สงครามพม่า
ศึกห้าด้าน
ฉบัง๏ แถลงเรื่องมรัมมราชเรืองรณ | อหํภาพซาบตน |
จะปราบพิภพครบครัน ฯ | |
๏ พระองค์ทรงผลาญหลานขวัญ | ชิงราชไอศวรรย์ |
เถลิงบัลลังก็นั่งกรุง ฯ | |
๏ พระนามพระเจ้าปะดุง | สมส่ำบำรุง |
ทแกล้วทกล้าราวี ฯ | |
๏ แบ่งทัพบีฑายายี | เหยียบเมืองมณี |
ปุระ ยะไข่ รามัญ ฯ | |
๏ ปรามปราบราบรอบขอบขัณฑ์ | ยังเขตสำคัญ |
ซึ่งองค์ปะดุงมุ่งมอง ฯ | |
๏ ใคร่เป็นเช่นราชบุเรงนอง | อำนาจปราศสอง |
สยามชิตฤทธี ฯ | |
๏ ปดุงปรุงแสนยาราวี | แสนห้าหมื่นมี |
คแนนคำณวนถ้วนพล ฯ | |
๏ ห้าด้านม่านราชมารณ | เก๋าทัพคับคน |
จะเข่นพิฆาตชาติไทย ฯ | |
๏ ไม่มีศึกพม่าคราใด | หลั่งล้นพลไกร |
ประดุจปะดุงมุ่งมา ฯ |
โคลง ๒๏ ห้าด้านทัพม่านเมื้อ | มุ่งจะเชือดเลือดเนื่อ |
หั่นห้ำกรรมเวร | กันนอ ฯ |
ร่าย๏ ด้าน ๑ ทัพที่หนึ่ง ซึ่งยกผ่านด่านมฤท ประชิดเมืองปักใต้ ได้ชุมพรไชยา ตลอดสงขลาธานี ไม่มีใครต่อต้าน ฯ
๏ ด้าน ๒ ทัพที่สอง เดินกองทางทวาย พลนิกายหมื่นเศษ เข้าทางเขตเจ้าขว้าว ห้าวกำลังคั่งคับ ฯ
๏ ด้าน ๓ ทัพที่สาม เดินตามทางเมืองตาก มากด้วยพลเกรียงไกร ยากที่ใครจักค้าน ฯ
๏ ด้าน ๔ ทัพที่สี่ ถี่กันหนุนมาเนือง ทัพเจ้าเมืองตองอู ดูแสนยาคลาเคลื่อน เกลื่อนกาจพลดาษดื่น รวมสามหมื่นไพร่พล มาผจญลำปาง แลทางเมืองฝ่ายเหนือ ไหลล้นเหลือกำลัง ดูดุจดังน้ำโกรก ชุ่มสวรรคโลกสุโขทัย ราษฎรใจสั่นสท้าน ฯ
๏ ด้าน ๕ คือทัพกษัตร จัดเป็นห้ากองทัพ นับประมาณเก้าหมื่น ถนัดดั่งคลื่นสงคราม เข้าทางสามเจดีย์ เสนานีคือองค์ ปดุงผู้ทรงเดชกล้า เอิบอิทธิ์ดุจปลิดฟ้า เฟื่องแกล้วการรณ ฯ
โคลง ๒๏ เก้าทัพนับเนื่องเต้า | แสนกับห้าหมื่นเข้า |
สู่แคว้นแดนไทย ฯ |
โคลง ๔๏ ปางนรินทร์ปิ่นภพเผ้า | ไผทสยาม |
ไป่ประมาทสงคราม | เคร่ารู้ |
สามปีบ่มีความ | เลิ่นเล่อ |
สั่งสืบคืบข่าวผู้ | แผ่แคว้นแดนเม็ง ฯ |
๏ เจ้าปดุงกรุงม่านได้ | รามัญ แล้วนา |
เห็นจะโหมโรมรัน | แหล่งนี้ |
ฝ่ายเราผิวเมามันท์ | มัวหลับ |
รัฐจะล่มจมลี้ | ลับไร้ไอศวรรย์ ฯ |
๏ ใช้มอญไปสืบด้าว | ดลังคะ |
ทราบข่าวเจ้าอังวะ | ว่าให้ |
ซ่องสุมประชุมตระ | เตรียมทัพ |
อยู่ ณ เมาะตะมะได้ | ดาษแคว้นแดนเตลง ฯ |
๏ ปฏิปักษ์จักสู่ด้าน | เจดีย์ สามแฮ |
ทัพใหญ่ไต่ปัฐพี | ลาดหญ้า |
ต่อมามิช้ามี | ข่าวเพิ่ม |
ว่าจะเดินทัพห้า | แพร่งเข้าเอาชัย ฯ |
๏ การศึกตรึกทราบด้วย | แดเล็ง |
เดือนสิบสองปีมเส็ง | ส่อแจ้ง |
จักรับทัพม่านเม็ง | โดยเลศ ใดแล |
เศิกใหญ่ในน่าแล้ง | นี่แล้แลเห็น |
๏ ปฤกษาสมเด็จน้อง | นฤบดี |
เชิญประชุมมนตรี | ตรึกถ้อย |
วงษานุวงษ์ศรี | สุรราช |
อำมาตย์เสนาน้อย | ใหญ่พร้อมเพรียงกัน ฯ |
