(ฉบับที่ ๑๔)

เมืองพรหมพิราม

วันที่ ๒๐ ตุลาคม รัตนโกสินทรศก ๑๒๐

ถึงกรมหลวงเทวะวงษวโรประการ

อนุสนธิรายงานวันที่ ๑๙ เวลาเช้า ๒ โมงเศษ ลงเรือข้ามฟากไปขึ้นที่ท่าวัดมหาธาตุ แล้วเดินตามถนนริมน้ำไปเข้าวัดนางพระยา เดินไปตามริมคูฤาสระรอบวัดมหาธาตุ ไปจนถึงที่สุดถนนอันเปนถนนเดิมปูด้วยอิฐลายสอง ตรงประตูซึ่งเรียกกันว่าประตูผี เพราะเปนทางที่มีตพานข้ามคูเมืองพาศพไปเผาทั้งนั้นด้วย ในเมืองห้ามไม่ให้เผา ลักษณเหมือนกันกับประตูผีเมืองลพบุรี ตัวประตูยังอยู่แต่ไม่มีทับหลังเชิงเทินยังอยู่สูง มีป้อมริมประตูอย่างเดียวกันกับเมืองลพบุรี เพราะทำครั้งเดียวกัน ระยะทางประมาณ ๑๒ เส้น ๑๓ เส้น แล้วกลับมาเลี้ยงพระที่วัดมหาธาตุแลกลับพลับพลา เวลาบ่าย ๔ โมงไปขึ้นที่ท่าตลาดเดินไปตามถนนที่ตัดใหม่ อันเปนลักษณถนนชะวาไม่ได้พูนดินกลางใช้คันสองข้าง ถนนเช่นนี้ทำง่ายกว่าซึ่งทำมาแต่ก่อนไม่เปลืองแรง แต่กันน้ำได้เหมือนกัน ทาง ๒๐ เส้นถึงสระแก้วซึ่งอยู่ท้ายเมืองพิศณุโลก ที่นี้ทีจะเปนที่ประพาศเดิมมีหนองใหญ่เปนป่ารอบ วงนอกนั้นวัดโดยรอบประมาณ ๕๐ เส้น มีสนุ่นเต็ม เขาตัดเปนที่ว่างตรงกลางปลูกบัวหลวง แล้วตัดเปนคลองออกไปจนถึงป่าหลายสาย ทางที่จะลงบึงนั้นขุดเปนคลองซอกแซกทำนองประทุมวัน มีวิหารตั้งอยู่ในที่เกือบจะเปนเกาะเหมือนกัน ๒ วิหาร มีพระพุทธรูปใหญ่แต่ร้าง คลองทั้งปวงนี้เปนของขุดไว้แต่เดิมทั้งสิ้น ดูเปนที่เล่นใหญ่โตกว่าประทุมวันหลายเท่า ท่วงทีจะสนุกมาก การที่ตกแต่งครั้งนี้เปนแต่ถางแลปลูกที่นั่งเล็ก ๆ เรียงรายไป รอบที่นั่งเหล่านั้นทำร้านภรรยากรมการขายอาหารเปนการสนุนครึกครื้น เสียแต่เวลาน้อยไปเที่ยวหาทั่วไม่ เลี้ยงกันแล้วกลับเวลาค่ำลงเรือมาขึ้นที่วัดมหาธาตุ สวดมนต์อิกเวลาหนึ่งแล้วมีหนัง วันนี้มหาดเล็กเล่น เวลา ๔ ทุ่มกลับพลับพลา

