๑๖ นิทานเรื่องท้าวกฤษณุราชได้นางประภาพาลเปนมหษี

เมื่อนั้นยังมีพระยาบวร ทรงพระนามอนุสร ชื่อกฤษณุราชราชา ได้เสวยราชในภารา ชื่อตรีมหา นครบวรธานี ท้าวไทยจะใคร่จรลี ประพาสไพรศรี จึ่งมีโองการสั่งพลัน ให้เสนาจัดพลพร้อมกัน จัตุรงค์เข้มขัน อีกหัยรถคชปัต ขุนพลแต่งแล้วเร่งรัด มาทูลแด่กระษัตริย์ พระองค์ก็รีบเสด็จไป ประพาสมาศมฤคในไพร ติดตามเนื้อไป จึ่งพบปราสาทโสภณ เปนเมืองปิศาจอนนต์ แสงศรีศุภผล ที่อยู่แห่งนางประภาพาล รี้พลบทัศนาการ แต่พระภูบาล กฤษณุราชเธอทัศนา ใช้อำมาตย์ไปดูเร็วรา เห็นแต่กัลยา มาอยู่ผู้เดียวเปลี่ยวดาย เสนากลับมาอธิบาย ทูลท้าวฦๅสาย ให้ทราบคดีทุกอัน ท้าวเธอแจ้งจิตรติดพัน เสด็จไปด้วยพลัน ได้ทอดพระเนตรเห็นนาง ทรงโฉมแช่มช้อยสุภางค์ เนื้อนมเนตรนาง ดั่งเทพอับสรในสวรรค์ จึ่งถามนางงามไปพลัน ว่าเจ้าเฉิดฉัน เหตุใดจึ่งอยู่ผู้เดียว นางจรประภาพาลรูปเรียว ทูลด้วยฉลาดเฉลียว ว่าข้าเปนราชบุตรี แห่งท้าวพาละราชธิบดี เปนเจ้ากรุงศรี เมืองจักรพรรดินคร อยู่มาโหราพยากรณ์ ทายเคราะห์นคร ว่าน้ำจะท่วมภารา ท้าวจึ่งให้แต่งนาวา ให้ข้าเสนหา ลงอยู่ในเรือขนาน ให้พานรตัวนี้อภิบาล กุญแจขัดดาล ถึงกำหนดน้ำท่วมลอยไป เจ็ดราตรีเรือลอยไปไกล จึ่งเกยหาดใหญ่ พอพระยาปิศาจประพาสมา เห็นตูมีพระไทยเมตตา จึ่งภิเษกข้า เปนอรรคมเหษีท้าวไท ปลูกปราสาทเรือนหลวงประทานไว้ ให้ข้าอาไศรย ท้าวไทจงทราบคดี สมเด็จท้าวกฤษราชภูมี จึ่งถามโฉมศรี บัดนี้พระยาปิศาจอยู่ไหน นางบอกว่าพระยาปิศาจไป เที่ยวเล่นในไพร กับบริวารแสนเสนา ท้าวกฤษณุราชราชา ถามว่ากัลยา เจ้าไปด้วยเรียมเถิดนะเทวี จะปลูกฝังร้อยชั่งให้ได้ดี เปนอรรคมเหษี แห่งพี่ในกรุงตรีนคร นางว่าข้ามีภรรดานะภูธร จะไปสมสมร อยู่ด้วยท้าวกลใด เปนสัตรีสามีสองไท อดอายฤๅไฉน ไม่ควรแก่ตัวกลัวกรรม พระองค์ทรงยศทศธรรม จะเปนบาปกรรม จะแหนงพระไทยอาดูร พระยาจึ่งตรัสบัณฑูรธรรม บาปกรรมนั้นสูญ จะกลัวไปใยนะเทวี ตัวเจ้าเปนมนุษย์นารี มาอยู่ด้วยผี ปิศาจให้เสียตระกูล บาปแต่ชนมนุษย์มั่วมูล รักษาหวงหูน จึงเปนโทษผิดเมียนา อมนุษย์หึงหวงรักษา ซึ่งกรรมเวรา ไม่เปนกามมิจฉาจาร บิดามารดาก็มิได้ประทาน ปิศาจนั้นหักหาญ กระทำตามจิตรเจตนา แล้วทิ้งทอดยอดเยาวสุดา มิได้อยู่รักษา เจ้าอยู่เอกาในพงพี เจ้าว่าพระยาปิศาจเปนสวามี จริงมิจริงศักขี ไม่มีที่อ้างอันใด แต่โบราณราชไม่มีใคร จะอยู่พิศไสมย ด้วยผีปิศาจผิดที เจ้าว่าเราไม่เห็นนะเทวี ผิดอย่างประเพณี พี่มิฟังจะพาไป นางได้ฟังสารก็จนใจ จึงทูลแถลงไข แก่ท้าวกฤษณุราชราชา พระองค์จะรับข้าลีลา ไปยังมหา บรมราชธานี พระคุณนั้นล้นเหลือปัถพี อยู่เกล้าเกศี ล้ำเลิศประเสริฐโสภณ กลัวแต่พระยาจะตามผจญ เอนดูจะขัดสน ไพร่พลจะพินาศบรรไลย อันฤทธิเดชเธอเหลือไกร มนุษย์ฤๅไฉน จะสู้จะรบด้วยภูตา ไพร่ฟ้าประชาราษฎร์จะมรณา ฉิบหายอนาถา จะนินทาว่าข้ากาลกิณี กระษัตริย์จึ่งตรัสทันที แก่นางโฉมศรี นารีอย่าร้อนวิญญา พี่จะป้องกันชาวประชา มิให้คระหา กัลยาอย่าแหนงแคลงใจ เรามีดาบสสองไท องค์หนึ่งรู้ไส ยเวทล้ำพสุธาร ถึงพระยาปิศาจจะตามผลาญ เธออาจประหาร ห่อนให้แผ้วพาลเขตรขัณฑ์ โฉมประภาพาลดวงจันทร์ บังคมทูลพลัน พระปองจะโปรดเกศี พระคุณยิ่งล้นพ้นทวี ตูข้าบมี รังเกียจจะกินเกี่ยงใจ วานรตัวนี้ท้าวไท จงโปรดรับไป ด้วยเปนเพื่อนยากมานาน พระกฤษณุราชฟังสาร รับคำเยาวมาลย์ ว่ามิ่งอย่าปรารมย์ขวัญ ตรัสแล้วกระษัตริย์ทรงธรรม์ จึงรับนางนั้น มายังกรุงศรีนคร ตั้งให้เปนมเหษีบวร ใหญ่กว่าสาวอับสร นิกรสนมกรมวัง เสนหาท้าวถนอมเปรียบชีวัง พิศไสมยสวาทหวัง มิเว้นมิวายคลายชม นางค่อยบันเทาทุกข์เปนบรม สุขเสวยสู่สม ชื่นชมในตรีภารา พานรซึ่งตามเสด็จมา สมเด็จชายา เอาใจบำรุงเลี้ยงดู ไว้ใกล้ปราสาทโฉมตรู ส่วนองค์พธู มาเยือนมายลอัตรา

