สรรคที่ ๑๒

วสันตติลกฉันท์

๑๔ ปางนั้นพระราชสุพรตา พระศุภาพิมลมาลย์
พรานไพรประลัยชนมปราณ นุชนางบ่ส่างศัลย์
๏ เสียวแสยงระแวงภยะดำเนิร คิริเขินศิขรขัณฑ์
ดอนเดียรถะด้นวิชนวัน บทท่องทุราดูร
๏ เสียงสีหะภีรุมยะเกริก รุรุฤกษะศารทูล
โรหิษมหิษภิษมภูล ภยะร้องลำพองพน
๏ วาฬมิคคะไล่มฤคล่า มฤคาริคำรน
โคโฆระโกกะจรปน กบี่แล่นสเริงไพร
๏ สำนักมิลักขะวนจร ดสกรกำเรียงไกร
รากษสปิศาจอสุรไภ ยะพิบากก็มากมาย
๏ มากมีมหีรุหะมหา รญศาระแหล่หลาย
อิงคุทกุมุทลพุชราย อศวัตถ์เถกิงเกรียง
๏ เกศร์เกตก์และกิงศุกกทัม พและชัมพุรายเรียง
ศาลตาลปริยาลขทิรเคียง อรชุนพกุลสลอน
๏ จิญจาและอามลกโลธร์ นยโครธอุฑุมพร
เรียงรายขจายพนขจร รสฉมอุดมฆาน
๏ ยามร้อนก็เร่าสริระร้อน ทินกรบ่สงสาร
แผดเผาบ่เบากิรณปาน กระอุไหม้มลายโรย
๏ ยามเย็นก็เยือกหทยเย็น หิมเปนลอองโปรย
ลมชายก็เช่นอนิลโบย บุรถมระทมใจ
๏ อารัณยะบรรพตตระการ คิริกูฎนิกุญช์ไพร
หลากธาตุอาศยะณะไศ ละอเนกอนันต์มี
๏ เหวห้วยลหานหิมอุทก ก็พุตกณะศีขรี
ผังผังละหลั่งสลิละปรี ดิสะเริงสราญรมย์
๏ นางมึนกมลอพลภาพ บ่มิซาบฤดีชม
วันคืนสอื้นอุระระงม บ่ระงับพระโศกา
๏ ควายป่าวราห์มฤคร้าย จรกรายบ่บีฑา
เหตุสัจจะในหทยมา ลยะมิ่งสมรมี
๏ โศกพลางพระนางจรจรัล พนสัณฑะทุกขี
โหยหาสวามิศบดี พหุภัยบ่ใกล้กราย ๚

นางทัมยันตีทรงรำพรรณ์ว่า

๑๔ โอ้องค์พระผู้นรพยัคฆ์ สุรศักดิกำจาย
ใจตูบ่รู้ระแคะระคาย นลข้องทำนองไหน
๏ จึ่งนาถปลาตสหจรี ดุจนี้ณะแนวไพร
น้องด้นณะพนวิชนไภ ยก็เบียดก็เบียนองค์
๏ เธอทำพิธีอศวเมธ ดุจเวทประสาททรง
ท่อทักษิณากรจำนง นิธิล้วนมโหฬาร
๏ ทรงธรรมประจำจิตบ่คลาด นรนาถคุณาธาร
ทรงสัตย์บ่เสื่อมพระพจมาน บ่กระหลับกระหลอกคำ
๏ บัดนี้พระวัจนะวิบัติ ศุภสัตย์สลายรำ
คาญเข็ญลำเค็ญคุรุระกำ วนกอบกราลภัย
๏ นลเอยพระเคยทนุถนอม นุชน้อมมโนมัย
มั่นหมายบ่หน่ายมนสใน นิจจินต์ปฏิญญา
๏ นลเอยพระเผยพจนภัทร์ ปิยะวัจน์จำนรรจา
ต่อหน้าวรุณยมวรา คนิทั้งสุเรนทร
๏ แจ่มแจ้งแสดงปิยะกถา ดุจผาบ่แคลนคลอน
