สนธิสัญญาระหว่างประเทศไทยกับประเทศญี่ปุ่น ว่าด้วยการจำเริญสัมพันธไมตรี และต่างเคารพบูรณภาพอาณาเขตแห่งกันและกัน

สมเด็จพระราชาธิบดี พระมหากษัตริย์แห่งประเทศไทย และสมเด็จพระราชาธิบดี พระจักรพรรดิแห่งประเทศญี่ปุ่น

มีพระราชประสงค์จริงจังเท่าเทียมกันในอันจะยืนยัน และยังความผูกมิตรภาพ ซึ่งมีสืบเนื่องมาในระหว่างประเทศไทยกับประเทศญี่ปุ่น ให้แข็งแรงยิ่งขึ้น และ

ทรงตระหนักว่า สันติภาพและเสถียรภาพแห่งเอเชียตะวันออก เป็นกิจเกี่ยวข้องร่วมกันแห่งรัฐทั้งสอง

จึงได้ทรงตกลงทำสนธิสัญญา และเพื่อการนี้ ได้ทรงตั้งผู้มีอำนาจเต็ม คือ

ฝ่ายสมเด็จพระราชาธิบดี พระมหากษัตริย์แห่งประเทศไทย

พระยาศรีเสนา ประถมาภรณ์มงกุฎไทย อัครราชทูตประจำพระราชสำนักสมเด็จพระราชาธิบดี พระจักรพรรดิแห่งประเทศญี่ปุ่น

ฝ่ายสมเด็จพระราชาธิบดีพระกรพรรดิแห่งประเทศญี่ปุ่น

ฮาชิโร อารีตา สยซันมิ กยอกุยิดซึ ชั้นหนึ่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแห่งสมเด็จพระราชาธิบดีพระจักรพรรดิ

ผู้ซึ่งเมื่อได้ส่งหนังสือมอบอำนานเต็มของแต่ละฝ่าย ให้แก่กันและกัน และได้ตรวจเห็นว่าเป็นไปตามแบบที่ดีและถูกต้องแล้ว ได้ทำความตกลงกันเป็นข้อ ๆ ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑

อัครภาคีผู้ทำสัญญานี้ต่างจะเคารพบูรณภาพอาณาเขตแห่งกันและกัน และในที่นี้ ยืนยันสันติภาพเป็นนิจและมิตรภาพเป็นนิรันดรที่มีอยู่ระหว่างกัน

ข้อ ๒

อัครภาคีผู้ทำสัญญานี้ ต่างจะรักษาไว้ซึ่งการติดต่อกันฉันมิตร เพื่อแลกเปลี่ยนข่าวสาร และปรึกษาหารือกันในปัญหาข้อหนึ่งข้อใด เกี่ยวกับผลประโยชน์ร่วมกันอันจะพึงมีขึ้น

ข้อ ๓

ในกรณีที่อัครภาคีผู้ทำสัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ถูกอานุภาพภายนอกใด ๆ จะเป็นประเทศเดียวหรือหลายประเทศโจมตี ภาคีอีกฝ่ายหนึ่งรับรองว่าจะไม่ให้ความช่วย หรือความช่วยเหลือแก่อานุภาพที่กล่าวนั้น เป็นการปฏิปักษ์ต่อภาคีฝ่ายที่ถูกโจมตี

ข้อ ๔

สนธิสัญญานี้จะได้รับสัตยาบัน และจะได้แลกเปลี่ยนสัตยาบันกัน ณ กรุงเทพฯ โดยเร็วที่สุดที่จะเป็นไปได้

ข้อ ๕

สนธิสัญญานี้ให้เริ่มใช้ตั้งแต่วันแลกเปลี่ยนสัตยาบันเป็นต้นไป และให้คงใช้อยู่เป็นกำหนดเวลาห้าปี นับแต่วันที่ว่านั้น

ในกรณีที่อัครภาคีผู้ทำสัญญา ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดมิได้บอกกล่าวเจตนาที่จะเลิกสนธิสัญญาแก่อีกฝ่ายหนึ่งหกเดือนก่อนสิ้นกำหนดเวลาห้าปีดังกล่าวแล้ว สนธิสัญญานี้จะได้คงใช้อยู่ต่อไปจนกว่าจะสิ้นกำหนดหนึ่งปี นับแต่วันที่ภาคีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจะได้ให้คำบอกกล่าวเช่นว่านั้น

เพื่อเป็นพยานแก่การนี้ ผู้มีอำนาจเต็มของแต่ละฝ่ายได้ลงนาม และประทับตราสนธิสัญญานี้ไว้เป็นสำคัญ

ทำคู่กันเป็นสองฉบับ ณ กรุงโตกิโอ เมื่อวันที่สิบสองเดือนที่สาม พุทธศักราชสองพันสี่ร้อยแปดสิบ

(ลงนาม) ศรีเสนา

(ลงนาม) อาริตา (อักษรญี่ปุ่น)

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