๏ พลไทยไม่มากแม้น | พลอมิตร |
ไป่กระจายหลายทิศ | ทั่วได้ |
เบ็ดเสร็จเจ็ดหมื่นคิด | เพียงครึ่ง เขาแฮ |
ควรรับทัพกษัตร์ไว้ | แต่ต้นหนทาง ฯ |
๏ เล่ห์เราเอาเปรียบได้ | โดยนัย |
ที่พะม่ามาไกล | มารคแกร้ว |
เราฝ่ายอยู่สายใน | สืบเนื่อง กันนา |
อาจรับทัพนี้แล้ว | ทัพนั้นหันหา ฯ |
ร่าย๏ ตกลงทรงดำรัศ จัดโยธีสี่ทัพ สองทัพรับสองหน้า อีกทัพรับลาดหญ้า หนึ่งนั้นทัพหนุน ฯ
โคลง ๔๏ ทัพ ๑ เสนาคนอง | ธรณินทร์ |
เดชกระเดื่องเลื่องดิน | รอบด้าว |
บรขามพระนามยิน | ยอเกียรติ์ |
ว่าพระยาเสือห้าว | หักเสี้ยนเบียนสยาม ฯ |
๏ หมู่หมวดตรวจพร้อมสรรพ | เพียงสาม หมื่นแฮ |
ทัพใหญ่ไทยสยามยาม | ยิ่งกล้า |
จักรับทัพกษัตร์ตาม | ทางม่าน มานา |
ปัจจนึกศึกลาดหญ้า | เหยียบด้านกาญจน์บุรี ฯ |
๏ ศัตรูเกือบเก้าหมื่น | มาทาง นั้นนอ |
เพียงแต่สามหมื่นกาง | ทัพกั้น |
น้อยกว่าจะกล้าขวาง | ฝ่ายมาก |
มากจะหนีบบีบคั้น | ฝ่ายน้อยฤาไฉน ฯ |
๏ ทัพ ๒ เสนาคแกล้ว | กำลัง |
กรมพระราชวังหลัง | เลื่องกล้า |
น่าที่ธมีดัง | ดำรัศ |
ขัดทัพคอยรับข้า | ศึกเบื้องเมืองเหนือ ฯ |
๏ มีพลเพียงหมื่นห้า | พันพยูห์ |
ในส่วนจำนวนดู | กเดียดด้อย |
จักรับทัพตองอู | สามหมื่น |
น้อยไม่กลัวความน้อย | ไม่น้อยคอยดู ฯ |
๏ ทัพ ๓ ทรงจัดเจ้า | พระยา |
ยมราชธรรมา | มุ่งก้าว |
นำทัพนับโยธา | กึ่งหมื่น |
รับม่านด่านเจ้าขว้าว | จู่แคว้นแดนไทย ฯ |
๏ ทัพ ๔ สองหมื่นป้อง | เป็นทุน |
ขาดฤเหลือเจือจุน | จัดไว้ |
หนักไหนก็ไปหนุน | ที่นั่น |
ไทยธราธิปไท้ | ทัพนี้ทรงคุม ฯ |
ร่าย๏ เดือน ๑๒ ทราบข่าว ผ่าวหฤทัยไทยรัฐ ว่าทัพกษัตร์ศัตรู ย่างพยูห์มาเหยียบ เปรียบดังเพลิงเริงลน ฝ่ายจอมพลสยามินทร์ ยินข่าวยุทธ์มาเยือน เดือนเดียวทรงปฤกษา จัดโยธาพร้อมเสร็จ สมเด็จราชอนุชา เสด็จยาตราทัพแข่ง ชิงตำแหน่งลาดหญ้า ตั้งค่ายก่อนที่ข้า ศึกได้ไปถึง ฯ
โคลง ๔๏ การศึกลึกล้วนเล่ห์ | หลายหลืบ นักแล |
แม้ไม่เสาะเหมาะสืบ | ทราบเค้า |
มัวม่อยมิคอยคืบ | ข่าวเนิ่น ไว้นอ |
ไทยจะถูกผูกเท้า | ถ่อยแท้แลเห็น ฯ |
๏ สององค์ทรงรู้ลู่ | ทางศึก |
เหตุว่ามีสำนึก | แน่แล้ว |
ทุกช่องทุกปล่องปฤก | ษาโปร่ง |
แผนที่ชี้ทางแกล้ว | ท่านกล้าถาโถม ฯ |
ร่าย๏ สมเด็จน้องนฤบดี ทันท่วงทีไปดล ณ ตำบลลาดหญ้า หน้าช่องเขาบันทัด จำกัดทางปฏิปักษ์ ชักปักกาเรียงร่าย ค่ายต่อค่ายตลอดกัน บัญชาส่งพญาเจ่ง ให้เร่งคุมรามัญ รวมสามพันไปตัด ขัดตาทัพรับไว้ ใกล้เชิงช่องปล่องกว้าง ดักม่านด่านกรามช้าง ต่อสู้ดูแรง ฯ
โคลง ๒๏ กลศึกสั่งแจ่มแจ้ง | แม้ว่ามากมาแกล้ง |
ล่อให้ไล่ตาม มาเทอญ ฯ | |
๏ น่าปล่องปากช่องข้าง | ที่จะออกทุ่งกว้าง |