วันนี้เวลาย่ำรุ่งไปที่วัดมหาธาตุ ทองยังไม่ได้ที่จึงได้เลี้ยงพระเสียก่อน จนเวลาเช้า ๒ โมงจึงได้เททอง ทองที่ตั้งสูบหลอม ๖๐ เบ้า พอแต่เพียงพระเศียรแลพระองค์พระรัศมีกับพระหัดถ์ แต่พระเพลาแลพระกรอิกข้างหนึ่งทองไม่พอ จึงต้องรอไว้หล่อต่อพรุ่งนี้ต่อไป หลวงประสิทธิว่าพระเศียรนั้นทองเกินที่กะมาก เพราะเหตุที่ต้องแก้ไขมาก แต่ฉันว่าเปนด้วยคเนทองผิด เพราะคนอายุนี้ไม่มีผู้ใดได้เห็นหล่อของใหญ่ ด้วยไม่ได้หล่อมาถึง ๕๐ ปีกว่าแล้ว จำนวนทองที่กะผิดนั้นดังนี้ พระเศียรกะ ๑๕ เบ้า กลายเปน ๒๕ เบ้า พระองค์กะ ๑๒ เบ้า กลายเปน ๒๐ เบ้า ผิดมากเหลือเกินนัก แลพระนั้นปั้นอยู่ข้างจะหนาเพราะช่างก็ไม่สู้ไว้ใจ ตามพระองค์หนาถึงนิ้วหนึ่งตลอดหนากว่าพระชินราชเดิม.แต่การที่จะเสียหายอะไรนั้นเห็นจะไม่เสีย เนื้อทองก็มีขึ้นมาพอจะต้องใช้อิกถึง ๓๐ เบ้า แล้วได้หล่อพระองค์ อิก ๓ องค์ การที่ทำอยู่ข้างจะช้ามากจนเช้า ๔ โมงจึงสำเร็จ ได้แจกเงินผู้ใหญ่บ้านซึ่งมาช่วยสูบทองคนละ ๖ บาท ใช้สูบละ ๒ คน เปนร้อยยี่สิบคน สองผลัดเปนคนสองร้อยสี่สิบคน แล้วได้ให้สัญญาบัตร์พระยาศรีสุริยราชวรานุวัตร เปนพระยาสุรสีห์วิสิษฐศักดิ์ ตำแหน่งข้าหลวงเทศาภิบาล แล้วได้ตั้งพระครูแลให้สัญญาบัตร์ข้าราชการในมณฑล แล้วจึงได้ดับเทียนไชย ได้ออกจากเมืองพิศณุโลกเวลาเช้า ๕ โมงเศษ มาถึงที่นี่เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ ระยะทางที่มาวันนี้มีบ้านเรือนตลอดมาจนถึงตำบลปากโทก มีบ้านเรือนแน่นหนาแลมีเรือซึ่งขึ้นไปรับบรรทุกเข้าทางแควน้อยจอดอยู่มาก เมืองพรหมพิรามนี้ฉันไม่ได้นึกว่าจะเปนดังนี้เลย เปนเมืองที่มีแผ่นดินอุดมดี ตามระยะทางขึ้นมาบ้านช่องผู้คนมีมาก ทำนาแลทำไร่อ้อย เวลาระดูแล้งปลูกยาสูบตามริมแม่น้ำ การซึ่งเปลี่ยนวิธีเก็บค่าที่ปลูกยาสูบอย่างใหม่ เปนเครื่องชักนำให้ราษฎรปลูกยามากขึ้น จนเมื่อปีกลายนี้ยาเหลือคนใช้จำหน่ายไม่หมดราคาตกไปเปนอันมาก กลัวว่าบางทีปีนี้จะไม่ทำมากเช่นแต่ก่อน ตามบ้านเรือนเปนสวนผลไม้ทั่วทุกแห่งมีส้มเปนสำคัญ ต้นส้มโอสูงใหญ่เหมือนต้นมะม่วง เวลาที่มานี้เกินกำหนด แต่ยังมีที่เหลืออยู่บ้าง ต้นหนึ่งกว่า ๓๐๐ ผล มีราษฎรที่บริบูรณ์มีอันจะกินมาก ที่หลังพลับพลาเขาจัดเปนสนามสำหรับเด็กเล่น มีบุตรภรรยาพวกคฤหบดี ๕๐ คนเศษทำขนมต่าง ๆ มาให้ ได้แจกผ้าขาวม้าแลเสมา

อนึ่งในตามระยะทางที่ขึ้นมา พ้นจากเขตรบ้านคนแลไร่ไม่เปนทุ่งว่างเปล่าอย่างข้างล่าง มีป่าไม้กระยาเลยมากตลอดทาง ที่พลับพลานี้ก็ทำเหมือนอย่างที่อื่นในมณฑลนี้ เปนที่สบายดี

ตั้งแต่มาถึงพิศณุโลกแล้วน้ำลดลงวันละสองศอกบ้าง หย่อนศอกบ้าง เปนน้ำลดถึง ๒ ศอกเศษเกือบ ๓ ศอก มีฝนก็แต่ประปรายเล็กน้อยได้กำหนดไว้ว่าเมื่อถึงอุตรดิฐจะต้องส่งเรือไฟกลับ แต่วันนี้เวลากลางวันฝนตกครั้งหนึ่งไม่สู้มาก เวลาค่ำตกมากหน่อยหนึ่ง บางทีน้ำจะกลับขึ้นได้ คนทั้งปวงเปนที่เรียบร้อยสบายดี

สยามินทร์

 

  1. ๑. หลวงประสิทธิปฏิมา หม่อมราชวงศ์ เหมาะ บุตรหม่อมเจ้าสุบรรณ ในกรมหมื่นณรงค์หริรักษ์ ได้เลื่อนเปนพระประสิทธิปฏิมาในคราวนี้

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