ร่าย๏ สยามราชอาณาจักร ภักดีต่อภูบาล ในรัชกาลที่หนึ่ง พึ่งพระราชอุปสดมภ์ แห่งองค์ปฐมจักรี มีอาทิมลายู ตรังกานู ปตานี ไทรบุรี กลันตัน ซึ่งพร้อมกันสามิภักดิ์ ฯ
๏ ส่วนในปักบูรพา กัมพูชาประเทศ พระภูเบศตั้งแต่ง ตำแหน่งเจ้าแผ่นดินขอม เป็นจอมประเทศราช ฯ
๏ อนึ่งนรนาถดำรัศ ให้จัดทัพฝ่ายเหนือ เจือกับกองทัพใหญ่ แห่งเชียงใหม่ ลำปาง หลวงพระบาง เวียงจันทน์ บรรจบพลแพร่ น่าน ไปขับม่านเม็งดื้อ จากแดนลื้อแดนเขิน ทัพม่านเยินเม็งยับ นับเมืองขึ้นพะม่า จำนวนกว่าสี่สิบ สู่นราธิปจอมไทย นบภูวนัยในกรุง เจ้าเชียงตุงมาเฝ้า เจ้าเชียงรุ้งมากราน ภูบาลทรงกรุณา ให้พากันกลับเมือง ปราศขุนเคืองรำคาญ ฯ
๏ ฉนี้รัชกาลที่หนึ่ง เมืองขึ้นพึ่งพระเดช อาณาเขตภูบดี มีกว้างใหญ่ไพศาล กว่าสยามกาลก่อนกี้ แน่ถนัดชัดชี้ เชิดรู้ชูฤทธิ์ ท่านแล ฯ
โคลง ๔๏ รัชกาลที่หนึ่งไท้ |
ธรณี นาถนา |
เริ่มราชวงษ์จักรี |
เกียรติ์กว้าง |
เถลิงอาศน์ราชธานี |
กรุงเทพ |
ซึ่งพระองค์ทรงสร้าง |
สฤษดิ์ไว้ไอศวรรย์ ฯ |
๏ ชาวสยามยามโยคใกล้ |
กาลกลี |
รบพุ่งภายในทวี |
เทวศห้าว |
ผู้ใดใช่ผู้มี |
มหิทธิเดช |
จักอาจกวาดความร้าว |
รุ่มร้อนผ่อนหาย ฯ |
๏ ม่านในสมัยนั้นเลื่อง |
ลือศักดิ์ |
ปดุงราชอำนาจหนัก |
แน่นกล้า |
รบใครคาบไหนจัก |
ปัจจักษ์ |
ดังพระพุทธยอดฟ้า |
พี่น้องสององค์ ฯ |
๏ การสร้าง พระสฤษดิ์ได้ |
ดังกมล |
ศุภโสตถิ์โรจนผล |
ผริตกว้าง |
การล้าง สวางชน |
สวาชาติ |
ผลเผล็ดสำเร็จสล้าง |
สิ่งร้ายมลายสูญ ฯ |
๏ ความราบผิวปราบด้วย |
พระเดช |
ใช่พระคุณเป็นเหตุ |
ห่อหุ้ม |
เหล่าเราจะเนาเขต |
ความสงบ ได้ฤา |
อำนาจปราศโอบอุ้ม |
ไป่เอื้ออิฏฐผล ฯ |
๏ บ้านเมืองเรืองรุ่งถ้วน |
ทางถกล |
เพราะกษัตร์รัฐโกศล |
ท่านสร้าง |
หว่านล้อมถนอมมณ |
ฑลทั่ว |
เลี้ยงราษฎร์ปราศความกด้าง |
กเดื่องด้นหนสลาย ฯ |
๏ เริ่มดีมีหลักได้ |
ดียืน |
โยงนิยมกลมกลืน |
กลบด้าว |
อุปถัมภ์มิจำขืน |
ใจข่ม |
เพราะเผดิมเริ่มก้าว |
ก่อสร้างทางเกษม ฯ |
๏ อันองค์ปฐมราชเจ้า |
จักรี |
พระชตาบารมี |
เลมียดห้อม |
คือ แมน ออฟ เด็สทินี |
แท้แน่ |
เด่นระดับมหัปผลพร้อม |
เพริศแพร้วแนวเจริญ ฯ |
๏ ภูมีมีหน่อเนื้อ |
เนานาน |
ลำดับสัปตรัชกาล |
เกรื่องกล้า |
ยั่งยงพระวงษ์วาร |
วีรวัต |
เผ่าพระพุทธยอดฟ้า |
เฟื่องฟ้ามานาน ฯ |
๏ จึ่งเกิดการแซกซ้อน |
สำทับ |
คำรบร้อยปีกับ |
กึ่งร้อย |
เรื่องราวกล่าวลำดับ |
ดังต่อ ไปเอย |
ยังมิควรด่วนถ้อย |
ถ่วงไว้ในขณะ นี้เทอญ ฯ |
โคลง ๒๏ พระชนมายุไท้ |
เจ็ดสิบสองปีได้ |
กับห้าเดือนปลาย ฯ |
|
๏ ผดุงราษฎร์สาสนแผ้ว |
ยี่สิบเจ็ดปีแล้ว |
จึ่งสิ้นรัชกาล ฯ |
|
โคลง ๔๏ มิ่งมกุฎพุทธยอดฟ้า |
สวรรค์คต |
จึ่งราชวโรรส |
เลิศหล้า |
เถลิงรัฐขัติยยศ |
สยามราช |
เกลื่อนกล่นชนเนื่องหน้า |
นอบน้อมจอมนร ฯ |
๏ การเมืองมีเรื่องร้าย |
รำไร |
เสียงรส่ำรสายภายใน |
เนื่องด้วย |
กินแหนงระแวงใคร |
คาวขบถ |
ถูกจับนับคนม้วย |
มากทั้งไทยมอญ ฯ |
๏ ทรงรับมรดกบ้าน |
เมืองดี |
สมส่ำกำลังมี |
มากไว้ |
รู้รั่วทั่วธรณี |
เนาสุข |
ปวงราษฎร์ปราศร้อนใต้ |
ร่มเจ้าจอมสยาม ฯ |
๏ หลายอย่างต่างแยบไท้ |
อุปถัมภ์ |
ศิลปะวิศวกรรม |
กอบเกื้อ |
บทกลอนลครรำ |
วางรูป |
กวีรัตน์วัฒนเชื้อ |
เชิดชั้นวรรณคดี ฯ |
๏ ฝ่ายอริพหิเทศด้าน |
อัสดง |
ปดุงราชอาจององค์ |
หนึ่งไสร้ |
อาฆาตมาดใจจง |
จักยุทธ |
แต่มิกล้ามาใกล้ |
เกลือกพลั้งดังเดิม ฯ |
๏ อีกเขตพหิเทศเบื้อง |
ตกทิศ |
คือชาติชนอังกฤษ |
แกล่ใกล้ |
เหตุเดิมเริ่มต่อติด |
กันกับ เราแฮ |
เพราะเช่าเกาะหมากได้ |
จากเจ้าเมืองไทร ฯ |
๏ พญาไทรเป็นเหตุให้ |
ปัญหา |
ไทยกับอังกฤษอา |
กาศกลุ้ม |
ภายหลังเปลี่ยนฝั่งฝา |
ไปใฝ่ |
พึ่งพม่านึกว่าคุ้ม |
ครอบกั้งภยังกร ฯ |
๏ คำเก่าเล่าถ่องถ้อย |
ทำนาย |
พรานมล่านผลาญหงษ์มลาย |
ชีพแล้ว |
เสือมาฆ่าพรานตาย |
ตามตก ไปเฮย |
ใครพยัคฆ์ใครพยาธแคล้ว |
คลาศบ้างทางไหน ฯ |
๏ ม่านเลมิดเกิดศึกสู้ |
สงคราม |
กับฝรั่งพลั่งเพลิงลาม |
แลบใหม่ |
อังกฤษคิดชวนสยาม |
สู่ยุทธ |
ใช้ทูตเชิญไทยให้ |
ช่วยร้าราวี ฯ |
๏ ฝ่ายไทยไม่รู้แน่ |
ทางไหน |
ฝรั่งฤทธิ์เพียงไรใคร |
ทราบเค้า |
ยับยั้งชั่งหฤทัย |
ดูก่อน |
ยังไมรู้ไม่เข้า |
ร่วมค้าสงคราม ฯ |
๏ อนึ่งไซร้ไม่ทราบแจ้ง |
ในจิต |
เหตุมิเคยต่อติด |
ก่อนนั้น |
ว่าชนชาติอังกฤษ |
หนักแน่น ไฉนนอ |
ใจมิวางทางหมั้น |
ไม่ไว้ใจคน ฯ |
๏ หุนหันพลันแล่นเข้า |
กับเขา |
เขาพลาดอาจทำเรา |
พลาดด้วย |
ไป่ควรจะด่วนเดา |
เดินดุ่ม |
เราไม่หกตกห้วย |
หากได้ไตร่ตรอง ฯ |
๏ อังกฤษอมิตรม่านเข้า |
ข่มยุทธ |
ทัพบกทัพเรือรุด |
เร่งกทุ้ง |
พม่ารับทัพฤาหยุด |
ยับย่อย |
ปฏิปักษ์หักย่างกุ้ง |
ยึดได้ดังถวิล ฯ |
๏ จอมไทยไม่ตรัสแจ้ง |
กจ่างจิต |
ศึกพม่ากับอังกฤษ |
เกิดแล้ว |
ขาดข่าวกล่าวต่อติด |
ตามเหตุ |
ไป่คิดอังกฤษแกล้ว |
