มันสมองดิกเตเตอร์

จอมพลปิลซุดสกี้ ซึ่งเป็นเสนาบดีกลาโหมโดยตำแหน่ง แต่เป็นดิกเตเตอร์ของโปแลนด์โดยความจริง และตายเมื่อเร็ว ๆ นี้ (ประมวลมารคฉบับที่ ๓๔) นั้น เขาเก็บมันสมองไว้ เพื่อประโยชน์ทดลองสืบความรู้เรื่องมันสมองตามวิทยาศาสตร์ การเก็บมันสมองไว้ใช้เช่นนี้ เมื่อดิกเตเตอร์อีกคนหนึ่งตายไปก่อนนี้สองสามปี ก็ได้เก็บไว้เหมือนกัน ดิกเตเตอร์คนก่อนนั้นคือเลนิน ดิกเตเตอร์ของรัสเซียโบลเชวิกกรุงมอสโคได้ตั้งสำนักทดลองมันสมองขึ้น เพราะความอยากตรวจมันสมองเลนินเป็นเหตุ แพทย์รัสเซียได้ไปเบอร์ลิน ไปเรียนการตรวจมันสมองกับศาสตราจารย์เยอรมันชื่อโวคต์ เรียนได้แล้วกลับไปทำในรัสเซีย พยายามจะตรวจให้ทราบว่า มันสมองนักนิติศาสตร์ (การเมือง) นักดนตรี นักวิทยาศาสตร์ เป็นต้น จะมีอะไรผิดกันเป็นลักษณะที่ส่งให้เห็นได้บ้าง อนึ่ง รัสเซียเป็นประเทศซึ่งมีคนต่างชาติต่างภาษารวมกันอยู่มาก เขาอยากจะตรวจให้รู้ว่า มันสมองคนชาติหนึ่งจะผิดกับชาติอื่นบ้างหรือไม่

มีคนหลายคนในโลกที่ยังไม่ตาย แต่ถ้าเอามันสมองมาตรวจเสียแต่เดี๋ยวนี้ จะเป็นประโยชน์แก่โลก

สนุกในรถไฟ เราไปในรถไฟเดินทางยาว ๆ เราไม่สู้จะพูดกันมากนัก เพราะพูดไม่ค่อยได้ยิน และเพราะไม่มีอะไรจะพูด นอกจากนั้นเราใช้เวลาส่วนมากในการอ่านหนังสือ ในการหลับ และในการนั่งอยู่เฉย ๆ เคยมีผู้ถามตาชาวบ้านนอกคนหนึ่งว่า เวลาไปในรถไฟนาน ๆ แกทำอะไร แกตอบว่า “บางทีก็นั่งเฉย ๆ ย่ะ บางทีก็นั่งนึกอะไร ๆ” แกแบ่งนั่งนึกกับนั่งไปนึกเป็น ๒ อย่าง

เดี๋ยวนี้เกิดมีเรื่องเพลินขึ้นใหม่ในรถไฟ แต่ยังไม่ใช่รถไฟเมืองนี้ บริษัทรถไฟอังกฤษบริษัทหนึ่งทำรถหนังพ่วงไปในกระบวนรถไฟ รถนั้นทำพื้นเอียงลาด ตั้งที่นั่งให้คนดูหนังได้ ๔๔ คน เก็บเงินประมาณ ๕๐ สตางค์ สำหรับดูหนังชั่วโมงหนึ่ง ผู้เดินทางรถไฟเคยเบื่อดทุ่งนาหรือป่ารก ๒ ข้างทางไปหลาย ๆ ชั่วโมง ถ้ามีหนังดูก็ดีหนักหนา บางทีจะได้เห็นมิกกี้เม้าส์เต้นกระหยองกระแหยง แทนถือประมวญสารหลับ หรือนั่งแหงนดูนางนารีกับนะโปเลียน แทนที่จะต้องนั่งก้มหน้าอ่านประมวญมารคฉบับหน้า

ห้องอาบน้ำในสวรรค์ ในสมัยพระเจ้าแผ่นดินวงษ์โมคัลในอินเดียมีบุญเต็มที่นั้น มเหษีพระองค์หนึ่งทรงแต่งกาพย์ชมราชวัง เป็นภาษาเปอเซี่ยน ซึ่งกล่าวกันว่าไพเราะนัก ยังท่องกันอยู่จนบัดนี้ ความในกาพย์นั้นว่า

