สรรคที่ ๑๕

อีทิสํฉันท์

๒๐ ปางนิษัธนรินทะยินพระยา
ภุชงค์ทำนูลก็ภูลมนา ภินันท์พลัน
๏ ฝ่ายอุรงคะราชอำนาจอนันต์
สำเร็จประสงค์ภุชงค์ก็อัน ตรธานไป
๏ นลนราธิเบนทร์ธเจนณะไพร
ก็ด่วนดำเนิรณะเถินณะไศ ละพฤกษ์สาณฑ์
๏ เลียบพนัสและลัดพนมพนานต์
พนาชพนาลิกาตระการ เถกิงรมย์
๏ ผองพิหคก็ผกก็โผพนม
พิหงค์พิราบพิลาบระงม ระงายครวญ
๏ เกราญจเร้าจะเรียกสำเหนียกสำนวน
สำเนียงพระนางสอางกำศรวญ กำศรดศัลย์
๏ สร้อยอิร้าก็ถาชล่าสวรรค์
อิลุ้มอิแอ่นก็แล่นถลัน ถลาไป
๏ สาลิกาปรอดก็พลอดณะไพร
กระจอกกระจาบกระจิบกระไซ กระสาดง
๏ ยางกระหรอดกะเรียนกะลิงก็ลง
กระตั้วกระเต็นก็เต้นณะดง ณะดินแดน
๏ เหยี่ยวตะไกรตระไนกะเหว่ากะแวน
กะต้อยติวิตจะคิดแคนน ก็มากมาย
๏ ภูบดีบ่มีหทัยสบาย
คนึงพระนางบ่ว่างบ่วาย บ่เว้นวัน
๏ ทรงพระบทจรณะดอนอรัญ
ประเภทพฤกษ์พิลึกอนันต์ อเนกมี
๏ กรรณิการ์ผกาจำปาจำปี
ตะไคร้ตะคร้อสมอสมี แสมเจือ
๏ โมกมรุมมริดมะขวิดมะเขือ
มะฃามระกำมะกล่ำมะเกลือ ก็เกลื่อนไป
๏ ต้นตะบูนตะแบกก็แซกลำไย
ลำดวนพยอมก็หอมณะไพร พนาธวา
๏ ตาลมะตูมมะตาดก็ดาษฉมา
จะเลือกจะสรรจะพรรณะนา ก็เหลือเกิน
๏ เกษกษัตริย์นิษัธบดีก็เดิร
ณะห้วยณะไพรณะไศละเขิน พนาดร
๏ หมู่มฤคก็เล่นก็เร้นก็จร
พยัคฆะสีหะหมีสุกร คณาเกียรณ์
๏ เหม้นระมั่งระมาดก็ดาษเดียร
สมันก็ล่าและขลาก็เบียน ณะพงเพิง
๏ ควายกระต่ายกระแตก็แส้กระเซิง
กระจงก็พลัดกระจัดกระเจิง กระจายหนี
๏ เหลือมก็เลื้อยและรัดกระหวัดชนี
กระรอกและลิงกระทิงก็มี ก็มากครัน
๏ นลดำเนิรณะเขินศิขรอรัญ
สถลสถานลหานอนันต์ อเนกมี
๏ มุ่งกมลและด้นมหาฏวี
บ่เบื่อดำเนิรบ่เพลินพิถี ธรีบจร
๏ สิบทิวาพระนลก็ดลนคร
อโยธยามหานิกร อุดมศรี
๏ สู่นิเวศน์และเฝ้าพระเจ้าบุรี
ทำนูลทำนองลบองคะดี บ่ช้านาน

พระนลผู้แปลงเปนนายม้าชื่อวาหุกทูลว่า

๒๐ ฃ้าพระองค์จำนงกมลสราญ
จะรองลอองพระบทมาลย์ พระทรงศักดิ์
๏ ชาญวิชาวราศวาภิรักษ์
จะฝึกจะหัดก็ปรัตะยักษ์ บ่มีเสมอ
๏ ทราบกิจานุกิจบ่ผิดบ่เผลอ
จะคิดจะทำสน่ำเสนอ สนองสาร
๏ อันนสังสการะฃ้าชำนาญ
จะต้มจะหุงจะปรุงก็ปาน อมรกฤติ์
๏ ทรงประสงค์ไฉนจะได้ประดิษฐ์
ประดุจพระองค์จำนงบ่ผิด บ่แผกไป
๏ ขอพระภูบดีธมีหทัย
ประกอบกรุณสุคุณอภัย พระภูธร ๚

