สมเด็จกษัตรศึก

โคลง ๔ แถลงปางจักริศเจ้า จอมศึก
ทรงสดับศัพท์ลึก สุดร้าย
ข่าวกรุงยุ่งหยุกหยึก ยิ่งใหญ่
เมืองจะเป็นเมืองหม้าย หม่นไหม้ใจตรอม ฯ
๏ อยุธยาเยินยับแล้ว ฤานาน เลยนอ
ธนจะถึงอวสาน อีกไสร้
บ่ายบุญพระภูบาล บริเฉท
รัฐจะเป็นรัฐไข้ โรคเค้นเป็นไฉน ฯ
๏ เสียแรงแสวงเลศได้ ดังคิด
ไทยประมวญเป็นมิตร หมดไว้
กลมเกลียวเอี่ยวเอกจิต ผจงจัด
ทำนุกปลุกปลอบให้ เหือดเศร้าเนาเกษม ฯ
๏ เสียแรงเหื่อต่างน้ำ ทำมา
ยอบแยบยามอยุธยา ย่อยแล้ว
ดำเนินเนิ่นนานหา ที่มั่น
บากบั่นกลั่นพลแกล้ว กาจกล้าราวี ฯ
๏ เสียแรงแสดงเดชสร้าง สัมฤทธิ์
กู้ประเทศเขตทิศ ทั่วได้
เสียแรงแข่งคณามิตร เม็งม่าน
ปรามปราบราบเรียบไร้ อริกล้าพาเหียร ฯ
๏ เสียแรงเปนแหล่งกล้า การีย์
สมส่ำกำลังมี มากล้วน
อยู่กินถิ่นฐานดี ดังเก่า
ร่มราษฐ์ปราศทุกข์ถ้วน ทุกท้องทำเล ฯ
๏ ความเจริญเดินน่านั้น นานนัก
เดือนละเดือนเชือนชัก เชื่องช้า
คราวเอือมเสื่อมเร็วลัก ษณเลื่อน ลงแล
วันละวันปั่นคว้า ป่วนคว้างทางสลัว ฯ
๏ ฉันใดอยุธเยศล้ม ลงสลาย
ยศยุบหุบโอษฐ์อาย อกเศร้า
หลายแฉกแยกกันกจาย กเจิงถิ่น
ต่างก๊กยกเป็นเจ้า จัดตั้งยังตน ฯ
๏ ฉันนั้นธนบุเรศสิ้น รัศมี
ไทยจะเกิดการกลี รุ่มเร้า
ภายในไม่สามคี ครัดเคร่ง
โอกาศชาติอื่นเข้า ขี่ข้ามตามเคย ฯ
๏ เม็งม่านพลุกพล่านได้ ดังเพรง
เราจะมัวกลัวเกรง กริ่งม้วย
เสียงปืนจะครืนเครง ครรชิต
ไทยจะล่มจมด้วย แก่งแย้งแคลงกัน ฯ
โคลง ๒ จอมศึกนึกเช่นนี้ โปร่งปล่อยเห็นช่องชี้
ช่วงชั้นเชิงสลาย ฯ  
๏ ไอศวรรย์ปั่นป่วนไซร้ ใครจะยอมใครให้
อยู่เกล้าเนาเศียร ฯ  
โคลง ๔ ข่าวไฉนในขณะนั้น นึกแหนง
ว่าจะผลุนผลันแผลง เพลี่ยงพล้ำ
ลู่ทางฉวางแวง เฉวียนฉวัด
ข่าวตะคอกชอกช้ำ ใช่ช้ามาถึง ฯ

ร่าย ขณะนั้นม้าใช้ เข้าเฝ้าไท้ทูลความ ตามที่ราชภาคินัย สุริยอภัยพระยา ถวายประดาข่าวสด ว่าเกิดขบถใหญ่แล้ว เชิญธกลับทัพแกล้ว โก่นสร้างทางสงบ ใหม่เทอญ ฯ

