สรรคที่ ๑๖

อินทรวิเชียรฉันท์

๑๑ เมื่อนั้นวิทรรภ์ราช ภพนาถนรินทร์ไกร
ทราบฃ่าวพระนลไน ษธผู้พระเขยขวัญ
๏ อีกองค์พระไภมี มหิษีฉวีจันทร์
สององค์ธำรงมัน ยุวิโยคประยูรยง
๏ ราชัยมไหสูรย์ สุวิบูลย์จรูญรง
สูญสิ้นนรินทร์ทรง จรป่าปิยาตาม
๏ ตกยากลำบากบุก ทุคทุกขะทุกยาม
สิงห์เสือก็เหลือหลาม ภยะหลายก็กรายองค์
๏ ท้าวภีมะมีคนึง พระธิดาณะป่าดง
เขินเฃาลำเนาพง บทจรจะอ่อนแรง
๏ สงสารพระเขยขวัญ จรสัณฑะสำแลง
โพยภัยณะไพรแวง พหุพิษก็พิสดาร
๏ ตรึกพลางพระภูมี ธก็มีพระโองการ
ให้หาคณาจารย์ ทวิชาติชาญเชาวน์ ๚

​พระภีมะตรัสว่า

๑๑ ดูราทิชาจารย์ อุระตูบ่รู้เบา
บุตรเขยบุตรีเรา จรจากมไหสูรย์
๏ ซัดเซพเนจร ภยะขรศิฃาดูร
ใครเล่าจะเอาธูร นิธินิดบ่ติดตน
๏ พราหมณ์เร่งดำเนิรไพร จิตใคร่แสวงนล
สืบหาณะอารญ และนครบ่หย่อนเพียร
๏ สืบทั้งพระไภมี ยุวดีดำรูเจียร
สบองค์พระทรงเกียร ติก็รีบทำนูลเชิญ
๏ คืนสู่วิทรรภ์รัฎ ฐสุภัททะภูลเพลิน
รีบดั้นอรัญเทอญ ทวิชาติเชาวน์ชาญ
๏ รางวัลอนันต์นับ นิธิทรัพยะส่ำสาร
บรรดาคณาจารย์ จะนิยมก็สมหมาย
๏ เขยฃ้าผิหาพบ ผิประสบสุดาฉาย
แก้วกาญจน์ประมาณหลาย หยะช้างจะรางวัล
๏ ปลาเฃ้าและเย่าใหญ่ ก็จะให้บ่เกียดกัน
โคถ้วนจำนวนพัน พิตหลากก็มากมาย​
๏ พราหมณ์ใดหทัยมุ่ง ธุระจุ่งสำเร็จหมาย
รางวัลอนันต์หลาย จะประสบประสงค์สรร ๚
๑๑ ปางปวงทิชาจารย์ พจมานสดับพลัน
บ่ายหน้ามหารัญ จรแยกดำเนิรไพร
๏ เขินเขตประเทศสิ้น ทิศถิ่นพนาลัย
มาดม่งจำนงใจ จรสืบกษัตริย์สอง
๏ หมายหาพระนารี มหิษีฉวีทอง
หมายค้นพระนลจอง จิตคิดจะติดตาม
๏ ห่อนพบพระพรรณ์ไร อรไทยะเรืองราม
เขินขัณฑ์นิคมคาม จรสืบแสวงนาง
๏ ห่อนพบพระทรงพล บทด้นดำเนิรพลาง
สืบฃ่าวณะราวทาง วนเทศธานี ๚
๑๑ ปางพราหมณ์สุพรตนา มสุเทวะเวที
บุกฝ่าพนาลี จรจวบนครไกร
๏ เจทีบุรีรัฏ ฐวิวัฒนะเวียงชัย
ราษฎร์ร่มนิยมใน พระสุพาหุราชา
๏ ปางนั้นกุมารี ยุวดีสุนันทา
สาวสรรค์กำนัลมา นสน้อมประนมคัล
๏ ผ่อนกายสบายองค์ ยุพยงณะสวนขวัญ
ปรีดิ์เปรมเกษมสันต์ สุขวัฒน์ณะวันบุญ
๏ ไภมีนรีรัตน์ วรฃัตติยาดุลย์
เคียงข้างพระนางสุน ทรทิพย์สุนันทา
๏ ปางพราหมณ์สุเทพยล อรรัตนะรามา
ทรงโฉมประโลมตา จิตแจ้งบ่แคลงกมล
๏ ว่าองค์พระไภมี มหิษีศยามนล
เผือดซูบพระรูปยล สิริหย่อนฉอ้อนองค์ ๚
๑๑ อ้าตูจำนงมา นสมาณะป่าดง
จงหวังก็ดังจง จรหาก็มาเห็น
๏ โน่นนางสอางลัก ษณะพักตระพรรณเพ็ญ
ฉันฉวีพระศรีเปน สุรโลกกานดา
