- คำของผู้รวบรวม
- คำนำของสำนักพิมพ์
- ๑. กลถอนกล
- ๒. แข่งอูฐในประเทศสุด่าน
- ๓. กลแก้กัน
- ๔. หนังสือแลคำพูด
- ๕. สักรวามืด
- ๖. แบ่งทรัพย์กัน
- ๗. ป้าเกตกับกวีนวิกตอเรีย
- ๘. คุกใหม่ของอเมริกา
- ๙. ยุคน้ำมัน
- ๑๐. เทศบาลเกาะหิน ใน พ.ศ. ๒๔๙๘
- ๑๑. รู้ใจคน
- ๑๒. พระมเหสีพระเจ้านโปเลียนที่ ๓
- ๑๓. เรื่องเศรษฐีพิษณุโลก
- ๑๔. มหาภารตะ
- ๑๕. หัสการ
- ๑๖. ปเกียรณการมภ์
- ๑๗. วิธีของหัวหน้าคน
- ๑๘. เรื่องของกองสอดแนมที่กรุงปารีส
- ๑๙.การค้าทาสในเวลานี้
- ๒๐. คำตัดสินของปารีส
- ๒๑. ลอกร่องน้ำสันดอน และ ขยายท่ากรุงเทพ ฯ
- ๒๒. เรื่องแจวเรือจ้าง
แข่งอูฐในประเทศสุด่าน
๑คำต่อไปนี้เขียนตามคำของข้าราชการอังกฤษคนหนึ่งซึ่งเคยเป็นกาวะนาในสุด่าน คำนั้นพูดทางวิทยุกระจายเสียงจากลอนดอน คำที่เราเขียนนี้กล่าวพอได้ความ ไม่ใช่คำแปล
ต่างว่าท่านเป็นเพื่อนไปหาข้าพเจ้าในประเทศสุด่าน และข้าพเจ้าเป็นกาวะนาอยู่ในมณฑลหนึ่งของประเทศนั้น มณฑลของข้าพเจ้ามเนื้อที่ใหญ่กว่าเกาะอังกฤษแลสก็อตแลนด์แลไอร์แลนด์รวมกัน แต่มีพลเมืองเพียง ๑ แสนถึง ๔ แสนคนเท่านั้น กาวะนาเย็นเนอราลคนก่อนซึ่งเป็นหัวหน้าของเรา ซึ่งเป็นพวกข้าราชการในประเทศนั้นเคยกล่าวว่างานที่ดีที่สุดของเราในประเทศสุดาน ก็คือสิ่งที่เราไม่ได้ทำ เป็นคำกล่าวซึ่งเป็นคติมาก ๆ
ท่านกับข้าพเจ้านอนอยู่บนหลังคา (ซึ่งท่ำเป็นดาดฟ้า) นอนที่นั่นเพราะค่อยร้อนน้อยกว่าที่อื่น พอเช้าแดดก็มาปลุกเราให้ตื่น เราลุกขึ้นนั่งดูไปในที่ราบ เห็นฝุ่นฟุ้งไปตามทางรอบ ๆ คือฝูงสัตว์ซึ่งเขาต้อนไปหากิน มันเตะฝุ่นตระหลบไปทั้งนั้น เราลุกขึ้นแต่งตัวแล้วก็ไปขี่ม้า พบยายคนขายน้ำนม เราก็หยุดพูดกับแก ให้พรที่ลูกของแกได้เลื่อนตำแหน่งเป็นนายสิบโทโปลิศ เราวิ่งม้าไปอีกประเดี๋ยวก็พบหมู่อูฐบรรทุกข้าวชนิดหนึ่งไปขายตลาด แลพบรถยนต์บรรทุกเมล็ดงาสวนทางกัน เรากลับถึงเรือนก็กินข้าวเช้าที่เฉลียงเรือน และบอกพ่อครัวว่า บ่ายวันนี้เราจะไปเดินทางค้างคืน และบอกคนเลี้ยงม้าว่าเราจะไม่เล่นคลีบ่ายวันนี้ เพราะจะไม่อยู่ กินข้าวเช้าแล้ว เราเดินไปออฟฟิศ ซึ่งปลูกใต้ร่มไม้ มีลาของเสมียนผูกอยู่ ลานั้นเป็นพาหนะซึ่งเสมียนใช้ขี่มาทำงาน ข้าพเจ้าเปิดแผงหนังสือให้ท่านดู และชี้แผนที่ให้ท่านทราบตำแหน่งแห่งที่ต่าง ๆ ในแถบนั้น
