๑๕
ข้าพเจ้ายืนฟังคนทั้งสี่พูดกันอยู่อีกครู่หนึ่ง เรื่องที่เขาพูดกันเป็นเรื่องที่ทำให้ใจเต้น มันเป็นเรื่องที่เต็มไปด้วยความเร่าร้อนปั่นป่วนของจิตใจ—เป็นเรื่องที่บอกข้าพเจ้าว่าพายุร้ายกำลังจะพัดมา การเคลื่อนไหวของจีนหนุ่มที่ประจักษ์ตาอยู่ ณ บัดนี้ อย่างน้อยก็เป็นการเคลื่อนไหวที่ดำเนินรอยตาม หวู่ซื่อยุ่นตุ้ง ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญครั้งแรกของเหล่านักศึกษาจีนเมื่อประมาณเกือบยี่สิบปีมาแล้ว หวู่ซื่อยุ่นตุ้งเป็นการปฏิวัติครั้งใหญ่ในด้านชีวิตจิตใจของนักศึกษาชาวจีน เป็นการแสดงอำนาจของมติมหาชนก้อนใหม่ที่สามารถบังคับเสียงและการกระทำของรัฐบาลได้ การเคลื่อนไหวครั้งนั้นเป็นแบบฉบับอันศักดิ์สิทธิ์ที่นักศึกษาจีนยึดถือเป็นแนวปฏิบัติสืบต่อมา นั้นเป็นผลอันหนึ่งของการศึกษาแบบตะวันตก–การศึกษาที่เปิดฟ้าเมืองจีนให้สว่างจ้าไปด้วยแสงสว่างของประชาธิปไตย จีนหนุ่มทุกคนได้สำนึกในสิทธิเสรีภาพของตนว่า ตนเป็นเจ้าของแผ่นดินจีนร่วมกัน มิใช่ใครคนหนึ่งหรือคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แผ่นดินจีนเป็นของเขา เขาเป็นผู้ปกครองแผ่นดินผืนนี้ ความสำนีกอันนี้เป็นหัวเลี้ยวที่สำคัญยิ่งของมติมหาชนก้อนใหม่–มติมหาชนที่ทำการปฏิวัติทุกสิ่งทุกอย่างในแผ่นดินจีนเพื่อประโยชน์ร่วมกันของชาวจีน หวู่ซื่อยุ่นตุ้ง คือที่เกิดของอานุภาพแห่งกำลังใจของนักศึกษาหนุ่มสาวชาวจีนซึ่งเป็นกำลังอันใหญ่ยิ่งที่อยู่เหนือกำลังอื่นใด ข้าพเจ้าเชื่อว่าถ้าอานุภาพอันนี้ได้รับการบังคับให้พุ่งไปตามวิถีทาง อันมีจุดหมายที่ถูกต้องโดยสม่าเสมอแล้ว จีนก็จะก้าวไปสู่ความสงบความรุ่งเรืองได้ถนัดขึ้น และถ้าได้รับความสำนึกในสันติภาพส่วนรวมของมนุษยชาติเข้าไว้อย่างแนบแน่นด้วยอีกแล้ว ก็จะเป็นกำลังสำคัญแนวหนึ่งที่จะช่วยจรรโลงโลกแห่งความเป็นบ้าหลังนี้ให้มีความน่าอยู่มากขึ้น สำหรับชาวโลกส่วนใหญ่ที่ต้องการจะมีชีวิตอยู่ด้วยความสุขสงบ
ใจความที่คนทั้งสี่พูดกันมีจุดสำคัญพุ่งไปทางญี่ปุ่น เขาเชื่อแน่ว่าญี่ปุ่นจะต้องยึดแมนจูเรียในไม่ช้านี้–แมนจูเรียที่อยู่ใต้ร่มธงของจางโซเหลียง–ลูกชายของจางโซหลิน–กษัตริย์ผู้ไม่มีมงกุฎจะสวม! แมนจูเรียจะอยู่ในอิทธิพลของนายพลจีนคนใดก็ตาม แต่ก็เป็นแผ่นดินที่ชาวจีนถือว่าเป็นของตนอยู่นั่นเอง แผ่นดินผืนนี้มีประวัติการณ์อันเต็มไปด้วยความยุ่งยากแห่งกลุ่มการเมืองในตะวันออกไกล เชอร์วูดเอ็ดดี้ได้พยากรณ์ไว้ว่าแมนจูเรียจะเป็นเซรายาโวของตะวันออก ปาฐกคนสำคัญชาวอเมริกันผู้นี้คงจะพูดไม่ผิด เพราะแม้แมนจูเรียจะไม่ใช่ชนวนสุดท้ายของสงครามตะวันออก แต่ก็เป็นชนวนสายใหญ่ที่นำเชื้อเพลิงมาสู่ชนวนสายสุดท้าย สำหรับเหตุการณ์ที่เผชิญหน้าเราอยู่ในขณะนั้น ข้าพเจ้ามีความเห็นว่าแมนจูเรียนับวันจะต้องลุกเป็นไฟ แมนจูเรียจะต้องเป็นกระทะทองแดงใบใหญ่ของตะวันออก–เป็นเมืองนรกที่อยู่บนผิวโลก–นรกที่ลัทธิจักรพรรดินิยมของพวกซามูไรได้เสกสร้างขึ้น!