๏ ช่วงโชติอุโรชเพื่อม พิศเลื่อมละลานตา
บูรณ์จันทร์สุวรรณ์จา รุจรัสสุสัตรี
๏ กานดาประภาฉาย ทิศหลายขจายศรี
มล้างมืดมลายมี สิรินางสว่างดิน
๏ ดังกามเทวี พระรตีสุคันธิน
งามลบพิภพจิน ตนะห่วงพระดวงสมร
๏ นวลนางวรางค์รัตน กลปัทมะงามงอน
โศภาณะสาคร อภิรมยะลำยอง
๏ นางจากวิทรรภ์รัฐ ดุจปัทมะพลัดหนอง
ทึ้งถอนกระฉ่อนฟอง ชลฃุ่นฃจายตม
๏ จันทร์ทองบ่ส่องแสง ศศิแห้งระหวยกรม
คือราหุมาอม ศศพินทุสิ้นแรง
๏ หมองหมางเพราะร้างผัว สิริมัวสลัวแสง
อ้างว้างระคางแคลง จิตเศร้ากำเดาองค์
๏ เหมือนหนึ่งนทีแห้ง ขณะแล้งก็ไหลลง
ลำน้ำระกำทรง ชลเหือดก็เดือดดาล
๏ เปรียบปัทมีมี หสดีแสดงพาล
ขุดคุ้ยตลุยลาญ บุษกรก็ถอนโยน
๏ ปัทมีบ่มีปัท มะกระจัดกระจายโคลน
วายวอดตลอดโคน ผิวเง่าบ่เนาดิน
๏ เคยงามบ่งามเลย​ รสเคยสุคันธิน
หนองบัวสลัวสินธุ์ เพราะสโรชสลายลง
๏ อุปมาก็ฉันใด อุปมัยฉนี้ตรง
ไภมีฉวีอง คะสลัวเพราะผัวจร
๏ พิศองค์ก็สงสาร สุกุมารละลานสยอน
นวลนางสอางอร ประทะกรรมก็ช้ำนวล
๏ ควรแก่คฤหาสน์แก้ว มณิแพร้วประไพสงวน
แสงแดดบ่แผดกวน วนิดาประภามัย
๏ ยามร้างสวามี ดุจศรีสุมาลัย
แผ่ผึ่งรำไพไอ กระอุเร้าก็เผาผกา
๏ รูปวานอุทารคุณ สุวิบุลยะกานดา
ดังจันทะเลฃา นิลเมฆบดบัง
๏ ห่อนมีมณีมัณ ฑนอันอุไรรัง
อดสูจะดูดัง ชนใช่พิชัยพงศ์
๏ เริศรักตระหนักโศก วิปรโยคประยูรยง
ร้างผัวก็มัวมง คลผองก็หมองหมาง
๏ นางใดผิไร้ภู ษณะชูพะบูนาง
มีคู่ก็ชูพาง มณิภูษณาภรณ์
๏ แน่งนางผิร้างคู่ ผิวภูษณากร
งามสรรพประดังอร ก็บ่ชูพะบูเลย​
๏ อ้าองค์พระนลภู ธรผู้พิบากเอ๋ย
ติดตามพระทรามเชย ณะพนมนิคมไหน
๏ ป่านนี้จะหนักทุกข์ จรบุกพนาลัย
เศร้าส้อยละห้อยใจ กลจิตจะจากกาย
๏ เมื่อใดจะได้พบ นุชนบพระนลฉาย
ดั่งโรหิณีพราย จรพบพระจันทร์เพ็ญ
๏ นลได้พระนางคืน ก็จะรื่นอุราเย็น
ปลื้มเปรมเกษมเปน สุขล้ำประจำใจ
๏ ห่อนได้มไหสูรย์ สุวิบูลยะราชัย
โภคทรัพยะยับไป นลหากบ่ไยดี
๏ พบนางก็พางพบ สุขครบณะธาตรี
ได้เมทินีมี ศุภศานติปานกัน
๏ ชายใดณะไตรภพ บ่มิลบนรินทร์อัน
ควรคู่พธูวรร ณวิวัฒน์สวัสดี
๏ หญิงใดณะไตรภพ บ่มิลบพระนารี
ควรคู่พระภูมี นลแกล้วณรงค์รอน
๏ ใครอื่นบ่ควรคู่ พระพธูพระภูธร
เธอศักดิ์เสมออร อรศักดิ์เสมอเธอ
๏ ตูมาประสบองค์ ยุพยงวิไลยเลอ
จำด่วนบ่ควรเมอ จิตอยู่บ่รู้การ
๏ จักเฝ้าพระไภมี ยุวดีทำนูลสาร
เพื่อนางสอางมาลย์ มละเศร้ากำเดาใจ
๏ ตรึกพลางสุเทพเข้า จรเฝ้าพระพรรณ์ไร
ทูลความพระทรามไวย ดุจเจตนามา ๚

