๑๒

รุ่งขึ้นเฟอร์รารีมาหาข้าพเจ้าแต่เช้า. ข้าพเจ้ากำลังรับประทานอาหารอยู่—เขาขอโทษในการที่มารบกวนในขณะเมื่อรับประทานอาหารอยู่ฉนั้น.

“แต่” เขาอธิบายว่า “เคานเตสโรมานีสั่งมาเปนการร้อน ซึ่งจำเปนอย่างยิ่งที่ฉันจะต้องทำตาม. เราพวกผู้ชายต้องเปนทาษของพวกแม่เจ้าประคุณวันยังค่ำ!”

“ไม่วันยังค่ำ” ข้าพเจ้าขัดคอ และกระทำกิริยาให้เขานั่ง “มีข้อยกเว้นอยู่บ้าง เช่นตัวฉันเองเปนตัวอย่าง เชิญรับประทานกาแฟ.”

“ขอบใจ. ฉันรับประทานมาเมื่อตะกี้นี้เอง เชิญรับประทานให้สบายเถิดอย่าเปนห่วงกังวลเลย. เคานเตสให้บอกแก่ท่านว่า”

“อ้อ เมื่อคืนนี้ท่านไปหามาหรือ ?” ข้าพเจ้ากลุกลางปล้อง กีโดเรี่ย “ไป-ง่า-ง่า-ไปอยู่ประเดี๋ยวเดียวเท่านั้น นำเนื้อความของท่านไปเล่าให้หล่อนฟัง แล้วหล่อนขอบใจท่านเปนอันมาก และ ขอให้ฉันบอกแก่ท่านว่า หล่อนจะรับเพชรพลอยเหล่านั้นไม่ได้เลย ถ้าท่านจะไม่ไปเยี่ยมเยียนให้เปนเกียรติยศแก่หล่อนบ้าง แขกเหรื่ออื่นนั้นเปนไม่รับรองใครเปนอันขาดในเวลาที่ไว้ทุกข์นี้—แต่ท่าน—ผู้เปนเพื่อนกันสนิทเก่าแก่ของวงษ์ญาติของสามี จำเปนอยู่เองที่หล่อนจะต้องรับรองด้วยความเต็มอกเต็มใจ.

ข้าพเจ้าก้มศีร์ษะกระทำคำนับ “ฉันถูกเยินยอเหลือเกิน, การเชื้อเชิญด้วยเต็มอกเต็มใจฉนี้เปนของไม่ใคร่จะได้พบเนือง ๆ แต่มีความเสียใจที่จะรับเชิญไม่ได้ ถึงยังไร ๆ ก็ในหมู่นี้ไม่ได้ ขอท่านได้เอื้อนำใจความอันนี้ไปแต่งเคลือบน้ำตาลให้หวานฉ่ำและบอกกับเคานเตสด้วยเถิด.”

เขาตลงด้วยความประหลาดและฉงนสนเท่ห์ใจ.

“จริงหรือที่ท่านว่าท่านจะไม่ไปเยี่ยมหล่อน—ที่ท่านปฏิเสธคำเชิญของหล่อน ?”

ข้าพเจ้ายิ้ม “จริงซีท่านซินยอเฟอร์รารี ฉันเปนคนที่ใจเปนอย่างไรก็ทำตามใจ และไม่ยกเว้นให้ในส่วนผู้หญิงริงเรือด้วย ถึงจะสวยจะเปนที่ยั่วยวนอย่างไรก็ชักจูงเอาไปไม่ได้ ถ้าแหละใจไม่สมัค. ธุระอื่นในเมืองเนเปิลซ์ยังมีอยู่อีกมาก ฉันจะต้องเอาใจใส่ในธุระเหล่านั้นเสียก่อน เมื่อเสร็จธุระเหล่านั้นแล้ว นั่นและบางทีจะไปหัวหกก้นขวิดบ้าง เพื่อเปนการเปลี่ยนแปลงบ้างเล็กน้อย—เดี๋ยวนี้ ฉันยังไม่สมกับอิถีถึงค์สโมสร—คนแก่งุ่มง่ามอย่างที่ท่านเห็นฉนี้ ทั้งปากก็พกลมไม่หวานพอ ได้แต่ไปให้เขาโห่เล่นได้อยู่. จะสัญญาให้แก่ท่านว่าผัดฝึกซ้อมกิริยามารยาตร์เสียให้เรียบร้อยก่อน เมื่อว่างธุระจะคงไปเยี่ยมเคานเตสสักครั้ง ในเวลานี้นั้นฉันมีความหวังใจว่า ท่านจะกรุณาขอโทษขอโพยให้ในการที่ขัดคำสั่ง.”

เฟอร์รารีแสดงกิริยาอย่างประหลาดใจมาก—ภายหลังหัวเราะออกดัง “ผ่าเทอนา ท่านนี่แปลกมนุษย์มาก ฉันเกือบเชื่อท่านแล้วว่าท่านเกลียดผู้หญิงจริง.”