แม้นเมื่อมิเมื้อชนมมรณ์ พระมิร้างวรางคนา
๏ ลืมแล้วและหรือพระนรเศรษฐ์ อภิสัตยะสัญญา
หงส์เหมพิหงคะหิตกา รกพร้องสนองเสนอ
๏ สี่เวทและอังคะและอุปางค์ ก็กระจ่างหทัยเธอ
ชั่วดีคำภีร์บุรพเลอ ธประจักษ์ตระหนักใจ
๏ ชั่งในหทัยพระนลเถิด พระจะเริศจะร้างไป
ทิ้งน้องก็ทิ้งสตยใน พจนาตถ์พระนลเอง
๏ น้องไซร้มิใช่กนิฐหรือ พระมิถือสุธรรมเพรง
เมียมาณะอารญก็เยง พระบ่คุ้มบ่ครองภัย
๏ น้องเรียกพระศัตรุฆนหาญ พระบ่ฃานก็ลาญใจ
น้องใช่กนิษฐะฤไฉน นรนาถนิราศหนี
๏ ตูหวั่นอรัณยชะฉกาจ วนราชศักดี
แยกเขี้ยวจะเคี้ยวพระปตนี นลอยู่ก็สู้มัน
๏ รักใครบ่รักประดุจฃ้า นลว่าบ่เว้นวัน
รักแล้วจะแคล้วพจนธรร มิกได้ไฉนนา
๏ ไนษัธบ่ทรงพระประติภาษ พระก็คลาดปฏิญญา
ตูท่องก็ทุกข์ทุพลอา ดุรแต่จะแลเหลียว
๏ จาบัลย์วิวรรณะวรลัก ษณะรูปก็ซูบเซียว
ป่าเปลี่ยวก็เปล่าหทยเดียว จรดินมลินทรง
๏ ผืนผ้าจะปกสริรปิด ก็บ่มิดบ่เมี้ยนองค์
โอ้อาตม์อนาถนฤปจง จิตหมางก็ร้างไป
๏ ด้นดั้นอรัณยะดรุเดียว ก็เสยียวสยองภัย
เสือสีหะหมีมฤคใน พนเสียงกำเรียงรณ
๏ อ้าจิตระกายวนราช มฤคาทคำแหงพล
โอษฐ์อ้ามหามุขพหล อริล่าคุหาศัย
๏ เปนใหญ่ณะหมู่มฤคพรร คะอรัณยะราชัย
แกล้วกล้าศวาบทกำไร อภิเดชกระเดื่องวัน
๏ ฃ้าคือพระภีมะดนยา พระบิดาดำรงฃัณฑ์
โอบอ้อมถนอมนรวิทรร ภะเกษตรเกษมศรี
๏ ตูผู้ธิดานฤปนาม กรทัมะยันตี
ตำแหน่งพระราชสหจรี นรเทพธำรงขัณฑ์
๏ เธอทรงพระนามนลกษัตร อริกรรษณ์กำไรธรรม์
จำจากนครจรอรัญ บทท่องทำนองจน
๏ ตูพลัดกษัตริยะภสดา จรหาณะกานน
หม่นเศร้ามิสร่างสิริวิกล ปริเขทะลำเค็ญ
๏ เสือเอยผิเคยจรประจักษ นลพักตระพรรณเพ็ญ
เชิญช่วยอำนวยยุบลเปน อุปถัมภะกำลูน
๏ อยู่ไหนพระนลพิมลเชษฐ์ นรเศรษฐ์เสมอสูรย์
ตูรู้จะสู้จรจะปูน ปถทุกข์ก็จำทน
๏ แม้นเสือมิทราบยุบลไซร้ จิตได้กรุณดล
ฆ่าฃ้าและฃ้ามรณชนม์ ก็จะสิ้นศิฃาดูร
๏ อ้าเสือสหัสพหลห้าว จิตกร้าวกำลังภูล
ยินตูบ่ตอบยุบลทูล จรเลี่ยงเฉวียงเดิร
๏ โอ้อาตม์นิราศพระนลพราก ผิพยาฆร์ก็ยังเมิน
เชิญกินบ่กินประดุจเชิญ อปยศสลดใจ
