พระราชพิธีเดือน ๑๑
พระราชพิธีประจำเดือน ๑๑ ในกฎมนเทียรบาลว่ามีพิธีแข่งเรือ ความพิสดารในกฎมนเทียรบาลกล่าวไว้ดังนี้
“เดือน ๑๑ การอาษยุชพิธี มีโหม่งครุ่มซ้ายขวาระบำมโหระทึกอินทรเภรีดนตรี เช้าทรงพระมหามงกุฎราชาปโภค กลางวันทรงพระสุพรรณมาลา เย็นทรงพระมาลาสุกหร่ำสะพักชมพู สมเด็จพระอัครมเหสีพระภรรยาทรงสุวรรณมาลานุ่งแพรลายทองทรงเสื้อ พระอัครชายาทรงพระมาลาราบนุ่งแพรดารากรทรงเสื้อ ลูกเธอหลานเธอทรงศรีเภทมวยทรงเสื้อ พระสนมใส่สนองเกล้าสะพักสองบ่า สมรรถไชยเรือต้น ไกรสรมุขเรือสมเด็จพระอัครมเหสี สมรรถไชย ไกรสรมุขนั้นเป็นเรือเสี่ยงทาย ถ้าสมรรถไชยแพ้ไซร้ ข้าวเหลือเกลืออิ่มสุขเกษมเปรมประชา ถ้าสมรรถไชยชนะไซร้ จะมียุค”
แต่พิธีแข่งเรืออย่างว่าไว้ในกฎมนเทียรบาล ได้ทำมาเพียงในชั้นกรุงเก่า มาถึงครั้งกรุงรัตนโกสินทรหาได้ทำไม่
พระราชพิธีประจำเดือน ๑๑ ที่คงทำในกรุงรัตนโกสินทร มีดังนี้คือ :-
ขึ้น ๔ ค่ำ พิธีทอดเชือกดามเชือก
ขึ้น ๕ ค่ำ แห่คเชนทรัศวสนาน
ขึ้น ๖ ค่ำ สมโภชพระยาช้าง
ขึ้น ๑๔ ค่ำ ขึ้น ๑๕ ค่ำ แรมค่ำ ๑ พิธีออกพรรษา และลอยพระประทีป ตั้งแต่แรม ๕ ค่ำ จนสิ้นเดือน พระกฐิน
พิธีเดือน ๑๑ ที่ทำในกรุงรัตนโกสินทรดังกล่าวมานี้ เห็นจะทำมาแต่ครั้งกรุงเก่าแล้วทุกอย่างหรือโดยมาก เพราะพระราชพิธีในกรุงรัตนโกสินทรนี้ ตั้งขึ้นตามแบบแผนครั้งกรุงเก่าแทบทุกอย่าง จะเป็นแต่ด้วยพิธีเหล่านั้น ทำกันขึ้นในกรุงเก่าภายหลังตั้งกฎมนเทียรบาล จึงปรากฏในกฎมนเทียรบาลแต่พิธีแข่งเรืออย่างเดียว
พิธีทอดเชือกดามเชือก และแห่คเชนทรัศวสนานทำอย่างไร ความพิสดารแจ้งอยู่ในพระราชพิพนธ์ประจำเดือน ๕ นั้นแล้ว ในเดือน ๑๑ ก็ทำอย่างเดียวกัน พิธีลอยพระประทีปกลางเดือน ๑๑ ก็เหมือนกับลอยพระประทีปในเดือน ๑๒ ซึ่งมีข้อความพิสดารแจ้งอยู่ในพระราชนิพนธ์พิธีประจำเดือน ๑๒ ผิดกันแต่เดือน ๑๑ ไม่มีกระทงใหญ่
เนื้อความขาดแต่พิธีออกพรรษา และพิธีพระกฐิน ๒ พิธีเท่านั้น ฯ