- คำนำ
- พระประวัติ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสิงหวิกรมเกรียงไกร
- วันที่ ๔ มีนาคม ร.ศ. ๑๒๕
- วันที่ ๖ มีนาคม ร.ศ. ๑๒๕
- วันที่ ๒๒ มีนาคม ร.ศ. ๑๒๕
- วันที่ ๓๐ มีนาคม ร.ศ. ๑๒๕
- วันที่ ๑ เมษายน ร.ศ. ๑๒๖
- วันที่ ๕ เมษายน ร.ศ. ๑๒๖
- วันที่ ๖ เมษายน ร.ศ. ๑๒๖
- วันที่ ๙ เมษายน ร.ศ. ๑๒๖
- วันที่ ๙ เมษายน ร.ศ. ๑๒๖ (๒)
- วันที่ ๑๖ เมษายน ร.ศ. ๑๒๖
- วันที่ ๑๖ เมษายน ร.ศ. ๑๒๖ (๒)
- วันที่ ๒๑ เมษายน ร.ศ. ๑๒๖
- วันที่ ๒๕ เมษายน ร.ศ. ๑๒๖
- วันที่ ๒๗ เมษายน ร.ศ. ๑๒๖
- วันที่ ๔ พฤษภาคม ร.ศ. ๑๒๖
- วันที่ ๕ พฤษภาคม ร.ศ. ๑๒๖
- วันที่ ๘ พฤษภาคม ร.ศ. ๑๒๖
- วันที่ พฤษภาคม ร.ศ. ๑๒๖
- วันที่ ๑๒ พฤษภาคม ร.ศ. ๑๒๖
- วันที่ ๑๓ พฤษภาคม ร.ศ. ๑๒๖
- วันที่ ๑๓ พฤษภาคม ร.ศ. ๑๒๖ (๒)
- วันที่ พฤษภาคม ร.ศ. ๑๒๖ (๒)
- วันที่ ๑๘ พฤษภาคม ร.ศ. ๑๒๖
- วันที่ ๑๘ พฤษภาคม ร.ศ. ๑๒๖ (๒)
- วันที่ ๒๑ พฤษภาคม ร.ศ. ๑๒๖
- วันที่ ๒๓ พฤษภาคม ร.ศ. ๑๒๖
- วันที่ ๒๔ พฤษภาคม ร.ศ. ๑๒๖
- วันที่ ๒๘ พฤษภาคม ร.ศ. ๑๒๖
- วันที่ ๒ มิถุนายน ร.ศ. ๑๒๖
- วันที่ ๒ มิถุนายน ร.ศ. ๑๒๖ (๒)
- วันที่ ๙ มิถุนายน ร.ศ. ๑๒๖
- วันที่ ๑๖ มิถุนายน ร.ศ. ๑๒๖
- วันที่ ๑๗ มิถุนายน ร.ศ. ๑๒๖
- วันที่ ๒๙ มิถุนายน ร.ศ. ๑๒๖
- วันที่ ๘ กรกฎาคม ร.ศ. ๑๒๖
- วันที่ ๑๐ กรกฎาคม ร.ศ. ๑๒๖
- วันที่ ๑๐ กรกฎาคม ร.ศ. ๑๒๖ (๒)
- วันที่ ๑๖ กรกฎาคม ร.ศ. ๑๒๖
- วันที่ ๒๔ กรกฎาคม ร.ศ. ๑๒๖
- วันที่ ๒๘ กรกฎาคม ร.ศ. ๑๒๖
- วันที่ ๖ สิงหาคม ร.ศ. ๑๒๖
- วันที่ ๗ สิงหาคม ร.ศ. ๑๒๖
- วันที่ ๙ สิงหาคม ร.ศ. ๑๒๖
- วันที่ ๑๔ สิงหาคม ร.ศ. ๑๒๖
- วันที่ ๑๕ สิงหาคม ร.ศ. ๑๒๖
- วันที่ ๒๑ สิงหาคม ร.ศ. ๑๒๖
- วันที่ ๒๕ สิงหาคม ร.ศ. ๑๒๖
- วันที่ ๓๑ สิงหาคม ร.ศ. ๑๒๖
- วันที่ ๕ กันยายน ร.ศ. ๑๒๖
- วันที่ ๕ กันยายน ร.ศ. ๑๒๖ (๒)
- วันที่ ๒๗ กันยายน ร.ศ. ๑๒๖
- วันที่ ๑ ตุลาคม ร.ศ. ๑๒๖
วันที่ ๕ กันยายน ร.ศ. ๑๒๖ (๒)
เมืองฮอมเบิค
วันที่ ๕ กันยายน ร. ๔๐ศก ๑๒๖