เราเดินไปเยี่ยมศาลชำระความ ศาลนั้นทำด้วยดินมุงด้วยแฝก พอเราเข้าไปในศาล พวกผู้ใหญ่บ้านและเสมียนศาล ก็คำนับเราแล้วเชิญให้นั่ง เมื่อเรานั่งแล้ว ก็ว่าความกันต่อไป เรานั่งฟังชำระความแล้วนึกในใจว่า พวกตุลาการที่นั่งอยู่กับพื้นเหล่านี้ รู้จักเล่ห์เหลี่ยมบิดเบี้ยวในใจลูกความดีนัก อาจตัดสินความในชั่วโมงเดียว ดีกว่าตุลาการอังกฤษอาจตัดสินได้ในวันเต็ม ๆ แต่ก่อนพวกเราตุลาการอังกฤษต้องเสียเวลาตั้งแต่เช้าไปถึงเที่ยง เพื่อจะไต่สวนให้รู้ว่าใครเป็นเจ้าของไก่ตัวเมียตัวหนึ่ง เดี๋ยวนี้ชาวประเทศนั้นเองขึ้นมาสู่ตำแหน่งตุลาการ รู้สึกสง่าและความรับผิดชอบของตำแหน่งได้เป็นอย่างดี ส่วนเราผู้เป็นอังกฤษผู้ปกครองนั้น เมื่อไม่ต้องทำงานกระจุ๋มกระจิ๋ม ก็มีเวลาพิเคราะห์การงานใหญ่ขึ้นไป และการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ได้ผลดี และไม่มีความตะกุกตะกักดังแต่ก่อน
เมื่อศาลชำระคดีเสร็จไปเรื่องหนึ่ง ศาลก็เชิญเรากินกาแฟก่อนจับชำระคดีเรื่องใหม่ กาแฟนั้นใส่ถ้วยนิดเดียว เราก็ดื่มให้มีเสียงดัง เพื่อแสดงว่าอร่อย
๒ออกจากศาลเราไปดูโรงพยาบาล ชาวสุด่านหนุ่มคนหนึ่งเป็นหมอประจำโรงพยาบาลนี้ ได้เรียนมาจากโรงเรียนแพทยที่เมืองการ์ตุม โรงพยาบาลนี้ก่อเป็นเรือนอิฐ ๖ หลัง แยกกันเพื่อจะได้แยกคนไข้ ถ้าเอาคนไข้ต่างพวกไปรวมในเรือนหลังเดียวกัน บางทีคนที่มีพยาบาทเป็นมรดกกันมาแต่ปู่ย่าตายาย อาจโจนออกจากเตียงไข้เข้าต่อสู้ฆ่าฟันกันก็ได้
บ่าย ๒ โมงเรากินข้าวกลางวันแล้วต้องรีบออกเดินทาง เราจะขึ้นรถยนต์ของรัฐบาล ๒ คันไปทาง ๑๒๐ ไมล์ จึงจะถึงแอ่งน้ำ ซึ่งเป็นบ่อกลางบ่อหนึ่งในภูมิประเทศซึ่งไม่มีน้ำ ที่ไหนมีบ่อน้ำ ที่นั่นก็เป็นที่ประชุมชน เราจะไปให้ทันดูแข่งอูฐซึ่งขึ้นต้นเวลา ๘ นาฬิกาเช้าพรุ่งนี้ ต้องไปแต่บ่ายวันนี้ ท่านกับข้าพเจ้าไปรถกูบนั่งได้ ๔ คนทั้งคนขับ รถอีกคนหนึ่งเป็นรถบรรทุกของ คืออาหารเสื้อผ้าแลบ่าว รถทั้ง ๒ คันมีหนังสัตว์เย็บเป็นถุงใส่น้ำวางและแขวนทั่วไป