พราหมณ์สุเทวทูลนางทัมยันตีว่า

๑๑ อ้านางสอางรัตน วรฃัตติยาภา
ฃ้าชาววิทรรภ์นา มสุเทวะเวที
๑๑ เที่ยวมาณะอารัณย์ คิริขัณฑะธานี
รับสั่งพระภูมี อธิราชชนกนาง
๑๑ ให้สืบแสวงหา พระธิดาณะดงขวาง
เฃตเฃาลำเนาทาง ชนบทนครปวง
๑๑ ปิ่นฃัณฑ์วิทรรภ์รัฎ ฐะกษัตริย์กำศรดทรวง
ถวิลหาสุดาดวง จิตพลัดณะพงไพร
๑๑ อันองค์กษัตริย์ศรี ชนนีชนกไกร
อยู่ดีบ่มีภัย นิรโรคดำรง
๑๑ ทั้งสามพระภาตา พระธิดาพระบุตรทรง
ผาสุกทุกองค์ สุสถิติ์ธำรงศรี
๑๑ แต่องค์พระมารดา ชนกาธิราชมี
คำนึงพระนารี จิตห่วงพระดวงจันทร์
๑๑ ร้อยพราหมณะตามหา พระธิดาณะไพรสัณฑ์
ขอบเฃตประเทศอัน นรราษฎร์ดำรงเรือง
๑๑ ห้วยธารละหานทุ่ง จิตมุ่งดำเนิรเนือง
อาศรมนิคมเมือง จรสืบพระโฉมงาม ๚
๑๑ ​เมื่อนั้นพระรามา วนิดาสดับพราหมณ์
ทูลถ่องทำนองความ อรพินทะยินดี
๏ ซักไซ้มิใคร่สุด วรบุตระบุตรี
โรคภัยบ่ได้มี ฤพยาธิมาทรง
๏ ถามฃ่าวพระภาดา ชนิกาชนกวงศ์
ไอสูรย์ประยูรองค์ อรรัตน์ดำรัสถึง
๏ ซักพลางพระนางโศก วิปโยครำพึง
โศกซ้ำระกำกรึง จิตศัลยะกรรแสง ๚
๑๑ ​เมื่อนั้นสุนันทา พระธิดาคนึงแคลง
หลากใจไฉนแหนง จิตทุกฃะเต็มตวง
๏ พลางทูลพระพันปี ชนนีพระนางหลวง
เห็นช้ำระกำทรวง ยุพยงธสงสาร
๏ ฃ้าแต่พระมารดา กลยาณินงคราญ
นางนี้ฤดีดาล ปริเทวะโศกา
๏ ร้องไห้พิไรร่ำ อุระช้ำกระมังหนา
สงสารจะลาญอา ดุรเดือดบ่เหือดหาย
๏ เรียกพราหมณ์และถามดู ก็จะรู้คะดีปราย
ใจตูบ่ดูดาย กรุณาอุราดูร
๏ โปรดเถิดพระมารดา กลยาณิจำรูญ
เรียกถามและพราหมณ์ทูล ก็จะแจ้งประจักษ์ใจ ๚
๑๑ เมื่อนั้นพระพันปี ชนนีนรินทร์ไกร
ฟังความพระทรามไวย ดนยาพงางาม
๏ ตรัสเรียกสุเทพเฃ้า จรเฝ้าพระนางถาม
เหตุผลยุบลความ อรไทยจะใคร่ยิน
๏ อ้าพราหมณะงามพรต วรพจนะภาษิน
นางนั้นรำพรรณ์จิน ตวิบากเพราะพรากใคร
๏ เกรียมกรมระทมกรรม อุระช้ำประจำใจ
ฃุ่นเขทเพราะเหตุไร ระบุบอกยุบลเรา
๏ ใครเปนสวามี ชนนีชนกเฃา
ถิ่นบ้านสถานเนา ทิศไหนจะใคร่ยิน
๏ นางใช่จะไร้วงศ์ ยุพยงประวาสิน
ตกยากลำบากกิน ผลไม้ณะไพรแวง
๏ พราหมณ์รู้ก็จงเล่า ระบุเค้ายุบลแสดง
ย่นแยกจำแนกแจง ดุจมีคะดีมา ๚
๑๑ ปางพราหมณ์สุเทพยิน พระนรินทะมารดา
เริ่มต้นยุบลวา ทะทำนูลพระนางไป ๚

จบสรรคที่๑๖ในนิทานเรื่องพระนล

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