โคลง ๔ ยินข่าวผ่าวอุระเร้า จักริศ
กาละเข็ญเห็นสนิท แน่แล้ว
ชักช้าชล่าจิต จักล่ม
รัฐจะหักดักแด้ว ดึ่งด้นหนกษัย ฯ
๏ คำนึงถึงเมื่อนั้น ในผลู โน้นนา
คำที่ซินแสดู เด่นไว้
คาบนี้น่าที่กู เป็นแน่ แล้วนอ
ที่จะจัดรัฐให้ เฟื่องฟื้นคืนคง ฯ

ร่าย ไท้ธทรงปฤกษา ราชภาดาสุรสีห์ ว่ากลีมาเยือน เตือนให้รีบไปจัด บำบัดเหตุลุกลาม ยามผู้คนอลหม่าน เกลือกทัพม่านมากวน ยวนประยุทธ์เอาเปรียบ เรามิเรียบราบอยู่ ศัตรจู่โจมตี จักไม่มีเลศสู้ เว้นแต่เราเข้ากู้ รวบร้วมแรงไทย ไว้แฮ ฯ

๏ ดำรัศส่งบังคับ ทัพเจ้าพระยาสุรสีห์ ระวังไพรีด้านเขมร แล้วนฤเบนทร์บัญชา เตรียมโยธาสรรพสล้าง พระเสด็จขึ้นเกยช้าง เนตรไท้ทัศนา พลนา ฯ

พัณณรังสี

โคลง ๔ อำพนพลพยุหพร้อม เพรียงกัน
สังเกตเหตุมหัศจรรย์ แจ่มรู้
รังสีพระฉวีวรรณ ไวโรจน์
ผาดผุดดุจดังผู้ ผ่านฟ้ามาดิน ฯ
๏ นายกองนายทัพทั้ง ทวยหาญ
อิ่มมโนโอฬาร เลื่องแสร้
โอภาศราชสมภาร เพ็ญภาคย์
บุญบ่มสมศักดิ์แท้ เทียบไท้ใครถึง ฯ
๏ ยอบกายถวายหัตถ์ซร้อง สาธุ
พระจักพลันบรรลุ ราชย์ได้
โสภิตนิมิตอุ ดมเอก นี้นอ
แท้เทพสังหรณ์ให้ เหตุเอื้ออารี ฯ

ร่าย ฤกษ์งามยามชัยโชค โบกธวัชสัญญา ให้ยาตราโยธี ภูมีเถลิงคชพ่าห์ กูบสี่น่ายรรยง งามสารทรงสูงเยี่ยม เอี่ยมอาภรณ์พรรณราย ดังพลายทรงองค์อินทร์ งามพลสินธวาณึก งามอธึกพลเท้า เต้าจากค่ายรายเรียง นำตามเคียงขุนเศิก แผ่อาตย์เอิกเกริกเร้า แรงรักภักดีเจ้า จักสู้สู่สงบ ใหม่แฮ ฯ

๏ พระเสด็จเดินทัพผ่าน ทางด่านพระจาฤก คักคึกพลโยธา จวบปราจิณบุรี ข้ามนทีทางมุ่ง วิถีทุ่งแสนแสบ ชนทกแถบที่ได้ ข่าวกลับแห่งทัพไท้ แซ่ซร้องสาธุการ ท่านนา ฯ

โคลง ๔ ฝ่ายหลวงสรวิชิตผู้ นามหน
ข่าวกลับทัพอนุสนธิ์ ทราบเค้า
สวนผลูสู่ตำบล แสนแสบ
นบบาทนรนาถเข้า ขี่ม้านำพล ฯ
๏ เดือน ๕ แรม ๙ ค่ำ ปีขาล
ในดิถีโสรวาร สอบไว้
๑๑๔๔ กาล จุลศก
กำหนดเวลาได้ เมื่อเช้า ๒ โมง ฯ
๏ เสด็จถึงฝั่งแม่น้ำ เจ้าพญา
เทียบสุริยคติวา ระชี้
วันที่ ๖ เมษา ยนมาศ
เริ่มราชวงษ์ใหม่นี้ เมื่อนั้นวันงาม บารนี ฯ

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