กาจกล้าราวี ฯ |
๏ ไม่รู้เพราะเมื่อร้อย |
ปีมา แล้วนอ |
นานจะมีนาวา |
สมุทเต้า |
จากสิงคโปร์ธา |
นีใหม่ |
สารสื่อหนังสือเข้า |
เขตน้ำลำสยาม ฯ |
๏ เหตุการภายนอกฉนี้ |
ในสมัย นั้นนา |
แต่เหตุการภายใน |
เรียบร้อย |
ขอบเขตประเทศไทย |
ทวีสุข |
ตั้งแต่หัวจนก้อย |
เกี่ยงร้ายฤามี ฯ |
๏ สมเด็จบวรราชน้อง |
นฤบาล |
กรมพระราชวังสราญ |
ราชย์รู้ |
ภาระพระบริหาร |
รัฐกิจ |
ต่างพระเนตรกรรณผู้ |
พี่ไท้ภูธร ฯ |
๏ พระอาสาธนเอื้อ |
อาจิณ |
กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ |
ร่วมด้วย |
เชี่ยวชาญราชการชิน |
รับช่วง |
เมื่อพระอาองค์สร้วย |
เสด็จเมื้อเมืองสวรรค์ ฯ |
๏ พระองค์ทรงเพียบพร้อม |
พิริยะ |
ต่างพระกรรณ์ชนกพระ |
เนตรไท้ |
สิทธิ์ขาดราชการประ |
เทศทั่ว |
อำมาตย์ราษฎรได้ |
สุขซร้องสรรเสริญ ฯ |
โคลง ๒๏ พระชนม์พระเลิศหล้า |
ห้าสิบเจ็ดปีห้า |
มาสสิ้นรัชกาล ฯ |
|
๏ เถลิงรัฐเชิดฉัตรแผ้ว |
สิบกับห้าปีแล้ว |
เสด็จด้าวแดนสรวง ฯ |
|
ร่าย๏ กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ เป็นปัฐพินทร์ที่สาม สยามราชอาณาจักร .กรมหมื่นศักดิ์พลเสพย์ ปฐมนรเทพวโรรส เถลิงพระยศนฤนาท กรมพระราชวังบวร ขจรพระเกียรติ์กระเดื่อง เลื่องพระบวราภิธัย ในการทัพจับศึก ปัจจนึกขยาดรณรงค์ อนึ่งไท้ธทรงสันทัด กวีวัจนโคลงกลอน พระบวรราชนิพนธ์ มีแยบยลเยี่ยงกว้าง ซึ่งพระองค์ทรงสร้าง สฤษดิ์ไว้ในวรรณ คดีเอย ฯ
โคลง ๔๏ รัชกาลพระนั่งเกล้า |
อยู่หัว |
เริ่มเมื่อม่านขมุกขมัว |
มืดตื้อ |
ทำศึกนึกไม่กลัว |
แต่กลับ กลายแฮ |
ม่านราชย์อาจถูกรื้อ |
ฝรั่งร้ายหลายเหลือ ฯ |
๏ ไทยพม่าครานั้นเกลียด |
กันนัก |
เหตุที่เป็นปฏิปักษ์ |
ปลุกปล้ำ |
ม่านเผดิมเริ่มโหมหัก |
ไทยก่อน |
ไทยง่าพม่าเงื้อก้ำ |
กึ่งต้านทานกัน ฯ |
๏ โบราณม่านราชผู้ |
เพ็ญอำ นาจนา |
เอิบฤทธิ์คิดก่อกรรม |
ก่อนกร้าว |
หงษาชิวหาดำ |
ดำริห์ |
เวรก่อต่อติดด้าว |
ต่อด้าวร้าวฉาน ฯ |
๏ สามร้อยปีเศษตั้ง |
แต่สมัย นั้นนา |
เคี่ยวขับทัพมาไป |
ไป่สิ้น |
จนฝรั่งหลั่งมาใน |
ระหว่าง |
ม่านราชอำนาจหวิ้น |
วากเว้เหหัน ฯ |
๏ มรัมมรัฐตัดเหตุเศร้า |
สงคราม |
เมื่อราชอำนาจซาม |
เศิกไร้ |
ตราบใดกษัตร์ใฝ่ความ |
เป็นใหญ่ ยิ่งแฮ |
ชาติบ่อยู่สุขได้ |
ดั่งนี้มีนัย ฯ |
๏ ใช่ไทยใช่พม่าทั้ง |
ชาติดอก ท่านเอย |
ที่ก่อการเฉลิกถลอก |
รบสู้ |
ใช่ชาติบาดหมางหมอก |
มานมืด |
สารพัดเพราะกษัตร์ผู้ |
ครอบบ้านครองเมือง ฯ |
๏ ปลดราชปราศร้อนเรื่อง |
ราวเข็ญ |
มรัมมรัฐวัฒนเย็น |
ยืดได้ |
รบราฆ่าฟันเป็น |
อันปลิด ไปเอย |
ไทยพม่าหย่าศึกไร้ |
เร่าร้อนฟอนไฟ ฯ |
โคลง ๒๏ รัชกาลพระนั่งเกล้า |
ศึกพม่าไม่มาเย้า |
แต่ด้านอื่นมี ฯ |
|
๏ เวียงจันทน์ขบถต่อไท้ |
เรียบราบกำราบได้ |
หลาบด้วยเดชา |
วุธแฮ ฯ |
๏ ศึกญวนกวนอีกด้าน |
สิงหเสนาคต้าน |
ต่อไว้ไกลกรุง ฯ |
|
โคลง ๔๏ เศิกสยบสงบยุทธ์ยื้อ |
ยายี |
ปราบปลดหมดไพรี |
เพื่อนบ้าน |
แต่ยังฝรั่งมี |
เป็นห่วง |
ชนยุโหรปโลกกว้าน |
กวาดแคว้นแดนดิน ฯ |
๏ อังกฤษปลิดม่านเสี้ยน |
ศึกไป แล้วนา |
ฝรั่งหยั่งเยื่อใยไทย |
ถิ่นนี้ |
พาณิชย์ชิดชวนไม |
ตรีต่อ กันแฮ |
ไทยไม่รู้ไม่ชี้ |
ไม่ใช้ไมตรี ฯ |
๏ สองข้างต่างโต้ตอบ |
ต่อรอง กันนา |
ยังมิทันปรองดอง |
สดวกได้ |
ความคิดผิดทำนอง |
กันหน่อย หนึ่งนอ |
แม้ว่าไมตรีไหม้ |
อาจไหม้ใหญ่หลวง ฯ |
๏ เหตุเห็นเช่นนี้เมื่อ |
มาชงัก |
เพราะพระองค์ทรงศักด์ |
เสด็จฟ้า |
ย้อนตรึกนึกน่าหนัก |
ใจอยู่ |
นานเนื่องเรื่องการค้า |
คาดคั้นปัญหา ฯ |
๏ เมื่อตติยมหาราชใกล้ |
สวรรค์คต |
ดำรัศปัจฉิมพจน์ |
สั่งไว้ |
การศึกปัจจนึกหมด |
ญวนม่าน แล้วนา |
ยังห่วงบ่วงฝรั่งให้ |
เนตรตั้งรวังรไว ฯ |
๏ เขามีความรู้หลาก |
หลายนัย |
ล้วนซึ่งเราพึงใจ |
ใคร่รู้ |
ความคิดวิชชาใด |
ควรทราบ |
จงอย่าวางใจสู้ |
สืบคว้าหาหน ฯ |
โคลง ๒๏ สมเด็จพระนั่งเกล้า |
ครองราษฐ์ปราศสิ่งเศร้า |
จวบสิ้นวาระ พระเอย ฯ |
|
๏ ภายในไทยสงบถ้วน |
ทรงประศาสน์ราชกิจล้วน |
เหมาะแท้แก่สมัย ท่านนา ฯ |
|
๏ หลายสิ่งพระสฤษดิ์ไว้ |
เครื่องระลึกถึงไท้ |
ที่สร้างอนุสสรณ์ ฯ |
|
โคลง ๔๏ ทรงซ่อมทรงสร้างพระ |
อาราม |
หลายแห่งแหล่งนิคมคาม |
เขตกว้าง |
อบรมบ่มบุญตาม |
พระมติ |
สุดสง่าวัดวาสล้าง |
สลักไว้ในแด ฯ |
๏ สิ่งหนึ่งซึ่งพระเกื้อ |
การกุศล |
คือวัดพระเชตุพน |
เพิ่มสร้าง |
จารึกศึกษาผล |
เผยผริต |
ตำหรับสรรพคุณอ้าง |
อรรถเอื้ออำนวย ฯ |
๏ วากย์กวีมีสลักพื้น |
แผ่นผา |
สมเด็จพระปรมา |
นุชิตเชื้อ |
ทรงนำส่ำเมธา |
มธุพจน์ |
เยี่ยมแยบแบบฉบับเกื้อ |
เกียรติ์กว้างทางกวี ฯ |
๏ ทรงเชลงเตลงพ่ายเร้า |
รึงใจ |
ผู้สดับจับหฤทัย |
ทุกผู้ |
คำหอมกล่อมกลอนไพ |
เราะโสตร |
ยังไม่มีใครสู้ |
แต่นั้นนานมา ฯ |
โคลง ๔๏ ใครกล่าวสาวเรื่องย้อน |
ถอยหลัง หน่อยรา |
พระพุทธยอดฟ้ายัง |
ใช่เจ้า |