ท่านตั้งกองคอย ขนาบนา ฯ | |
๏ ทัพใหญ่ไว้รับหน้า | แนวจะยันดันข้า |
ศึกผู้จู่ถลำ มาแล ฯ |
ร่าย๏ กล่าวการด้านปฏิปักษ์ ม่านหมายหักแนวผ่าน ด่านเจดีย์สามองค์ ตรงเข้าตีรามัญ อันพญาเจ่งตั้งรับ ขัดตาทัพคอยที พวกไพรีทัพน่า ง่าเงื้อมาอึงมี่ ทั้งทัพ ๔ ทัพ ๕ มอญฝ่ายไทยใจกล้า ต่อต้านตอบตี ฯ
โคลง ๔๏ ทัพม่านประมาณหมื่นห้า | พันพล |
พญาเจ่งสามพันคน | ใส่ไคล้ |
ทิ้งค่ายพ่ายหนีตน | ทำแตก |
มอญล่าพม่าไล่ใกล้ | เร่งกลุ้มรุมตาม ฯ |
๏ ปัจจนึกนึกว่าได้ | ทีถนัด |
มอญยิ่งวิ่งยิ่งตพัด | ตเพิดพ้น |
เลยช่องปล่องบันทัด | ผาแผ่น |
ตามกระตือรือร้น | ไล่คว้างกลางสมร ฯ |
๏ ทัพใหญ่ไทยอยู่แย้ง | ยืนขวาง |
กองซุ่มรุมสองทาง | ทุ่มข้าง |
ทัพม่านผ่านมากลาง | แนวขนาบ |
ศพเกลื่อนเถื่อนทุ่งบ้าง | จับได้ในสนาม ฯ |
ร่าย๏ เหลือตายป่ายตีนเปิด เตลิดร่นแหลกแตกยับ แต่มีทัพหนุนมา ถอยเข้าหากันทัน พลันตั้งค่ายรายลง ตรงเนินใหญ่ใกล้ช่อง พลที่พร่องก็เพิ่ม เหิมกำลังพรั่งพร้อม ค่ายประตูคูล้อม เรียบร้อยคอยรณ ฯ
โคลง ๔๏ สมเด็จบวรราชเจ้า | จอมทัพ |
เมื่อริ์ปูยู่ยับ | ย่อยลี้ |
เข้าค่ายบ่ายหน้ากลับ | มารบ |
ปึกแผ่นแผนยุทธ์ขยี้ | ยากล้ำทำไฉน ฯ |
๏ ดำรัศจัดทัพจ้วง | โจมตี |
แต่พะม่าราวี | ว่องแกล้ว |
ไทยป่ายค่ายไพรี | ไป่แหลก ลงเลย |
เหตุที่มามากแล้ว | ร่วมต้านทานทน ฯ |
๏ เห็นท่าพม่ามากแกล้ว | พลไกร |
ตั้ง ณ เนินแนวใน | ค่ายมั่น |
อีกหน่อยมิคอยไทย | ตีก่อน |
คงจะออกตะคอกคั้น | คิดโต้ตีเรา ฯ |
๏ ปัจจนึกนึกคาดเข้า | เคล้าคลุก |
คิดจะเป็นฝ่ายรุก | รบร้า |
เบี่ยงบ่ายอุบายบุก | บากบั่น |
เราจะเสียเปรียบถ้า | ปล่อยให้ใจเหิม ฯ |
๏ เรากำตำแหน่งข้าง | คุกคาม ไว้เทอญ |
บ่อยจะบุกรุกลาม | เลศจ้อง |
ศัตรูมิอยู่ตาม | บังคับ ได้ฤา |
มัวแต่ปัดหมัดป้อง | ไป่กล้าถาโถม ฯ |
๏ อนึ่งเล่าเขามากแม้ | เราเมียง |
มุ่งมลายสายเสบียง | เบียดแบ้ |
ถูกตัดขัดลำเลียง | จักรอด ไฉนแล |
ทัพอดหมดอิทธิ์แท้ | อกท้อรอถอย ฯ |
ร่าย๏ กล่าวฝ่ายค่ายพะม่า ทัพน่าปัจจามิตร คิดทำลายค่ายไทย ในระยะสินาด กวาดด้วยแรงปืนใหญ่ ขวักไขว่ปลูกหอรบ ครบตามจำนวนปืน พร้อมพลยืนยิงลั่น สั่นสเทื้ยนเลื่อนก้อง ครื้นครั่นปั่นป่วนห้อง แห่งฟ้ากาหล ฯ
โคลง ๔๏ ดำแคงแรงลั่นก้อง | กาวิง |
สมเด็จมหาสุรสิงห | นาจเจ้า |
ดำรัศจัดปืนยิง | แย้งยุทธ |
โปรยสินาดสาดเป้า | ปราบห้างหอรณ ฯ |
๏ อากาศกัมปนาทครึ้ม | ครึ้มครืน |
ฟังบ่ขาดเสียงปืน | ลูกไม้ |
ศัตรูมิอยู่ยืน | ยังชีพ |
ไฟกลบหอรบไหม้ | หมดล้มจมลง ฯ |
๏ ศาตรว์เสียสินาดทั้ง | เสียทหาร |
ปืนลูกไม้ไล่ผลาญ | พล่านไหม้ |
