- คำนำ
- พระประวัติ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม
- ๓๑๓ ประกาศเรียกงาปิว่าเยื่อเคยในคำกราบทูล
- ๓๑๔ ประกาศให้เรียกว่าสวนนันทอุทยานให้ถูก
- ๓๑๕ ประกาศเรื่องใช้คำพูดว่า ต้นแผ่นดิน กลางแผ่นดิน ปลายแผ่นดิน
- ๓๑๖ ประกาศให้เรียกที่ประทับท้องสนามหลวงว่าพลับพลา
- ๓๑๗ ประกาศเรื่องพระพุทธบุษยรัตน
- ๓๑๘ ประกาศปฏิสังขรณ์วัดไชยพฤกษมาลาวัดเขมาภิรตาราม
- ๓๑๙ ประกาศว่าด้วยปฏิสังขรณ์วัดขุนแสน
- ๓๒๐ ประกาศว่าด้วยเงินสำหรับซ่อมแซมพระอารามซึ่งเปนส่วนพระองค์
- ๓๒๑ ประกาศเรื่องพระราชทานกฐินที่กรุงเก่า
- ๓๒๒ ประกาศแผ่พระราชกุศลในการฉลองวัดหงษรัตนาราม
- ๓๒๓ ประกาศแผ่พระราชกุศลฉลองพระศรีรัตนมหาเจดีย์
- ๓๒๔ ประกาศการทำของเลี้ยงพระในการเฉลิมพระชนม์พรรษา
- ๓๒๕ ประกาศเรื่องเงินปี้จีนปีชวดทำถนน
- ๓๒๖ ประกาศชำระเลขในสมเด็จพระนางนาถราชเทวี สมเด็จพระเทพศิรินทร์
- ๓๒๗ ประกาศเรื่องตราภูมคุ้มห้าม
- ๓๒๘ ประกาศสักเลขไพร่หลวง
- ๓๒๙ ประกาศไม่ให้ลูกหมู่ไพร่หลวง เมื่อบวชอยู่รับจ้างทำช่างทอง
- ๓๓๐ ประกาศไม่ให้เชื่อฟังเรื่องที่ผู้มีคดีไม่ฟ้องเอาไปลงหนังสือพิมพ์
- ๓๓๑ ประกาศเรื่องราษฎรเมืองรยองถวายฎีกากล่าวโทษผู้สำเร็จราชการเมือง
- ๓๓๒ ประกาศไม่ให้เชื่อข้อความที่มีผู้ทิ้งหนังสือไปลงหนังสือพิมพ์
- ๓๓๓ ประกาศเรื่องเอาศพไว้ค้างคืน
- ๓๓๔ ประกาศทรงอนุญาตให้ราษฎรถวายฎีกาทูลถามเรื่องที่เล่าฦๅได้
- ๓๓๕ ประกาศว่าด้วยเนื้อนิลกสาปน์
- ๓๓๖ ประกาศว่าด้วยเครื่องรองน้ำฝนอย่างยุโรป
- ๓๓๗ ประกาศกำหนดที่จะเอาทองแปมาขึ้นเอาเงินไปแต่ท้องพระคลัง
- ๓๓๘ ประกาศกำหนดที่รับทองทศพิศพัดดึงศ์
- ๓๓๙ ยิงปืนอาฏานา ฝั่งตวันตก
- ๓๔๐ ประกาศห้ามไม่ให้กระบวนแห่ตีสุนัขให้ไล่ไปเสียให้พ้น แลอย่าให้ตุ๊กแกมีในอุโบสถ หรือที่ประทับ
- ๓๔๑ ประกาศให้พระสงฆ์ทุกๆ พระอารามตั้งพิธีฝน
- ๓๔๒ ประกาศวางระเบียบผู้ซึ่งจะถวายตัวเปนมหาดเล็ก
- ๓๔๓ ประกาศเรื่องตั้งพันปากพล่อย
๓๒๘ ประกาศสักเลขไพร่หลวง
