๑๖

แมนจูเรีย! เซรายาโวของตะวันออก!

เดี๋ยวนี้แมนจูเรียกำลังจะระเบิดแล้ว–แมนจูเรียที่ไม่มีภูเขาไฟแต่ก็จะต้องมีภูเขาไฟ ข้าพเจ้านึกไปถึงประเทศเพื่อนบ้านในตะวันออก ประเทศเหล่านั้นได้ล่มจมไปหลายประเทศ หลังจากศตวรรษที่ ๑๗ ลัทธิจักรพรรดินิยมได้ข้ามทะเลเข้ามาปล้นเอาทุกสิ่งทุกอย่างไป–ปล้นเอาไปแม้จนกระทั่งผ้าที่พันกายของราษฎรผู้เป็นเจ้าของบ้าน ท่านต้องการทราบไหมว่าใครเป็นผู้ปล้น? ท่านคิดหรือว่าทุกวันนี้เรามีสิทธิเสรีภาพพอเพียงแล้ว ที่จะพูดถึงความสกปรกโสมมที่มนุษย์ได้ประพฤติต่อกัน? ท่านคิดหรือว่า ในท่ามกลางกลิ่นหอมหวนของลัทธิประชาธิปไตย ที่เขาพูดกันว่าเจ้าแม่แห่งเสรีภาพอันโอ่อ่าสวยงามมานั่งเป็นประธานอยู่นี้ เราสามารถจะพูดอะไรได้เพื่อความถูกต้องและเพื่อความยุติธรรม? ท่านเชื่อหรือว่าเราสามารถพูดถึงความโสมมของเทวดาผู้มีอำนาจบางคนได้ ทั้ง ๆ ที่เขาเขียนป้ายประกาศปิดไว้อย่างสวยงามว่าราษฎรเป็นเจ้าของแผ่นดิน และอำนาจสูงสุดเป็นของราษฎร? ท่านคิดหรือว่าโลกนี้มีเสรีภาพที่สวยงามอย่างแท้จริงแล้ว? เสรีภาพควรจะแปลว่าเดี๋ยวนี้เสรีภาพเป็นของใครแน่? เป็นของชนกลุ่มน้อยผู้ครองโลก หรือเป็นของราษฎรส่วนใหญ่ผู้เป็นเจ้าของโลก? แต่ก่อนเสรีภาพเป็นของผู้เผด็จการ ความเป็นทาสเป็นของราษฎร เดี๋ยวนี้ “เขาว่า” ลัทธิเผด็จการได้ถูกกวาดล้างไปหมดแล้ว แต่ท่านคิดหรือว่าเสรีภาพได้กลับคืนมาเป็นของราษฎรส่วนใหญ่แล้ว?

จากศตวรรษที่ ๑๗ มาจนถึงศตวรรษปัจจุบัน ข้าพเจ้าได้แลเห็นเรื่องละครแห่งความสลดใจหลายเรื่องหลายฉาก มันเป็นละครที่เล่นไม่จบเรื่อง—ละครของการปล้นสะดม—ละครของความกดขี่บีบบังคับทั้งทางอ้อมและทางตรง ชาติมนุษย์ผู้เอากำเนิดมาในตะวันออก ได้ถูกปล้นอิสรภาพไปจนกระทั่งไม่มีที่ใดที่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยเสรีภาพอันสมบูรณ์ ละครเหล่านี้ได้บอกความจริงให้แก่ข้าพเจ้าข้อหนึ่ง ความจริงข้อนี้ข้าพเจ้าคิดว่ายากที่จะเปลี่ยนเป็นอื่นได้ ถ้าการศึกษาของมนุษยชาติยังมีสภาพและความมุ่งหมายเป็นอยู่ดังเช่นในเวลานี้ ตลอดเวลาสองร้อยปีที่แล้วมา ตะวันออกได้นองแน่นไปด้วยการปล้นแผ่นดินปล้นอิสรภาพ ผู้ที่หนีรอดอยู่ได้เป็นผู้ที่มีโชคดีเกินที่จะคาดฝัน เมืองไทยก็เป็นประเทศหนึ่งที่มีโชคดี จนกระทั่งพวกเราคนไทยไม่อาจจะเข้าใจอะไรได้เหมือนกัน การปล้นสะดมเหล่านี้ได้กระทำโดยฝีมือของผู้ที่เจริญแล้ว และการกระทำนั้นได้หว่านเมล็ดพืชแห่งความชั่วร้ายไว้ในแผ่นดินของตะวันออกตราบจนกระทั่งบัดนี้ ความอลหม่านทั้งปวงที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เป็นผลทั้งทางตรงทางอ้อมของการปล้นสะดมครั้งนั้น อย่างน้อยการปล้นเหล่านี้ก็เป็นตัวอย่างที่เตือนใจให้ชาวตะวันออกผู้มากไปด้วยความโลภหลง บังเกิดโลภเจตนาที่จะกระทำการอันมีลักษณะคล้ายคลึงกับการกระทำของนักปล้นผู้เจริญ ซามูไรญี่ปุ่นได้ตื่นขึ้นภายหลังที่ตะวันออกเกือบจะเป็นโคโลนีไปหมดแล้ว เกือบไม่มีอะไรเหลือสำหรับลูกพระอาทิตย์ที่จะเข้าครอบครองตลาดและแหล่งวัตถุดิบสำหรับป้อนโรงงานในบ้านของตน มันเป็นเรื่องของใครดีใครได้ ทีใครทีมัน แต่การตื่นสายไม่ได้หมายความว่าจะหยิบฉวยอะไรบ้างไม่ได้ อย่างน้อยแมนจูเรียและแผ่นดินจีนทั้งผืนก็ยังรออยู่ตรงหน้า นั่นคีอวงไพบูลย์ร่วมกัน–วงไพบูลย์ที่มีญี่ปุ่นเป็นเจ้าใหญ่นายโต–วงไพบูลย์ที่ญี่ปุ่นพร้อมที่จะเป็นผู้ซื้อวัตถุดิบ และผลิตสินค้าสำเร็จออกมาขายแต่ผู้เดียว! มันเป็นความไพบูลย์ที่ญี่ปุ่นจะพบได้ ตั้งแต่มีคนญี่ปุ่นคนแรกเกิดขึ้นในเกาะญี่ปุ่น นั้นเป็นความหวังอันมั่นคงของชามูไรญี่ปุ่น–ความหวังที่สร้างขึ้นเหนือความโลภหลงทะเยอทะยาน–ความหวังที่เอากำเนิดมาจากลัทธิจักรพรรดินิยมของชาวตะวันตก สองร้อยปีของการเดินทางแห่งลัทธิจักรพรรดินิยมของผู้เจริญได้สิ้นสุดลงแล้วที่แมนจูเรีย–ชนวนสายใหญ่ของสงครามโลกครั้งที่สอง!