คูค่ายทลายลาญ | ลงแหลก |
ม่านมิกล้ามาใกล้ | กริ่งเป้งเกรงปืน ฯ |
๏ อนึ่งนั้นทรงจัดให้ | กองโจร |
ลั่ง ๆ ดุจดังทโมน | มุ่งจ้อง |
เจนผลูจู่โจมโผน | เผ่นแย่ง |
กองเสบียงเลี้ยงท้อง | ทัพข้าศึกสลาย ฯ |
๏ ขุนเณรนามเจ้าหนุ่ม | นายกอง |
รบแต่โดยลำลอง | เรี่ยวกล้า |
หมู่ ๆ อยู่เมียงมอง | เมิลม่ง |
เสบียงม่านผ่านมาคว้า | แย่งเข้าเอาเสีย ฯ |
๏ ปฏิปักษ์หนักอกด้วย | จวนอด |
แท้จะทนทรหด | ห่อนได้ |
งอเหงาเจ่าจิตจรด | จักรบ ไฉนแล |
ท้องกิ่วนิ่วหน้าให้ | เหือดกล้าราวี ฯ |
โคลง ๒๏ ทัพหลวงไทยลาดหญ้า | ได้เปรียบแต่หากข้า |
ศึกล้ำกำลัง | |
๏ ยังมิโหมโถมให้ | อริแหลกแตกลงได้ |
เหตุด้วยยังดึง ดันนา ฯ |
ฉบัง๏ ปางเชษฐภาดาภูบดินทร์ | ทรงสดับศัพท์ยิน |
ยุบล ณ เบื้องเมืองกาญจน์ ฯ | |
๏ ทัพกษัตร์ศัตรูผู้พาล | ประเมินประมาณ |
ประมวญก็มากมายมี ฯ | |
๏ ทัพหลวงฝ่ายเราเข้าตี | ชิงชัยไพรี |
บ่ได้ประดุจดังใจ ฯ | |
๏ เราผู้อยู่ฝ่ายสายใน | เนาเนิ่นเกินไป |
มล่อยมล้าอาการ ฯ | |
๏ จักเสียเปรยบศึกฮึกหาญ | เหล่าทวิษหลายทวาร |
จะห่อจะหุ้มรุมรังค์ ฯ | |
๏ แม้วเรารวนเรเก้กัง | ห่วงหน้าห่วงหลัง |
จะพล้ำจะเพลี่ยงเสี่ยงภัย ฯ | |
๏ เกรงองค์อนุชนาถภูวนัย | ไม่อาจเอาชัย |
ริปูผู้ล้ำกำลัง ฯ | |
๏ ผิวพะวงทรงกริ่งนิ่งฟัง | ข่าวสารการยัง |
จะช้ามิชอบเชิงรณ ฯ | |
๏ จึ่งทรงดำรัศจัดพล | รวมสองหมื่นคน |
เสด็จ ณ ด้านกาญจน์บุรี ฯ |
โคลง ๔๏ ศุภฤกษ์เบิกโชคชี้ | ชัยเฉลิม |
พรั่งพหลพลเหิม | เผ่าห้าว |
เวรก่อจะต่อเติม | ตามติด |
ผู้วิกรรมนำก้าว | อย่าก้าวหนาวหนี ฯ |
๏ เดือนยี่ขึ้นเก้าค่ำ | วันอา ทิตย์เอย |
พระเสด็จพยุหยาตรา | เตร็จน้ำ |
คลาคล่ำส่ำเสนา | เสณิ |
พลนิกายพายจ้ำ | เพ่งจ้วงทลวงชล ฯ |
๏ พระชัยเชิญออกหน้า | อวนินทร์ |
เรือพิมานเมืองอินทร์ | เอิกอ้าง |
ลำทรงดุจหงษ์บิน | โบยโบก |
เรือบุษบกพิศาลสร้าง | ศักดิ์กล้าสากลย์ |
๏ เนาขนานน่านน้ำท่อง | ชลธี |
แนวขนัดอัดแอมี | มากห้อม |
รังรักษ์พระจักรี | จอมเกศ |
ท้องนทีทางพร้อม | พรั่งล้วนขบวนรณ ฯ |
๏ รอนแรมชลมารคม้วน | มรรคะ |
วันละวันปันถะ | เถิบใกล้ |
ถึงท่าประชาปะ | ประจักษ์ |
น้องท่านคอยรับไท้ | ที่น้ำลำกาญจน์ ฯ |
โคลง ๒๏ สมเด็จบวรราชเจ้า | สู่พระเชษฐาเฝ้า |
ข่าวข้าศึกถวาย ฯ | |
๏ เชิญเสด็จสู่ด้าน | ค่ายที่ตั้งคอยต้าน |
ต่อให้เห็นฤทธิ์ กันแล ฯ | |
๏ ทัพทวิษอิดอกไหม้ | แม้ว่าเห็นทัพไท้ |
จักท้อทวีคูณ ฯ | |
๏ ยินวัจนะพระน้อง | พระพี่มีมติพ้อง |
จึงไท้เสด็จทาง สถลแฮ ฯ |
โคลง ๔๏ ผองพหลพลพ่างเพี้ยง | พลวิพุธ |
เริงณรงค์ยงยุทธ | ยิ่งกล้า |
โยธีกระบี่ธุช | ครุธพ่าห์ |
