คำปรารภ
จำเดิมแต่เรื่อง คนดีที่โลกไม่ต้องการ ได้จบภาคลงด้วยการเล่าความในใจของ จางหลิน และการแสดงตัวของตัวละครสำคัญอีกผู้หนึ่งคือ ดุสิต นักเรียนผู้มีเลือดไทย-จีนซึ่งบังเอิญออกไปศึกษาอยู่ ณ ปักกิ่งในสมัยเดียวกับ ระพินทร์ พรเลิศ เหตุการณ์บ้านเมืองทั้งของไทยและของโลกก็ได้ผันแปรไปอย่างพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ และอย่างรวดเร็วแทบจะติดตามไม่ทัน ความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเช่นนี้ ทำให้ผู้แต่งไม่สามารถจะพิมพ์ ผู้เสียสละ ออกมาได้ในทันทีทันใด เพราะการเมืองต่างประเทศบางประการได้บีบกระแสความในท้องเรื่องอยู่หลายตอน ซึ่งทำให้ผู้แต่งต้องพินิจอยู่ด้วยความยากใจ โดยเหตุนี้ เรื่อง ผู้เสียสละ ซึ่งเป็นนิยายขนาดยาวสืบความจากเรื่อง คนดีที่โลกไม่ต้องการ จึงต้องชะงักอยู่
ผู้เสียสละ เป็นนวนิยายขนาดยาวที่ผู้แต่งมั่นหมายว่าจะต้องเขียนอย่างเต็มฝีมือ เท่าที่ได้จัดเขียนไว้แล้วได้กระทำด้วยความพินิจพิจารณาโดยละเอียด ทั้งนี้เพราะนวนิยายเรื่องนี้เป็น นิยายการเมือง ซึ่งอาจมีการกระทบกระเทือนได้โดยที่ผู้แต่งอาจช่วยอะไรไม่ได้เลย ก่อนที่จะนำมาลงพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ “รุ่งอรุณ” ผู้แต่งก็ได้ตัดทอนและเพิ่มเติมข้อความอีกหลายตอน เพื่อให้เรื่องใกล้ชิดต่อความเป็นจริงและสมใจผู้แต่งยิ่งขึ้น ผู้แต่งขอสารภาพว่าได้เขียนนวนิยายเรื่องนี้ด้วยความสุขใจเป็นพิเศษ ที่สุขใจก็เพราะว่าได้มีโอกาสระบายความในใจออกมาโดยไม่อั้นประตู ผู้แต่งเข้าใจว่าขณะนี้ระบอบประชาธิปไตยของเราได้มีความสมบูรณ์ดีแล้ว เพราะฉะนั้นคงจะเขียนเรื่องนี้ได้โดยไม่มีอุปสรรคอันใดอีก
เรื่อง คนดีที่โลกไม่ต้องการ ได้จบภาคลงด้วยการแนะนำชีวิตและอุดมคติของ จางหลิน ตัวละครสำคัญของเรื่อง เรื่อง ผู้เสียสละ ซึ่งท่านจะได้อ่านต่อไปนี้ เป็นภาคที่แสดงถึงชีวิตในระยะต่อมาของ จางหลิน ท่านที่ยังไม่ได้อ่านเรื่อง คนดีที่โลกไม่ต้องการ แม้มาตั้งต้นอ่านเรื่อง ผู้เสียสละ ก็จะได้ใจความเป็นอย่างดีเช่นเดียวกัน เพราะผู้แต่งได้เท้าความไว้ทุก ๆ ระยะ
แม้ว่าเรื่อง ผู้เสียสละ นี้จะเป็นนวนิยายการเมืองขนาดใหญ่กว่าเรื่องใด ๆ ที่ผู้แต่งเคยทำมา แต่ตลอดเรื่องนี้ท่านจะได้พบชีวิตรักที่ผู้แต่งเข้าใจว่า แม้ผู้ร้ายใจทมิฬก็ย่อมจะขาดความเห็นใจเสียมิได้ ผู้เสียสละ เป็นเรื่องของการต่อสู้ระหว่างอุดมคติทางการเมืองกับความรักที่บริสุทธิ์... เป็นเรื่องของการตัดสินใจครั้งสำคัญที่สุดที่ชีวิตมนุษย์แต่ละคนจะพึงมี ในเกมการเมืองที่แนวมนุษยธรรมกับแนวชาติได้ต่อสู้กันอยู่ด้วยความเป็นความตายนี้ ความรักที่มนุษย์ทุกคนไม่อาจปฏิเสธเสียได้ ได้แฝงตัวอยู่เบื้องหลัง และไม่ได้แฝงตัวอยู่เงียบ ๆ หากได้กลายเป็นปัญหาชีวิตที่สำคัญที่สุดที่คู่ต่อสู้ในเกมการเมืองจะต้องตัดสินใจระหว่างส่วนตัวกับส่วนรวม
ผู้แต่งเข้าใจว่า เรื่อง ผู้เสียสละ นี้ เป็นนวนิยายการเมืองที่ผู้แต่งพอใจมาก และเชื่อว่าคงจะเป็นที่พอใจท่านผู้อ่านบ้างตามมากและน้อย
สด กูรมะโรหิต
พญาไท
๑ สิงหาคม ๘๙