เหตุการณ์ในคืนวันนั้นได้เปิดเผยละครฉากสำคัญในบปักกิ่งให้ข้าพเจ้าได้ดูอีกฉากหนึ่ง ข้าพเจ้าได้พบวารยา ราเนฟสกายา ข้าพเจ้าได้เห็นความรักและความเศร้าในประกายตาของเธอ ข้าพเจ้าได้พบจวนฟาง ข้าพเจ้าได้เห็นหัวใจรักอันไม่เดียงสาของเธอ–หัวใจที่บริสุทธิ์ไม่มีมลทิน ข้าพเจ้าได้พบจางหลิน ในตัวของชายผู้นี้ข้าพเจ้าก็ได้เห็นความเด็ดเดี่ยวเฉียบขาดมั่นคงอยู่ในความคิดเห็นที่ไม่มีอะไรจะมาเปลี่ยนได้ ข้าพเจ้าได้เห็นความรักในหัวใจอันกว้างขวางของเขา ครั้นแล้วข้าพเจ้าก็ได้มาพบดุสิตแห่งดระกูลหลิว ชายหนุ่มผู้มีเลือดจีนไทยอยู่เต็มร่าง ชายผู้นี้ได้เปิดหัวใจให้ข้าพเจ้าเห็นภายใต้ดวงไฟฟ้าอันแจ่มจำรัสในห้องพักแคบ ๆ ห้องนั้น ข้าพเจ้าได้พบความรักชาติอย่างรุนแรงในหัวใจของเขา เขาต้องการต่อสู้ด้วยชีวิตและวิญญาณเพื่อปิตุภูมิอันเป็นที่เกิดของต้นตระกูล ตระกูลหลิวได้สร้างราชวงศ์ฮั่นขึ้นเมื่อประมาณสองพันปีมาแล้ว และตระกูลนี้เองได้วางรากฐานรากสำคัญยิ่งรากหนึ่งให้แก่ชนชาติจีน บัดนี้จีนได้ถลำเข้าสู่มุมมืดที่เกือบจะไม่มีแสงสว่างแฉกใดส่องลอดเข้าไปได้ และเลือดก้อนน้อยก้อนหนึ่งแห่งราชวงศ์ฮั่นก็เตรียมพร้อมที่จะสละทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อกอบกู้ชาติที่รักให้พันจากความวิบัติอันยากที่จะหลีกเลี่ยงได้ เลือดก้อนนี้มิได้คลายความเข้มลงเลย–เป็นเลือดของนักต่อสู้ที่ไม่ยอมคุกเข่า แม้ว่าความตายจะมารอรับอยู่เบื้องหน้า!

คืนวันนั้นข้าพเจ้านอนคิดอยู่จนนาฬิกาตีสิบสอง ข้าพเจ้าคิดถึงโลกอันประหลาดพิสดาร โลกที่มีดุสิต จางหลิน จวนฟาง วารยา ราเนฟสกายา ตลอดจนประนุทร่วมอยู่ด้วย

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