มีพระบรมราชโองการให้ประกาศไว้แก่เจ้ากรมปลัดกรมโรงทานแลท้าววิเสทเจ้าหมู่มูลนายแลคนหลวงนั้นๆ แลผู้รับสั่งซึ่งจะชำระหมู่คนหลวงในแผ่นดินปัจจุบันนี้ แลท่านผู้จะครองแผ่นดิน แลผู้รับสั่งให้ชำระคนหลวง สืบไปในภายหน้าให้ทราบไว้ ว่าค่าธรรมเนียมในเวลาแผ่นดินนั้น เมื่อใดแต่งกองทัพไปตีเมืองอื่นถ้าได้เชลยมาเปนหลวงก็ดี ฤๅพระราชทานอาญาเปนอุกฤษฐโทษ ต้องริบราชบาทว์บุตร์ภรรยาแลทาสชายทาสหญิง ต้องตกเปนคนระบาทว์หลวง กับบุตร์ภรรยาอ้ายผู้ร้ายปล้นแลคนทำเงินแดง ซึ่งเปนคนอยู่ในแขวงกรุงเทพฯ แลส่งมาเนืองๆ แต่หัวเมืองนั้นๆ แลโทษอย่างอื่นๆ เปนความใหญ่ๆ บางครั้งบางคราว คนระบาทว์คนเชลยเหล่านี้เมื่อมีมาใช่จะมีพระราชกำหนดว่าให้รวบรวมเอาไว้เปนคนหลวงให้หมดก็หามิได้ การก็สุดแต่อำนาจพระราชหฤทัยประสงค์ของพระองค์พระเจ้าแผ่นดินนั้นๆ เหมือนคนเชลยที่ตีทัพมาได้ ใครมีความชอบในการทัพครั้งนั้นก็เคยพระราชทานให้ แลในจำนวนคนซึ่งตกเปนส่วนหลวงเล่า ก็เคยแบ่งพระราชทานพระเจ้าลูกเธอ พระเจ้าหลานเธอแลเจ้าจอมข้างในตามพระราชประสงค์แล้ว คนซึ่งเหลือนั้นจึงได้สักส่งเปนไพร่หลวงตามกรมนั้นๆ ต่อภายหลัง ถึงจำนวนเลขสังกัดพัน มีเจ้าหมู่ถึงแก่กรรมลงทุกราย บรรดาที่เปนชายสักข้อมือแล้วก็ดี ลูกหมู่ก็ดี ถ้าเจ้าหมู่เดิมยังไม่ได้ยอมยกหักให้แก่ผู้ใดไปก่อนตัวถึงแก่กรรม ตัวเลขแลลูกหมู่บรรดาซึ่งเปนชายทั้งปวงนั้นก็มีพระราชกำหนดได้ตกเปนไพร่หลวงทั้งสิ้น ถึงกระนั้นบุตรหลานแลญาติของผู้ตาย ก็เคยกราบทูลพระกรุณาขอพระราชทานทั้งหมดบ้าง แบ่งเอาแต่พอควรบ้างไว้เปนกำลังราชการ ก็เคยทรงพระกรุณาโปรดให้หักยกพระราชทานให้ แต่ทาสที่มีค่าตัวแท้ก็โปรดให้แบ่งปันไปตามมรดกให้แก่ญาติ แม้นซึ่งไม่ได้เปนข้าราชการก็มีบ้าง แต่คนเชลยที่ผู้นั้นไปตีทัพมาได้ ได้ยกพระราชทานไว้ไม่เอาเปนหลวงแต่เดิมนั้น ถ้านายถึงแก่กรรมแล้วควรต้องเปนหลวงทั้งชายทั้งหญิงจึงจะชอบ แต่การที่เคยมาเห็นแบ่งกันไปเปนมรดกดังทาสนั้นก็มี ว่ามาทั้งนี้ให้เห็นแบบแผนเยี่ยงอย่างแต่ฉะเพาะว่าในคนระบาทว์ ว่าคนซึ่งตกเปนระบาทว์หลวงนั้น มีธรรมเนียมว่าสุดแต่พระราชหฤทัยของพระเจ้าแผ่นดิน จะพระราชทานผู้ใดๆ ไปก็ได้ เหลือนั้นจึงให้สักไว้เปนคนหลวงในกรมไพร่หลวงนั้นทั้งชายทั้งหญิง ถึงคนเปนหนี้เงินหลวงมากทั้งตัวทั้งบุตรทั้งภรรยา ต้องเกาะครองมาเร่งเงินหลวงไม่ได้แล้วก็ต้องสักเปนคนหลวงเหมือนคนระบาทว์ก็มีเปนอันมาก บางทีคนเปนหนี้หลวงมีทาสชายหญิง เอาตัวทาสมาส่งแทนหักเงินหลวงไปตามค่าตัว คนที่เปนลูกทาสเกิดในเรือนเบี้ยก็ส่งหักเงินหลวงตามกระเษียรอายุ ตัวคนพวกนั้นจะหาเงินค่าตัวตามศาลกรมธรรม์แลกระเษียรอายุส่งใช้แทนเงินหลวงก็ได้ ถ้าส่งมิได้ยอมตัวให้สักแล้วก็ตกเปนคนหลวง
