๑
ท่านกับข้าพเจ้าได้มาอาศัยอยู่ในโลกอันประหลาดพิสดารนี้นานมาแล้ว–นานจนเราเกือบจะเข้าใจอะไรไม่ได้ ทุกสิ่งทุกอย่างมันชินชาไปหมดสิ้น ไม่มีอะไรใหม่ มีแต่ของเก่า ๆ ซึ่งปู่ย่าตาทวดของเราเคยเบื่อหน่าย และเราเองก็เบื่อจนไม่อยากจะมอง ข้าพเจ้าคิดว่าโลกที่เราอาศัยอยู่ทุกวันนี้ ไม่ต่างกับโลกเมื่อวันก่อน ๆ เท่าใดนัก สมัยเมื่อมนุษย์ยังอาศัยอยู่ในถ้ำ–สมัยของมัมมี่ในอียิปต์สมัยของฮันนิบัลและแอตติลลา สมัยของนโปเลียนและไกเซอร์ ตลอดจนถึงสมัยของฮิตเลอร์และจอมเผด็จการอื่น ๆ –สมัยเหล่านี้แม้จะได้ผ่านพ้นไปแล้ว แต่เงาอันดำมืดของมันก็ยังทอดมาคลุมสมัยที่ผ่านตามมาเป็นลำดับกันอยู่เสมอ ไม่เคยมีสมัยใดที่พระอาทิตย์และพระจันทร์สามารถฉายแสงสว่างไสวอยู่ได้นานพอจนกระทั่งมนุษย์สามารถหายใจอากาศอันสดชื่นเต็มไปด้วยอิสรภาพและความสุขได้ชั่วลูกชั่วหลาน เมฆดำจะลอยผ่านมา–เมฆของความชั่วและอารมณ์ฝ่ายต่ำซึ่งเป็นกิเลสจะเผาผลาญมนุษยชาติไปจนกระทั่งนาทีสุดท้าย ท่านผู้เจริญทั้งหลาย บัดนี้ลัทธิเผด็จการและสงครามมหาประลัยได้ผ่านไปแล้วเมื่อปีกลาย แต่ท่านเชื่อหรือว่าสงครามที่ทำให้บ้านเรือนและญาติมิตรของท่านต้องพินาศวอดวายไปเมื่อหยก ๆ นี้เอง จะไม่ผ่านกลับมาอีก? ท่านเชื่อหรือว่ามนุษย์จะไม่จับอาวุธเข้าฆ่าฟันกันอีกใน ๕ ปี ๑๐ ปีข้างหน้า? ท่านเชื่อหรือว่า แม้แต่ลัทธิเผด็จการก็จะไม่หวนกลับมาเยี่ยมเยียนเราอีกก่อนที่เราจะตาย? ท่านเชื่อหรือว่าเราได้เดินทางฝ่ามรสุมของกิเลสออกมาสู่เขตปลอดภัยได้แล้ว? มีอะไรที่สามารถทำให้เราเชื่อได้ว่าสันดานของต้นตระกูลแห่งมนุษยชาติคือวานรผู้เป็นสัตว์เดียรัจฉาน ได้หมดสิ้นไปจากชีวิตจิตใจของมนุษย์ปัจจุบันแล้วทุกตัวคน? เงินกับอำนาจ–ยศศักดิ์และความเป็นใหญ่เหล่านี้ ไม่ได้เป็นสิ่งที่มนุษย์หลายคนเขาต้องการดอกหรือ? สิ่งเหล่านี้เป็นชนวนของความฉิบหายขายตัวของสัตว์เมือง เป็นต้นเหตุแห่งความเป็นทาสของมนุษย์ เป็นที่มาของสงคราม แต่สิ่งเหล่านี้ได้หมดสิ้นไปจากสันดานของมนุษย์หลาย ๆ คนแล้วหรือ?
ท่านผู้อ่านที่รัก ขอให้เรามาพูดกันอย่างตรงไปตรงมา อย่างสุจริตและเปิดเผย ข้าพเจ้าต้องการความเห็นของท่าน ข้าพเจ้าต้องการให้ท่านใช้วิจารณญาณที่ท่านได้มาจากธรรมชาติ พิจารณาดูให้ถ่องแท้โดยปราศจากอกติใดๆ ว่า ทุกวันนี้ความยุติธรรมที่มนุษย์ควรจะได้ ได้มีอยู่ในสังคมของเราอย่างพอสมควรแล้วหรือ? สงครามที่ได้จบเกมลงไปเมื่อปีกลาย ได้สัญญาอะไรให้แก่เราบ้างว่า ระบอบของความยุติธรรมและมนุษยธรรมจะมีอยู่ในโลกนี้ได้อย่างสมบูรณ์? ข้าพเจ้าไม่คิดว่าเราจะได้พบอะไรที่พิเศษและดีกว่าระบอบที่ครองโลกมาแล้วตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ คือระบอบของความเห็นแก่ตัว เห็นแก่พวกพ้อง สันนิบาตชาติได้จบชีวิตที่ควรจะรุ่งโรจน์ลงเพราะความเห็นแก่ตัว ซึ่งทำให้ความเสียสละหมดทางจะงอกงามขึ้นได้ มนุษย์ผู้ถือบังเหียนการเมืองของโลก ได้คิดและพูดสิ่งที่สวยงามที่สุดของระบอบการดำรงชีวิตแห่งมนุษยชาติ แต่การคิดและการพูดเหล่านั้นได้ปิดฉากลงเพียงที่หน้าไมโครโฟน ไม่ได้รับการส่งเสริมและปฏิบัติให้เกิดความสืบเนื่องติดต่อกันจนกระทั่งสามารถเกิดประโยชน์อันแท้จริงแก่มนุษยชาติได้ ข้าพเจ้ามีความเห็นว่า ความล้มเหลวของระบอบมนุษยธรรมทุกยุคทุกสมัย เป็นเข็มนาฬิกาที่วัดความเจริญทางจิตใจของมนุษย์ทั้งโลก มันเป็นเครื่องแสดงว่าจิตใจของคนเจริญช้ากว่าความเจริญในด้านวัตถุ ความฉลาดของคนในการสร้างเครื่องประหารชีวิตที่ได้ผลแน่ที่สุดสำหรับใช้ในการรณรงค์สงคราม เป็นเรื่องของความขบขันที่สุดเมื่อพูดถึงจิตใจอันควรจะเจริญแล้วของคนในศตวรรษปัจจุบัน ข้อเท็จจริงเหล่านี้ได้บ่งชัดว่า ระบอบของมนุษยธรรมยังคงเป็นความฝันอยู่ตามเดิม ทั้งนี้เพราะว่าจิตใจส่วนใหญ่ของชาวโลกยังจมอยู่ในปลักของความเห็นแก่ตัว และเห็นแก่พวกของตัว!