๑๘. เฮ่งเสียง

ครั้งสามก๊กตอนปลาย ที่เมืองลิ่มขี มีชายคนหนึ่งชื่อเฮ่งเสียง กำพร้ามารดามาตั้งแต่เยาว์ มีมารดาเลี้ยงชื่อนางจูสี นางจูสีเป็นคนริศยาเฮ่งเสียงผู้เปนบุตรเลี้ยง หาเหตุให้บิดาเกลียดชังเฮ่งเสียงเนือง ๆ แต่เฮ่งเสียงเป็นคนฉลาดมีไหวพริบ หากถูกบิดาด่าตีเพียงเล็กน้อยก็สู้ทนให้ด่าตีตามอารมณ์ชอบ เมื่อรู้ว่าบิดาโกรธจัดก็พยายามหลบหลีกเสียก่อน จนกว่าบิดาหายโกรธจึงจะกลับมา บิดาเฮ่งเสียงเป็นคนมั่งคั่งด้วยทรัพย์สิน ทั้งมีบุตรฉะเพาะเฮ่งเสียงคนเดียว เมื่อบุตรเติบใหญ่ก็ให้เล่าเรียนหนังสือกับอาจารย์ เฮ่งเสียงอุตส่าห์เล่าเรียนอยู่จนสำเร็จพอดีบิดาถึงแก่กรรม จึงลาอาจารย์กลับมาจัดการศพบิดา แล้วอยู่ปรนนิบัติมารดาเลี้ยงด้วยความเคารพ มารดาเลี้ยงไม่มีบุตรอีก เมื่อสามีตายแล้วก็หายชิงชังเฮ่งเสียง กลับรักใคร่เฮ่งเสียงประดุจลูกของตนเอง เพราะความเคารพรักใคร่และความเอาใจใส่ปรนนิบัติของเฮ่งเสียงเป็นเหตุประกอบด้วย มารดาเลี้ยงเป็นคนชอบกินปลา ถ้าวันใดไม่มีปลา ก็เกือบจะไม่กินเข้าเลย ในฤดูหนาววันหนึ่งมารดาป่วยอยากกินปลาสด ให้คนไปหาซื้อก็ไม่ได้ เหตุด้วยหนาวจัดน้ำแข็งไปทุกแห่งหน ชาวประมงไม่สามารถลงจับปลาได้ มารดาจะไม่กินเข้า เฮ่งเสียงก็ร้อนใจนัก จึงไปที่บึงแห่งหนึ่ง ตั้งใจจะเจาะน้ำแข็งลงจับปลา จึงเปลื้องเสื้อนอกกองไว้แล้วพยายามเจาะน้ำแข็ง ขณะนั้นปลาตะเพียนดันน้ำแข็งขึ้นมาสองตัว เฮ่งเสียงดีใจรีบจับปลาไปทำกับข้าวให้มารดากิน เมื่อเฮ่งเสียงจับปลานั้น มีคนอยู่ที่โรงนาหลายคน คนเหล่านั้นเห็นเฮ่งเสียงได้ปลาตะเพียนไป ต่างก็เกิดอัศจรรย์ใจ ฝ่ายมารดาเฮ่งเสียงได้กินปลาแล้วก็ทุเลาความเจ็บไข้จนหายเป็นปกติ

สมัยนั้นลื่อเคียน เป็นเจ้าเมืองชื่อจิว ทราบว่าเฮ่งเสียงเป็นคนมีความกตัญญูกตเวทีมั่นคง และมีสติปัญญาสามารถพอจะช่วยราชการให้ดำเนินไปเป็นผลดีเรียบร้อยได้ จึงแต่งคนให้เชิญสิ่งของมาให้แก่เฮ่งเสียง และวิงวอนขอให้ไปช่วยทำนุบำรุงบ้านเมือง เฮ่งเสียงยอมรับตามคำขอ จึงลามารดาไปทำราชการอยู่ด้วยลื่อเคียน ๆ ตั้งเฮ่งเสียงเป็นเบียดเก่ ตำแหน่งที่ปรึกษาการเมือง ตั้งแต่ลื่อเคียนได้เฮ่งเสียงมาเป็นที่ปรึกษา การตัดสินถ้อยความก็ยุตติธรรม โจรผู้ร้ายเบาบางลงโดยลำดับ ราษฎรชื่นชมยินดียิ่งนัก บ้านเมืองร่มเย็นเป็นสุข ครั้นงุ่ยเฮียงกงโจ๊ฮวนได้ครองราชสมบัติณเมืองงุ่ย ซือม้าเจียวให้เฮ่งเสียงไปรับราชการที่เมืองหลวงแล้วตั้งเฮ่งเสียงให้เป็นไทอ่วย ตำแหน่งขุนนางเใหญ่

เมื่อซือม้าเอียมเป็นจินอ๋องแล้ว ซุ่นค้ายชักชวนเฮ่งเสียงไปเฝ้า เวลาเช้าขณะไปเฝ้า ซุ่นค้ายคำนับลงอย่างเต็มยศ แต่เฮ่งเสียงทำเพียงคำนับอย่างสามัญ ซือม้าเอียมมีความยินดีที่ได้เห็นเฮ่งเสียงทำความเคารพอย่างปกติ ไม่แสดงอาการประจบประแจงงตรัสแก่เฮ่งเสียงว่า วันนี้ข้าพเจ้าได้เห็นท่านมีความนับถือข้าพเจ้ามากอยู่ ต่อมาไม่นานจินอ๋องได้ปราบดาภิเศกเป็นพระเจ้าจีนบูฮ่องเต้ปฐมกษัตริย์ราชวงศ์จิ้น ณ ปีระกา พุทธศักราช ๘๐๘ ทรงเลื่อนเฮ่งเสียงซึ่งเป็นตำแหน่งไทอ่วยให้เป็นตำแหน่งไทเป่า พระราชทานบ้านหลวงให้เฮ่งเสียงอยู่บ้านหนึ่ง ขณะขึ้นบ้านใหม่ ขุนนางทั้งปวงเอาของไปช่วยเป็นอันมาก เฮ่งหยงผู้หลานสรรเสริญเฮ่งเสียงว่ามีความซื่อสัตย์มั่นคงไม่เอนเอียงไปทางสอพลอ ถึงเวลาควรพูดก็พูดจาแน่นอน ประกอบแต่ความดีจริง ๆ ไม่นิยมความชั่วช้าเข้ามาปะปน ใคร ๆก็น่าสรรเสริญ.

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