พระเจ้าจักรี

ฉบัง แถลงปางวุ่นวายภายใน เกิดขบถบัดใจ
ขบถก็ปลดปัฐพินทร์ ฯ  
๏ แถลงปางว่างเจ้าแผ่นดิน ร้อนแพรกแหลกติณ
ประหนึ่งประลัยไฟกัลป์ ฯ  
๏ แถลงปางปิ่นทัพกลับทัน สมภารท่านพลัน
ระงับกลีบีฑา ฯ  
๏ แถลงปางโปร่งจิตปลิดจา บัลย์ใจในกา
ลเมื่อเสด็จมาดล ฯ  
๏ แถลงปางปิ่นณรงค์ทรงพล ยับยั้งฝั่งชล
ประทับพพลาพราคาร ฯ  

กาพย์ธนัญชยางค์ ปางปวงประชา ยินดีปรีดา เจ้าใหม่ใจมา ทั่วหน้าเบิกบาน เหตุอันปั่นป่วน ทบทวนมานาน ล้มลุกคลุกคลาน ปลิดปลดหมดไป ฯ

๏ เดชาภินิหาร ดังองค์อวตาร ไม่มีทัดทาน แก่งแย่งแคลงใจ เหล่าข้าราชการ สำราญหฤทัย ฝ่ายน่าฝ่ายใน นบน้อมพร้อมกัน ฯ

๏ เชิญเสด็จเสวยราชย์ เอี่ยมโอ่โอภาศ บัลลังก์ดังอาศน์ อำไพในสวรรค์ ปกป้องครองกรุง บำรุงเขตขันฑ์ ปลูกปลุกสุขสันต์ แซ่ซร้องสรรเสริญ ฯ

๏ ทรงเห็นราบคาบ จึ่งโปรดให้ทราบ โดยดุษณีภาพ ว่ารับอัญเชิญ ธำรงสมบัติ สืบกษัตร์ดำเนิน จูงรัฐจำเริญ จิรัฏฐิติกาล ฯ

โคลง ๔ แจร่มรัฐจรัสภาคพื้น ภูพิศุทธ์
เริ่มรัชกาลพระพุทธ ยอดฟ้า
ยุ่งเหย่งดุจเพลิงจุด พลันขจัด
ปลั่งประเคราะห์เหมาะหม้า ใหม่เลี้ยงเวียงอมร ฯ

ราชกรณีย์

โคลง ๔ คฤหาศน์แห่งชาติไท้ เสถียรฐา ปนานอ
คือราชนครนา ครซร้อง
กลางแหล่งแห่งไทยอา ณาจักร
ศุภฤกษ์เกริกเกียรติก้อง กลั่นกล้าธาตรี ฯ
๏ กรุงเทพมหานครนี้ นามรบิล
อมรรัตนโกสินทร์ ต่อสร้อย
ย้ายจากฟากแผ่นดิน ตวันตก
ผาดผุดดุจดังย้อย หยาดฟ้ามาดิน ฯ
เวียงวังดังสุรแสร้ง เสกสฤษดิ์
ส่อศุภศักดิ์จักริศ เกรื่องกล้า
ปราสาทราชสถิต ฐิรอาศน์
แสงส่องก่องกนกจ้า แจ่มห้องเวหน ฯ
๏ อาวาศอาศน์พระแก้ว กาญจนา คารนา
งามสุดพุทธปฏิมา มิ่งฟ้า
สำนักนิ์อัครบูชา ชูเชิด
ไพศิษฎ์จิตแจ่มกล้า เจิดแกล้วแนวธรรม ฯ
๏ พระธรรมจำสอบค้น คลำหา
ทรงสั่งสังคายนา แน่ไว้
ขาดตกบกพร่องมา แต่เมื่อ
กรุงเก่าถูกเผาไหม้ มากพ้นคณนา ฯ
๏ ธรรมมณฑิรท่านสร้าง ไพศาล
เป็นที่ปูชนียสถาน เทิดตั้ง
พระไตรยปิฎกลาน หลายฉบับ
ทองใหญ่ทองน้อยทั้ง ฉบับตู้ครูเดิม ฯ
๏ คณะสงฆ์ทรงห่วงด้วย มีคาว
มาแต่กรุงธนคราว ที่แสร้ง
บังคมคฤหัสถ์ราว อรหัตต์
เสส่อสอพลอแกล้ง กล่าวกลั้วมัวมล ฯ
๏ ทรงสรรบรรพชิตแท้ ทางธรรม
ยกย่องต้องตามตำ แหน่งตั้ง
ศุภวัตรปฏิบัตินำ สอนสั่ง
ปริยัติวิปัสนาทั้ง ทั่วรู้ชูชวน ฯ
๏ ธรรมศาสตร์ขาดวิ่นครั้ง กรุงสลาย
ต้องประมวลกฎหมาย แม่นไว้
ตราสามอร่ามลาย ทุกเล่ม
เป็นฉบับแบบให้ หลักถ้วนยุติธรรม ฯ
๏ อนึ่งทรงดำรัศใช้ ชุมกวี
เกลากลั่นวรรณคดี ดัดสร้าง
รวบรวมร่วมมือมี มาส่ำ สมแฮ
ใหม่แต่งแข่งเก่าบ้าง บ่งไว้โวหาร ฯ

