(ฉบับที่ ๒๓)

เมืองนครสวรรค์ ขาล่อง

วันที่ ๑ พฤศจิกายน ร.ศ. ๑๒๐

ถึงกรมหลวงเทวะวงษวโรประการ

อนุสนธิรายงาน วันที่ ๓๑ ตุลาคมกำหนดว่าจะไปตลาดปากน้ำโพแต่ฝนตกเสียแต่เช้า กลัวว่าหนทางจะเปรอะเปื้อน จึงไม่ได้ไป ชายบริพัตรมาถึงเวลา ๔ โมงเช้า ฝนตกพร่ำเพรื่ออยู่จนเวลาบ่ายจึงได้หยุด

บ่าย ๕ โมงไปที่เขาบวชนาค พระยาไกรเพ็ชรรัตนสงครามเลี้ยงน้ำชาเปนการต้อนรับชายบริพัตรที่วัดนั้น พระครูสวรรค์นคราจารย์ (ครุธ) เปนผู้จัดการปฏิสังขรณ์มีอุสาหะมากอยู่ สร้างศาลาน้ำหลังใหญ่แลพูนดินถนนสูงสัก ๖ ศอกเศษ ทำตพานยาวมากข้ามที่แผ่นดินซึ่งน้ำท่วมเปนคั่นเปนมาบไปจนถึงชานเขา ทางซึ่งขึ้นเขาก็ซ่อมแปลงขึ้นได้สดวก วิหารใหญ่ซึ่งถูกเพลิงไหม้ก็ปฏิสังขรณ์มุงหลังคาแล้วเสร็จ ช่อฟ้าใบระกามีพร้อมแล้วแต่ยังไม่ได้ยก ที่บนเขานั้นแลเห็นภูมิ์ฐานเมืองนครสวรรค์ได้ตลอดหลายด้าน ตามเขานั้นก็ปลูกต้นไม้สักไว้มาก

วันที่ ๑ พฤศจิกายน เวลาเช้า ๒ โมงเศษ ลงเรือประทีปทัศนาการขึ้นไปจนถึงปากคลองบรเพ็ดในลำน้ำแควใหญ่ ถ่ายลงเรือกลไฟเล็ก เพราะคลองนั้นถึงว่าน้ำฦกถึง ๓ วาก็คดมากเข้าไปไกลอยู่จึงถึงบึง ๆ นี้ใหญ่มาก แลเปนทางที่จะไปได้หลายทางไม่มีกรุยก็หลง ถ้าจะไปถึงคลองบุษบงที่บางมูลนาคก็ไปได้ เวลาน่าแล้งเปนลำน้ำตลิ่งสูงเรือเดินเข้าออกตลอดปี มีคนอยู่ในนั้นมาก แต่เพราะเวลาน่าน้ำๆ ท่วมเหลือเกินนัก จึงไม่ได้ปลูกเรือนปักเสาได้เลย อยู่แพทั้งสิ้น แลท่าจะจอดแพอยู่ในที่ว่างว่างก็ไม่ได้ ต้องเข้าแอบอยู่ตามพุ่มไม้ด้วยพยุจัด ต่อถึงระดูแล้งจึงจะลงจอดอยู่ในลำคลอง มีแต่วัดวัดเดียวซึ่งได้ใช้ปักเสากุฎี แลศาลาลงบนพื้นแผ่นดินสูงสัก ๓ วา แต่กระนั้นถ้าเวลาน้ำมากก็ต้องขึ้นอยู่บนขื่อ บึงที่เรียกว่าบรเพ็ดนั้นเฉภาะถัดลำคลองเข้าไปหน่อยหนึ่งเท่านั้น ต่อเข้าไปข้างในก็มีชื่อเปนตำบลต่างๆ คนที่อยู่ในนั้นก็ทำปลาทั้งสิ้น นับว่าเปนที่แห่งหนึ่งซึ่งสนุกแลงามข้างเมืองเหนือนี้ เขาผูกแพเล็กๆ ไว้สำหรับให้หยุดพักเปนที่เลี้ยง กรมการแลพวกพ่อค้าลงเรือมาเลี้ยง แลได้แจกเสมาในที่นั้นด้วย

เวลาบ่าย ๒ โมงเศษกลับออกมาแล้วไปทางแควน้อย หยุดที่ตพานวัดโพธาราม ลงเรือแม่ปะถ่อขึ้นไปข้างเหนือน้ำ แล้วเปลี่ยนลงเรือชล่าถ่อเพื่อจะดูวิธีถ่อเรือ แล้วล่องลงมาขึ้นที่หัวตลาด เดินลงมาตามตลาด พวกพ่อค้าทั้งปวงพร้อมกันจัดการดาดปรำตลอดหนทางเหมือนที่ท่าอิฐ ตลาดนี้เปนลักษณเดียวกันกับท่าอิฐ แต่โรงแถวเปนชั้นเดียวยาวก็ราวๆ กัน ได้แวะที่โรงเรียนวัดโพธาราม ซึ่งพระครูธรรมฐีติวงศ์คิรีเขตรสร้าง แจกเสมาในที่นั้น แล้วเดินต่อมาจนสุดตลาดลงเรือแจวกลับมาพลับพลาโดยทางในเกาะ

ราษฎรที่นี่ชอบแต่งตัวมาก มีแหวนตุ้มหูกำไลแต่งชุม

สยามินทร์

  1. ๑. สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์วรพินิต เสด็จกลับจากทรงศึกษาในยุโรป

  2. ๒. พระครูธรรมฐีติวงศ์ ฯ (ตั้ว) ต่อมาลาสิกขาออกรับราชการ ได้เปนขุนพิทักษ์กลองเขตร นายอำเภอแม่กลอง

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