๏ เห็นอยู่ก็แต่ศิขรโศ ภนโอสถาลัย
อ้าท่านตระหง่านอำพรไศ ละสง่าสถาวร
๏ ไพจิตรพิพิธอุบลราย พิศพรายประภากร
แง่ง้ำชโงกธรณิธร กลเกตุกระจายเจียร
๏ เสือสีหะหมีมฤคหมู คชอยู่คณาเกียรณ์
ผาห้อมพิหงคมจำเนียร นิจพึ่งสำนึงเนือง
๏ อ้าไศละโศภนพิศาล พิสดารสราญเรือง
ผาเผ่นผงาดผงะชำเลือง คิริราชสอาดตา
๏ ฃ้าเปนธิดานฤปนาถ อธิราชชายา
เปนวีระเสนะสุณิสา สิริเลิศระบินวงศ์
๏ ท้าวภีมะผู้วิทรภา ธิบดินทร์ธนินทรง
แกล้วกล้ามหารถรณงค์ อริแล่นระบือชา
๏ ราชสูยะอีกอศวเมธ อภิเดชศักดา
เปนที่พำนักนิกรจา ตุรวรรณนิรันดร
๏ พรหมัณยะธรรมะวิทวี รยะศีละสังวร
โลกหล้าประชาชนนิกร ระบุฃามพระนามเสมอ
๏ องค์นั้นและคือบิดรอา ตมะฃ้าธิดาเธอ
นอบกายถวายกรเสนอ นมะน้อมณะศีขรี
๏ อนึ่งในนิษัธฃติยนาถ อธิราชภูมี
ท้าววีระเสนอธิบดี นลราชดนัยตรู
๏ องค์วีระเสนสสรุฃ้า นลกล้าพระผัวตู
ครองราชย์ดำรงนครชู มรดกพระบิดร
๏ เธอทรงพระคุณวิบุลสันต์ ศตรุหันมหิศร
แสนเศิกบ่สู่นิษธรอน อริฃามศยามนล
๏ เดิรป่าและข้าสิจรพลัด นลภัสดาตน
เปล่าเปลี่ยวจะเที่ยวทุรณะพน ก็บ่พบพระสามี
๏ ผาเอยผิเคยยลพระพักตร นลศักดิสมศรี
เชิญแจ้งแถลงบทวิถี ทิศถิ่นนรินทร์จร
๏ อ้าไศละโอ้อจลเศรษฐ์ คิริเชษฐะถาวร
ห่อนพร้องสนองพจนถอน คุรุทุกขะทำงน
๏ โอ้อาตม์อนาถนฤปทิ้ง ดุจกลิ้งณะกลางหน
ภูผาษ่อาทรกมล และมิบอกยุบลเรา
๏ โอ้ปิ่นนิษัธสตยวาค จรพรากพธูเยาว์
แม้นมาตรพระบาทยุคลเนา พนกว้างบ่ห่างไป
๏ โปรดน้องสนองพจนตอบ จิตกอบกรุณไกร
ว่านี่แน่ะพี่สถิตไพร จะตระโบมพระโฉมตรู
๏ น้องยินนรินทรสำเนียง ก็จะเพียงสุรินทร์ชู
ชวยชื่นระรื่นหทยตู อมฤตก็ปานกัน
๏ กายตูพธูก็จะดำรง บ่มิปลงชิวาสัญ
เอองค์จะทรงชนมทัณ ฑะก็ช้ำบ่จำนง
๏ พร่ำพลางพระนางบทจรัล พนสัณฑะโศกทรง
คืนวันก็พรั่นภยะณะพง ทุรท่องวิถีไพร
๏ บ่ายบาทแทบอุดรทิศ ระอุอิดระอาใจ
อ่อนเปลี้ยละเหี่ยหทยใน อุระก่นระกำกลืน
๏ สามวันวิทรรภะกลยาณิ์ จรฝ่าอรัญฝืน
สามคืนธขืนจรบ่คืน บถมุ่งอุดรจรัล
๏ พ้นพนก็ดลทิพยกา นนตาปสารัญ
งามหมู่มหามุนิอนันต์ ตบะกล้าวิชาบุญ
