๑๑

ข้าพเจ้าถามว่า “ก็เมื่อเขาโง่อย่างนั้น ท่านรักเขาหรือไม่ ?”

กีโดตอบว่า “รักเขา ? ก็ดีหน้ะซี! เปล่าเลยถ้าว่าในส่วน ฉันก็ชอบเขาอยู่—ค่าที่ซื้อรูปฉันไปหลายรูปอยู่—เปนธรรมอยู่เอง ที่ช่างอนาถาอย่างฉันจะต้องชอบกับคนเจ้าจำนำดี ๆ ไว้. ว่าโดยแท้ที่จริงฉันชอบเขามากเทียว….จนเขามีเมีย.”

“อา! เมียเข้ามาขวางละซีน่า ?”

หน้าแดงทันที ฉวยเอาถ้วยสุราขึ้นดื่มที่เหลือจนหมด.

“ถูก” เขาตอบ “แม้ผู้หญิงนั้นเข้ามาขวางอยู่กลางเรา. ส่วนเจ้าผู้ชายพอมีเมียเข้าก็แปลกไปกว่าก่อน. เออนี่เรานั่งคุยกันอยู่นี่ก็นานแล้ว—ออกเดินบ้างหรือ ?”

ข้าพเจ้าทราบดีทีเดียว ว่าเขาตั้งใจจะเปลี่ยนเรื่องสนทนาจึงค่อย ๆ ลุกขึ้นจากเก้าอี้ช้า ๆ ประหนึ่งเส้นสายตึงตามนิไสยของคนแก่ ชักนาฬิกาเรือนทองฝังเพ็ชร์ออกดู, ยามเศษแล้ว. ไปกันทีก็ดี” ข้าพเจ้าพูด “ดึกแล้ว ฉันต้องนอนราวเวลานี้เสมอ. ตาทนแสงสว่างจัด ๆ เช่นนี้ไม่ใคร่ได้นาน. ท่านจะไปส่งฉันถึงโฮเต็ลหรือยังไง ถ้าไปเรายังได้เดินคุยกันไปตามทางอีก ถ้าท่านว่าง ๆ ฉันเชื่อว่าฉันคงจะ ได้รับโอกาศดี ได้ชมรูปที่ท่านเขียนเปนขวัญตาบ้างเปนแท้. บางทีฉันจะได้รับเกียรติยศเปนเจ้าของของรูปของท่านบ้างด้วย.”

“ขอบใจท่านแล้วขอบใจท่านอีก จนกว่าจะขอบใจได้พันครั้งหมื่นครั้ง” กีโดพูด. “ถ้าของสิ่งที่ได้เขียนไว้นั้นเปนที่พอใจของท่านแล้ว ฉันก็รับเกียรติยศอย่างสูง. เสียแต่เดี๋ยวนี้ฉันไม่ใคร่จะตะกละหาเจ้าจำนำดี ๆ เสียแล้ว คือทำไม คือนึกจะเลิกหากินในวิชานี้ในชั่วหกเดือนนี่แหละ”

“จริงหรือ ? ท่านจะได้รับมรฎกใหญ่โตละซีหรือ ?”

“ก็ไม่เชิง” กีโดตอบ—“แต่จะแต่งงานกับคนมีเงิน—มันก็คล้าย ๆ กันนั่นแหละจริงไหมล่าท่าน”

“เรี่ยม. ขออวยพรด้วย.” ข้าพเจ้าพูดด้วยเสียงอันฝืนให้เปนจริงกับธรรมดา แต่ส่วนเบื้องในนั้นแค้นเคืองเสียเหลือหละ เพราะคำที่เขาพูดนั้นเข้าใจได้ดีทีเดียวว่าหมายความว่าอย่างไร. อีกหกเดือนเขาหมายจะแต่งงานกับภรรยาข้าพเจ้า. หกเดือนเปนกำหนดไว้ทุกข์อย่างน้อยที่สุด หกเดือน ในชั่วเวลานั้นจะเปนอย่างไรบ้างก็ไม่ทราบ! …. มีความคิดอย่างนี้เข้ามาครอบงำดวงกระมลอยู่ กระทำให้ข้าพเจ้านิ่งเดินเคียงข้างกันไปจนไกล. ดวงจันทร์ส่องแสงสว่าง—พวกผู้หญิงสาว ๆ เดินเคลียไปกับผู้ชายที่รัก - - ในทะเลก็ได้ยินเสียงขลุ่ยและเสียงแมนโดลีนมาจากเรือที่ลอยล่องเล่นตามน้ำ—ล้วนมีแต่ความศุขสนุกสนานมากอยู่รอบข้าง. แต่ตัวข้าพเจ้าไม่มีสนุกเสียเลย—คันมือใคร่จะเข้ากระหวัดวัดบีบคอเจ้ามหาโกหกซึ่งเดินเคียงอยู่นั้น. เอย ผีสางเทวดาถ้าเข้ารู้! ถ้าเขาทายความที่เปนจริงถูก อยากจะรู้นักว่าจะวางหน้าอย่างไร—อยากจะรู้ว่ากิริยาจะเปนอย่างเดี๋ยวนี้หรือไม่ ? ชำเลืองมองดู—เขาเดินร้องเพลงฮึม ๆ เฉย ภายหลังเห็นจะรู้สึกว่าข้าพเจ้าจ้องมองดู เขาจึงหยุดฮึมเพลงลงกลางคัน แล้วหันมาพูดกับข้าพเจ้าว่า,

