สรรคที่ ๒๕

ฉบัง

๑๖ เมื่อนั้นไนษัธทัดจันทร์ จงถนอมจอมขวัญ
ศุภาภิรมย์สมศรี
๏ พริ้งพร้อมลม่อมไลมไภมี นางล้ำนารี
วิเศษวิสุทธโศภน
๏ สนิทเสน่ห์ประเวณีนิรมล พระนางพระนล
กระสันเกษมเหมหรรษ์
๏ เริงรื่นชื่นแช่มแจ่มจันทร์ กานดาลาวัณย์
วิไลยวรางค์พางใจ
๏ วันรุ่งมุ่งเฝ้าท้าวไท พระนลภูวไนย
ก็โสรดก็สรงทรงศรี
๏ พรายเพริศเลิศลบภพตรี จำรัสรัตนี
อะคร้าวอะเคื้อเสื้อทรง
๏ พระนลพระนางพลางตรง มยุรยาตรอาจองค์
เสด็จนิเวศน์ภูมี
๏ เฝ้าพระชนกาธิบดี อีกพระชนนี
ประณามประนมก้มองค์
๏ อภิวาทน์อธิราชบาทบงสุ์ สง่าเสงี่ยมเอี่ยมทรง
อุไรอร่ามงามงอน
๏ เมื่อนั้นวิทรรภ์ราชภูธร มหิษีบังอร
พระเนตรธทอดทัศนา
๏ เห็นองค์พระราชธิดา อีกทั้งนิษธา
ธิเบศร์เสด็จมาดล
๏ มหิศรมหิษีโศภน ปริ่มปรีดีกมล
ก็ต้อนก็รับเขยขวัญ
๏ ลูบขนองสองลูกผูกพัน ปราไสยในฉัน
ทะจิตสนิทสำนาร