ถึงกรมดำรง ฉันได้รับหนังสือวันที่ ๖ เดือนสิงหาคมนั้นแล้ว ข่าวที่ว่าเรือรบจีนจะเข้าไปบางกอก ที่หม่อมชาติ๑โทรเลขเข้าไปนั้น เหนจะได้จากดิลิเคตข้างฝ่ายจีน ซึ่งมาประจำอยู่ที่เมืองเฮค ไม่ใช่ข่าวในหนังสือพิมพ์ แลคงไม่เปนข่าวที่แน่นอนมั่นคง หม่อมชาติจึ่งไม่บอกให้ฉันรู้ คงจะเปนทางสนทนากันเท่านั้น ผู้ที่พูดคงพูดตามหนังสือพิมพ์จีนที่ตัวได้รับ ไม่ใช่พูดโดยได้รับคำสั่งให้พูด การซึ่งมีผู้พูดกับพระยารัษฎา พระยารัษฎาเขาตอบไปก็ดีอยู่ เพราะเปนการส่วนตัว ฉันยังเหนไปว่าการที่จีนเอะอะคราวนี้ ถ้าไม่ใช่ความคิดยี่ปุ่น จะเปนผลแห่งการที่จิระไปนั้นเอง จีนจะเข้าใจว่า เรามีความปราถนาใคร่ที่จะเปนไมตรีอยู่ เหตุใดเราจึงใคร่ที่จะเปนไมตรี เพราะเหตุว่าเราทำท่าขึงขัง คงจะอยากให้พ้นจากฉายาที่ว่าเปนเมืองก้องมาแต่ก่อน อย่างเดียวกันกับยี่ปุ่น จะประกอปกับเหตุผลที่มีผู้ใดอยากอย่างฝรั่งอย่างใหม่อไรด้วยก็ตาม เพราะเปนเวลาจีนกำลังจะเปลี่ยนโปลิซีใหม่ ไม่เคลมเมืองก้องอย่างแต่ก่อน ด้วยเข็ดเมืองญวนแลเมืองเกาหลี เดินทางนั้นมีแต่จะหลุดลอย ที่จะเปนความคิดจีนมุ่งร้ายต่อเมืองไทยยังไม่แลเห็น คงจะไม่ตีงูให้กาอิ่ม ฉันเหนว่าการตอบจะไม่สู้ยากนัก......................... ฉันจึงรักข้างเปิดได้ทีเดียวแลดี เรื่องที่ดินในเมืองตราดตามที่ได้บังคับไปนั้นดีแล้ว
มีความยินดีที่ได้ทราบว่าเรื่องภาษีหมูทลุไปแล้ว
เรื่องเจ้าพระยาสุรศักดิ์๒นั้น ฉันไปถึงเมื่อไรก็คงได้รับเรื่องราวเมื่อนั้น เรื่องของเมืองวินิศ เปนของที่ซื้อบ้างสั่งบ้าง บางทีของจะยังไม่แล้วเสรจเขาจึ่งไม่ได้ส่ง ถามดุ๊กว่ายังไม่ได้มาเอาเงิน ของที่เมืองซุริคนั้น ดุ๊กโลเลไม่แน่ แต่ใจความนั้นคงเปนอันให้เบอลี่ส่ง เบอลี่จะส่งเข้าไปก่อนฤๅจะพาเข้าไปเองไม่รู้ ดุ๊กริเฟอให้ไปถามที่ห้างนั้น เรื่องสืบหาเยนเตอลแมนที่ชื่อพระอรรคชายานั้นเก่งมาก
หมู่นี้เหมนเบื่อเตมที่ไม่สนุกเลย เที่ยวเตร่ทางไหนก็ไม่ได้ไป ฤดูก็เปลี่ยนเปนออตัมน์เอาจริงๆ เปนหมอกมัวมืด ฝนตกหนาว ปรอดซันติกราดถึง ๓ ดีครี รู้สึกวันคืนเปนวันอยู่ในนิรยาบาย ท้องก็ไม่สบาย เจ็บตามฤดู แต่ไม่ใช่เกิดขึ้นเอง เกิดขึ้นเพราะกระบวนรักษา ด้วยเหตุหมอไม่รู้ธาตุ ห้ามเสียไม่ให้กินยาปัด ให้กินแต่น้ำ น้ำก็ไม่ได้ให้กินมาก ด้วยกลัวจะลงมากไป เพราะยังไม่รู้ธาตุ มันก็เลยปิด แล้วเกณฑ์ให้ไปอาบน้ำ พอถึง ๓๒ ดีครี อยู่ในน้ำ ๑๕ มีนิตท้องก็ขึ้นใหญ่เต็มไปด้วยแคซ ให้ปัดก็ไม่พออีกถึงสองวัน จนฉันต้องขออนุญาตกินเอง