ตอนที่ ๑๒

ทีนี้จะกลับกล่าวถึงการสงครามที่อังกฤษรบกับพม่า ต่อเรื่องราวที่ได้บรรยายแล้ว ตั้งแต่กองทัพอังกฤษขึ้นไปตั้งอยู่ที่เมืองแปรต่อมา เมื่อเดือน ๑๑ ปีระกา อังกฤษกับพม่าเจรจาการทัพเพื่อจะเลิกสงครามกันครั้ง ๑ ว่ากล่าวกันอยู่จนเดือน ๑๒ ไม่ตกลงปรองดองกันได้ก็กลับรบกันอิก ด้วยในเวลาเมื่อกำลังเจรจาการทัพกันอยู่นั้น ฝ่ายพม่าพยายามรวบรวมรี้พลได้ประมาณ ๗๐,๐๐๐ พอถึงเดือนอ้ายพระเจ้าอังวะก็ให้กองทัพพม่ายกลงมา ๓ ทัพ คยีหวุ่นยีแม่ทัพใหญ่ ถือพล ๓๐,๐๐๐ เปนกองกลาง ฉัททหวุ่น ถือพล ๑๕,๐๐๐ เปนปีกขวา มหาเนมโย ถือพล ๑๕,๐๐๐ เปนปีกซ้าย ยกลงมาทั้ง ๒ ฟากแม่น้ำเอราวดี หมายจะตั้งล้อมอังกฤษที่เมืองแปร แม่ทัพอังกฤษเห็นว่าพม่าชำนาญในการทำค่ายคูสู้รบ จึงให้กองทัพบกทัพเรือเข้าระดมตีพม่าพร้อมกันทุกทัพ มิให้พม่าทันตั้งค่ายล้อมเมืองแปรได้ ได้รบพุ่งกันเปนสามารถ มหาเนมโยตายในที่รบ พม่าสู้อังกฤษไม่ได้ก็ถอยจากเมืองแปร ไปรวบรวมกันตั้งค่ายคอยต่อสู้อังกฤษอยู่ที่บ้านเนปะดี ซึ่งเปนที่มีไชยภูมิอยู่ทางทิศตวันออกเฉียงเหนือ ห่างจากเมืองแปรประมาณ ๖๐๐ เส้น กองทัพอังกฤษยกตามไปรบพุ่งอยู่ ๓ วัน อังกฤษตีค่ายบ้านเนปะตีได้ พม่าก็ถอยขึ้นไปตั้งรับอยู่ที่เมืองมะลวน ครั้นกองทัพอังกฤษตามขึ้นไปถึง พม่าให้มาขอหยุดรบเจรจาการทัพอิก ว่ากล่าวกันอยู่ ๒๐ วันก็ไม่ตกลง แม่ทัพอังกฤษเห็นว่าพม่าอุบายถ่วงเวลาเพื่อจะรวบรวมกองทัพ จึงให้ยกเข้ามาตีเมืองมะลวนเมื่อวันที่ ๑๙ มกราคม (ตรงกับเดือนยี่ แรม ๗ ค่ำ) คราวนี้กองทัพพม่าแตกยับเยิน พระเจ้าจักกายแมงจึงแต่งกองทัพให้อาจารย์คน ๑ ชื่อตุฉาน ซึ่งนับถือว่าเปนผู้รู้วิชาอาคม คุมกำลัง ๒๐,๐๐๐ ยกลงมาตั้งคอยต่อสู้อังกฤษอยู่ที่เมืองภุกาม กองทัพอังกฤษยกขึ้นไปตีเมืองภุกามเมื่อเดือน ๓ กองทัพพม่าก็แตกพ่ายอิก กองทัพอังกฤษได้ทีจึงรีบยกติดตามขึ้นไปถึงเมืองรันทบุ ยังทางอิก ๑,๕๐๐ เส้นจะถึงเมืองอังวะ พระเจ้าจักกายแมงเห็นจะสู้ไม่ได้ จึงให้เสนาบดีออกมาขอเลิกการสงคราม แล้วยอมทำหนังสือสัญญาตามที่อังกฤษกำหนดให้ทำ เปนสัญญา ๑๑ ข้อ มีเนื้อความดังนี้

ข้อ ๑ อังกฤษกับพม่าจะเลิกสงครามกลับเปนไมตรีกันต่อไป.