การซึ่งว่าคนซึ่งควรจะสักเปนหลวงยังไม่ได้สัก เคยพระราชทานไปแก่พระเจ้าลูกเธอ พระเจ้าหลานเธอ แลเจ้าจอมข้างในนั้นๆ เหมือนอย่างครั้งระบาทว์หม่อมไกรสรนั้น พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวก็เคยพระราชทานแจกบ่ายไปแก่เจ้าฝ่ายใน แลพระเจ้าลูกเธอทั้งฝ่ายหน้าฝ่ายในไปเปนอันมากเปนตัวอย่างอยู่ เพราะเหตุนี้จึงเห็นว่าคนระบาทว์ซึ่งได้มาใหม่ ยังไม่ได้สักแลทั้งชำระอยู่นั้น ก็ตกอยู่ในพระราชประสงค์ของพระเจ้าแผ่นดิน สุดแต่จะทรงพระกรุณาโปรด ก็บัดนี้บางทีผู้ซึ่งควรจะได้รับพระราชทานคนระบาทว์ซึ่งยังไม่ได้สักไปเปนกำลังราชการนั้น มีความต้องการขอคนหลวงที่สักแล้วบ้างลูกหมู่คนหลวงบ้างว่าเปนญาติพี่น้องพวกพ้องคุ้นเคยแลอื่นๆ ครั้นจะยอมหักชักเย้ยให้ ก็เปนทางที่ให้คนหลวงดิ้นรนวุ่นวายไป บัดนี้จึงได้คิดอ่านจัดเอาคนระบาทว์ใหม่ ซึ่งยังอยู่ในใต้พระราชประสงค์พระเจ้าแผ่นดินนั้น เปลี่ยนเอาคนสักแล้วแลลูกหมู่เก่าให้ไปตามประสงค์ของผู้ขอบ้าง ช่วยคนใหม่ตามค่าตัวแล้วเลือกเอาแต่ที่จะยอมสักเปนคนหลวง มาสับเปลี่ยนถอนยกคนเก่าแลลูกหมู่เก่าให้ไปบ้าง เมื่อได้เปลี่ยนแล้วดังนี้ขอผู้ชำระที่เปนธรรมจงได้รู้ แล้วแลตัดสินคนที่เปลี่ยนไปนั้นเปนอันขาดหมู่จากคนหลวงไป จึงจะชอบด้วยราชการแผ่นดินอันเปนยุติธรรม ขออย่าได้ฟื้นฝอยหาตะเข็บขุดคุ้ยกลับว่าคนที่ได้เปลี่ยนคนหลวงให้ไปนั้นเปนเปลี่ยนคนหลวงอีกเลย
ก็เพื่อจะให้เห็นสำคัญว่าได้เปลี่ยนตัวให้แล้วนั้น จึงได้ทำคำประกาศนี้ให้ไว้เปนสำคัญ ก็ถ้าผู้บังคับบัญชาราชการแผ่นดินจะมิฟังคำประกาศนี้ ก็จะได้เปนที่ได้ความบัดสีความละอายแก่คนเปนอันมาก จะเปนที่นินทาครหาว่าโลภล่วงประมาณการยุติธรรมไป เพราะพระเจ้าแผ่นดินถึงจะสั่งอะไรก็สั่งสิทธิ์ขาดได้ ก็เมื่อคิดแลกเปลี่ยนให้ไปดังนี้ ก็เปนการที่ดีสุดอยู่แล้ว ดังเช่นว่ากันว่าของหลวงไม่ให้ขาดของราษฎร์ไม่ให้เสีย คิดเพื่อหน้าเพื่อหลัง ทั้งคิดถึงราชการแลคิดถึงคนควรอนุเคราะห์ ก็ท่านผู้ใดมีอำนาจในฝ่ายหน้า เมื่อจะคิดอย่างไรๆ ไปก็จงคิดถึงตัวบ้างเถิด อย่าเมามายเตลิงเตลิดไปนักเลย ขอให้คุมสติไว้ให้ดีๆ เพราะยามดียามร้ายยามงามยามยาก ได้พบมามากแล้วจึงคิดการหน้าหลังตลอดไปได้