“ถ้าสวรรค์มีอยู่ในดินไซร้ ก็นี่เอง ก็นี่เอง ก็นี่เอง” ชาวคณะของเราที่ได้เคยเห็นพระราชวังนั้น คิดว่าเห็นจะไม่มีตึกรามที่ไหนประณีตเหมือน เป็นต้นว่า ท้องพระโรงโถงแห่งหนึ่ง ประดับด้วยหินอ่อนทุกสีเป็นลวดลาย และสลักปิดทองงามนัก แม้หลายร้อยปีมาแล้วก็ยังไม่เศร้า กลางท้องพระโรงมีรางน้ำตั้งแต่ปลายทางโน้นถึงทางนี้ เป็นรางตื้น ๆ แต่กว้างเห็นจะกว่าหลา พื้นประดับด้วยหินอ่อนต่างสีเป็นลายเหมือนละลอกน้ำ น่าร้อนเคยไขน้ำไหลตลอดวัน แต่ไม่ใช่น้ำใสเฉย ๆ เป็นน้ำดอกไม้เทศ ในเวลานี้ เมื่อแขกมีเกียรติไปดู เขาไขน้ำให้ดูก็ได้ แต่เป็นน้ำธรรมดา ไม่ใช่น้ำหอมดังแต่ก่อนในประเทศที่อากาศแห้งจัดในหน้าร้อน (ปรอท ๑๒๐ ดีกรีขึ้นไป) ตึกใหญ่ที่มีลำธารน้ำหอมไหลผ่านไปกลางตึกนั้น คงจะเป็นเครื่องชื่นใจนักหนา

เมื่อเร็ว ๆ นี้มีหญิงอเมริกันคนหนึ่งมากรุงเทพ ฯ ขึ้นชื่อว่าเป็น “หญิงสาวมั่งมีที่สุดในโลก” ได้แต่งงานเมื่อเร็ว ๆ นี้เอง และมาเที่ยว “เดือนน้ำผึ้ง” ในประเทศแถบนี้ แม่คนนั้นไปถึงอินเดียเห็นห้องน้ำ “สวรรค์ในดิน” เข้าก็ชอบใจ กลับไปอเมริกาจะเลิกห้องน้ำแบบเมืองนั้น จะทำใหม่แบบห้องน้ำมเหษีสมัยโมคัลในอินเดีย

ห้องอาบน้ำแบบนั้น เราเคยเห็นแห่งหนึ่ง อ่างไม่ใช่อ่าง เป็นสระดอกไม้เทศทั้งสระ ขอบสระเป็นที่น่าสำราญ ถ้าจะคิดเนื้อที่ เห็นจะขนาดโรงพิมพ์ประมวญมารคดอกกระมัง

ตัวต่อตัว การท้าแทงดาบหรือยิงกันตัวต่อตัวนั้น ในรัฐสภาในสมัยนี้ไม่น่าจะนึกว่าเป็นของจริงจังเสียแล้ว แต่ถ้าคนพูดโต้กันตัวต่อตัว บางที่ก็เรียกว่า ดยุอัล หรือเขียนว่าดวลดื้อ ๆ แต่เป็นการต่อสู้กันด้วยวาจาเท่านั้น ในชมรมการเมืองของอังกฤษ และอเมริกามีการท้าทายกันประดาบกัน ทิ้งถุงมือกัน แต่เป็นความเปรียบทั้งนั้น ถ้าทำกันจริง เห็นจะต้องมีการเลือกสมาชิกรัฐสภากันบ่อยกว่าเดี๋ยวนี้ เพราะคงจะมีตำแหน่งว่าง ซึ่งต้องตั้งตัวแทนร่ำไป