ทัพพระพุทธยอดฟ้า | เฟื่องแคว้นแดนสมร ฯ |
๏ เหล่าม้าพลพ่าห์พร้อม | พรรลึก |
ถวันถวัดอัศวาณึก | เนื่องหน้า |
ธงทวนกระบวนศึก | สุดสง่า |
ผกผงาดอาจข่มข้า | เศิกเสี้ยนเตียนสลาย ฯ |
๏ เหล้าช้างย่างไย่เยื้อง | ยาตริก |
ถนัดดั่งแรงแพลงพลิก | ภาคพื้น |
เสนาคชาณิก | แนวเนื่อง |
เศิกจะตกอกตื้น | ตื่นผ้ายตกายหนี ฯ |
๏ พลแผคงแต่งหมวกเสื้อ | สักหลาด |
ล้วนแต่แดงดูดาษ | ดื่นก้ำ |
ทุ่งเถื่อนเกลื่อนพนกลาด | พลกลั่น |
ปะวิปักษ์จักจ้ำ | จู่จ้วงทลวงโจม ฯ |
๏ สารทรงองค์เชษฐ์ผู้ | พสุธา ธิปเอย |
พระธินั่งเทพลีลา | เลิศช้าง |
รองเรืองเครื่องกุญชรา | ภรณเพริศ |
ทิวธวัชสลัดลมสล้าง | สลับริ้วปลิวปลาย ฯ |
๏ ศุภโยคโบกธุชไท้ | กรีธา |
พลพิชัยราชา | เชิดเชื้อ |
สังข์แตรแซ่สัญญา | ขบวนยุทธ |
จากบุรีกาญจน์เมื้อ | มารคพื้นรณภูมิ์ ฯ |
๏ สำเนียงนินนาทก้อง | กำไร |
แผ่ผกายค่ายไทย | ลาดหญ้า |
เนื่องแน่นแผ่นไผทใน | นวีภาพ |
ประจักษ์แก่ข้าศึกข้า | ศึกคร้ามความเข็ญ ฯ |
ร่าย๏ สมเด็จราชภาดา องค์อนุชาชัยชาญ ทูลรายงานการศึก ว่าปัจจนึกหู่หด จวนจักอดอยู่แล้ว ไม่กล้าแกล้วกลางแปลง เห็นว่าแร่งอ่อนแอ้ มัวแต่ท้อแต่แท้ จุ่งไท้วายกังวล เทอญ ฯ
โคลง ๔๏ ฝ่ายเราเอาเปรียบด้วย | ด้อมเมียง |
ลอบลัดตัดลำเลียง | อริร้าย |
ศัตรูมิอยู่เพียง | ใดดอก พระเอย |
เสบียงยุบทุพภิกขผ้าย | เผือดแค้นแกลนกลัว ฯ |
๏ พระองค์จงปลดเปลื้อง | ปริวิตก |
ม่านมิอาจผาดผงก | ผงับได้ |
ชอกช้ำระกำอก | อึดอัด แล้วเอย |
โอกาศแก่ข้าให้ | หั่นห้ำทำสนอง ฯ |
๏ เสด็จกลับทัพเถิดไท้ | คืนธา นีเทอญ |
เผื่อจะมีม่านมา | มุ่งบ้าน |
ปิ่นภูอยู่บัญชา | กลางแหล่ง |
เป็นที่อุ่นใจด้าน | อื่นได้ในรณ ฯ |
โคลง ๒๏ โปร่งปลอดเห็นสอดคล้อง | กับที่องค์พระน้อง |
ท่านชี้เชิงณรงค์ | |
๏ จึ่งนรินทร์ปิ่นหล้า | พยุหยาตร์จากลาดหญ้า |
หย่อนร้อนหฤทัย ท่านนา ฯ |
ร่าย๏ ปางสมเด็จอนุชา พระเชษฐายาตรทัพ กลับคืนสู่พระนคร จึ่งพระบวรราชเจ้า เรียกข้าเฝ้าทูลลออง ทุกนายกองนายทัพ กำชับการกลศึก ว่าเมือดึดึกให้เดิน ทัพสู่เถินที่ลับ ครั้นเช้ากลับมาใหม่ ใส่กลให้ข้าศึก นึกว่าทัพเพิ่มมา ทุกเวลาทุกวัน อย่าให้ทันล่วงรู้ มันจะมุดคุดคู้ เร่าร้อนอ่อนใจ ฯ
โคลง ๔๏ สมเด็จพระเชษฐชี้ | เชิงรณ แล้วเอย |
พระเสด็จดำเนินพหล | แห่งนี้ |
มวญหมู่พยูห์พล | เพียงเพียบ พื้นแฮ |
ปวงริปูลู่ลี้ | หลบเข้าเนาหลัง ฯ |
๏ เห็นเรามามากล้ำ | กำลัง |
ม่านมิกล้ามาประนัง | น่าได้ |
เสงี่ยมสงบหลบอยู่หลัง | แนวรบ |
ก่นแต่กลัวมัวไหม้ | มุ่งแพ้แลเห็น ฯ |
๏ สองหมื่นมาเพิ่มให้ | เห็นตน |
ยังประสิทธิ์อิทธิผล | แผ่กล้า |