บ่าวสาวกล่าวปลูกฝัง |
ฝั่งใฝ่ ฝาแฮ |
นรีรัตน์ขัติเยศเข้า |
คู่ห้องสองสม ฯ |
๏ ควรเห็นเป็นคู่สร้าง |
สวามินทร์ |
สมเด็จพระอมรินทร์ |
เลิศแก้ว |
กอเหล่าเผ่าธรณินทร์ |
สืบเนือง มานา |
ปฐมชเนติเกศกษัตริย์แพร้ว |
เพริศแคว้นแดนเกษม ฯ |
๏ มหิษีสยามราชไท้ |
ธรเณนทร์ ถัดนา |
สมเด็จศรีสุริเยนทร์ |
เยี่ยมเผ้า |
หลานน้าสยาเมนทร์ |
ปฐมราช |
พระชเนติพระจอมเกล้า |
ปิ่นเกล้าเพราพงษ์ ฯ |
๏ พระลูกองค์แรกเข้า |
ครรภะ |
คนมิทราบอิสสริยะ |
ยุวเจ้า |
เจ้าจอมแว่นผู้พระ |
สนมเอง |
นบบาทปฐมราชเฝ้า |
ใฝ่ไท้ทูลถาม ฯ |
๏ อันองค์ทารกผู้ |
ปฏิสนธิ์ นี้นา |
ทรงราชอิสสริยถกล |
เกียรติ์ฟ้า |
ฤาไฉนปิ่นภูวดล |
ดำรัศ หน่อยเทอญ |
๏ พระพุทธยอดฟ้าตรัศ |
ตอบพลัน |
ชนกก็เจ้าฟ้าอัน |
เอี่ยมหล้า |
เจ้าฟ้าชนิกาทัน |
เทียมศักดิ์ กันนอ |
ลูกก็เป็นเจ้าฟ้า |
แน่แท้ธรรมเนียม ฯ |
๏ ลูกหลานท่านด่วนได้ |
กันเอง |
จึ่งเกิดการอลเวง |
วุ่นว้า |
เนื้อหน่อระย่อเกรง |
พระเดช |
เมื่อตรัศว่าเจ้าฟ้า |
จึ่งฟื้นคืนใจ ฯ |
๏ เจ้าฟ้ามงกุฎเจ้า |
ฟ้าจุธา มณีนา |
เมื่อพระเลิศหล้าลา |
โลกนั้น |
จำเริญพระชนมา |
ยุหย่อน อยู่แฮ |
พระพี่ทรงผนวชหมั้น |
มนีสกว้างทางศีล ฯ |
๏ กาละพระนั่งเกล้า |
สวรรค์คต |
จึ่งอมาตย์มนตรีหมด |
มากถ้วน |
เชิญองค์พระทรงพรต |
สมณราช |
เถลิงรัฐสืบกษัตร์ล้วน |
เลิศสร้างทางเกษม ฯ |
๏ ศึกษิตนิตยน้อม |
จำเนียร |
รอบคอบกรอบการเรียน |
รวบไว้ |
ปัญญาประภาเพียร |
พิทเยศ |
เพราะผนวชนานท่านได้ |
ช่องรู้เรียนนาน ฯ |
๏ สังขยาสาธนชี้ |
ชำนาญ |
นักษัตรวิทยาชาญ |
เชี่ยวใช้ |
คำณวนประมวลกาล |
กำหนด |
สุริยคราสจันทคราสให้ |
ล่วงรู้ชูชม ฯ |
๏ สมัยไทยไม่ทราบเค้า |
ความคิด |
คนตวันตกทิศ |
ทวีปกว้าง |
ทรงถนัดตรัศอังกฤษ |
เขียนอ่าน |
จึงทราบทางลมบ้าง |
ว่าร้ายฤาดี ฯ |
๏ ลมโลกโบกร้ายสู่ |
อาสยา นี้นอ |
ตื้นลึกความศึกษา |
ส่อแก้ |
ความคิดปลิดปัญหา |
เห็นโปร่ง |
บ่ายบิดเข็มทิศแท้ |
ถูกต้องคลองลม ฯ |
๏ รัชกาลที่ ๔ ไท้ |
ธราธร |
พระกนิษฐภราดร |
ปิ่นเกล้า |
ครองพระราชวังบวร |
อภิเศก |
เสมออิสสริยพระเจ้า |
ภพผู้อยู่หัว ฯ |
๏ สองโสทรราชได้ |
ดำรง รัฐแฮ |
ขณะเมื่อเหลือจะทนง |
เนิ่นได้ |
โอนอ่อนผ่อนปรนปลง |
หทัยเที่ยง เถิดเอย |
ภัยยุโหรปโอบใกล้ |
เอิบกล้ามาถึง ฯ |
๏ กอไผ่ไม่ล้มเมื่อ |
ลมมา |
ไม้ใหญ่ไม่ทานพา |
ยุร้าย |
ขวนขวายบ่ายเบี่ยงหา |
หนสงบ ไว้เทอญ |
ผ่อนหนักเป็นเบาย้าย |
แยบเยื้องเนืองนัย ฯ |
๏ เข็มทิศคิดทั่วแล้ว |
ฤาไฉน พระเอย |
ไป่กริ่งทิ้งเก่าไกล |
ใหม่กล้า |
คบฝรั่งดั่งมิตรใน |
ขณะเมื่อ |
ฝรั่งโลภโอบมือคว้า |
ไขว่แคว้นแสนเข็ญ ฯ |
๏ ธงนำพาณิชให้ |
หายหิว |
พาณิชย์นำธงปลิว |
ปราศกั้น |
กำปั่นหลั่นเป็นทิว |
ไปทั่ว |
น้ำที่ไหนที่นั้น |
แน่แท้ปลาถึง ฯ |
๏ ทางค้าท่าขึ้นสู่ |
แควสิน ค้าเอย |
เมี้ยนนักมักแผ่นดิน |
ตกไร้ |
อ่าวเปิดเกิดทางภิญ |
โญยืด |
สืบส่อต่อกันได้ |
กับด้าวพหิดล ฯ |
๏ รัชกาลที่ ๕ เจ้า |
จอมสยาม |
สังเกตเหตุการยาม |
โยคแปล้ |
ไตร่ตรองถ่องทวนตาม |
พระมติ |
บ่งอุบายบ่ายแก้ |
เบี่ยงก้าวยาวยง ฯ |
ร่าย๏ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สมัยขมุกขมัวอาสยา พระปรีชาเชิงการณ์ พาภูบาลให้เห็น ความขุกเข็ญแค้นเคียด อันเบียดเสียดมาถึง พึงย่อหย่อนผ่อนปรือ ทำหนังสือสัญญา พาณิชยราชไมตรี เอาใจดีเข้าต่อ กอบก่อสันถวมิตร รักษาอิศรภาพ เหตุทรงทราบตัวอย่าง ในเมืองต่างประเทศ ฯ
๏ เช่นภูเบศร์แห่งพม่า ชล่าอยู่ตามคติเก่า ไม่รู้เท่าทางภัย จึ่งเป็นไปดังเห็น เป็นเครื่องเศร้ากำศรด หมดศักดิ์สิทธิ์ฤทธิ์เดช ฯ
๏ อนึ่งประเทศญี่ปุ่น เกิดว้าวุ่นนักหนา จำเดิมภาละครั้ง ดั้งเดิมตั้งรังเกียจ เดียดฉันชนต่างด้าว เกิดร้อนร้าวพัลวัน เรืออเมริกันเข้าไป ญี่ปุ่นใสด้วยปืน แต่ฝรั่งขึ้นไปใหม่ เรือปืนใหญ่สี่ลำ นำไปจอดทอดเสมอ คอมโมดอร์เปอร์รีย์ ดื้อไม่มีใครเหมือน ส่งสารเตือนรัฐบาล แม้ยืนกรานจักยับ ภายหลังกลับไปใหม่ เรือรบใหญ่สิบลำ กำยำยืนปืนหนัก เรือใช้จักรเร็วฉกาจ เป็นเครื่องประหลาดสมัยนั้น ครั้นญี่ปุ่นปราชัย จำใจเซ็นสัญญา ทหารอเมริกาจึงยก ขึ้นสู่บกครั้งแรก แปลกที่ไม่เคยมี เซ็นไมตรีกับใคร พึ่งมีในครั้งนั้น ฯ
๏ ความบีบคั้นอักอ่วน ส่วนเมืองจีนนั้นเล่า ถูกเขย่าหลายครา ถูกบีฑาหลายคราว ศึกอื้อฉาวหลายครั้ง ไป่ยันยั้งอยู่ได้ ต้องยอมให้สัญญา เปิดมรคาพาณิชย์ รักษาอิศรภาพ อันเป็นลาภพึงสงวน ฯ
๏ ฉนี้ทั้งมวญประเทศ เขตทวีปอาสยา ภาคบูรพามีสาม สยาม ญี่ปุ่น จีน เลี่ยงปราธีนอยู่ได้ นอกจากสามนี้ไสร้ ตกต้องเป็นเมือง ออกเอย ฯ
โคลง ๒๏ ที่ ๔ ธีรราชเจ้า |
อลุ่มอล่วยอวยทางเข้า |
ที่ข้องปล่องโปร่ง |
ไปเอย ฯ |
๏ ภายในไทยทั่วด้าว |
ทรงประศาสน์ปราศร้าว |
เรียบร้อยรอยรัฐ |
รอบแฮ ฯ |
๏ นฤบดีพี่ร่วมท้อง |
ภาระมอบพระน้อง |
ท่านบ้างบางส่วน |
ควรเอย ฯ |