แต่ในประเทศฮังการี การสู้ตัวต่อตัวกันจริง ๆ นั้น แม้จะผิดกฎหมายก็ยังเป็นวิธีที่ยังใช้กันในพวกสมาชิกรัฐสภา เป็นต้นว่า เมื่อเดือนก่อนนี้เอง ท่านอรรคเสนาบดีถูกหัวหน้าพวกค้านท้าแทงดาบ ท่านอรรคเสนาบดีมียศทหารเป็นนายพล และเมื่อชื่อว่า “นายทหารเย็นตละแมน” แล้ว ใครท้าก็ต้องสู้ มิฉนั้นเสียเกียรติ์ แต่ท่านอรรคเสนาบดีไม่ได้เป็นแต่นายทหารและเย็นตละแมนเท่านั้น เป็นหัวหน้ารัฐบาลด้วย จึงตกในความยาก เพราะในหน้าที่หนึ่งต้องรักษาเกียรติ ในหน้าที่หนึ่งต้องรักษากฎหมาย เกิดความอึกอักมาก แต่ในที่สุดใกล่เกลี่ยให้เลิกกันไปได้ โดยแสดงให้รู้ทั่วกันว่า เป็นความเข้าใจผิดเท่านั้น เกียรติ์ของกองทหารและกฎหมาย ก็เป็นอันลงกันได้

ข่าวเพียงเท่านี้ก็ขันดี แต่เขาว่าความในไม่สู้จะขันนัก ท่านอรรคเสนาบดีกับผู้ท้าเป็นหัวหน้าชมรมการเมืองคนละชมรม และยังมีท่านผู้ใหญ่ในการเมืองอีกคนหนึ่ง รวมเป็น ๓ เซ่าด้วยกัน ในการเมืองของประเทศ ท่านคน ที่ ๓ นั้น แต่ก่อนเป็นไมตรีกันกับท่านคนที่ ๒ (คือผู้ท้า) แต่เกิดแตกกันขึ้น จนเป็นเรื่องให้ต้องเลือกสมาชิกรัฐสภากันใหม่ทั้งชุด เมื่อเดือนเมษายนนี้เอง มาบัดนี้ท่านคนที่ ๒ กับคนที่ ๓ เกิดตีกันขึ้น ครั้นพูดกันไปกันมา ก็เกิดสงสัยว่า ท่านคนที่ ๒ นั้นเอง เป็นผู้ได้ประโยชน์จากความแตกร้าวกันขึ้น นี้เป็นเหตุให้ท่านอรรคเสนาบดี (คือ ท่านคนที่ ๑) ถูกท้าและบัดนี้ท่านคนที่ ๒ กับที่ ๓ กลับเป็นไมตรีสนิทกันกว่าเก่า ซึ่งอาจมีผลในภายหน้า

แผ่นดินไหว เราฟังวิทยุและอ่านโทรเลขเรื่องแผ่นดินไหวที่เมืองเคว์ตตา ก็รู้ว่าเป็นการใหญ่ แต่ไม่รู้ว่าที่ไหน เหตุไรจึงมีทหารอังกฤษมากนัก ครั้นพลิกดูในหนังสือจึงได้ความว่า เมืองนั้นเป็นฐานที่มั่นของอังกฤษ ในการระวังภัยและรักษาความสงบในอินเดียภาคที่ต่อกับอาฟกานิสตาน ถ้าระวังไม่ดี พวกโจรตามเข้าจะเข้ามากวนบ้านผู้เมืองคนไม่หยุด แผ่นดินไหวครั้งนี้ใหญ่เป็นที่ ๓ ใน ๑๐๐ ปี เสียชีวิตคนถึง ๕๖,๐๐๐ คน แผ่นดินไหวที่เสียชีวิตคนมากกว่าครั้งนี้ คือไหวที่เมสซีนา (อิตาลี) คนตาย ๗๗,๐๐๐ คน ไหวในญี่ปุ่น เมื่อ ค.ศ. ๑๙๒๓ คนตาย ๑๐๐,๐๐๐ คน

วิทยุได้ประโยชน์มากในคราวแผ่นดินไหวคราวนี้ แผ่นดินไหวอยู่ยาวนานทีเดียว เจ้าเมืองส่งวิทยุบอกขอความช่วยเหลือรอบด้านบ้านเมืองที่อยู่ใกล้ ก็ส่งความช่วยเหลือไปทันที และภายใน ๒ ชั่วโมง จากเวลาที่เมืองทลาย ได้ขุดคนยังไม่ตายออกมาได้ถึง ๑๐,๕๐๐ คน

----------------------------

 

  1. ๑. ประมวญมารค ฉบับที่ ๓๗ หน้า ๕ ปีที่ ๒ ศุกร์ ที่ ๑๒ กรกฎาคม ๒๔๗๓

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