เราซ้ำกระทำกล | กลอกกลับ |
ให้ประจักษ์สักห้า | หมื่นแม้นแมนมา ฯ |
โคลง ๒๏ ไปกลับมากลับฉนี้ | กลท่านก่อส่อชี้ |
ชักข้าศึกหลง ฯ |
กาพย์ธนัญชยางค์๏ ปางมวลพะม่า เนาเนินแนวผา เห็นไทยโยธา เพิ่มมาร่ำไป ช้างม้าผู้คน ดุจชลหลั่งไหล ธงทิวปลิวไสว ทุกวันทุกวัน ฯ
๏ ทัพแดงดาษดา กลับไปไม่ช้า ทัพอื่นกลับมา แน่นหนาเนืองกัน โห่ร้องก้องกึก คักคึกนี่นรร แนวรบครบครัน เข้มแขงแรงรณ ฯ
๏ ฝ่ายเราเซาซาน ตกปลักดักดาน เข้าปลาอาหาร ทรมานขัดสน มากมายฝ่ายเขา ฝ่ายเราอับจน ยากนักจักทน สู้รบปรบแรง ฯ
๏ ธรรมดาสงคราม ฝ่ายหนึ่งครั่นคร้าม ฝ่ายหนึ่งคุกคาม คำรามเข้มแข็ง ท่วงทีบีฑา ตั้งท่าทิ่มแทง ฝ่ายเหี่ยวเสียวแสยง จักดลผลใด ฯ
โคลง ๒๏ ใจริปูหู่ห้อย | เหตุว่ามีปมด้อย |
เดือดร้อนลาญทรวง ฯ | |
๏ อกสั่นขวัญหลบลี้ | ดูประหนึ่งบ้าจี้ |
จิตจ้อยคอยแพ้ อยู่นอ ฯ |
โคลง ๔๏ ปางไทยปิ่นทัพไท้ | ทำกล |
โดยอุบายถ่ายพล | ลาดหญ้า |
กลับไปกลับมายล | ยาวยืด |
สังเกตอาการข้า | ศึกคร้ามครามครัน ฯ |
๏ ท่วงทีดีได้ดั่ง | เดาใจ มันนอ |
พรึงพรั่นสั่นหฤทัย | อยู่แล้ว |
โอกาศพิฆาตใน | คาบนี่ แลนา |
ตรัศสั่งสพรั่งพลแกล้ว | กลาดกลุ้มรุมตี ฯ |
๏ ครืน ๆ ปืนลูกไม้ | เล็งหมาย |
ค่ายวิปักษ์หักทลาย | ถล่มล้ม |
มากหมื่นตื่นแตกตาย | เตลิดแหลก |
เจิ่นกระเจิงเพลิงห้ม | ห่อไหม้ไพรี ฯ |
๏ ทวยไทยไล่ตลบบ้อม | ตลุมบอน |
ปีนป่ายค่ายดัสกร | เกลื่อนกลุ่ม |
อำมหิดติดตามรอน | รานรุก |
นายไพร่ไล่เข้าขยุ้ม | ข่มขยี้ขี่ขยำ ฯ |
๏ ทุกค่ายพ่ายแพ้ล่า | เร็วตลี ตลานเวย |
ไทยนิกรต้อนตี | แตกสิ้น |
ทัพน่าพะม่าหนี | ไปแน่ว |
แล่นเตลิดประเดิดดิ้น | ดักแด้แดปลิว ฯ |
กาพย์พนัญชยางค์๏ ปางปดุงภูมี อัครเสนานี ตั้งหน้ามาตี กรุงเทพมหานคร ทัพหลวงหยุดยั้ง อยู่ยังแนวดอน ทัพนามาต้อน ตีไทยไพรี ฯ
๏ แต่กองลำเลียง ไม่ห่างทางเสี่ยง กองโจรไทยเมียง แย่งแทบทุกที่ คล่องแคล่วแนวผลู รบสู้ต่อตี ลำเลียงม่านมี แต่แพ้ร่ำไป ฯ
๏ กองทัพหลวงเอง ยังถูกข่มเหง โจรไทยไม่เกรง โฉงเฉงสุดใจ เลาะลัดขัดขวาง ตัดทางในไพร แยบย่องจ่องไว หลบหลีกปลีกตน ฯ
๏ สงครามครั้งนี้ เริ่มต้นไม่ดี โรคภัยยายี ลำเลียงขัดสน ทัพไทยลาดหญ้า ทัพพม่าประจญ เอาชัยเริงรณ ไม่ได้ดังใจ ฯ
๏ ปดุงยั้งตั้งอยู่ ช่องเปิดจักจู่ ทัพใหญ่ไปสู่ กรุงเทพทันใด แต่ว่าทัพน่า ชักช้าเกินไป ตรัศใช้ม้าใช้ เร่งให้ไปฟัง ฯ
๏ ม้าใช้ควบม้า ไม่ถึงช่องผา รีบควบกลับมา ว่าทัพกลับหลัง กองน่าแตกพ่าย รส่ำรสายเสริดสรัง ยับเยินเกินยั้ง ไทยไล่ราวี ฯ
๏ พระเจ้าปะดุง ยินข่าวหยาวยุ่ง ท่าทางนุงถุง เถิบถ่วงท่วงที ทัพน่าปราชิต ถูกติดตามตี หมายมาครานี้ ไม่สมดังปอง ฯ