“ท่านเห็นจะเที่ยวไกลและได้เห็นมาก คอนเต้ ?”

“ได้เที่ยวได้เห็นมากอยู่”

“ในประเทศใดที่ท่านได้ประสบผู้หญิงอย่างงามที่สุด ?”

“รับประทานโทษท่าน” ข้าพเจ้าตอบประดุจไม่สู้พอใจในคำถาม “ธุระของฉันแยกให้ฉันห่างจากอิถีถึงค์สโมสร. ไปมัวคิดสมบัติและสิ่งอื่น ๆ เว้นอย่างเดียวแต่เรื่องผู้หญิง ไม่เคยรู้จักรักผู้หญิงหน้าสวยหน้างามกับหน้าธรรมดา ดูมันเหมือนกันหมดตั้งแต่หนุ่มมาจนตราบเท่าชราถึงปานนี้แล้ว ก็ไม่มีความปราดถนาที่จะเปลี่ยนความคิดที่เกี่ยวกับหญิงเลย ถ้าจะพูดแก่ท่านโดยความจริงแล้วมันตรงกันข้ามกับคำที่ว่ารัก.”

เฟอร์รารีหัวเราะ “ท่านทำให้ฉันระลึกถึงฟาบีโอ. เมื่อก่อนมีเมียเขาพูดอย่างท่านฉนี้แหละ ถึงหากว่าเขาจะยังหนุ่มแน่นและยังไม่เคยได้รับความเจ็บใจมาแล้วอย่างท่านก็ดี แต่คอนเต้ เขาเปลี่ยนความคิดปุ่บปับรวดเร็วใจหาย. เหอ เหอ นึกก็ออกขันๆ !”

ข้าพเจ้าถามว่า “ภรรยาเห็นจะสวยเลิศ ?”

“หยอกอยู่เมื่อไร! รูปทรงอ้อนแอ้น ผิวบาง ทั้งหูทั้งตาทั้งหน้า ทั้งคิ้วงามพร้อม ฉันยังไม่เคยเห็นนางฟ้าจริง ๆ ดอก แต่นางฟ้าที่เขาเขียนไว้หละเปนสู้ไม่ได้หลุดเทียว จะมาพรรณารูปโฉมโนมประพรรณคำก็แสดงความงามไม่พอ ไว้ให้ท่านดูเอาเองเถอะ ท่านเปนเพื่อนของพ่อผัวหล่อน ท่านควรจะไปเยี่ยม.”

ข้าพเจ้าตอบว่า “เหตุไรจึงจะควรไป? ฉันไม่มีความปราดถนาจะเจอะหล่อนเลย อนึ่ง หล่อนกำลังอยู่ในระหว่างไว้ทุกข์ไม่ใคร่อยากจะพบปะแขก ควรหรือฉันจะไปกวนให้หล่อนนึกถึงทุกข์ถึงโศรกมากอีก.”

ไม่ทำสิ่งใดให้ดีไปกว่านี้ได้ ยิ่งแสดงความไม่ปราดถนาจะพบเคานเตสโรมานี กีโดก็ยิ่งอยากจะชักนำให้รู้จักมากขึ้น (ชักนำข้าพเจ้า!...ให้รู้จักกับภรรยา...)

“ท่านต้องไปเยี่ยมหล่อน !” กีโดพูดด้วยความร้อนรนหน่อยๆ “คงรับรองเปนแน่ รับรองอย่างพิเศษ. อายุของท่านประการหนึ่ง ความคุ้นเคยแก่พวกพ้องผู้ใหญ่ ๆ ประการหนึ่ง จำเปนที่เจ้าหล่อนจะต้องรับรองด้วยความเคารพคาระวะอย่างมาก! โดยที่แท้หล่อนไม่สู้จะเศร้า....” กีโดหยุดค้างที่ตรงนี้ เพราะว่าเรามาถึงประตูโฮเต็ลเสียแล้ว.

ข้าพเจ้าเดินขึ้นบันไดใหญ่และร้องเชิญกีโดว่า “เชิญท่านขึ้นมาห้องฉันก่อนเถอะ เสพสุราด้วยกันเสียอีกสักถ้วยก่อนจึงค่อยไป. ก็ฉนั้น ข้างเมียก็ไม่พอใจสามีเลยซี ?”