ร่าย ทรงสถาปนาอิสสริยศักดิ์ จักรีบรมราชวงษ์ องค์โสทรภาดา มหาสุรสิงหนาท กรมพระราชวังบวรสถานมงคล ถกลพระยศไพศาล ราชการกึ่งพระนคร ขจรพระเดชทั่วด้าว แผ่พระคุณบุญอคร้าว เศิกคร้ามขามฤทธิ์ ท่านแล ฯ

๏ เจ้าฟ้าราชภาคินัย เฉลิมอภิธัยเถลิงอาศน์ กรมพระราชวังหลัง รังสฤษดิ์อิสสริยไท้ สมแก่ความชอบได้ ช่วยบ้านเมืองคราว เข็ญนา ฯ

๏ อนึ่งทรงสถาปนา กรมพระยาเทพสุดาวดี กรมพระศรีสุดารักษ์ กรมหลวงจักรเจษฎา อีกภาคินัยทรงเดช กรมหลวงธิเบศร์บดินทร์ กรมหลวงนรินทร์รณเรศร์ หนึ่งพระเชษฐโอรส เถลิงพระยศเลื่องหล้า เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร ขจรพระเกียรติเกรื่องแกล้ว ราชสกุลบุญแพร้ว เพริศเรื้องรังสี ฯ

โคลง ๒ ราชวงษ์ทรงแต่งตั้ง ตามประเพณีครั้ง
เมื่อบ้านเมืองดี ฯ  
๏ ปางเมื่อปราสาทไหม้ ตรัศพยากรณ์ไว้
ดั่งนี้มีจด จำแฮ ฯ  
โคลง ๔ ขัติยกุลบุญโฉลกแม้น มหาศาล นี้นอ
จักสืบสันตตินาน ใช่น้อย
อาณาประชาบาล บริรักษ์
ลำดับกษัตร์ร้อย กับห้าสิบปี ฯ

ร่าย ทรงบำเหน็จความชอบ ตามระบอบตำแหน่ง แต่งตามคำปฤกษา ลูกขุนศาลาณสานหลวง โดยกระทรวงอันมี มหาเสนา (ปลี) หนึ่งทรงโสมนัสเลื่อน เพื่อนราชการงานหนัก พระอักขรสุนทร เดิมนามกรนายสน ถกลยศเจ้าพระยา รัตนาพิพิธ สถิตที่สมุหนายก หนึ่งธราธิปกทรงแต่ง ตำแหน่งจัตุสดมภ์ ยมราช (ทองอิน) ผู้ภูมินทร์เม็ตตา หนึ่งธรรมา (บุญรอด) ผู้เยี่ยมยอดปรีชา หนึ่งเจ้าพระยาพลเทพ เสมียนปิ่นเสพย์สุจริต หนึ่งราชกิจกรมท่า น่าที่การทรัพย์หลวง เจ้ากระทรวงสมญา เจ้าพระยาพระคลัง (สน) อนึ่งคนสำคัญ อันมีความชอบมาก นายบุนนากแม่ลา เป็นเจ้าพระยาชัยวิชิต สิทธิ์ขาดการกรุงเก่า อนึ่งเล่าพระยาเจ่ง เพ่งภักดีสุจริต ต้องตามจิตจอมกษัตร์ ตรัสให้ยศสมญา มหาโยธาเป็นใหญ่ แก่นายไพร่รามัญ อันร่วมจิตสนิทน้อม แต่ละผู้อยู่พร้อม พรั่งหน้าสามคี ฯ

๏ ฝ่ายพระมหาอุปราช มหาสุรสิงหนาทนรินทร ขจรพระเกียรต์ตรัจเตร็จ ตั้งสมเด็จเจ้าพระยา บรรดาศักดิ์ปราศเปรียบ จัดทำเนียบขุนนาง วางระเบียบวังน่า ไม่ต่ำกว่าแบบตั้ง แต่ที่มีมาครั้ง เมื่อบ้านเมืองดี ฯ

โคลง ๔ รอบคอบกรอบกฤตย์ไท้ โทสฤษดิ์
ทุกฝ่ายภายในประสิทธิ์ เสร็จถ้วน
ขอบขัณฑ์มั่นคงคิด ข่ายเขต
ยังแต่ภายนอกล้วน ลึกห้วงห่วงหลาย หนแล ฯ

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