๏ เสมือนเสมอพระพรหมฤษิวิสุท ธะวศิษฐ์วิศาลคุณ
เสมอเสมือนมุนีอะตริอดุลย์ ภฤคุเดชกระเดื่องดิน
๏ ปางราชินีนิษธรัฐ สุมนัสสุนันทิน
เหตุสบสวัสดิ์ตปสวิน พระวนัสถายี
๏ อาศรมก็สมมุนิสถิตย์ ตบะกิจพระโยคี
ศาฃามฤคมฤคมี สุขเล่นสเริงรมย์
๏ นวลนางก็สร่างกมลเศร้า อุระเร้าระบมกรม
ดำเนิรประณตนขประนม กรสู่พระโยคี
๏ งอนงามพระทรามวยปิยา สุกุจาประภาศรี
ขนงเนตระเกศวิมลมี ศุภลักษณ์ลออเพ็ญ
๏ ปางหมู่มุนีสิริสถา วรวานะปรัสถ์เห็น
นงคราญสุมาลยะสรเล็ญ วนิกอบกรุณใจ
๏ ทักว่าสวาคตและเอื้อ จิตเกื้อกมลใน
เชิญนั่งและหวังกิจอะไร จะประสงค์ก็จงแถลง ๚
๑๔ เมื่อนั้นพระองค์อรสคราญ พจมานบ่เคลือบแคลง
ถามว่าพระดาบสแสวง ผลเผล็ดสำเร็จหรือ
๏ กอบกิจพิธีอคนิโห ตรโสมะยัญรบือ
บุญล้นกุศลผลกระพือ คุณพัดณะปัถพี ๚
๑๔ ปางปวงมุนีมนสน้อม กรุณาพระนารี
พร้อมพร้องสนองพระยุวดี พิศพักตรพิมลพรรณ
๏ ดูราศุภาพรสวัสดิ์ พระสุภัททะลาวัณย์
องค์เดียวธเที่ยวจรอรัญ มนม่งจำนงใด
๏ โฉมเฉลาจะเหงากมลหงอย จะละห้อยละเหี่ยไย
ด่วนดับระงับทุฃะณะใจ อรเถิดจะเกิดศรี
๏ นางคือสุรางคะณะสวรรค์ ฤอรัณยะเทวี
นางไม้ฤนาทยะสุรี ระบุบอกยุบลเรา ๚
๑๔ เมื่อนั้นวิทรรภะวนิดา มนทุกขะบันเทา
ยินถามพระทรามวยะลำเภา ก็ดำรัสยุบลไป
๏ ฃ้าแต่พระดาบสสถา พรสาธุตาลัย
ฃ้าใช่สุรางคะทิพไกร ฤอรัณยะเทวี
๏ ตูไซร้มิใช่อมรตา ทิพยาธิศักดิ์ศรี
เปนมานุษีผิวมุนี อนุญาตจะพรรณนา
๏ อันในวิทรรภะวรรัฐ อธิฃัติยะราชา
ทรงราชย์ดำรงนครอา ตมะนี้บุตรีเธอ
๏ อนึ่งในนิษัธฃติยนาถ อธิราชบ่อาจเผยอ
จักหามหาธิปเสมอ นลไซร้ก็ไป่มี
๏ สงครามะชิตวิวิธบุณ ยะอดุลย์สวัสดี
ปราชญ์เปรื่องกระเดื่องปฤถิพี พระวิศามบดีศวร
๏ เปนที่พำนักทวิชชน ธุระชอบระบอบควร
นอบนบคำรพสุรขบวน ปฏิบัติพิพัฒน์ผล
๏ เลี้ยงรักพิทักษ์นิษธวงศ์ ยศยงสถานนท์
เดชานุภาพพลถกล อธิเกียรติเถกิงพรรณ
๏ โสภณพิพัฒน์สตยสันธ อริหันอนันต์ธรรม์
ชาญศัสตร์ฃจรปรปุรัญ ชยะสิทธิศักดี
๏ ฃ้าภารยายุคลบาท บริจาริกามี
ใจน้อมพระนลนฤบดี ภพนาถสวามินทร์