โดยความเชื้อเชิญและกิริยาวาจาของข้าพเจ้า ทำให้เฟอร์รารีตายใจ สนิทสนมมากขึ้นทุกที เขาเอาแขนไขว่เข้าในแขนข้าพเจ้า เมื่อเดินขึ้นบันได และพูดด้วยสำเพียงอันเชื่อไว้วางใจว่า:

“ท่านเอ๋ย ผู้หญิงจะรักผู้ชายคนที่พ่อแม่ข่มขืนยกยอขอให้เพื่อเห็นแก่สมบัตินั้นอย่างไรได้? ดังฉันได้เล่าให้ฟังแล้วว่าเพื่อนคนเก่าของฉันน้ะ ไม่มีความระวังระไวรักษาความงามของภรรยาเลย—เย็นราวกับหิน มัวแต่ขลุกอยู่กับหนังสือวันยังค่ำคืนยังรุ่ง เมื่อเปนฉนี้ข้างภรรยาจะมีความรักอย่างไรได้.”

พอมาถึงห้องข้าพเจ้าก็เปิดประตูกว้างออก เฟอร์รารีมีความพิศวงในการแต่งห้องฟุ่มเฟือยหรูหรา เมื่อจะตอบคำพูดของเฟอร์รารี ข้าพเจ้ายิ้มและว่า,-

“ดั่งได้บอกแก่ท่านแล้วว่า อ้ายเรื่องผู้หญิงริงเรือคุยด้วยไม่มีความรู้พอ มิไยจะเกลียดมิไยจะรัก รักก็เท่านั้นเกลียดก็เท่านั้น ในส่วนฉัน คนอื่นยังไรไม่รู้ด้วย นึกว่าผู้หญิงเหมือนกับลูกแมว คนองๆ ประเดี๋ยวก็ข่วนประเดี๋ยวก็กัด ถ้าคนเลี้ยงตบเบา ๆ ให้ถูกวิธีก็เคลียคลอด้วยดี แต่พอเหยียบหางเข้าเอาแล้ว แป๋วฟ่อ! ลองชิมเหล้ามอนเตปูลเซียโนหน่อยหรือท่าน ?”

เขารับถ้วยแก้วไปดื่มแล้วว่า “เด็ดมาก. นี่ท่านอยู่อย่างอองปรางซ์ (อย่างเจ้า) คอนเต้. บอกให้รู้ตัวว่าฉันอิจฉาท่าน.”

ข้าพเจ้าตอบว่า “ท่านไม่ต้องการจะอิจฉา ท่านมีความหนุ่ม ท่านมีความสบาย และ....ตามที่ท่านทำให้ฉันเข้าใจ—มีความรัก! สิ่งเหล่านี้ดีกว่าสมบัติทั้งปวงโดยแท้ คนทั้งหลายย่อมกล่าวกันว่าอย่างนั้น ความหนุ่มแน่นและความสบาย รับประกันว่าเปนสิ่งที่ประเสริฐแท้—ส่วนความรักนั้นยังไม่มีความเชื่อ.”

“เออนี่แน่ะท่านคอนเต้ ฉันเชื่อว่าท่านยังหนุ่ม ๆ อยู่นั้น ท่านคงเปนคนสรวยมาก แต่ถึงเดี๋ยวนี้รูปร่างทรวดทรงยังเก่งพอใช้.”

ข้าพเจ้าก้มศีร์ษะกระทำคำนับ “ท่านยอหน้ะขอรับซินยอ! เมื่อหนุ่มตัวฉันจะจัดเปนคนถึงกะน่าเกลียดทีเดียวก็ไม่ได้ แต่ไม่สู้สวยเก๋โก๋นัก ถ้าพูดส่วนกำลังวังชานั่นแหละเปนมีพอคุยแก่เขาได้ถึงเดี๋ยวนี้ก็ยังไม่อ่อนแอ.”

“เชื่อเทียว” เฟอร์รารีตอบ แต่ยังเพ่งพิจารณาดูข้าพเจ้าทั่วสารพางค์กาย “มีข้อมาประจวบกันอย่างประหลาดข้อหนึ่ง คือรูปร่างทรวดทรงท่านช่างคล้ายกับเคานต์โรมานีเพื่อนเก่าราวกับหล่อมาจากพิมพ์เดียวกันเทียว.”

ข้าพเจ้ารินสุราลงถ้วยสำหรับรับประทานเองด้วยมืออันมั่นคงมิได้สทุกสท้าน ดื่มน้ำสุราแล้วว่า,

“จริงหรือ ? ฉันมีความยินดีที่ได้รับเกียรติยศเปนผู้เตือนใจท่านให้ระลึกถึงเขา. คนสูง ๆ ย่อมคล้ายคลึงกันมาก นี่พูดส่วนสูงสวยอกใหญ่ไหล่ฝั่งด้วยกัน ถ้าสูงโย่งเก้งย่องโก๊นั่นคนละอย่าง.”

