๑๒ นิทานเรื่องตั้งแร้งเปนพระยา

ณะกาลก่อนมีจตุบาททั้งปวงเอาแร้งเปนพระยา เอาเสือโคร่งเปนอำมาตย์ เอาสุนัขจิ้งจอกเปนมนตรี ส่วนแร้งไซร้ไปทางอากาศ ส่วนบริวารไปในทางปถพีคอยดูแร้ง ครั้นเห็นแร้งอยู่แห่งใดบริวารก็ตามไปกินอาหารแห่งนั้น

วัน ๑ พระยาแร้งรำพึงว่า ตัวเราไซร้เปนอธิบดีแก่เขาทั้งหลายแล้ว ไม่ควรจะมาหาอาหารให้เขากินดังนี้ แต่นั้นมาพระยาแร้งก็บินสูงไปเที่ยวหาอาหารมิให้บริวารเห็น บริวารทั้งหลายเที่ยวหาทุกแห่งก็ไม่เห็น เปนทุกข์หนักอาหารบมิได้ จึงเสือโคร่งและสุนัขจิ้งจอกเจรจาด้วยสัตว์ทั้งหลายว่า ส่วนแร้งเปนอธิบดีไซร้ไปในอากาศ ส่วนเราทั้งหลายไปในปถพึ เมื่อแร้งลงกินอาหารเราก็ได้ไปกินด้วย ก็เมื่อท่านผู้เปนอธิบดีเปนไปดังนี้ เราทั้งหลายก็จะมิฉิบหายตายพินาศสิ้นหรือ อยู่จำเนียรกาลนานมาเสือโคร่งกับสุนัขจิ้งจอกอันเปนเสนาบดี และอำมาตย์คิดกันว่า เรามาอยู่รักษาพยาบาลสัตว์ในป่านี้ และสัตว์ทั้งปวงมิรู้จักคุณเราและจะได้ปราณีเราก็หาไม่ ถ้าผู้ใดมิยอมก็ให้ไปอยู่สถานที่อื่น เสือโคร่งและสุนัขเสนาบดีแลอำมาตย์ก็ให้หาสัตว์อันมีในป่านั้นมา แล้วก็เล่าความให้สัตว์ทั้งปวงฟังดุจคิดไว้ทุกประการ สัตว์ทั้งปวงได้ฟัง ที่ยอมบ้าง ที่ไม่ยอมบ้าง สัตว์ที่ยอมด้วยก็อยู่ในป่านั้น สัตว์ที่มิยอมก็ไปจากป่านั้น และสัตว์ทั้งปวงน้อยลงกว่าเก่า และสัตว์อื่นก็มาเบียดเบียนสัตว์อันอยู่ในป่านั้น เพราะเสือโคร่งและสุนัขจิ้งจอกเปนเสนาบดีแลอำมาตย์นั้นไม่รักษาสัตว์ในป่านั้น และตามอำเภอสัตว์ผู้จะอยู่จะไปแล ป่านั้นก็สูญ ด้วยเหตุดังนี้ คนผู้ใดจะถอยตระกูลชาติต่ำดุร้ายใจก็ชั่ว คนผู้ใดเสพสมาคมและชอบด้วยกัน และตั้งแต่งเปนพระยาแลเสนาบดีได้ประกอบด้วยชั่ว และย่อมเบียดเบียนสัตว์ทั้งหลายดุจดังเอาแร้งเปนพระยา

ขณะนั้นนกดอกบัวตัว ๑ จึงกล่าวว่า แน่ะท่านทั้งหลาย เหยี่ยวนี้แกล้วกล้าเล็บและจงอยปากดังอาวุธ จะบินก็สูงเห็นศัตรูแต่ไกล ควรจะเอาเปนพระยาจะได้เปนที่พึ่งช่วยสุขทุกข์แห่งเรา และญาติแห่งเราจะได้อยู่เย็นเปนสุขสืบไป

นกดุเหว่าจึงกล่าวว่า แน่ะท่านทั้งหลาย ซึ่งนกดอกบัวว่าจะตั้งเหยี่ยวร้ายใจบาป มาดชีวิตเพื่อนกินเปนอาหาร ว่าแกล้วกล้าดีเกลือกจะเปนดุจแมวจำศีลกระมัง

นกทั้งหลายจึงถามว่า แมวจำศีลนั้นธรรมเนียมมีอย่างไร

นกดุเหว่าจึงเล่านิยายให้นกทั้งหลายฟังดังนี้ว่า

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