โคลง ๔๏ แบ่งสรรปันเปลื้องราช |
การยะ |
พระบาทสมเด็จพระ |
ปิ่นเกล้า |
ทรงรับราชภาระ |
บางส่วน |
ซึ่งพระเชษฐนาถเจ้า |
ท่านแจ้งจำนง ฯ |
๏กีฬาม้าช้างจัด |
เจนมวญ |
ตะบองกระบี่คลีรำทวน |
ท่านพร้อม |
แคล่วคล่องถ่องทุกขบวน |
อาวุธ |
ปืนใหญ่ปืนเล็กซ้อม |
ศัสตร์ซ้ำชำนาญ ฯ |
๏ แสนย์สถลยลแยบด้าว |
ตวันตก |
ฝึกหัดจัดทัพบก |
แบบนั้น |
ทางทหารท่านสาธก |
ถ้วนถี่ |
กฎสั่งบังคับปั้น |
แปลกเค้าเลาเดิม ฯ |
๏ ทัพเรือเมื้อสมุทสร้าง |
สัมฤทธิ์ |
ปราศเปรียบเทียบในทิศ |
ออกถ้วน |
เครื่องจักรจากอังกฤษ |
ทรงสั่ง |
ปืนประจำลำล้วน |
เรี่ยวล้ำรำบาญ ฯ |
๏ ไทยมีทัพสมุทรเมื้อ |
ใหม่สมัย |
เรืองระบือลือไกล |
เกียรติ์อื้อ |
แถบนี้บ่มีใคร |
มีเช่น นั้นเลย |
ญี่ปุ่นมาขอซื้อ |
แต่ไท้ไป่ขาย ฯ |
๏ สมเด็จพระปิ่นเกล้า |
อยู่เศียร |
ทรงสว่างทางเรียน |
เท่ารู้ |
นานาวิชาเพียร |
พรรลึก |
น้อยจะมีใครสู้ |
เมื่อร้อยปีปลาย ฯ |
ร่าย๏ พระปิ่นเกล้าสวรรค์คต ก่อนพระจุมภฎภูวนาถ รัชทายาทว่างลง จึ่งองค์พระภูบาล พระราชทานพระแสงดาบ เป็นที่ทราบกันปวง ว่าในหลวงทรงกะ สมเด็จพระโอรส ผู้เพ็ญยศสมญา เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ แทนภูธรต่อไป ฯ
โคลง ๔๏ ที่ ๕ ประชาธิปไท้ |
ภูธร |
จอมราชย์จุฬาลงกรณ์ |
เลิศกล้า |
กรมพระราชวังบวร |
อุปราช |
บวรวิชัยชาญเจ้า |
เจิดกล้าวิชาการ ฯ |
๏ เมื่อพระจอมเกล้าสู่ |
สวรรคา ลัยแฮ |
สมเด็จพระโอรสา |
ธิราชไท้ |
สิบหกพระชนมา |
ยุหย่อน |
ประชวรมากหากหายได้ |
เหตุด้วยบุญสนอง ฯ |
๏ เจ้าพระยาสง่ายศผู้ |
ยงพงษ์ |
สมเญศศรีสุริยวงษ์ |
ว่องกล้า |
สำเร็จราชการบง |
การรัฐ |
แทนพระองค์เจ้าหล้า |
ร่มเลี้ยงเวียงสยาม ฯ |
๏ จนเบ็ญจมราชเจ้า |
จอมธรา |
บันลุพระชนมา |
ยุแล้ว |
จึ่งภูธรสู่ภา |
ระรัฐ |
เป็นราชทรงราชย์แกล้ว |
เกียรติกล้าสากลย์ ฯ |
๏ สยามินทร์ปิ่นธเรศเจ้า |
จุลจอม จักรเอย |
นึกพระนามความหอม |
ห่อหุ้ม |
อวลอบกระหลบออม |
ใจอิ่ม |
เพราะพระองค์ทรงอุ้ม |
โอบเอื้อเหลือหลาย ฯ |
๏ ความรู้สู่ท่านถ้วน |
ทางเสถียร |
เมื่อพระเยาว์เล่าเรียน |
เริ่มปั้น |
พลันเพลินเจริญเพียร |
พิทยเพิ่ม ภูลแฮ |
เพ่งพิจารณ์การหมั้น |
สติหมั้นปัญญา ฯ |
๏ ประคับประคองน้องท่านถ้วน |
ทุกองค์ |
ดังราชบิตุรงค์จง |
จิตไว้ |
เช้าค่ำพร่ำสอนทรง |
ฝึกหัด |
เป็นหลักราชการได้ |
เด่นกล้ากิดาการ ฯ |
๏ พระพจน์หมดเหมาะแท้ |
ทุกนัย |
ตรัศเล่นตรัศจริงใคร |
จักค้าน |
วาจาพระปราไส |
สุดเสนาะ |
จับจิตคิดทุกด้าน |
เด่นข้อคำไข ฯ |
๏ คำหนึ่งซึ่งพระเจ้า |
อยู่หัว |
ตรัศหมิ่นยินควรกลัว |
กลับกล้า |
สาธกยกเป็นตัว |
อย่างหน่อย เถิดนา |
ใครบ่ยินแต่ข้า |
พเจ้าเสาวนา ฯ |
๏ ตูในวัยหนุ่มได้ |
ทำงาน |
รับราชการรัชกาล |
ที่ห้า |
น้อย ๆ ค่อยชำนาญ |
น่าที่ |
หลั่น ๆ คั่นช้าช้า |
ช่องชั้นบันได ฯ |
๏ ตอนกลางทางเปิดให้ |
เห็นสม ใจแฮ |
ตำแหน่งหัวน่ากรม |
ครึกครื้น |
ไป่ช้าสบอารมณ์ |
เร็วรวด |
กรมใหม่ใหญ่ยิ่งขึ้น |
คั่นก้าวยาวยืน ฯ |
๏ วันหนึ่งในที่เฝ้า |
ภูบาล |
มีราชวโรงการ |
แก่ข้า |
ในเรื่องถูกย้ายงาน |
บ่อยบ่อย |
ตรัศว่าสมน้ำหน้า |
ที่ใช้ได้ดี ฯ |
๏ พระในท่าที่ห้อม |
บริหาร |
เจ้าชีวิตจิตสันดาน |
ดัดปั้น |
มั่นคงธบงการ |
บุรณกิจ |
ปกราษฎร์ปราศบีบคั้น |
ขุ่นแค้นเข็นขืน ฯ |
โคลง ๒๏ การคลังสั่งแยกให้ |
ส่วนใหญ่แก่รัฐไว้ |
ส่วนน้อยแก่องค์ พระเอย ฯ |
|
๏ ของท่านท่านโอบเอื้อ |
มุ่งแต่ความงามเกื้อ |
แก่ด้าวคราวควร ฯ |
|
โคลง ๔๏ รัชกาลนานยิ่งเจ้า |
แผ่นดิน อื่นเอย |
ชนย่อมยินดียิน |
เยี่ยงไท้ |
บำรงพยุงสิน |
เศรษฐกิจ |
ราชทรัพย์ปรับใหม่ให้ |
แยกตั้งคลังหลวง ฯ |
๏ ประเพณีครั้งราชดั้ง |
เดิมมา |
ภาระพระราชา |
ช่วงใช้ |
หมดทั้งพระคลังมหา |
สมบัติ |
เป็นทรัพย์ส่วนองค์ไท้ |
ท่านสร้างสะสม ฯ |
๏ พระปิยมหาราชเจ้า |
ทรงจัด |
คลังมหาสมบัติ |
แบ่งสร้าง |
เป็นทรัพย์ราชการรัฐ |
รวบรวม |
รายจ่ายรายรับอ้าง |
ออกด้านบาญชี ฯ |
๏ จัดพระคลังข้างที่ |
ส่วนองค์ พระเอย |
ทรัพย์แต่ส่วนน้อยทรง |
แยกไว้ |
ส่วนมากประจาคจง |
จินตนะ |
สมส่ำสำหรับใช้ |
เชิดแคว้นแดนสยาม ฯ |
โคลง ๒๏ ต่าง ๆ ทางก่อกู้ |
เกิดแต่การเรียนรู้ |
เลิศล้ำสำคัญ ฯ |
|
๏ สมเด็จบิตุราชไท้ |
ปัจจักษ์หลักนี้ได้ |
เริ่มสร้างทางเรียน ฯ |
|
๏ รับมรดกชนกเจ้า |
จึ่งพระจุลจอมเกล้า |
ท่านกว้างทางมติ ตริเอย ฯ |
|
โคลง ๔๏ “ความรู้คู่เปรียบด้วย |
กำลัง กายเฮย” |
พระราชนิพนธ์ดั่ง |
นี่อ้าง |
เป็นหลักประจักษ์จัง |
จริงจิต |
สำนักนิ์การเรียนสล้าง |
สลักไว้ในกมล ฯ |
๏ ทางตรงทรงทราบแจ้ง |
จริงหทัย ท่านเอย |
สิ่งที่จำเป็นสมัย |
ใหม่นี้ |
คือว่าวิชาใน |
ตวันตก |
อยากจะรู้อย่าลี้ |
เร่งเต้าเร็วตาม ฯ |
๏ ส่งไทยไปยุโหรปทั้ง |
อเมริกา ด้วยแฮ |
เพื่อศึกษาภาษา |
แผ่สร้าน |
หลายอย่างต่างวิทยา |
ยืนปโยชน์ |