พระภีมะตรัสว่า

๑๖ ดูราเขยตูผู้ชาญ ชัยเชิดเฉิดฉาน
อะริบ่รอต่อรณ
๏ เวรกรรมทำทุกข์ทำงน อาภัพอับจน
สลายสลัดพลัดเมือง
๏ ไอศวรรย์อันเสวยเคยเรือง ลาลดปลดเปลือง
วิบัติวิบากจากจร
๏ ห่อนใช่ความผิดอดิศร มาตรแม้นแมนอมร
ก็ย่อมจะแจ้งใจปวง
๏ สบเคราะห์เพราะกลีผีหลวง เล่ห์ล้นกลลวง
ละลานละเลิงเชิงชาญ
๏ แพ้พนันพลันพินาศราชฐาน หัยรถคชสาร
สลัดสลดปลดไป
๏ สมบัติฃติยาธิปตัย ไอสูรย์สูญใน
กระดานสกาอาดูร
๏ ร้อนร้าวราวในไฟกูณฑ์ เร่าเร้าเผาภูล
เทวศบ่เว้นเข็ญขืน
๏ เดิรป่าคลาคล่ำค่ำคืน เมียงามตามกลืน
พระอัสสุช้ำดำเนิร
๏ โหยไห้ในแถวแนวเถิน เศขรดอนเขิน
มหามหิงส์สิงห์เสือ
๏ ยักษ์นาคหลากหลายร้ายเหลือ โขมดเข็ญเขม้นเขือ
ขมีขมันมันตาม
๏ เดิรป่าพาองค์นงราม พลัดพรากจากทราม
ไวยเริศนิราศบาทบงสุ์
๏ ต่างองค์ต่างไปในดง บุกป่าฝ่าพง
ก็เหตุเพราะกรรมลำเค็ญ
๏ สองเจ้าเศร้าจิตคิดเห็น เหตุข้อก่อเข็ญ
ก็เพราะภูตร้ายก่ายเกย
๏ บัดนี้มาเวียงเยี่ยงเคย โฉมงามทรามเชย
ก็พบพระราชสามี
๏ จงสุขทุกทิวาราตรี ราชานารี
เสวยสวัสดิ์ตัดภัย
๏ สำเริงสำราญบานใจ พระนางพระไน
ษัธจุ่งเกษมเปรมศรี ๚
๑๖ เมื่อนั้นนิษธาธิบดี รับพรภูมี
วิทรรภะราชเรืองราม
๏ บังคมก้มราบกราบงาม ทูลตอบชอบตาม
ระเบียบระบอบแบบบรรพ์
๏ ปางนั้นประชาชนกล่นกัน เกลื่อนไปในมรร
คะทั่วพระราชธานี
๏ ทราบฃ่าวพระนลนฤบดี คืนสู่บูรี
ก็ซร้องก็แซ่แดเกษม
๏ โจษจรรลั่นอื้ออึงเอม ยินดีปรีดิ์เปรม
กษัตริย์เสด็จคืนเวียง
๏ ทวยราษฎร์ขับรำจำเรียง สำนารสำเนียง
เสนาะสนั่นในเมือง
๏ ยรรยงธงเทียวเขียวเหลือง เวียงวังมลังเมลือง
ผกากมุทมากมี
๏ มาลัยเสาวรสรมณีย์ โศภิตสุรภี
ตระการกระหลบแหล่งเวียง
๏ แถวถนนหนทางพ่างเพียง แดนอินทร์ยินเสียง
ก็แสนเสนาะสำนาร
๏ ทวยราษฎร์เริงรื่นชื่นมาน สำรวลสำราญ
ก็โห่และร้องก้องไกล
๏ ท้องถนนรดน้ำฉ่ำไป โปรยผกามาลัย
เฉลิมพระเกียรติ์ภูบาล
๏ ตกแต่งแหล่งบูชาการ คือเทวสถาน
วิจิตรประเจิดเพริศพราย
๏ กลุ่มกลุ่มประกวดอวดกาย ยวดยิ่งหญิงชาย
ก็ปีติแม้นแมนมา ๚
๑๖ เมื่อนั้นฤตุบรรณราชา ยินฃ่าวคือวา
หุกนั้นพระนลพลไกร
๏ คืนครองน้องนางพางใจ คลาดแคล้วแผ้วภัย
กษัตริย์เกษมเหมหรรษ์
๏ พระองค์ทรงฤทธิ์ฤตุบรรณ ทราบฃ่าวสำคัญ
ก็พลอยถวิลยินดี
๏ ปลื้มปริ่มอิ่มเอมเปรมปรีดิ์ ปราศขุ่นมุ่นมี
กมลบ่หมองคลองธรรม์
๏ ปางนั้นพระนลถกลพรรณ์ ผ่องผุดสุดบรร
เจิดลักษณ์วิลาสรูปี
๏ เสด็จเฝ้าฤตุบรรณนฤบดี ทูลความตามมี
ลำดับแต่เบื้องหลังมา
๏ เกิดเหตุเภทพาลกานดา คราวเคราะห์เพราะสกา
ก็พลัดก็พรากจากไป
๏ พบนาคหลากฤทธิ์เรืองไกร ครากรรมจำใจ
ทนทุกข์ณะกลางอัคคี
๏ ฃ้าช่วยห่อนม้วยชีวี เธอคิดคุณมี
สุมิตระจิตจำเริญ
๏ เสแสร้งแกล้งให้ดำเนิร สิบก้าวห่อนเกิน
ธกัดตระบัดบรรดาล
๏ รูปเปลี่ยนเพี้ยนผิดวิตถาร อากัปอาการ
วิกลประหลาดหลายนัย
๏ แปลกแสนแขนสั้นขันใจ รูปร่างช่างกระไร
ผิบงก็เบื่อเหลือเกิน
๏ นาคแนะและฃ้าดำเนิร ในแถวแนวเถิน
ประลุณะกรุงโกศล
๏ เฃ้าเฝ้าพระองค์ทรงพล พึ่งบาทยุคล
พระองค์ก็โปรดเม็ตตา
๏ อันเรื่องแต่เบื้องนั้นมา องค์พระราชา
ก็ย่อมประจักษ์หฤทัย
๏ ฃ้าขอพระราชอภัย ถ้อยความตามนัย
ที่ปิดข้อฃำอำพราง ๚
๑๖ เมื่อนั้นฤตุบรรณโศภางค์ ยินพระนลพลาง
ก็ตอบพระราชวาที
๏ ดูราพระนราธิบดี เมืองแมนแดนตรี
ก็ย่อมประจักษ์ศักดิ์ทรง
๏ คราวกรรมจำพรากจากองค์ มหิษียุพยง
วิโยคพระยอดเยาวมาลย์
๏ บัดนี้คืนเวียงเยี่ยงกาล ก่อนล้ำสำราญ
พระยศพระเกียรดิ์เกรียงไกร
๏ คืนน้องครองนุชสุดใจ นงรามทรามไวย
สมรเสมอนัยนา
๏ คืนสู่สมบัติฃัติยา ธิปตัยไกรอา
นุภาพกระหลบภพตรี
๏ คืนสุขคืนสมรมณี คืนครองปัถพี
คืนไอศวรรย์จรรโลง
๏ สรวมทรงผาสุกทุกโมง ปลูกรักชักโยง
ประชาเกษมเอมใจ
๏ จงทรงสวัสดีมีชัย ข่มเข็ญเปนภัย
แก่ปวงริปูหมู่พาล
๏ ตูผู้หฤทัยไสศานติ์ เปรมใจในวาร
พระนลพระน้องครองคืน
๏ เกริ่นเกียรติ์อะคร้าวยาวยืน อมิตรคิดขืน
จะย่อยจะยับพับไป
๏ ถวิลเมื่อพระนลพลไกร ยับยั้งอยู่ใน
อโยธยาธานี
๏ ฃ้ามุ่งเม็ตตาอารี ห่อนกอบการมี
ละลาบละล้วงล่วงเกิน
๏ หากเปนไปบ้างบังเอิน ขอโทษโปรดเทอญ
เพราะตูบ่ตั้งใจทำ
๏ หากหาญรานร้าวกล่าวคำ อยาบช้าฃ้าจำ
บ่ได้เพราะใช่เจตนา
๏ หากแสดงขึ้งโกรธโทษอา การทั้งกิริยา
ก็ตูบ่ตั้งใจเลย
๏ มาตรแม้นฃ้าไซร้ได้เคย พลาดพลั้งดังเฉลย
อภัยะโทษโปรดเทอญ ๚