ยังมีพระมหากระษัตริย์องค์หนึ่ง ทรงพระนามชื่อท้าวเทพราช ได้เสวยราชสมบัติในเมืองโลทนคร ท่านนั้นเปนพระราชนัดดาท้าวกฤษณุราชได้ยินข่าวไปว่า ท้าวกฤษณุราชเสด็จประพาสป่า ได้นางองค์หนึ่งมาเปนอรรคมเหษี ท้าวเทพราชจึงยกจัตุรงค์โยธามายังเมืองตรีนครขึ้นเฝ้าท้าวกฤษณุราช ๆ ก็ตรัสบอกยุบลทั้งปวง ให้ท้าวเทพราชผู้ราชนัดดาฟังทุกประการ ส่วนท้าวเทพราชนั้นมีมนตรีสี่คน ชื่อทิพเสนาคนหนึ่ง พรหมเสนาคนหนึ่ง ชื่อยุทธเสนาคนหนึ่ง ชื่ออากาศเสนาคนหนึ่ง ท้าวเทพราชได้ฟังข่าวว่า ท้าวกฤษณุราชตรัสเล่าดังนั้นก็ทูลว่านางนี้เปนอรรคมเหษีพระยาปิศาจแล้ว แลพระองค์รับมาอภิเษกเปนพระมเหษีเล่า ดังนี้มิควรยิ่งนัก ท้าวกฤษณุราชได้ฟังดังนั้นก็มิได้นำพา ท้าวเทพราชจึ่งทูลว่าข้าพเจ้าจะขอเล่านิยายทำเนียบ ถวายแด่พระองค์บัดนี้

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