ราชทรัพย์นับล้านล้าน |
เลิศล้นผลสนอง ฯ |
๏ หลายไทยได้เชิดหน้า |
ชูเสนอ |
แวววิชาพาเผยอ |
ยาตร์เต้า |
มั่นเหมาะเพราะคัลเชอร์ |
คู่ชาติ |
สงวนเก่าเอาใหม่เข้า |
ควบด้วยอวยผล ฯ |
๏ นักเรียนเพียรผ่านท้อง |
ทเลไกล |
สมาชิกศิกษาลัย |
เลศรู้ |
นึกขำที่คำไทย |
เคยเทียบ |
ว่าพวกหัวนอกผู้ |
ผ่านแล้วแนวเรียน ฯ |
๏ หัวในหัวนอกโน้น |
นานสมัย |
รับราชการหว่านไกล |
พืชกล้า |
เกิดก่อต่อเยื่อใย |
ยาวปโยชน์ |
จากรัชกาลที่ห้า |
จวบนี้มีแนว ฯ |
๏ เรียนจริงอิงหลักได้ |
ดีเรียน |
ฤาว่าสักแต่เลียน |
ว่ารู้ |
เพียรเรียนใช่เลียนเพียร |
พิทเยศ |
ปราศวิชาพาคู้ |
คุดเค้าเดาเดิน ฯ |
๏ นัยฉนี้มีหลักอ้าง |
อิงพยาน |
ส่อส่งพงษาวดาร |
เด่นเค้า |
เมื่อบ้าว่าราชการ |
โกยกอบ |
ฤาเมื่อกุ๊ยเป็นเจ้า |
ครอบบ้านครองเมือง ฯ |
ร่าย๏ ทางไมตรีกับฝรั่ง ดั่งสมเด็จพระชนก ยกเป็นแยบดำเนิน จำเริญรัฐประศาสน์ เบ็ญจมราชทรงอนุวัตน์ หลายพหิรัฐต่อติด สนิทสันถวไมตรี มีสัญญาค้าขาย ขยายออกไปให้กว้าง ทรงเรียกจ้างผู้ชาย เชิงราชการต่างแผนก ให้แรกเริ่มเผดิมงาน ในเฉพาะกาลหัวต่อ ทางกอบก่อหลายนัย อาไศรยชาวต่างประเทศ อันอวยเลศรอบรู้ กว่าจะมีไทยผู้ ช่วงใช้ได้พอ การแฮ ฯ
โคลง ๔๏ การคลังการป่าไม้ |
การรถ ไฟแล |
การทดน้ำกำหนด |
น่านกว้าง |
การแร่แง่การกฎ |
หมายใหม่ |
อาทิที่ท่านจ้าง |
ฝรั่งเอื้ออวยผล ฯ |
๏ รุ่นใหม่ไทยหนุ่มได้ |
ดีงาน |
แต่ขาดความชำนาญ |
นั่นแล้ |
คั่นต่ำประจำการ |
ไปก่อน |
บ้างก็ฝืดอืดแอ้ |
ไป่เอื้อมเอาสูง ฯ |
ร่าย๏ ไมตรีส่วนพระองค์ ทรงสืบส่อต่อติด กับชนทิศอัสดงคต ปรากฏนามภูธร ขจรไปในยุโหรป โอบถึงทวีปอเมริกา แขกเมืองมาเยี่ยมเยียน เจ้ายุโรเปียนหลายองค์ หลายราชวงษ์หลายประเทศ ฯ
๏ อนึ่งภูเบศร์เสด็จประพาศ เยี่ยมจอมราษฐ์ในยุโหรป โกบประโยชน์โสตถิผล ไม่มีคนไทยใด ได้เคยไปเที่ยวถ้วน สังเกตเหตุการล้วน ดั่งไท้ได้ยล ทั่วเอย ฯ
โคลง ๔๏ เมื่อเยาว์เราเที่ยวได้ |
ความสนุกนิ์ |
เที่ยวเมื่อใหญ่ได้ปลุก |
สติตั้ง |
แบบอย่างต่างแยบทุก |
สถานถิ่น |
กรรณเนตรสังเกตทั้ง |
ที่สิ้นยินเห็น ฯ |
๏ ผู้เที่ยวเยียวใช่ผู้ |
ดูเป็น |
ดูก็ดูไม่เป็น |
ดอกเน้อ |
เหม่อ ๆ มเมอเหม็น |
เบื่อหมด |
พูดก็พูดเพ้อเพ้อ |
ว่าได้ไปดู ฯ |
๏ วาจาภาษิตโน้ม |
นำใจ |
คำบุราณกาลไกล |
กล่าวกล้า |
ความว่าผิวฬาไป |
ท่องเที่ยว |
ก็ไม่กลายเป็นม้า |
กลับบ้านบานใจ ฯ |
๏ พระจุลจอมเกล้าเสด็จ |
แดนใด |
แดนพระเนตรภูวนัย |
ถนัดถ้วน |
ใครเลยจะเคยไม |
ตรีจรด |
เจ้าแผ่นดินถิ่นล้วน |
ที่ไท้ไปถึง ฯ |
ร่าย๏ กรมพระราชวังบวร บวรวิชัยชาญ ทรงถนัดการศิลปะ แลวิศวะกรรมกล เครื่องใยยนต์หลายแยบ แบบไทยแบบต่างประเทศ อันมีเลศนานา ฯ
๏ ทรงภาษาอังกฤษ ปลิดมาแปลเป็นไทย ไขเรื่องรามายัณ ตลอดทุกกัณฑ์ที่มี ฯ
๏ ส่วนการกวีนั้นเล่า ชนรุ่นเก่ารู้กัน ว่าคำฉันท์ยาวเฟื่อง มีสองเรื่องที่ไท้ ทรงพระนิพนธ์ไว้ เทิดแท้ทางกวี ฯ
โคลง ๒๏ พระชนมายุสั้น |
สี่สิบแปดเท่านั้น |
ท่านเมื้อเมืองบน ฯ |
|
โคลง ๔๏ รัชกาลที่ ๕ เบิก |
ปัญหา มาแฮ |
ว่าประชาธิปัตย์ |
แปลกกี้ |
จักควรด่วนฐาปนา |
แน่เนิ่น |
ฤาจะช้า ๆ ชี้ |
ชักให้ไทยเห็น ฯ |
ร่าย๏ พระปรมินทร์ปิ่นภพ ปรารภรัฐประศาสน์ บำรุงราษฎรไทย ในรัชกาลของพระองค์ ทรงพระราชดำรัศ ซัดกระแสแง่ความ ตอบคำถามพระกนิษฐ์ กรมหมื่นมหิศรราชหฤทัย ดำเนินนัยดั่งนี้ แน่ตระหนักชักชี้ เชิดแท้พระหทัย ท่านเอย ฯ
คำทูลถาม๏ สังเกตพหิเทศสร้าง |
โสตถิ |
โยงนิยามตามคติ |
แต่งกว้าง |
สมญาประชาธิ |
ปัตยะ |
เราจะลองดูบ้าง |
แบบนั้นฤาไฉน ฯ |
โคลง ๒๏ เห็นไกลในภาคหน้า |
จึ่งนรินทร์ปิ่นหล้า |
ล่วงรู้เลาทาง ฯ |
|
๏ โบราณท่านว่าช้า |
ยอมจะได้สองพร้า |
เพริศแท้ทางภา ษิตเอย ฯ |
|
๏ หุนหันพลันแล่นเข้า |
เหยียบหล่มจมลึกเท้า |
ยากแท้จักถอน ฯ |
|
พระราชดำรัศตอบ๏ เราไทยในแหล่งนี้ |
ลำเนา รัฐนา |
อ่อนหัดปรัชญาเยาว์ |
แยบย้อม |
การเมืองเครื่องมึนเมา |
มีมาก |
แม้ว่ายังไม่พร้อม |
เพลี่ยงพล้ำทำเสีย ฯ |
๏ เสรีผิวให้ก่อน |
เวลา ควรแฮ |
เมื่อราษฎร์ปราศศึกษา |
ส่องแจ้ง |
ความสุกก่อนห่ามมา |
มัวมืด |
เหตุที่ปัญญาแล้ง |
ย่อมร้างทางเจริญ ฯ |
ร่าย๏ ใจความตามดำรัศ ใคร่ออกอัตถ์อธิบาย ขยายให้เห็นแจ่มแจ้ง ในที่เสรีแท้ง เทียบถ้อยทำนอง นี้นา ฯ
โคลง ๔๏ เสรีมีเมื่อไร้ |
ปัญญา |
ปทีปถ่องส่องทางพา |
เพ่งก้าว |
อำนาจปราศวิชชา |
ชูจัก |
รังแต่จักหักร้าว |
เห่อรั้งพังทลาย ฯ |
๏ บางคนกมลมุ่งฉ้อ |
โฉงเฉง |
ประกาศอาตมเอง |
อาจเอื้อม |
เสรีบ่มีเพลง |
พลัดเพลิด |
วางใหญ่ไว้แง่เงื้อม |
เงื้อนโค้งโกงกล ฯ |
๏ ไขหลักชักเชิดชี้ |
ชวนใจ |
พวกมากลากกันไป |
ปลุกป้อน |
น้อยผู้จะรู้นัย |
ความคิด |
ช่วยชาติเพื่อกวาดต้อน |
ปโยชน์ไว้ในตน ฯ |
๏ ใช้แยบแอบอ้างชื่อ |
ชนหลาย |
ยื้อแย่งตำแหน่งนาย |
หนีบเน้น |
จำโนษโฆษณสาย |
สนจมูก |
หมู่มหิงส์วิ่งเต้น |