ข้อ ๒ พระเจ้าอังวะสัญญาว่า จะไม่ไปเกี่ยวข้องกับประเทศ อัสสัม กะชา แลยินตี อิกต่อไป.

ข้อ ๓ พระเจ้าอังวะยอมยกประเทศยะไข่ให้แก่อังกฤษ.

ข้อ ๔ พระเจ้าอังวะยอมยกหัวเมืองที่อังกฤษตีได้ คือเมืองเร้ เมืองทวาย เมืองมฤท แลเมืองตะนาวศรี กับทั้งเกาะที่ขึ้นอยู่กับหัวเมืองเหล่านั้น กำหนดแต่ฝั่งได้แม่น้ำสละวินลงไป ให้แก่อังกฤษ.

ข้อ ๕ พระเจ้าอังวะยอมเสียเงินใช้ทุนให้อังกฤษเปนเงิน ๑๐,๐๐๐,๐๐๐ รูปีย์ อังกฤษยอมให้ผ่อนใช้เปน ๔ คราว.

ข้อ ๖ ทั้งอังกฤษแลพม่าจะไม่เอาโทษแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ทั้งคนในบังคับของตนแลคนต่างประเทศที่อยู่ในเมือง ในความผิดที่ได้เกี่ยวข้องช่วยเหลือการสงครามที่แล้วมา.

ข้อ ๗ ทั้งอังกฤษแลพม่าจะตั้งทูตไปอยู่ในสำนักกันแลกัน ยอมให้ทูตมีทหารรักษาตัวได้ ๕๐ คน แล้วจะทำหนังสือสัญญาค้าขายซึ่งจะเปนประโยชน์ด้วยกันทั้ง ๒ ฝ่าย.

ข้อ ๘ ถ้ารัฐบาลหรือคนในบังคับทั้ง ๒ ฝ่ายเปนหนี้สินกันจะให้ใช้กันโดยธรรม ถ้าแลคนฝ่ายใดไปตายในเมืองของฝ่ายโน้น ไม่มีตัวผู้ควรรับมรฎก รัฐบาลฝ่ายโน้นรับจะมอบทรัพย์มรฎกให้แก่รัฐบาลฝ่ายผู้ตาย.

ข้อ ๙ จะใช้กฎหมายท้องน้ำของอังกฤษด้วยกันทั้ง ๒ ฝ่าย ทั้งที่ในน่านน้ำพม่าแลน่านน้ำอังกฤษ.

ข้อ ๑๐ สมเด็จพระเจ้ากรุงสยาม ผู้เปนสัมพันธมิตรของอังกฤษอย่างประเสริฐสุจริตจะต้องอยู่ในสัญญานี้ (คือจะต้องได้ทรงรับประโยชน์ในสัญญานี้) ด้วยเปนอย่างมากที่สุด.

ข้อ ๑๑ หนังสือสัญญานี้รัฐบาลทั้งสองฝ่ายจะต้องให้อนุมัติตามธรรมเนียม แลทั้งสองฝ่ายจะคืนเชลยให้กันให้สิ้นเชิง.

หนังสือสัญญานี้ทำกันที่เมืองรันทบุ เมื่อวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ค.ศ. ๑๘๒๖ (ตรงกับวันศุกร เดือน ๓ แรม ๓ ค่ำ ปีระกา จุลศักราช ๑๑๘๗ พ.ศ. ๒๓๖๘)

  1. ๑. ที่เรียกว่าตุฉานนี้ บางทีจะเปนไทยใหญ่ที่บวชเปนพระภิกษุอยู่แต่ก่อน.

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