พอยอม เข้าวันนี้ก็ค่อยฟื้น แต่ยังกินเข้ากินปลาไม่ได้ ยุ่งใหญ่ ยิ่งกินเนื้อกินหนังเข้าไปมันยิ่งแน่นมากขึ้น ต้องหันลงกินเข้า ตาหมอก็กริ้วว่าไม่กินอไร กินแต่เข้ามันจะขี้อย่างไรได้ ฉันบอกว่าเมืองฉันเขากินเข้า แต่เขาขี้กันทุกคนเหมือนกัน อ้ายกับเข้าไทยของเราก็เต็มทนจริงๆ ด้วย มันขัดข้องไปเสียทุกอย่าง น้ำปลาเหลืออีกสักถ้วยชาเดียว ถ้าขายถ้วยน้ำนมละสัก ๔ บาทเปนซื้อ ทำอไรต้องใช้เกลือ เอาน้ำปลาเหยาะพอได้กลิ่น ส้มมขามก็ไม่มี กุ้งแห้งก็หมด น้ำตาลหม้อก็เก็บกันเหมือนเก็บทอง อยากให้เปรซิเดนต์ได้มากินกับเข้าที่นี่สักที ถ้าหากว่าเปนที่บางกอกก็ถึงโวตกันให้เทใต้ถุนศาลา แต่พวกเราก็อร่อยกันดี อย่างไรอย่างไรยังดีกว่ ที่พระยาศรีธรรมสาสนทำ เมื่อก่อนนี้เราไม่ได้เล่นฤๅอย่างไรจึ่งได้กินได้ มาคราวนี้กลืนไม่ลงทีเดียว เวลาเช้าเข้าต้มเหยาะน้ำปลา อย่างดีก็ผักดองเหยาะน้ำปลาเคล้าน้ำตาล ต้องฉันแจเพราะไม่มีอื่น เวลากลางวันกับเย็นทำกับเข้าวันละสองสิ่ง มีแกงสิ่งหนึ่ง ผัดสิ่งหนึ่ง แกงเจ๊กทั้งนั้น น้ำพริกแกงที่เจ้าสายจัดมาไม่ได้แกงสักที แต่หมด อยากกินปลาแห้งผัดเหมือนใจจะขาด ไม่สำเรจ เพราะปลาแห้งไม่มี ไข่เจียวก็ต้องจิ้มน้ำส้มกับเกลือ จะตำน้ำพริกเสียดายน้ำปลา แต่กระนั้นยังกิน ต้องยำไก่ในวันหนึ่ง ไม่มีตะไคร้ มีแต่ตะไคร้หั่นตากแห้งของพระยาศรีธรรมสาสน ก็มีนิดเดียว เวลาจะเอาปนลงในแกงต้องกราน บอกว่านี่คือตะไคร้ น้ำพริกก็ละลายด้วยเกลือแลมนาวฝรั่งเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ กระเทียมที่จะตีก็เปนกระเทียมฝรั่งหัวโตเท่ากระเทียมดองเหม็นฉกาจฉกรรจ์ ต้องใช้แต่พออัตถตังได้ กินกันอร่อยเหื่อแตกเหื่อแตน แกงขึ้นโถซุปหนึ่ง กินกันสี่คนเกือบหมด สเบียงที่เตรียมมามันทิ้งเสียมากเต็มที เพราะมันเปนเยนกะละแมน โซ้ดกันเปนกำลัง จะไปดูเข้าของเช่นนี้ก็อาย ถ้าจะว่าข้างขาขัดสน คราวนี้ขัดสนมากกว่าคราวก่อน เพราะคราวก่อนมีเรือครัว เว้นแต่คนทำ ทำไม่เปน คราวนี้มีคนครัวมาก ตั้งแต่พระราชาลงไป แต่ไม่มีอไรจะทำ ถ้าขืนกินกับเข้าไทย ก็ไม่ผิดอไรกับไปทัพ จำจะต้องเปนฝรั่งที่ยอมเปนไทยเสียที เพราะท้องไม่สบายจริงๆ ไม่มีอไรจะเล่าให้สนุกสนาน เพราะหมู่นี้มันไม่มีสนุกเสียจริงๆ
จุฬาลงกรณ์ ปร.