ใต่เต้าตีนตาม ฯ |
๏ เสรีมีไม่ช้า |
ชิมรศ |
แปรธาตุฝาดเฝื่อนกรด |
กัดลิ้น |
โอษฐ์หุบอุบอิบหด |
หัวหู่ |
อ่อนจิตอิศรสิ้น |
สุดแล้วเสรี ฯ |
๏ เปลี่ยนเป็นหมู่น้อยหนีบ |
อำนาจ ไว้นอ |
เปิดป่าวข่าวช่วยชาติ |
เชิดหน้า |
ปวงชนย่นคิ้วขยาด |
ขยักขย่อน |
สิ้นอยากหากไม่กล้า |
กลับค้านการเมือง ฯ |
๏ อัลปชนาธิปัตย์แกล้ว |
กำเรียง |
แปลว่าสุดแต่เสียง |
ส่วนน้อย |
ทวยราษฎร์ปราศสำเนียง |
ในราษฐ์ |
ส่วนมากปากหุบห้อย |
หอกจ้องจองภัย ฯ |
๏ ไป่นานพาลอาจเอื้อม |
อาชญา |
หยิบรัฐธรรมนูญปา |
ปิดตู้ |
บ่ายเบี่ยงเยี่ยงเอกา |
ธิปัตย์ |
สิทธิ์ขาดอำนาจผู้ |
เพ่งปล้นคนเดียว ฯ |
๏ เอกาธิปัตย์เที้ยร |
ทางฉิบ หายแฮ |
คือดิกเตเตอร์ชิป |
เชิดชั้น |
เสรีที่ยกหยิบ |
มากล่าว |
เป็นแต่เพียงหมอกกั้น |
ไม่ให้ใครเห็น ฯ |
๏ ความเปลี่ยนเวียนตั้งแต่ |
เสรี เริ่มแฮ |
เคลื่อนขยับหลับเลมอมี |
มากเพ้อ |
คั่นโอลิกากีย์ |
กำหราบ |
ที่สุดดิกเตเต้อร์ |
เติบกล้าบารมี ฯ |
๏ ศึกษาทั่วบ้านทั่ว |
เมืองไทย |
แม้ว่ามีเมื่อไร |
เมื่อนั้น |
ประชาธิปัตย์ใน |
ประเทศ |
จึ่งจะยึดรากหมั้น |
หมดม้างทางมาร ฯ |
๏ วิชาประชาธิปัตย์เพี้ยง |
พอใจ |
พึงสดับตรับนิตินัย |
นิตยซ้อม |
นำป้อนราษฎรไป |
แต่ขณะ นี้นา |
รุ่นน่าน่าจักพร้อม |
พรั่งแผ้วแนวทาง ฯ |
ร่าย๏ กล่าวฉนี้ไซร้ใช่ดำรัศ แห่งจอมกษัตร์โดยคำ แต่โดยทำนองความ คำทูลถามทรงแถลง ไม่เคลือบแคลงมิดเมี้ยน คำราชอาจเทียบเที้ยน ที่ถ้อยตูแถลง นี้แล ฯ
พระราชดำรัศต่อ๏ บำรุงหลายอย่างแล้ว |
รัชกาล นี้นา |
ไทยส่ำสำราญนาน |
นอบน้อม |
ไป่ควรด่วนรังควาน |
ความสงบ |
คอยเมื่อศึกษาพร้อม |
เพริศหมั้นปัญญา ฯ |
๏ สามสิบปีข้างน่า |
นึกเห็น |
โอกาศปาลิเม็นต์ |
เหมาะใกล้ |
ฉัฏฐราชย์อาจจักเป็น |
ปฐมฤกษ์ |
เริ่มรัฐธรรมนูญไร้ |
โรคร้ายภายหลัง ฯ |
ร่าย๏ พระจุลจอมเกล้าเจ้าชีพ รีบเสด็จด้าวนภดล พระชนม์ห้าสิบแปด แต่แวดสยามมานาน รัชกาลยาวยืนยง ยิ่งกษัตร์องค์ใดใด ในพระราชพงษาวดาร ขานพระนามฉายา พระปิยมหาราชเจ้า เพราะพระจุลจอมเกล้า ท่านแม้นพ่อแม่ มวญเอย ฯ
โคลง ๔๏ แห่พระบรมศพเจ้า |
จอมจักร |
หวนระลึกนึกตระหนัก |
เนตรแสร้ว |
ฉนำฉนำภาพจำหลัก |
จารึก |
สามสิบสี่ปีแล้ว |
จิรไร้ใจลืม ฯ |
๏ รวิวารแรม ๕ ค่ำ |
เดือน ๑๑ |
เชิญพระศพสมเด็จ |
ชนกเจ้า |
ปิ่นรัฐขัติยเพ็ช |
ราวุธ |
ทรงพระดำเนินเข้า |
เคลื่อนคล้อยรอยทาง ฯ |
๏ ย่ำค่ำคำสั่งให้ |
เดินขบวน |
เสียงสุรางค์นางครวญ |
คร่ำก้อง |
แตรปี่มี่รัญจวน |
ใจสลด |
เปิงพรวดพรวด ๆ ซร้อง |
ศัพท์ซ้ำกำศรวญ ฯ |
๏ สามคานยานมาศเรื้อง |
จำรัส |
นพปฎลเสวตรฉัตร |
เชิดกั้ง |
พระโกษฐโรจนรัตน์ |
ไรแอร่ม |
ยังบ่เคยมีครั้ง |
อื่นให้ใครเห็น ฯ |
๏ ธูปเทียนดอกไม้เนื่อง |
แนวถนน |
สองฟากมากฝูงคน |
ร่ำไห้ |
ยามค่ำชะอ่ำฝน |
ฟ้ามืด |
แลบ่เห็นตัวได้ |
สดับเพี้ยงเสียงครวญ ฯ |
๏ ท้าววรุณเทวราชให้ |
วลาหก มาฤา |
เพื่อกระทั่งหลั่งอุทก |
ที่กว้าง |
เมฆมิดปิดดารก |
เดือนลบ |
เทียนส่องแซงสองข้าง |
คู่ริ้วทิวขบวน ฯ |
๏ ยานมาศยาตร์เยื้องท่อง |
แถวถนน |
ยังมิถึงครึ่งหน |
เหือดอ้าว |
มารุตดุจดังฝน |
แสนห่า มาแฮ |
พ้าแลบแทบทุกก้าว |
ที่ก้าวยาวทาง ฯ |
๏ เมื่อขบวนจวนเข้าราช |
ดำเนิน ในนา |
ถนัดดั่งฟ้ามาเชิญ |
เสด็จฟ้า |
อัมพรอมรเหิร |
เห็นแวบ |
แววประกายพรายกล้า |
เกลื่อนห้องเวหา ฯ |
๏ ยิ่งใกล้ไฟแลบฟ้า |
นำฝน |
ปราบแปรบแถบนภดล |
ดื่นข้าง |
สว่างทั่วปริมณฑล |
ทุกอึด ใจเอย |
ดังทิวามามล้าง |
มืดมล้าราตรี ฯ |
๏ เมขลาล่อแก้วช่วง |
ชัชวาลย์ |
รามสูรขว้างขวาน |
ไขว่คว้า |
ร่ำไรไล่รำบาญ |
ฤๅเบื่อ |
เปรี้ยงแวบสายแลบฟ้า |
ผ่าฟ้าพาฝน ฯ |
๏ เมขลารามสุรร้าย |
ราวี |
มาช่วยอำนวยกี |
รณกล้า |
โอภาศราชวิถี |
ทางแห่ |
ดังประทีปกลีบฟ้า |
ซึ่งฟ้ามาถวาย ฯ |
๏ อจิรประภาอากาศก้อง |
ก่องจรัส |
ฉายพระโกษฐ์เสวตร์ฉัตร |
เชิดก้ำ |
อึดใจไป่เว้นอัส |
นีส่อง |
ช่วงโชติโรจนล้ำ |
เลิศพ้นคนทำ ฯ |
๏ ถั่นถึงทวารเวศม์เจ้า |
จอมปราณ |
ยานมาศราชศวาธาร |
เทิดเงื้อม |
สายฟ้าประภาการ |
ปรากฏ |
ดั่งพระอาทิตย์เอื้อม |
อร่ามทั้งวังหลวง ฯ |
๏ เสร็จเชิญพระศพไท้ |
เถลิงอาศน์ |
ดุสิตมหาปราสาท |
สุดเศร้า |
จึ่งพระพิรุณสาด |
ฝนส่ง |
ทึกท่วมถึงข้อเท้า |
ท่องน้ำดำเนิน ฯ |
โคลง ๒๏ ฝนดั่งฝนสั่งฟ้า |
ส่งรัชกาลที่ห้า |
เสด็จเมื้อเมืองสวรรค์ ฯ |
|
โคลง ๔๏ พระมงกุฎเกล้าเริ่ม |
รัชกาล |
ไทยประเทศสมาทาน |
เทิดแล้ว |
เชิดชาติราษฎร์สำราญ |
ในร่ม รัฐแล |
ทรงประศาสน์ราชกิจแผ้ว |
ผ่องพ้นคณนา ฯ |
๏ หลายประการผ่านภพผู้ |
พงษ์วิพุธ |
สมเด็จวชิราวุธ |
ราชเจ้า |
สืบโสตถิ์ประโยชน์สุด |
ทรงต่อ |
จากพระจุลจอมเกล้า |
ชนกไท้ธรณินทร์ |
๏ เป็นราชองค์แรกตั้ง |
แต่ไหน มานา |
เคยสู่ศึกษาลัย |
ยุโหรปเรื้อง |
ช่ำชองว่องไวไว |
ทเยศเยี่ยม |
รู้บ่รู้เปล่าเปลื้อง |