ข้าพเจ้าว่า “คำว่าเกลียดนั้นแรงไปหน่อย—ความเกลียดชังมากย่อมเกิดแต่ความรักมากเปนปฐม. ฉันยังไม่เคยพบผู้หญิงที่ควรแก่ความเกลียดเลย มีแต่เพียงเฉยๆเรื่อยๆ เมื่อดูภายนอกแล้วผู้หญิงดูเปนเรียบร้อย งดงามและเปนเครื่องเบาใจ แต่ครั้นพิจารณาให้ซึ้งแล้ว ผู้หญิงกลับกลายเปนสิ่งตรงข้ามไป คือรุงรังพันเต ไม่สวยไม่งาม ทั้งเปนเครื่องถ่วงหัวใจของผู้ชายยิ่งหนัก.”

“ถึงกระนั้นก็ยังมีคนทนแบกความหนักนั้นเสมอ” เฟอร์รารีพูดสอดเข้ามา

“ผู้ชายนั้นมีน้อยคนเต็มทีที่จะเปนนายแห่งความโลภความหลงได้ พอความสนุกสนานเพลิดเพลินอะไรสักหน่อยวี่แววเข้ามา ก็รีบสุ่มสี่สุ่มห้าฉวยรีฉวยขวาง เห็นแต่จะได้ความพอใจเล็กน้อยเหล่านั้น มิได้คิดถึงความที่ปล่อยตัวให้เสียหายในส่วนตัวหรือส่วนเพื่อนฝูงหรืออะไร ๆ ความรักจูงจมูกไปไหน ๆ ได้ตามสบาย. ตะกลามคว้าความสวยความงามผู้หญิงราวกะเด็กเล็กคว้าขนม ถ้าขนมเปนของดีก็พอคุ้มอัฐคุ้มเวลาที่เสียไป แม้นโดนขนมบูดแฉะเข้าสิ ซ้ำร้ายอัฐก็เสีย ท้องก็ปวด ประโยชน์จะมีมาแต่ไหน.”

“เฟอร์รารีแบมือยกไหล่และว่า” ฉันยังไม่เห็นด้วย แต่เวลานี้ยังไม่เถียงท่านก่อน. ตามความเห็นของท่าน ท่านก็ถือว่าเปนถูก คนทุกคนย่อมมีความเห็นส่วนตัว และความเห็นย่อมแผกเพี้ยนกันบ้างไม่มากก็น้อย—เมื่อยังหนุ่มอยู่ชีวิตเหมือนกับสวนดอกไม้ ความรักและความยิ้มแย้มของสัตรีเปนประดุจแสงอาทิตย์อันตกลงต้องดอกไม้ในสวนนั้นกระทำให้สวนเปนที่ที่พึงชม! ถึงตัวท่านเองเมื่อท่านยังหนุ่ม ๆ ก็คงนึกรู้สึกเช่นเดียว—คงเคยนึกรักใครกับใครบ้าง.”

“ความรักเปนของสำหรับมนุษย์ และฉันก็เปนมนุษย์เหมือนคนทั้งหลาย เพราะฉนั้นความรักก็มีอยู่บ้าง” ข้าพเจ้าหัวเราะ “ผู้หญิงที่ฉันพอใจนั้นกลายเปนเทพธิดาไป—ไม่ดีพอกับเจ้าหล่อน ฉันไม่ดีพอจะล้างเท่าเจ้าหล่อน—เขาว่ากันอย่างนั้น! ฉันรู้สึกว่าความดีของหล่อนสูงล้นพ้น นั่นแหละ—ฉันต้องลา.”

เขาประหลาดใจ “อื๊อ! แปลก เปิดหนีเอาเฉยๆ อย่างนั้นแหละ.”

“แปลกมาก—เปนอย่างที่ผิดกับธรรมดาจริง แต่เปนที่พอใจสำหรับตัวฉัน. เราคุยกันถึงเรื่องที่สนุกๆจะดีกว่า—เรื่องรูปภาพของท่าน เมื่อไรจะได้มีโอกาศไปชมได้บ้าง.”

“สุดแล้วแต่ท่าน” กีโดตอบ “ฉันเกรงว่ารูปที่เขียนไว้จะไม่ดีพอสำหรับตาสูงๆ อย่างท่าน.”

“ท่านพูดถ่อมตัวนัก เอาเถอะบ่ายวันนี้จะไปที่ออฟฟิศท่าน. บ่ายวันนี้ราวระหว่างสามโมงกับสี่โมงเย็นมีเวลาว่างอยู่หน่อยพอจะไปได้ แต่จะขัดขวางแก่ท่านอย่างไรบ้างไม่ทราบ.”

“โอ ไม่มีขัดขวางอะไร. แต่ต้องขอบอกเสียก่อนว่าท่านจะเสียใจในการที่ไปดู ด้วยว่าตัวฉันจะจัดเอาเปนช่างเขียนทีเดียวไม่ได้ ไม่สู้จะดีกว่าเด็กนักเรียนวัดเขียนเล่นตามฝาผนังโบสถ์.”