พระนลตอบว่า

๑๖ ฃ้าแต่นรราชจำเริญ จักล่วงจักเกิน
ผินิดผิน้อยฤๅมี
๏ ฃ้าอยู่อโยธยาธานี แสนเกษมเปรมปรีดิ์
มิขุ่นมิเคืองเรื่องใด
๏ สำนึงพึ่งบุญภูวไนย สำราญบานใจ
บ่เดือดบ่ร้อนรำคาญ
๏ อันพระชนาธิปภูบาล ในชาติก่อนกาล
ก็คงสหายแห่งตู
๏ ฉนั้นไซร้จึงได้ค้ำชู ในชาตินี้ภู
ธเรศร์ธเอื้ออวยผล
๏ ขอจงพระองค์ทรงพล ผู้เรืองฤทธิรณ
และฃ้าผู้เพื่อนภูบาล
๏ เปนมิตรกันไปในกาล เบื้องน่าช้านาน
บ่เสื่อมสลายคลายใจ
๏ บัดนี้ฃ้ามีหฤทัย จะถวายภูวไนย
ซึ่งวิทยาม้ากล้าแขง
๏ เจนหัยใจหาญร่านแรง เลิศล้ำคำแหง
จะขี่จะขับฉับไว
๏ พระองค์จงตั้งหฤทัย ตรับฟังดังนัย
ที่ฃ้าจะทูลภูมี ๚
๑๖ ตรัสพลางพระนลนรสีห์ อิ่มเอมเปรมปรีดิ์
ก็สอนวิชาม้ายง
๏ ฝ่ายพระฤตุบรรณ์บรรจง ใจเรียนดุรงค์
วิชาประเสริฐเลิศแรง
๏ รู้ถ้วนขบวนม้ากล้าแขง ลึกล้ำสำแดง
วิธีขี่ขับจับสาย
๏ วิทยาม้ามากหลากหลาย เลิศล้นนลขยาย
บ่ปิดบ่บังดังมี
๏ ปางพระภางคาสุรี อวนินทร์ยินดี
สเริงสราญบานตา
๏ ทูลลาพระภีมะนรา ธิปทั้งนิษธา
ธิราชนเรศร์ฤทธี
๏ เกษกษัตริย์จัดหาสารถี ขับรถรัตนี
เสด็จและด่วนโดยดง
๏ เริงชมรุกขชาติดาดพง ดื่นในไพรระหง
ตระการกระหลบอารัญ
๏ สัตว์สิงวิ่งในไพรสัณฑ์ ขลาลมุงยุ่งกัน
กระพัดกระเพิดเปิดไป
๏ กวางทองย่องย่างกลางไพร ยินรถภูวไนย
ก็หลีกก็ลี้หนีซอน
๏ จำรัสรัตน์อร่ามงามงอน รถลิ่วปลิวจร
ณะแถวณะเถื่อนอาธวา
๏ ฤตุบรรณ์บรรลุอโยธยา อภิชิตราชา
ก็แสนเกษมสำราญ ๚
๑๖ ปางนั้นพระนลนรบาล จงถนอมจอมมาลย์
ประทับประเทิงเริงรมย์
๏ คลึงเคล้าเย้ายวนชวนชม ปิยสองปองสม
สนิทเสน่ห์นงคราญ
๏ บรรเทิงละเลิงใจลาน รสรักอรรคฐาน
เสวยสวรรค์ชั้นอินทร์
๏ ยับยั้งยังกรุงกุณฑิน สำนักอวนินทร์
วิทรรภะราชลือนาม ๚

จบสรรคที่ ๒๕ ในนิทานเรื่องพระนล

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