๏ ลำเลียงเพลี่ยงพลาด เกิดโรคระบาด มากมีฝีดาษ คนตายก่ายกอง จักรอต่อติด ก็ผิดทำนอง ไม่เห็นมีคลอง จักสิทธิ์สมใจ ฯ
๏ ความไม่ประมาท ดีกว่าไม่ขลาด ศึกไม่สมมาด มัวทำทำไม ไม่ไว้ใจทาง ไม่วางใจไทย โอกาศมีชัย มิใช่จักมี ฯ
๏ ทัพสยามสามหมื่น อึกทึกครึกครื้น แขงขันยันยืน เก้าหมื่นถอยหนี เจ้าม่านม้านกลับ เลิกทัพทันที ไม่รอราวี ทราบแน่แพ้ไทย ฯ
โคลง ๔๏ เจ้าปดุงกรุงม่านผู้ | แพ้คราว นี้นา |
เดชกระเดื่องเรื่องราว | เลื่องแสร้ |
คนขามพระนามคาว | เคยคิด |
ว่าไม่รู้จักแพ้ | แต่แพ้แก่ไทย ฯ |
๏ เก้าทัพคับคั่งเข้า | คามคุก |
โอบจะล้อมอ้อมรุก | ไล่กว้าน |
เม็งม่านจะพล่านพลุก | พร้อมพรั่ง |
ถูกทัพรับห้าด้าน | ดักแด้แดดาย ฯ |
๏ ทำศึกนึกไม่แพ้ | นึกผิด |
ไฉนจึ่งมาปราชิต | เช่นนี้ |
เสี้ยนหนามจะหยามฤทธิ์ | ลือเลื่อง |
อกกระอักศักดิ์กี้ | สุดกู้กูเอ๋ย ฯ |
โคลง ๔๏ ฝ่ายองค์อนุชนาถเจ้า | จอมทัพ |
ปราบริปูยู่ยับ | ลาดหญ้า |
ศึกเสร็จเสด็จกลับ | กลางเถื่อน |
ยินกล่าวข่าวพม่าข้า | ศึกข้างทางสถล ฯ |
๏ จมูม่านด้านหนึ่งเบื้อง | เมืองทวาย |
พลประมาณหมื่นชาย | เชี่ยวกร้าว |
แดนราชบุรีราย | เรียงค่าย อยู่แฮ |
เดินผ่านด่านเจ้าขว้าว | ล่าช้ามาถึง ฯ |
๏ ธรรมายมราชทั้ง | สองนาย |
หลับบ่รู้รแคะรคาย | ข่าวแสร้ |
ม่านเล่าก็เดาดาย | ดูโง่ |
ไม่ทราบทัพกษัตร์แพ้ | เพิดแล้วแนวกาญจน์ ฯ |
๏ สมเด็จสีหราชรู้ | ไพรี ล้าแฮ |
ดำรัศจัดโยธี | ทุ่มก้าว |
โจนจ้วงทลวงตี | พม่าแตก |
เม็งม่านด่านเจ้าขว้าว | ไขว่เคว้งปุเลงหนี ฯ |
โคลง ๒๏ มหาสุรสิงหนาทเจ้า | คืนนครจรเฝ้า |
เชษฐ์ไท้นรินทร ฯ | |
๏ ตีพม่าล่ากลับบ้าน | สำเร็จศึกสองด้าน |
ปักใต้ฝ่ายเหนือ เหลือนา ฯ |
ร่าย๏ สององค์ทรงปฤกษา กนิษฐภาดาเสด็จใต้ องค์เชษฐ์ไท้เสด็จเหนือ ศัตรูเหลือสามด้าน สองเสด็จต่อต้าน แยกย้ายอุบายยุทธ นานา ฯ
โคลง ๔๏ ปันราชภาระแล้ว | ฤานาน |
ดำรัศจัดยุทธการ | กาจถ้วน |
กรรหายนิกายหาญ | เหิมจิต |
ชลมารคมากขบวนล้วน | เรี่ยวกล้าราวี ฯ |
๏ เดือนสี่ ๑๑ ค่ำขี้น | วันศุกร |
เกศกษัตร์รัฐประมุข | มิ่งหล้า |
คั่งคับทัพอธิปทุก | น่าที่ |
พลพระพุทธยอดฟ้า | ฟ่องน้ำลำเหนือ ฯ |
๏ พยุหยาตร์นาทยเมื้อ | เมืองอินท์ |
หยุดประทับพลับพลายิน | ข่าวเสี้ยน |
สมเด็จนฤบดินทร์ | ดำรัศ |
สั่งด่วนอย่าป้วนเปี้ยน | ปล่อยช้าเชิงรณ ฯ |
๏ ผิวสูมิรู้เล่ห์ | โรมรัน |
เศียรกับศอต่อกัน | เกลือกหวิ้น |
ชีวีบ่มีวัน | ไว้เผื่อ ดอกเนอ |
ศึกมิสิ้นจักสิ้น | ชีพผู้นำพล ฯ |
ร่าย๏ ฝ่ายเจ้าเมืองตองอู จอมจมูพายัพ ตังทัพล้อมลำปาง ให้แยกทางพลท่อง ทัพจอข่องนรทา มาอยู่บ้านระแหง แขงกำลังตั้งค่าย อีกทางจ่ายพลพยู่ห์ มาอยู่ปากน้ำพิง สิงค่ายรายฝั่งน้ำ พลแผคงแรงก้ำ เรี่ยวแกล้วแนวรณ ฯ