ข้าพเจ้ายิ้ม รู้ซึมดีทีเดียวในฝีมือเขียนของเขา แต่ไม่ตอบ ไถลไปพูดถึงเรื่องเพ็ชร์พลอย. “ขอกลับพูดถึงเรื่องเพ็ชร์พลอยที่จะทำของกำนันแก่เคานเตสโรมานีใหม่—ท่านจะชมหรือไม่เล่า?”

“ฉันอยากขอชมเปนขวัญตาแท้ๆ” เขาตอบ “คงเรี่ยมหนึ่งไม่มีสอง.”

“ก็นึกว่าอย่างนั้นและท่าน” ว่าดังนั้นแล้วข้าพเจ้าก็เดินไปที่มุมห้อง เอาลูกกุญแจไขกำปั่นเหล็ก หยิบเอาหีบเพ็ชร์พลอยชุดนั้นขึ้นมาส่งให้กีโดดู ในหีบนั้นมีสร้อยคอประดับด้วยทับทิมและเพ็ชร์เม็ดใหญ่ๆ และกำไลมือเข้าชุดกัน ปิ่นปักมวย—แหวนนิล—กางเขนสำหรับห้อยคอทำด้วยเพ็ชร์สีชมภู กีโดเมื่อเห็นของอันมีค่าเหล่านี้เข้า ไนย์ตาเปิดขึ้นโต และนั่งพิจารณาทีละสิ่ง ตรวจเม็ดพลอยทีละเม็ดอยู่ด้วยความพิศวงมาก.

ข้าพเจ้าพูดว่า “เปนแต่ของเล็กน้อยเท่านั้น แต่บางทีจะเปนที่ชอบใจผู้หญิง และถ้าท่านจะมีความเอื้อรับเอาของฝากเหล่านี้ไปให้เคานเตสโรมานีแล้วฉันจะมีความขอบใจมาก อนึ่ง ของเหล่านี้ เปนของเจ้าหล่อนแท้ ถ้าผัวหล่อนยังมีชีวิตอยู่เขาก็คงมอบให้แก่หล่อน เพราะฉนั้น หล่อนไม่ควรจะมีความรังเกียจที่จะรับของซึ่งเปนของๆ ตนเอง การทั้งนี้จะสำเร็จได้ดีก็เพราะสติปัญญาและวาจาของท่าน.”

เฟอร์รารีประหลาดใจและว่า “ท่านต้องไปเยี่ยมหล่อน. ฉันจะต้องถือเอาว่าการจะไปเยี่ยมเปนการแน่นอน.”

ข้าพเจ้ายิ้ม “เอ๊อ! ดูท่านร้อนอกร้อนใจในเรื่องนี้เหลือเกิน. ขอถามสักหน่อยว่าเหตุไรจึงเปนของที่จำเปนอย่างยิ่ง.”

เฟอร์รารีตอบ “ฉันนึกเอาเองว่า เคานเตสคงมีความโทรมนัสมาก ถ้าและท่านเปิดโอกาสให้หล่อนขอบใจสำหรับของกำนันอันมีค่ามากฉนี้. อนึ่ง หล่อนทราบว่าการที่เยี่ยมเยือนนั้น ไม่เปนของต้องห้ามอันใด บางที่ฉันเกือบทายล่วงหน้าได้ว่าหล่อนคงไม่รับของเหล่านี้ไว้.”

“อย่าร้อนใจไปเลย!” ข้าพเจ้าตอบ “หล่อนอยากขอบใจก็ต้องให้ขอบเสียให้พอความประสงค์ ฉันสัญญาว่าในสองสามวันนี้จะไปเยี่ยม—โดยที่จริงท่านรับปากว่าท่านจะชักนำให้รู้จัก—เอาเปนตกลง!”

“ถ้าฉนั้นฉันจะรับเอาหีบเครื่องเพ็ชร์นี้ไปให้หล่อน” เขาว่า “ฉันอาจพูดได้ คอนเต้ ว่าให้ท่านไปทั่วพิภพเทียว ท่านจะไม่เจอะหญิงใดที่ควรแก่เครื่องแต่งตัวนี้ยิ่งกว่าเลย.”

“ไม่สงไสยเลย!” ข้าพเจ้าพูด. “ฉันเชื่อท่านทีเดียว. ตัวฉันเองไม่มีความรู้พอที่จะเปนตุลาการชี้ได้ว่าคนหน้าสวยรูปร่างทรวดทรงงามนั้นเปนอย่างไร ท่านว่างามเปนงาม ดีเปนดี. ขอโทษเถอะ หน่อยอย่าคิดอย่างโน้นอย่างนี้ ขอเชิญท่านกลับไปก่อน ฉันอยากอยู่เงียบๆสักหน่อย ในระหว่างสามโมงกับสี่โมงเย็นจึงจะไปที่ออฟพิศท่าน.”

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