กรีฑาเป็นยาแก้โรคชนิดหนึ่งซึ่งเกิดเพราะความสงบ ความสงบอาจเป็นเครื่องเบื่อของประชาชนได้มาก ๆ ข้าราชการเจ้าหน้าที่อาจอธิบายให้ราษฎรฟังแลเห็นจริงว่า ความอยู่อย่างไม่มีภัยเดี๋ยวนี้ เป็นสุขกว่าสมัยที่ปกครองกันเอง และเมื่อมีมาห์ดิเป็นเจ้าของอำนาจอยู่กว่า ๑๒ ปี ใน ๑๒ ปีนั้น พลเมืองซึ่งเคยมี ๗ ล้าน ได้ฆ่าฟันกันตาย อดอาหารตาย แลล้มตายด้วยเหตุอื่นจนเหลือเพียง ๒ ล้านคน เท่านั้น ความจ้าละหวั่นเดือดร้อนในคราวนั้นหยุดได้ เพราะอังกฤษปราบ และชนะการรบครั้งออมตุรมาน ตั้งแต่นั้นบ้านเมืองก็สงบ แลค่อยเป็นสุขขึ้นทุกที จนเดี๋ยวนี้ความสงบเป็นของธรรมดา แทนที่การฆ่าฟันกันตายเป็นของธรรมดาดังแต่ก่อน เมื่อชี้แจงให้ฟังเช่นนี้ ชาวเมืองก็ต้องว่าจริง แต่ในสมัยก่อนนั้นลืมง่าย ยิ่งคนรุ่นใหม่ที่เกิดในสมัยที่สิ้นจลาจลแล้ว ถึงแม้จะได้ยินผู้ใหญ่บอกเล่าถึงความเป็นไปในสมัยโน้น ก็เข้าใจไม่ได้จริง พวกแขกหัวหยิกที่เกิดใหม่ในสมัยสงบของอังกฤษนั้น ที่เป็นคนฉลาดได้ร่ำเรียนขึ้นบ้าง ก็อยากมีโอกาสได้ทำอะไรให้เป็นชื่อเสียง และถ้าไม่จัดให้มีการงานอันเพลินไปในทางดี ไม่ช้าก็จะโดนพวกโง่จูงไปในทางที่ทำเปิดเผยไม่ได้ ซึ่งคงจะเป็นทางชั่วเสมอ ๆ วิธีที่จะแก้โรคอันนี้ ก็คือมอบให้คนพื้นเมืองทำการงานกันเอง โดยที่มีฝรั่งคอยใส่ใจดูแลควบคุมอยู่ห่าง ๆ วิธีนี้ทำสำเร็จได้มาก แต่ในที่สุดก็ได้งานดี เพราะคนอังกฤษมีน้อยตัว ถ้ามีคนพื้นเมืองเป็นตัวทำงาน พวกอังกฤษเป็นแต่คอยดูแล งานก็เปลืองไปได้มาก
วิธีอีกวิธีหนึ่ง ก็คือจัดให้คนพื้นเมืองเกิดสนุกในกีฬา เป็นเครื่องจูงใจให้พ้นไปเสียจากการต่อสู้กันด้วยอาวุธ และควบคุมพวกกันเข้ารบพุ่งทำร้ายพวกอื่น เหตุดังนี้ผู้ว่าราชการตำบล (ซึ่งเราจะพบที่บ่อน้ำ) จึงได้จัดให้มีการแข่งอูฐขึ้น การแข่งอูฐนั้นคนชอบทันที เลยเป็นการใหญ่ซึ่งเป็นผู้คนไปกันล้นหลาม แลเมื่อรู้จักวิธีจัดแล้วก็ตั้งกรรมการจัดการกันเอง ผู้ว่าราชการเป็นแต่ช่วยหนุนอยู่ข้างหลังเท่านั้น การแข่งอฐที่เป็นเที่ยวใหญ่นั้นต้องหัดและซ้อมกำลังกันมาก ๆ ทั้งสัตวและผู้ขี่ เพราะทางที่แข่งถึง ๒๐ ไมล์ และชนะกันในเวลาชั่วโมงเศษ ๆ เท่านั้น ผู้ขี่อูฐตัวชนะนั้นเป็น “วีรบุรุษ” ของคนทั้งหลาย รวมทั้งหญิงสาวด้วย แลผู้แต่งบทกลอนก็แต่งและร้องเพลงสรรเสริญ ผู้ชนะจึงเป็นผู้มีเกียรติชั่วเวลา