ปลดรู้สู่เรา ฯ |
๏ วรรณคดีมีมากไว้ |
โวหาร พระเฮย |
หลายเรื่องเครื่องสำราญ |
เลื่องรู้ |
ตำราวิชาการ |
กำหนด |
น้อยจะมีใครผู้ |
เทียบไท้เทียมทัน ฯ |
๏ บรมราชาภิเศกก้อง |
กิดาการ |
โอภาศราชสมภาร |
ผ่านเผ้า |
แขกเมืองเนื่องมาขาน |
คำสวัสดิ์ |
แทนรัฐแทนราชเจ้า |
ต่างแคว้นแดนไกล ฯ |
๏ อาสยามาแต่ครั้ง |
คราวไหน บ้างนอ |
แขกประเทศเขตไกล |
เกริกกล้า |
มารวมประชุมใน |
งานสง่า |
เก้าพระองค์เจ้าฟ้า |
เฟื่องฟุ้งจรุงใจ ฯ |
ร่าย๏ พระมหาวชิราวุธ มกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ไม่ขมุกขมัวพระกมล .เชิงปรุงชนชาติไทย เพื่อกาลไกลอนาคต ทรงออกบทบริหาร บังคับการศึกษา เสริมปัญญาราษฎร ปลูกสหกรณ์ เผยแผ่ แง่ประชาธิปัตย์ ให้ฝึกหัดไปพลาง วางบัญญัติ นามสกุล เป็นทางหนุนสำนึก รำลึกเผ่าพันธุ์ไทย ผู้ภูวนัยนิตยน้อม นำหทัยให้พร้อม พรักไว้ในอนา คตนา ฯ
โคลง ๔๏ ศึกษาสาธิตแท้ |
ทางวัฒ นานา |
มีพระราชบัญญัติ |
แยกไว้ |
ภาคปฐมมัธยมจัด |
แจกส่วน |
ภาคอุดมบ่มใช้ |
เชิดชิ้นปริญูญา ฯ |
๏ สหกรณ์การหัดให้ |
เห็นทาง |
สภาย่อยค่อยทำพลาง |
เผื่อไว้ |
เที่ยงเทียบระเบียบวาง |
เป็นแบบ |
ปชาธิปัตย์จัดได้ |
ดั่งนี้มีแนว ฯ |
๏ นามสกุลหนุนเนื่องเค้า |
สำคัญ |
ให้คิดชิดชำนัญ |
เลือดเนื้อ |
ร่วมพรรครักเผ่าพันธุ์ |
พัลลภ |
ใยญาติโยงชาติเชื้อ |
ชื่อใช้ไทยเถลิง ฯ |
ร่าย๏ ในรัชกาลที่หก ยกการโลกขึ้นขาน เหตุการน่าสังเกต หลายประเทศยุโหรป ลโมภอาณาน่าหัว เครื่องพันพัวลามปาม ต่างเกิดความแก่งแย่ง แข่งอำนาจราชศักดิ์ จักรพรรดิราชเรืองเดช เป็นด้วยเหตุมหิจฉตา พามักใหญ่ใฝ่สูง จูงให้จิตคิดเอื้อม เพื่อดนูอยู่เงื้อม ยิ่งเชื้อชนใด ฯ
โคลง ๔๏ สงครามสามทวีปร้าย |
ราวี |
ราวเมื่อสามสิบปี |
โน่นนั้น |
นานเนื่องเครื่องยายี |
ยาวยืด |
เพราะยุโหรปโลกภปั้น |
ปลุกให้ใหญ่หลวง ฯ |
๏ ใคร่เล่าเค้าเรื่องดั้ง |
เดิมมา |
เพียรพจน์รจนาวา |
ระนี้ |
เลาเลศเหตุการกา |
ละก่อน |
เพียงแต่สังเขปชี้ |
ชักข้อพอควร ฯ |
๏ ชนสลาฟคาบก่อนตั้ง |
สองพัน ปีเอย |
กเถิบถิ่นกินขอบคัน |
คั่นก้าว |
คือคลื่นดื่นดาดัน |
แดนเขยิบ |
แผ่ซ่านผ่านสู่ด้าว |
อื่นดื้อถือดี ฯ |
๏ ภาคกลางยุโหรปพร้อม |
เพรียงกัน |
โดยเฉพาะชนเยอรมัน |
ไม่ลี้ |
มากมาประดายัน |
ไว้อยู่ |
สองเผ่ากาลเก่ากี้ |
แก่งแย้งแคลงรคาย ฯ |
๏ เกิดเป็น ปมเผ่า เหี้ยม |
หิงสา |
ครั้นเมื่อนานๆมา |
มากเข้า |
ขวนขวายกระจายหา |
หนแห่ง |
บ้านอยู่อู่นอนเหล้า |
แหล่งด้าวราวแดน |
๏ เปลี่ยนเป็น ปมชาติ ชั้น |
หนึ่งอีก |
แผนแผกแยกเป็นกผีก |
แผ่กั้น |
เผ่าเดียวเฉี่ยวแฉกฉลีก |
เป็นรัฐ หลายแล |
ถือชาติคือ เนฉั้น |
เชิดหน้าปชานันท์ ฯ |
๏ ครั้นชาติต่อชาติเอื้อม |
อำนาจ กันนอ |
เล็กใหญ่ใครมีขนาด |
มากน้อย |
ชาติย่อมย่อมคิดขยาด |
ชาติใหญ่ |
จับกลุ่มชุมพวกด้อย |
เพื่อได้แรงดัน ฯ |
๏ ตาเต็งเล็งน้ำหนัก |
ไหนขาด อยู่นา |
เพียรเพิ่ม ดุลย์อำนาจ |
เนิ่นไว้ |
ขวักไขว่ใฝ่หาชาติ |
ร่วมชื่อ |
เป็นฝักเป็นฝ่ายให้ |
อุ่นน้ำใจนอน ฯ |
๏ เหตุเห็นเป็นคติร้าย |
แรงฉกาจ |
คือโลภโอบอำนาจ |
นั่นแล้ |
จับกลุ่มประชุมชาติ |
คู่ชีพ |
สหายศึกฮึกศักดิ์แปล้ |
เปี่ยมร้ายปลายรึง ฯ |
๏ สองฝักสองฝ่ายเฝ้า |
ใฝ่คิด |
เวียนระแวงแข่งฤทธิ์ |
รุ่มเร้า |
รัสเซียร่วมอังกฤษ |
ฝรั่งเศษ |
อิตลีย์ออสเตรียเข้า |
ร่วมข้างเยอรมัน ฯ |
๏ ปรัมปราภาษิตถ้อย |
ธำรง |
ใคร่สงบเตรียมรบจง |
พรักพร้อม |
หยั่งเหยื่อเยื่อใยยง |
กลยุทธ |
เพื่อจะยังใจย้อม |
แยบก้าวยาวยืน ฯ |
๏ อังกฤษคิดค้าช่วง |
ชลาลัย |
เรือแล่นแม่นทางไกล |
เกลื่อนกว้าง |
ปลูกฝังฝั่งฝาใน |
แนวทวีป อื่นเอย |
นานเนื่องเมืองขึ้นสล้าง |
สฤษดิ์ด้าวยาวยืน ฯ |
๏ อาณาสง่าเงื้อมทั่ว |
ทุกทิศ |
จึ่งทัพเรืออังกฤษ |
เกรื่องกล้า |
เข้มแขงแสดงอิทธิ์ |
อาบเอิบ |
ครองทเลเร่คว้า |
ไขวแคว้นแดนดิน ฯ |
๏ เยอรมันมั่นทัพถ้วน |
ทางบก |
แต่มิอาจยาตร์ยก |
ย่านน้ำ |
ติดขัดอัดอึดอก |
เอือมจิต |
สมุทอยู่ขวางทางช้ำ |
ชอกแท้แดถวิล |
๏ จำเป็นเห็นแน่แท้ |
ทางยุทธ |
ที่จะมีทัพสมุท |
มากไว้ |
แดนดินถิ่นไกลสุด |
สาคเรศ |
ทัพไม่ดีไม่ได้ |
เดชด้อยถอยหลัง ฯ |
๏ ตบมือแม้ตบข้าง |
เดียวใด |
มือมิใช่มือไชม |
ไม่ก้อง |
ภาษิตสกิดใจ |
จำจด |
มือจะตบดังต้อง |
ตบทั้งสองมือ ฯ |
๏ การศึกคึกคักคล้าย |
คมเคียว |
เกี่ยวแต่เพียงเล่มเดียว |
ก็ได้ |
อำนาจปราศธรรมเสียว |
สยองจิต |
ธรรมปราศอำนายไร้ |
ฤทธิ์ร้าราวี ฯ |
๏ “สงครามเป็นเครื่องค้า |
ของกษัตร์” |
เหตุว่าขัติโยปบัติ |
บ่มไว้ |
ใฝ่ศึกฝึกหัดจัด |
เจนจบ |
แรงมากมักอยากได้ |
ช่องแว้งแรงลอง ฯ |
๏ มุ่งร้ายหมายไล่ล้าง |
ทางสงบ |
แขงต่อแขงแรงกทบ |
กแทกกทั้น |
กล่าวเทียบก็เปรียบปรบ |
สองหัตถ์ |
ใครจะขวางทางกั้น |
สกัดห้ามความกหาย ฯ |
๏ สงครามความเสื่อมล้วน |
เร็วสลาย |
เป็นเหตุเศรษฐกิจกจาย |