คิ้วของเฟอร์รารีขมวด แต่ไม่ใช่ขมวดโกรธ ขมวดอย่างเราท่านทั้งหลายนั่งตรองอะไรต่ออะไร ภายหลังเขารู้สึกตัวเปนตัว ยิ้มและยกถ้วยสุราขึ้นดื่มจนหมด แล้วลุกขึ้นจะไป

“หวังใจว่าท่านจะอนุญาตให้ฉันบอกชื่อท่านแก่เคานเตสโรมานี, หล่อนคงรับรองท่านแน่เทียว ท่านจะอนุญาตหรือไม่ ?”

ข้าพเจ้าทำเปนบิดเบือนด้วยมารยาและว่า “พูดโดยน้ำใสใจจริง ฉันไม่อยากจะพูดแก่ผู้หญิงริงเรือเลย ค่าที่พวกผู้หญิงพูดเหลวแหลก ไม่ถูกวิเคราะห์ มีแต่ยั่วยวนไม่เปนเมื่อเปนคราว แต่ทว่าท่านกับฉันนั้นก็ได้รู้จักกันถึงโดยว่าไม่นานก็สนิทสนมมากอยู่ แม้ท่านไม่มีความรังเกียจแล้ว อยากจะวานท่านเปนทูตไปยังเคานเตส แต่บางทีท่านจะยังไม่มีโอกาศที่จะพบเคานเตสอีกหลายวันดอกกระมัง ?”

หน้าเขาแดงหน่อย ๆ และตอบว่า “ตรงกันข้าม ฉันจะไปบ้านหล่อนค่ำวันนี้ และธุระที่ท่านจะใช้นั้นทำให้ฉันเพิ่มความยินดีอีกมาก.”

“ธุระที่จะวานท่านนั้นไม่หนักหนาอะไรนัก. ฉันจะเล่าเรื่องให้ท่านฟังแต่สังเขปว่าเหตุใดจึงได้อยากจะพบกับท่านชายหนุ่มที่ถึงแก่กรรมแล้ว คือเมื่อฉันยังหนุ่ม ๆ อยู่นั้นเคานต์โรมานีเปนผู้อุปการ ช่วยเหลือเกื้อหนุนฉันมามาก. บุญคุณของท่านที่มีแก่ฉันนั้นยังอยู่ในดวงจิตรเสมอเปนนิตย์ และตรึกตรองอยู่เสมอที่จะทดแทนคุณท่าน บัดนี้ฉันได้รวบรวมเพ็ชร์พลอยอย่างหาค่ามิได้มาหลายเม็ดเพื่อจะให้แก่บุตรของเพื่อนเก่า ประสงค์จะให้เปนที่ระลึกบ้างเล็กน้อย หรือมิฉนั้นก็เพื่อจะแสดงความกตัญญูต่อวงษ์ของท่านผู้มีพระเดชพระคุณแก่ตัวมา. มาบัดนี้บุตรชายของท่านก็ถึงแก่กรรมเสียด้วยเล่า เพ็ชร์พลอยที่หามาก็จะมีประโยชน์อะไรอีก จึงตกลงในใจว่าจะทำกำนันเสียแก่เคานเตส ถ้าหล่อนจะยินดีรับ. ถ้าแม้สามีหล่อนยังมีชีวิตอยู่ ของเหล่านี้ก็คงตกเปนของเจ้าหล่อนยังค่ำ—ฉนั้น บัดนี้ก็ควรเปนของหล่อนเหมือนกัน.”

“ฉันมีความยินดีที่ได้รับเกียรติยศเปนทูตนำข่าวของท่าน” เฟอร์รารีตอบและลุกยืนขึ้นจะลาไปกันที “สัตรีงามชอบเพ็ชรพลอย คนไหนบ้างที่ไม่ชอบ ? ตาคมกับเพ็ชร์พราว ถูกกันเรี่ยมพิลึก! ลาก่อนละท่านคอนเต้! หวังใจว่าเราจะได้พบกันเนืองๆ”

“ข้อนั้นไมสงสัย” ข้าพเจ้าตอบ.

เขาจับมือข้าพเจ้าด้วยความเต็มใจ แต่ข้าพเจ้าเฉยๆ. มองดูทางหน้าต่างโฮเต็ล เห็นเฟอร์รารี เดินไปตามถนนด้วยความศุขในใจ พอเดินไปห่างเขาเหลียวหน้าดู เปิดหมวกคำนับอีกแล้วเดินลับตัวไป ความพยาบาทได้เริ่มต้นแล้ว.

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