ท่านกับข้าพเจ้าไปด้วยกันบ่ายวันนั้น เมื่อไปถึงแม่น้ำแห่งหนึ่งก็ข้ามแม่น้ำ แต่เป็นแม่น้ำตื้น ๆ รถบรรทุกของเป็นรถสูงก็ลุยข้ามไปได้ แต่รถของเราติด เพราะน้ำท่วมถึงเครื่อง ท่านกับข้าพเจ้าลงช่วยโปลิศเข็นรถ พวกบ่าวในรถขนของซึ่งไปหน้า เห็นเราติดก็วิ่งกลับมาช่วยเข็น คนขับอูฐคนหนึ่งมาพบเข้า ก็ช่วยเข็นเหมือนกัน แต่ไม่ได้ช่วยแต่ตัว อ้อนวอนพระเจ้าให้ช่วยด้วย ครั้นรถขึ้นจากแม่น้ำได้แล้ว ระหว่างที่เช็ดรถแลทำให้เครื่องเดินนั้น ตาขับอูฐให้น้ำนมแก่เราน้ำเต้าหนึ่ง แล้วให้ดูจระเข้ในแม่น้ำ ข้าพเจ้าส่งปืนแบบลิเคอร์ของข้าพเจ้าให้ท่าน ท่านยิงผิด ตาขับอูฐบอกว่า พระเจ้าไม่ประสงค์ให้จระเข้ตายวันนั้น ระหว่างนี้พวกบ่าวช่วยกันเก็บฟืนจะไปสุมในคืนนั้น ทางที่จะไปจนถึงบ่อน้ำ (คือสนามแข่ง) ยังอีก ๘๐ ไมล์ ไม่มีต้นไม้เลย เมื่อขึ้นไปถึงพื้นที่สูง อากาศก็ค่อยเย็นขึ้น เราผ่านเลียงผา แล้วผ่านนักโทษหมู่หนึ่ง ซึ่งให้ออกไปลอกและแต่งสระน้ำเก่า ซึ่งอินยิเนียร์ของจักรพรรดิราชโบราณ ซึ่งปกครองประเทศสุด่านตอนนี้ เมื่อ ๒๐๐๐ ปีมาแล้ว ได้ทำไว้ ผู้ว่าราชการซึ่งไปก่อนเรา ยิงไก่ต๊อกได้ตัวหนึ่ง และให้แก่นักโทษพวกนี้ พวกนักโทษได้ไก่ต๊อกก็ดีใจมาก พวกนักโทษออกมาทำงานโดยไม่มีผู้คม นักโทษคุมกันเอง แลจะได้ค่าจ้างคือลดเวลาจำคุกลงไปตามขนาดกว้างยาวแห่งสระที่ทำสำเร็จ วันนั้นเราไปนอนที่สนามแข่งอูฐทีเดียว
รุ่งขึ้นเราตื่น ๖ นาฬิกากึ่ง นั่งขึ้นบนเตียงผ้าใบ เห็นอะไรเหมือนห่อผ้าปูที่นอน ๖ ห่อ วางอยู่บนทราย ห่อทั้ง ๖ นั้นคือกรรมการแข่งอยู่ซึ่งยังนอนหลับสนิท เราดูไปรอบ ๆ เห็นคนขี่อูฐแทบนับไม่ถ้วนนำหน้าฝุ่นมาหาบ่อน้ำ (นำหน้าเพราะเท้าอูฐเตะฝุ่นปลิวขึ้นเวลาเดิน) พวกขี่อูฐเหล่านั้นมาทุกทิศทุกทางจนสุดสายตา อีกนานกรรมการจึงตื่นขึ้นนั่งหาวแล้วไหว้พระและจิบกาแฟอย่างช้าจนน่าโกรธ ท่านอาจพิศวงว่า จะมียุ่งกันบ้างหรือไม่ ไม่ต้องวิตกเรื่องนั้น มีเสียงคนตะโกนแลชี้โว๊กเว๊กกันยุ่ง แต่ประเดี๋ยวก็แหวกเป็นทางแข่ง แลพวกขี่อูฐแข่งก็แยกกันออกไปเป็นหมู่ ๆ คนดูมงกัน ๒ ข้างทาง พวกอยู่หน้านั่ง พวกหลังยืน แลพวกหลังออกไปอยู่บนหลังอูฐ พวกบงการได้นำเราไปเที่ยวดูตามคอกอูฐก่อนนี้ พอใกล้เวลาแข่ง มีตาแก่คนหนึ่งมาจากไหนก็ไม่ทราบ เดินเข้าไปในทางแข่ง แล้วถามว่ามีอะไรกัน คนหนุ่มคนหนึ่งเข้าไปจูงแกออกไปให้พ้น แล้วตะโกนบอกกรอกหูแกเข้าไป เพราะหูแกตึง พอตั้งแถวแข่งพร้อม ผู้ปล่อยอูฐแข่งก็ตะโกนถามว่า “ลูกทั้งหลายเอ๋ย เจ้ารู้จักทางแข่งแล้วหรือ ?” มีคำร้องมาจากข้างหลังว่า “ยังไม่รู้” แกตอบทันทีว่า “ถ้าเช่นนั้นก็จงสรรเสริญพระเจ้าแล้วตามตัวอื่น ๆ ไปเถิด” เป็นคำซึ่งเหมาะที่จะตอบคนคนอง แลแกตอบโดยไม่ต้องยั้งนึกเลย
