเมืองละโว้ เมืองสิงห์เดิมคงจะได้ตั้งอยู่บนดอนนี้ ไม่ใช่อยู่ที่เมืองสิงห์เก่า จะเปนเพราะที่ดินดอนกับแคบไป ฤาจะต้องการอย่างใดจึงย้ายไปตั้งที่เมืองเก่าอันใกล้ไปข้างเมืองสรรค์ เวลาพลบค่ำกลับมาถึงพลับพลา

วันนี้เวลา ๕ โมงเช้าออกจากพลับพลาเมืองสิงห์เวลาบ่าย ๒ โมงถึงพลับพลาเมืองอ่างทอง บ่าย ๔ โมงลงเรือไปดูที่ว่าการเมือง ศาลแลที่ขังนักโทษ รับรายงานแลดูตรวจนักโทษ การรักษาพื้นที่แลแบบธรรมเนียมหมดจดเรียบร้อยต้องระเบียบดีมาก แต่ที่ว่าการแลศาลเปนของทำเก่า เล็กไม่พอแก่การ ไม่เปนของถาวรมั่นคง ที่ขังนักโทษก็ยังเปนอย่างเก่า ที่อยู่ผู้ว่าราชการเมืองก็เปนแต่ที่พักยังไม่พอแก่การ ไม่เปนที่เรียบร้อยทั้งสิ้น ทั้งได้ดูที่ซึ่งจะตั้งตลาดใหม่ เพราะตลาดฝั่งตวันตกถูกน้ำกัดตลิ่งพังเสียแถวหนึ่ง คงอยู่แต่แถวเดียว เลี้ยงน้ำชาที่เรือนพระยาอ่างทอง แล้วลงเรือล่องน้ำไปดูตลาดจนตลอดแล้ว เข้าไปในลำแม่น้ำน้อย ที่แม่น้ำน้อยนี้ปากช่องเปนที่น้ำวน น้ำไหลกลับแทงขึ้นมาเข้าปากคลองเชี่ยวจัด ไปจนถึงแม่น้ำซึ่งเปนลำเดียวกัน แม่น้ำเมืองสิงห์ซึ่งเห็นได้ว่าตรงปากช่องแม่น้ำน้อยเมืองนี้ไม่ใช่ตัวลำแม่น้ำ จะเปนแต่แม่น้ำ ๒ แม่น้ำใกล้กัน มีผู้ไปขุดคลองในระหว่างแม่น้ำต่อแม่น้ำ สายน้ำเชี่ยวจึงกัดออกเปนแม่น้ำ มีเรือเข้าไปบรรทุกเข้ามาก วัดโล่สุทธาวาศก็ตั้งอยู่ในลำแม่น้ำน้อย เพราะเหตุที่น้ำในคลองระหว่าง ๒ แม่น้ำนี้เชี่ยวมาก จึงมีผู้คอยรับจ้างโยงเรือตั้งแต่แม่น้ำน้อยออกมาจนถึงแม่น้ำใหญ่ เปนผลประโยชน์มาก เพราะเหตุที่เวลาไม่พอ จึงได้ขึ้นไปเพียงพ้นวัดโล่สุทธาวาศหน่อยหนึ่ง แล้วกลับมาพลับพลา ที่หลังพลับพลานี้เขาจัดไว้เปนสวนสนุกดีมาก แลเวลากลางคืนมีผ้าป่าทุกๆ แห่ง แต่ที่เมืองอ่างทองนี้จัดการครึกครื้นมากเพราะเปนที่ใกล้แลบริบูรณ์

สยามินทร์

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