โคลง ๔๏ ฝ่ายไทยในขณะตั้ง | ขัดตา ทัพแฮ |
ไป่ทราบศัตรูมา | มากน้อย |
หลายหลืบสืบสวนเอา | การศึก |
สร้างค่ายรายเรียงร้อย | ปีกป้องปองรณ ฯ |
๏ ข่าวพิฆาตลาดหญ้าเสร็จ | สมหวัง |
กรมพระราชวังหลัง | หฤษฎ์ซึ้ง |
สิ้นเรื่องเครื่องพว้าพวัง | ส่วนใหญ่ |
ยังศัตรูอยู่กรึ้ง | เกลื่อนหน้าเมืองเหนือ ฯ |
๏ สั่งนายทัพหน้าเร่ง | เร็วไป |
เพอินพบนกกทุงใน | น่านน้ำ |
นึกว่าพะม่าไพ | รีมาก มายเวย |
ถอยกลับท่านจับซ้ำ | สั่งให้ตัดหัว ฯ |
๏ ปางนรินทร์ปิ่นราชย์เจ้า | จอมสยาม |
เถิบกระทงสงคราม | คืบใกล้ |
ทัพหลวงล่วงสู่คาม | ข้าวตอก |
ตรัศสั่งวังหลังให้ | เร่งเร้าราวี ฯ |
๏ ปากพิงน่าที่ไท้ | สถานพิมุข |
เจ้าพระยาปลีบุก | บั่นด้วย |
สองทัพท่านขยับรุก | ขยิ่มรบ |
เพื่อจะเร่งเม็งม้วย | ม่านเมื้อเมืองผี ฯ |
๏ บ้านระแหงน่าที่ผู้ | นำพล |
กรมเทพหริรักษ์ถกล | เกียรติ์แผ้ว |
เจ้าพระยาพระคลัง (สน) | อีกหนึ่ง |
พญาอุทัยธรรมแกล้ว | กาจกล้าราวี ฯ |
๏ เดือนสี่แรม ๔ เช้า | วันเสาร์ |
พลนิกายฝ่ายเรา | เริ่มขยี้ |
วันเดียวเคี่ยวขับเอา | ความชนะ ได้นอ |
ม่านปากพิงวิ่งลี้ | หลบง้าวตาวปืน ฯ |
๏ กล่าวฝ่ายค่ายม่านบ้าน | ระแหง เล่าแฮ |
ทราบว่าทัพไทยแรง | เรี่ยวเกรี้ยว |
แขงมามิกล้าแขง | ขันตอบ |
ขยาดศึกนึกเข็ดเขี้ยว | แข่งหน้าถาหนี ฯ |
ร่าย๏ ม่านปากพิงวิงแสยง ม่านระแหงหันหนี จึ่งภูบดีบัญชา ราชภาดาทรงศักดิ์ กรมหลวงจักรเจษฎา ยกโยธาคั่งคับ สมทบทัพเจ้าพญา มหาเสนานามยง ตรงขึ้นไปลำปาง วางเข้าตีปฏิปักษ์ หักเจ้าเมืองตองอู จมูบดีด้านเหนือ อย่าให้เหลืออยู่ได้ โทแม่ทัพสดับไท้ ท่องเต้าตามโอง การเอย ฯ
โคลง ๔๏ ตองอูสู่ภาคพื้น | พายัพ |
เชียงใหม่ไป่มีรับ | รบรั้ง |
โบชุกบุกเดินทัพ | ทางสดวก |
เกลื่อนกล่นพลม่านตั้ง | ค่ายล้อมลำปาง ฯ |
๏ พระยากาวิละห้าว | หาญศึก |
ปัดวิปักษ์ฮักฮึก | เหิ่มห้อม |
ตองอูมิรู้นึก | นึกผิด |
รบอยู่สี่เดือนล้อม | ไป่ล้ำลำปาง ฯ |
๏ ทัพกรุงพุ่งตัดต้อน | ตีโหม |
ฝ่ายพม่าหันหน้าโถม | ถ่วงสู้ |
ทัพเมืองเนื่องกันโจม | ตีขนาบ |
ขอบข่ายค่ายม่านบู้ | บุบบี้หนีถลา ฯ |
ร่าย๏ ศึกฝ่ายเหนือสำเร็จ สมเด็จปรโมรุราช ให้พญากาวิละ ครองรัฏฐะเชียงใหม่ หฤทัยใฝ่บำรุง ผดุงประชาราษฎร แล้วภูธรเลิกทัพ กลับกรุงเทพมหานคร คอยข่าวบรปักใต้ ซึ่งพระน้องท่านไท้ ท่องท้องทเลไป ปราบแฮ ฯ
โคลง ๔๏ มากด้านม่านมากด้วย | เดชะ |
คิดจะเข้าเอาชนะ | ชเนศไท้ |
สี่ด้านท่านปราบประ | หารป่น ไปเฮย |
ยังแต่เพียงปักใต้ | จักต้านทานไฉน ฯ |