ข้าพเจ้าถอยออกมาจากหน้าต่างบานนั้น เมื่อคนทั้งสี่อำลากันแยกย้ายไปยังห้องของตนแล้ว เดือนยังส่องแสงสุกสกาวอยู่บนท้องฟ้าฤดูสปริง ลมพัดมาเฉื่อย ๆ ทำให้อากาศโปร่งสบาย แต่แม้กระนั้นก็ดี ในหัวใจข้าพเจ้าก็ยังเต็มไปด้วยความอึดอัด แมนจูเรีย! แมนจูเรีย! ข้าพเจ้ากำลังมีชีวิตอยู่ในรัศมีของลูกระเบิดและปืนใหญ่ของแมนจูเรีย ดูจะเป็นเกมสนุกสำหรับชีวิตคนหนุ่มที่ไม่มีอะไรจะห่วง แต่มันเป็นเรื่องของเลือดและน้ำตา–เรื่องของมนุษย์ที่ควรจะมีชีวิตอยู่ในสมัยหิน ข้าพเจ้ามองดูแมนจูเรียด้วยความรู้สึกที่ปลงอนิจจัง มันจะมีอะไรอีกในโลกนี้นอกจากการยื้อแย่งปล้นสะดมกัน ข้าพเจ้าระลึกไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดแก่ชาติมนุษย์ตั้งแต่ศตวรรษที่ ๑๗ เรื่อยมา เหตุการณ์เหล่านั้นได้แสดงให้เห็นว่าโลกเราเจริญเพราะการปล้นกัน–ปล้นแก้วแหวนเงินทอง ปล้นแผ่นดิน ปล้นอิสรภาพ เสรีภาพ ข้าพเจ้าสลดใจ แต่มีประโยชน์อะไรหรือที่จะสลดใจ ในเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ต้องเป็นไปตามอำนาจของชนหมู่น้อยที่ครองอำนาจอยู่ในประเทศทุกประเทศ ราษฎรส่วนใหญ่ไม่มีอำนาจที่จะผลักดันให้เหตุการณ์ดำเนินไปในทางที่ถูกที่ควร ร้ายยิ่งไปกว่านั้นราษฎรยังถูกอบรม เสี้ยมสอน ยุแหย่ให้เกลียดชังชนชาติอื่น เพื่อเป็นกำลังหนุนหลังให้ชนหมู่น้อยผู้ครองอำนาจสร้างอนุสาวรีย์ของเขาต่อไป อนุสาวรีย์ที่ยิ่งใหญ่สำหรับตัวเขา–ไม่ใช่อนุสาวรีย์สำหรับประชาชนส่วนใหญ่ผู้เป็นเลือดเนื้ออันแท้จริงของประเทศชาติ ความหวังในเรื่องสันติภาพถาวรจะมีอยู่ได้ ก็เพราะราษฎรแต่ละประเทศสามารถเข้าใจกันและเห็นใจกัน แต่ราษฎรเกือบทุกประเทศได้รับแต่การยุแหย่เสี้ยมสอนให้เกลียดชังกันเพื่อประโยชน์ของชนกลุ่มน้อย ในภาวะเช่นนี้เราก็ไม่มีอะไรจะพูดถึงสันติภาพถาวรได้อีก สันติภาพถาวรจะไม่มี–จะมีไม่ได้–ถ้าแม้ราษฎรแต่ละประเทศยังไม่เข้าใจกัน และเมื่อสันติภาพถาวรไม่มี ใครเล่าเป็นผู้รับทุกข์ทรมานใจ ราษฎรใช่ไหม? ชาวโลกทุกครัวเรือนใช่ไหม? ข้าพเจ้ามีความเห็นอย่างที่ไม่มีอะไรจะมาเปลี่ยนได้ว่า ตราบใดที่ราษฎรยังยินยอมให้ชนหมู่น้อยเชิดเล่นเป็นหุ่น–ตราบใดที่ราษฎรยังยอมให้ตนเองถูกยุแหย่ให้เกลียดชังกัน–ตราบนั้นเลือดและน้ำตาของราษฎรก็ยังจะต้องไหลรินอยู่ต่อไป—ขอให้เชื่อเถิด ท่านผู้เจริญทั้งหลาย! ขอให้เชื่อว่าตราบใดที่แนวราษฎรของโลกยังตั้งขึ้นไม่ได้ ตราบนั้นสันติภาพถาวรจะไม่มี!