พระฤตุบรรณตรัสว่า

๒๐ นี่แนะท่านทหารชำนาญสมร
สมรรถวิชาและมานคร บ่คิดแคลง
๏ ท่านก็สามิภักดิ์ตระหนักบ่แหนง
และตูก็ม่งจำนงแสวง จะทำคุณ
๏ จงพำนักพิทักษ์ตุรงค์กรุณ
และขี่และขับสนับสนุน สนองกิจ
๏ ทรัพยะไซร้จะให้อเนกชนิด
สุภักตะพัสตระภัทระพิต ประไพพัฒน์ ๚
๒๐ ปางพระนลสดับกษัตริย์ดำรัส
ธรับธรองบ่ข้องบ่ขัด ก็ยินดี
๏ อยู่อโยธยามหาบุรี
พำนักประชาปะบาระมี พระราชา
๏ หวนระลึกพระนางบ่ว่างทิวา
คนึงพระน้องก็ข้องอุรา พระภูวไนย
๏ เศร้ากำศรดระทดระทวยหทัย
บ่รู้จะปลดกำศรดกระไร ก็ขับครวญ ๚

พระนลทรงขับว่า

๒๐ โอ้สมรเสมอสุมาลย์ประมวล
สุคุณสุธรรมประจำสงวน เสงี่ยมศักดิ์
๏ ฝัวก็ร้างพธูบ่อยู่พิทักษ์
อุราจะไหม้หทัยจะหัก จะแตกพัง
๏ เจ้าจะหิวจะโหยจะโรยกำลัง
จะเปนไฉนและใครระวัง พิทักษ์นาง ๚

นายม้าชื่อชีวละกล่าวแก่พระนลว่า

๒๐ นี่แน่ะนายบ่คลายระคายระคาง
เพราะเหตุไฉนมิใคร่จะวาง จะเว้นครวญ
๏ จงแถลงแสดงยุบลขบวน
ระทวยระทดกำศรดกำศรวญ เพราะนางไหน ๚

พระนลตรัสว่า

๒๐ จงสดับเถอะเจ้าและเราจะไข
ยุบลคะดีบ่มีระไว ระวังพราง
๏ มีสตรีสุคุณวิบุลย์วรางค์
วิไลยวิลาสสอาดสอาง สเอวอร
๏ มีสวามิหมางและร้างสมร
เพราะโฉดเพราะเฉากำเลาวิกร วิกลจิต
๏ นางณะแนวพนมผธมสนิท
สวามิหนีบ่มีจะคิด คนึงนาง
๏ แสนลำบากณะไพรและภัยณะกลาง
พนัสก็ร้ายระคายระคาง ลำเค็ญใจ
๏ ทุกทิวานิศาสวามิไป
ณะเดียรถะดอนก็ถอนหทัย และขับครวญ
๏ โอ้สมรเสมอสุมาลย์ประมวล
สุคุณสุธรรมประจำสงวน เสงี่ยมศักดิ์
๏ ผัวก็ร้างพธูบ่อยู่พิทักษ์
อุราจะไหม้หทัยจะหัก จะแตกพัง
๏ เจ้าจะหิวจะโหยจะโรยกำลัง
จะเปนไฉนและใครระวัง พิทักษ์นาง
๏ ฝ่ายสมรก็จรณะดอนฉวาง
จะเปนจะตายจะวายจะวาง มิรู้เลย
๏ เรื่องอำนัคฆะนุชประดุจเฉลย
สวามินางบ่ว่างเสวย วิบากกรรม
๏ เหตุวิชาวิบัติอสัตย์อธรรม
เพราะเขลาเพราะขลาดอุบาทว์ระยำ ก็เปนไป ๚
๒๐ นลรำพรรณ์รำพึงคำนึงหทัย
บ่ลืมพระนางสอางอุไร อุราเคือง
๏ อยู่อโยธยาบุราณะเรือง
กำศรวญบ่ปลดกำศรดบ่เปลือง บ่แปรไป ๚

จบสรรคที่ ๑๕ ในนิทานเรื่องพระนล

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