กจัดถ้วน |
เพราะโลภยุโหรปกลาย |
เป็นกร่อน |
เสร็จศึกนึกจักอ้วน |
อกโอ้โมหันธ์ ฯ |
โคลง ๒๏ หลายด้าวคราวโหดห้วน |
โดยที่เดินทางด้วน |
ไม่รู้หลบหลีก ไฉนเลย ฯ |
|
ร่าย๏ ออสเตรียราชาธิราช ประกาศศึกเซอร์เบีย รัสเซียราชาธิราช ประกาศระดมพลพลัน เยอรมันราชาธิราช ประกาศศึกรัสเซีย เยียให้เกิดเป็นเหตุ ฝรั่งเศษประกาศยุทธ ฉุดอังกฤษเข้าไป ในที่สุดสงคราม ลามสิบแปดประเทศ เหตุอุตลุดสุดก้ำ โอบเอิบเติบยิ่งล้ำ กว่าครั้งคราวใด ฯ
โคลง ๒๏ หลายประเทศเภทพ้อง |
เหลือจะเลี่ยงเบี่ยงต้อง |
ติดท้ายปลายแห ฯ |
|
โคลง ๔๏ เราไทยในขณะเข้า |
ข่ายสง ครามแฮ |
ใช่เมื่อปัจจนึกลา |
แหลกร้าว |
หฤทัยใช่จำนง |
อามิศ |
ใส่ว่าใครได้ด้าว |
เพ่มพื้นไผทไทย ฯ |
๏ ส่งทัพสู่ทวีปโน้น |
แนวสมร |
ข้ามมหาสาคร |
ปราศคร้าม |
คำนึงนเรศร |
อยุธเยศ |
ใฝ่ยุทธญี่ปุ่นข้าม |
ทัพท้องทเลจีน ฯ |
๏ ทัพไทยไปสู่ด้าว |
แดนฟรังก์ |
ในเมื่อการยุทธ์ยัง |
ยุ่งยื้อ |
กฉับกเฉงเร่งสู่สัง |
เวียนรบ |
นับว่ามีมือมื้อ |
เมื่อได้ชัยเฉลิม ฯ |
ร่าย๏ สิ้นรัชกาลที่หก พระปกเกล้าครองกรุง ผดุงอาณาประชาชน พระกมลน้อมนำไป ในทางประชาธิปัตย์ แบบกษัตรรัฐธรรมนูญ หวังเพิ่มภูลผาสุก ปลุกเสรีที่ควร ทรงสอบสวนลักษณะ ระบอบแบบปฏิบัติ จัดกรรมการองคมนตรี ใช้วิธีรัดกุม การประชุมปฤกษา ตามแบบปาลิเม็นต์ ให้เห็นเป็นตัวอย่าง เครื่องสว่างเคร่าไว้ เพื่อประโยชน์โปรดให้ แก่ด้าวคราวควร ฯ
๏ ตรัศให้สืบหลายสาย กฎหมายรัฐธรรมนูญ อันเป็นมูลนิติธรรม ประจำหลายพหิเทศ จำแนกเลศหลายแบบ มีเยี่ยงแยบนานา ที่ปฤกษาหลายนาย ถวายความเห็นต่างกัน ปฤษณาอันยอกย้อน พอเกิดการแซกซ้อน เมื่อร้อยห้าสิบปีเอย ฯ
โคลง ๒๏ สมเด็จพระปกเกล้า |
ทรงสละตำแหน่งเจ้า |
ภพพื้นไทยพรา ฯ |
|
เก้าปี
โคลง ๔๏ เก้าปีพระปกเกล้า |
ครองดิน |
สละราชย์อาศนนรินทร์ |
เลื่อนคล้อย |
สังวัจฉร์รัตนโกสิน |
ทรศก |
เมื่อมินาคมร้อย |
กับห้าสิบสาม ฯ |
ร่าย๏ ปางเมื่อพระราชา อานันทมหิดล ชนมายุยังเยาว์ เนาทวีปตกทิศ โรงเรียนสวิตเซอร์แลนด์ คณะผู้แทนพระองค์ ทรงราชานุภาวะ พระองค์เจ้าอาทิตย์ หลวงประดิษฐ์มนูธรรม สำเร็จราชการไผท ในพระนามยุวเจ้า เค้ากษัตรรัฐธรรมนูญ หลวงพิบูลสงคราม “ผู้นำ” สยามคาบนี้ มีมหัปผลชี้ ช่องให้เห็นหลาย หนแล ฯ
โคลง ๔๏ สงครามลามโลกสร้าน |
คราสอง |
เบียดบีบทุกทวีปหมอง |
หม่นม้าน |
ทุกที่ธรณีนอง |
โลหิต |
คนมิรู้กี่ล้าน |
รบร้าราวี ฯ |
๏ จินตนาอาฆาตครั้ง |
สงคราม โน้นนา |
เป็นเรื่องเนื่องนานหนาม |
เหน็บซึ้ง |
เวรก่อต่อเวรตาม |
เวรตอบ |
ปราชิดคิดเคียดขึ้ง |
ขุ่นแค้นแสนเข็ญ ฯ |
๏ ฝ่ายชนะชนะแล้วก็ |
แล้วกัน |
ไป่คิดอนาคตอัน |
อาจร้าย |
อลักเอลื่อเชื่อสันติสัญ |
ญาสงบ |
อึกอักหลักอุ้ยอ้าย |
อัดอั้นจนมุม ฯ |
๏ สงครามความจาบจ้วง |
จงใจ โจรแฮ |
เป็นสิ่งยิ่งกำไร |
หลั่งล้น |
อุสาหะกรรมใด |
ดีเด่น |
ดังอุสาหกรรมปล้น |
เปรื่องกล้าปรากรม ฯ |
๏ แฉกฉีกอีกครั้งใหญ่ |
ยุโหรป แหลกแล |
ฮิตเล่อร์เผยอปีกโฉบ |
เฉิบคว้า |
มุสโซลินิโอบ |
แนวเอิบ |
กชั้นชิดอังกฤษกล้า |
เกาะน้อยลอยชล ฯ |
๏ สองสหายผายอิทธิ์เอื้อม |
อัฟริกา |
จวนจะจวบอาสยา |
ย่านใกล้ |
จงจิตปิดมรคา |
อังกฤษ |
สู่ทเลด่านใต้ |
แห่งด้าวอินเดีย ฯ |
๏ ได้ทีญี่ปุ่นเข้า |
สู่สง ครามแฮ |
ดวจดั่งมังกรลง |
ไล่เคี้ยว |
อังกฤษจะปลิดปลง |
อำนาจ แล้วเนอ |
ยู. เอ็ส. คงเข็ดเขี้ยว |
ครั่นคร้ามครามครัน ฯ |
๏ สงครามลามลุกเข้า |
เขตสยาม |
สังเกตเหตุการยาม |
ยุทธจ้อง |
ทางผ่านพิจารณ์ตาม |
แผนที่ |
ภูมิประเทศไทยต้อง |
ที่ตั้งสังเวียน ฯ |
เก้าปี
โคลง ๔๏ เก้าปี “ดีหนึ่ง” ได้ |
ครองดิน |
ญี่ปุ่นเข้าเมืองมลิน |
มากไล้ |
คั่งคับทัพทางสินธุ์ |
ทางบก |
ยึดแหล่งแห่งเราได้ |
ดั่งแคว้นแดนเขา ฯ |
ร่าย๏ ประเทศไทยใจสทก ตกกระไดพลอยโจน โอนหฤทัยไปตาม ประกาศสงครามโฆษณา ว่าอเมริกาอังกฤษ เป็นอมิตรของไทย แต่ไชมมหาราษฐ์ ไม่ประกาศสงคราม ตอบสยามสักคำ ทำไม่รู้ไม่ชี้ การที่เป็นเช่นนี้ ชักโน้มนำใจ ไฉนเนอ ฯ
โคลง ๔๏ รัสเซียจีนจรดเอื้อม |
อารมณ์ ร่วมแฮ |
อังกฤษอเมริกาสม |
คบเค้า |
คือจัตุสดมภ์กลม |
เกลียวจิต |
มากทรัพย์มากคนเข้า |
เข่นค้ำรำบาญ ฯ |
๏ ฝ่ายเราเข้าเขตสร้าน |
ใจเสียว |
ยุโหรปเยอรมันเดียว |
เด่นข้าง |
อาสยาญี่ปุ่นเกลียว |
ตึงหย่อน ไฉนนา |
ใครจะเป็นใครบ้าง |
เมื่อสิ้นสงคราม ฯ |
ร่าย๏ ใคร่ครวญส่วนปัจจุบัน อันบุคคลควรคนึง ต่อไปถึงภายน่า ว่าที่สุดยุทธแม้ ญี่ปุ่นแพ้สงคราม สยามจะผันฉันใด ใครสามารถก่อกู้ ใครรู้ลู่ทางบ้าง ไทยจะเท้งเคว้งคว้าง ไขว่คว้าหาหน ไหนเอย ฯ
วันที่ ๓๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๗
----------------------------
โคลง ๔๏ พิทยาลงกรณแกล้ง |
เกลาความ |
สามท่อนกลอนสามกรุง |
กล่าวเกื้อ |
ลูกหลานอ่านเล่นตาม |
ใจรัก เถิดรา |
สังเขปเลปนเนื้อ |
เรื่องรู้ตูแถลง ฯ |