๏ อันองค์พระนลนฤปเศรษฐ์ อภิศักดิ์เสมออินทร์
สัตยธรรมปรายณะนรินทร์ ระวิโสมเสมือนองค์
๏ มีผู้ชำนาญกลสกา คติกอบจะโกงวงศ์
ท้าเธอพระนลพิมลปลง จิตเล่นก็เห็นผล
๏ โภคทรัพย์ก็ยับธนก็ย่อย นิธิน้อยบ่ติดตน
สมบัติก็หมดรถพหล หยะคชก็ปลดไป
๏ ไอสูรย์ก็สูญสิริก็สิ้น นิษธินทะราชัย
พลัดจากนครจรณะไพร กลพิษพระเพลิงกูณฑ์
๏ ฃ้าโดยเสด็จวรกษัตริย์ นลภัสดาดูร
ด้นดั้นอรัณยะภยะภูล ปฏิบัติกษัตริย์ศรี
๏ บัดนี้ก็พลัดพระภสดา จรหาสวามี
เขินเขาลำเนาวนนที ทศทิศจะติดตาม
๏ อันในนิวาสวนิสถาน นลชาญณรงค์ราม
เสด็จมาฤเปล่าพระมุนิงาม จิตกอบกรุณแถลง
๏ ตามหาและฃ้ากลจะคลั่ง กลไคล้ณะไพรแวง
เที่ยวท่องณะทุ่งทุรแสยง ภยะทุกขะทุกโมง
๏ เสือสิงห์กระทิงอธิกทา รุณพรานชำนาญโกง
หลอกล่อชลอจิตโชลง ภยะคิดจะชิดตัว
๏ ไม่ช้าผิฃ้าจรมิพบ บ่ประสบพระพักตรผัว
ห่อนอยู่จะสู่มรณกลัว ปรโลกบ่ห่อนมี
๏ อยู่ไปก็ใครจะสรเสริญ ขณะเดิรพนาลี
นางงามบ่ตามนฤบดี ปฏิบัติพระภัสดา
๏ อยู่ไปก็เปล่าคุณประโยชน์ ผิวโทษสินานา
เวรกรรมก็จำจิตจะคลา มละชีวะดีเจียว
๏ อยู่ไปก็ใครจะอภิรักษ จรจักดำเนิรเดียว
ภูตผีปิศาจอสุรเกรียว ภยะกราวณะราวไพร ๚
๑๔ เมื่อนั้นประชุมวนิสดับ วจศัพทะทรามไวย
ชี้ชอบก็ตอบยุบลไป มุนิกอบมโนปการ
๏ ดูราพระราชอรสุดา จิตอย่ากำศรดศรานติ์
จักหมายทำลายชนมปราณ ก็บ่สมพระปราถนา
๏ เราเห็นประจักษะตบะญาณ บ่มินานพระกานดา
จักพบพระพักตรพระนิษธา ธิปผู้ริปูแสยง
๏ อันองค์พระนลนรพยัคฆ์ อภิศักดิเริงแรง
สิ้นบาปก็บุณยะจะแสดง กิติเชิดชลอคุณ
๏ คืนครองนครพรพิพัฒน์ อริมรรทน์มนุญบุญ
ก่องแก้วกนกดิลกสุน ทรแสงมไหสูรย์
๏ นางจักประสบพระภสดา นิษธาธิเบนทร์จรูญ
ทรงอาสน์อำรุงนิกรภูล สุขทั่วสุมณฑล
๏ นางจุ่งบำรุงพระวรกาย บ่มิหมายทำลายชนม์
ห่อนช้าจะได้กลกมล ดุจซึ่งมุนีทูล
๏ พูดพลางนิกรมุนิก็ปราศ วนวาสก็หายสูญ
พริบเดียวก็เปลี่ยวจิตอดูลย์ ฤษิหลายก็หายพลัน
๏ นงเพ็ญธเห็นวิปรยาส ก็ประหลาดหทัยครัน
อาศรมมณฑลก็อัน ตรธานวิการกลาย
๏ ดาบสก็หมดมิคก็สิ้น ขคบินก็พริบหาย
พรรณ์พฤกษ์อำพนผลก็ดาย มธุรสก็หมดไป