พอผู้ปล่อยให้สัญญา อูฐทั้งหลายก็ออก เรายืนดูตามไปจนดูไม่เห็น ต้องคอยอีกกว่าครึ่งชั่วโมง จึงจะกลับมาชนะกันที่ที่เก่า
การนัดแข่งอูฐนั้นเป็นโอกาสให้ชำระความ ให้เก็บภาษี ให้รักษาโรคและจำหน่ายยา แลทำงานอื่น ๆ หลายอย่าง ที่เลวที่สุดสำหรับที่จะทำงานชนิดนั้นให้เปลืองไปเร็วคือออฟฟิศ ที่ดีที่สุดคือกลางแจ้งอันเป็นที่ซึ่งก้อนเนื้อย่างอยู่บนกองไฟ แลความอิ่มหนำสำราญทำให้ไมตรีเกิดในหมู่มนุษย์ ข้าพเจ้าพูดเช่นนี้ บางทีท่านจะนึกว่า เอาโบราณคดีมาพูด ไม่ใช่พูดถึงเวลาปัจจุบัน ค.ศ. ๑๙๓๕ แต่ไม่ใช่เช่นนั้นเลย ข้าพเจ้าไมเห็นชอบกับคนชนิดที่ต้องการกั้นให้มนุษย์เช่นแขกดำหัวหยิกที่ข้าพเจ้าพูดถึงนี้ อยู่นอกรั้วของศิวิไลเซชั่น สำหรับเอาไว้ดูเป็นมนุษย์แปลก แลสำหรับให้นักปราชญ์เขียนลงตำรา ที่แท้มนุษย์พวกนั้นทำงานเป็นประโยชน์แก่คนทั่วไป เช่น ปลูกฝ้ายสำหรับโรงทอผ้าในประเทศอังกฤษ เก็บยางไม้มาสำหรับใช้ทำขนมหวานบางชนิด แลเลี้ยงสัตว์ให้ชาวประเทศอียิปต์กินเนื้อเป็นต้น พรุ่งนี้เราจะต้องกลับแต่เช้า เพื่อจะไปให้ทันนัดประชุมปรึกษาเรื่องการเพาะปลูกกับสารวัตรกสิกรรม ซึ่งเป็นคนพื้นเมืองนี้เอง แลเป็นข้าราชการผู้เป็นประโยชน์ คนพื้นเมืองนี้เลี้ยงสัตว์แล้ว ยังปลูกฝ้ายดีที่สุดในโลก และเรื่องที่เราจะกลับไปปรึกษากับสารวัตรนั้น ก็คือเรื่องคิดจะฝึกหัดคนพื้นเมืองที่ออกจากโรงเรียน ให้รู้วิชาเพาะปลูกสำหรับใช้งานต่อไป
การแข่งอูฐนั้นชนะกันแล้ว แต่ข้าพเจ้าได้รับเชิญให้ยื่นถ้วยให้ผู้ชนะ ๒๐ ไมล์ เป็นถ้วยซึ่งบิดาของผู้ว่าราชการคนนี้ได้ให้ไว้นานมาแล้ว เราได้รับเลี้ยงกาแฟแลน้ำหวานใส่ในน้ำเต้า เวลาค้ำเห็นดาว เราก็ได้พัก แต่หนาวจนต้องสวมสเว็ตเตอร์ แลมุงกันเข้านั่งล้อมกองไฟ บ่าวเอาเทียนมาให้ แลวิซกี้ด้วย วิซกี้เป็นของขาดไม่ได้ในการปกครองตะวันออก เรากินข้าวเย็นคือเนื้อแกะซึ่งเขาให้ แลได้ยินเสียงกินเลี้ยงแลร้องเพลงกันตามกองไฟกว่า ๕๐ กอง ครั้นเวลา ๗ นาฬิกาก็ค่อนจะดึก เสียงคนพูดแลร้องเพลงก็ค่อยเบาลง
ที่ข้าพเจ้านำมาเล่าให้ท่านฟังนี้ ไม่มีอะไรแปลกเป็นธรรมดาวันหนึ่ง ๆ เท่านั้น ข้าพเจ้าเชื่อว่า ความสำเร็จของการปกครองนั้น อยู่ที่ทำงานธรรมดาให้ดีเสมอ ๆ ไป ไม่ใช่ทำอะไรที่จะอวดให้ตื่นเต้นกันชั่วคราวเท่านั้น