๏ ไภมีก็มีจิตะระทวย ประทะทุกข์ณแถวไพร
กำศรดระทดทุรคไภ ยอรัณยะรัญจวน
๏ พบต้นอโศกสถิตมั่น พยุปั่นบ่หันหวน
ช่อช้อยยะย้อยยลยะยวน รสรื่นระรวยลม
๏ อ้าวีตะโศกะศุภวัฒน์ กลฉัตรเฉลิมรมย์
ฃ้าภารยานรวิกรม นลราชนรินทร
๏ ท่านไซร้วิโศกสุขประเสริฐ สิริเลิศณะราวดอน
ตูโศกวิโยคนฤปจร นลเริศณะราวดง
๏ อ้าศรีอโศกะตรุเศรษฐ์ ภยะเฉทฉวางพง
แม้นทราบยุบลพระนลทรง ภพผู้ประภากร
๏ จงช่วยอำนวยคุณแถลง ระบุแจ้งวิถีจร
ทางใดจะพบพระมหิธร ทุมบอกยุบลเรา
๏ ตูโศกอโศกจะมิระงับ ปริโศกบางเบา
ท่านไซร้สถิตย์พนลำเนา ก็บ่สมสมัญญา
๏ พร่ำพลางพระนางนุชพิลาป ชลอาบพระนัยนา
เศร้าสร้อยละห้อยอรอุรา จรสัณฑะรัญจวน
๏ โคถึกอธึกมฤคร้าย คณิควายบ่กรายนวล
หมูหมาณะกานนบ่กวน อรหลีกก็หลีกอร
๏ เฃาเขินดำเนิรบ่มิสดวก พิษพวกภยังกร
เปือกตมและหล่มจะบทจร บทก้าวก็ร้าวองค์
๏ ช้านานบ่พานพิมลพักตร นลอรรคนรินทร์ยง
เมื่อยล้าอุสาหะจรดง ดุจไพร่ดำเนิรพน
๏ วันหนึ่งพระนางนิษธศรี ยุวดีเสด็จดล
แทบท่านทีสริชชล ก็สอ้านสอาดดี
๏ เต่าปลาชล่าชลกระเพื่อม คิริเงื้อมชโงกมี
น้ำไหลก็ไสกลมณี จรเฃ้ชเลจร
๏ เสียงเกราญจะเร้ากลจะเรียก เสนาะเพรียกณะอำพร
ฝ่ายเหยี่ยวก็เฉี่ยวชลชงอน นขยึดทยานบิน
๏ จักรวากณะฟากชลก็ก้อง เสนาะร้องณะริมสินธุ์
บ้างฟ่องณะห้องสลิลกิน ชลว่ายกระจายกัน
๏ ยังมีประชุมพณิชสา รถมาณอารัณย์
เกวียนฬาและม้าคชอนันต์ คณะเนื่องดำเนิรมา
๏ ถึงท่านทีชนบ่ฃาม จรฃ้ามณะมรรคา
พ่อค้าก็คุมคณะคชา ศวรถจะบทจร
๏ ปานนั้นพระราชอรยุพี มหิษีมหิศร
พานพลพณิชชนนิกร ก็เสด็จแสดงองค์
๏ เผือดซูบพระรูปวรฉวี มหิษีธทรุดทรง
เปือกเถื่อนก็เปื้อนสริระมง คลปราศอนาถจน
๏ ปางนั้นประชุมชนก็แปลก จิตแรกจะเห็นคน
เหตุมาณะกานนวิชน บ่ประสบมนุษย์ใด
๏ บางผู้ตระหนกจิตก็ลี้ จรลีณะพงไพร
บางผู้ก็หลายหทยใคร จรเตร่และเอองค์
๏ บางผู้คนองมนก็กล่าว ระบุหยาวพระโฉมยง
บางผู้ก็พร้องพจนจง จิตโกรธพิโรธนาง
๏ บางพวกก็กอบกรุณหมาย บ่ระคายระคางขนาง
ปราไสยไฉนจรณะทาง วนเปลี่ยวและเดียวองค์
๏ บ้างถามพระนามกรไฉน และไฉนสกุลวงศ์
ถิ่นบ้านสถานทิศณะพง พนพฤกษะราวใด
๏ แม้นเปนมนุษย์ประดุจเรา ก็และเจ้าจะไปไหน
ฤๅเปนสุรางคะทิพไกร จรเล่นณะราวพน
๏ สาวสวรรค์อรัณยะบริรักษ์ ฤพิทักษ์นทีวน
เปนใหญ่ณะไศละนิรมล ฤพระทิศเทวี
๏ สาวสวรรค์ศรัณยะสุขทา ทิพยาภิศักดิ์ศรี
เชิญช่วยอำนวยคุณธนี ผลลาภอนันต์นัย
๏ ฤๅรากษสีอสุรยัก ษิณิจักประสงค์ใด
เชิญกันอนันตะพิษภัย สิริภัทร์สวัสดี
๏ สรวมศรายะสารถจะท่อง บถท้องพนาลี
ลาภผลพิพัฒน์อุบติมี ดุจในหทัยจง ๚
๑๔ เมื่อนั้นพระภีมะดนยา สุภคาประภาองค์
ยินถามพระทรามวยะก็ทรง อภิปรายประยายไป
๏ ดูก่อนพณิกนิกรสา รถวาหะหาญไพร
ตูใช่สุรางคะทิพไกร ฤอรัณยะเทวี
๏ เปนมานุษีพระดนยา มนุชาธิเบนทร์พลี
ภารยาพระมานุษบดี จรป่าจะหาเธอ
๏ ปิ่นฃัณฑ์วิทรรภะอธิราช ภพนาถพระนามเลอ
สัตยธรรมประจำจิตเสมอ กิติศักดิ์ประจักษ์ไกล
๏ องค์นั้นพระราชชนกฃ้า พระนราธิราชไกร
ครองกรุงอำรุงนิกรใน ภพแผ้วสถาพร
๏ อนึ่งในนิษัธฃติยนาถ นรราชริปูหยอน
ทรงลักษณ์ประจักษ์นยนะนร อภิรูประบือบน
๏ ทรงนามพระนลนรพยัคฆ์ ปรปักษ์บ่ปองรณ
พลัดฃ้าและฃ้าจรณะพน บ่มิพบประสบองค์
๏ ท่านมาณะป่าผิยลพักตร นลศักดิ์ประเสริฐจง
บอกฃ้าและว่านฤปทรง บทท่องวิถีใด ๚
๑๔ บัดนั้นพณิกบุรุษสา รถวาหะทูลไป
ฃ้าแต่พระราชอรไทย กลยาณิลาวัณย์
๏ ฃ้ามาณะกานนวิชน บ่มิยลพระนลอัน
เปนปิ่นสุรัฐนิษธฃัณ ฑเถลิงเถกิงฉาย
๏ ในป่าจะหาชนบ่มี ผิวสีหะเสือหลาย
หมีหมาวราหะคชควาย ก็อเนกณะกานน
๏ มานุษบ่พบณะพนกว้าง พนห่างนิคมคน
จงยักษะราชพลพหล มณิภัทรพิทักษ์เรา ๚
๑๔ เมื่อนั้นพระนางนฤบดี มหิษีศุภาเพรา
ยินคำระกำจิตบ่เบา อุระอัดดำรัสถาม
๏ ดูก่อนประชุมพณิชจัก จรมรรคนิคมคาม
จงจิตจะจรนครงาม ทิศทุ่งสถานใด ๚

พ่อค้าผู้นำหมู่เกวียนทูลว่า

๑๔ ฃ้าแต่พระนางนิษธศรี ยุวดีดำรูวัย
อันฃ้าและสารถจะไป ณะประเทศะเจที
๏ แว่นแคว้นสุพาหุอธิราช จิตคาดจะค้าดี
ซื้อฃายและหมายธนทวี ผลลาภกำไรเนือง ๚

จบสรรคที่ ๑๒ ในนิทานเรื่องพระนล

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