พระราชปุจฉาที่ ๒๘

ว่าด้วยผู้ร้ายลอกทองพระพุทธรูป

จะบรรพชาอุปสมบทขึ้นฤๅไม่

----------------------------

๏ ด้วยมีพระราชโองการดำรัสเหนือเกล้าฯ สั่งให้หลวงธรรมสุนทรราชบัณฑิตย์ ไปกราบนมัสการเผดียงแก่พระราชคณะทั้งปวง มีสมเด็จพระสังฆราชาธิบดีเปนประธาน ด้วยข้อพระราชปุจฉาว่าผู้ร้ายที่กระทำผิดเปนครุโทษ ลักลอกทองที่ปิดรูปพระพุทธปฏิมากร ลักเอาพระพุทธปฏิมากร ที่แล้วด้วยเงินแลทองไปหล่อหลอมนั้น จะมาบรรพชาอุปสมบทในพระพุทธสาสนานี้ จะขึ้นฤๅไม่ขึ้นเปนประการใด ขอพระคุณเจ้าทั้งปวงถวายวิสัชนามาให้แจ้ง

แก้พระราชปุจฉาที่ ๒๘

๏ อาตมภาพ สมเด็จพระสังฆราช พระพิมลธรรม พระธรรมอุดม พระพุทธโฆษา พระเทพกระวี พระพรหมมุนี พระเทพโมฬี พระโพธิวงษ์ พระธรรมเจดีย์ พระเทพมุนี พระญาณสมโพธิ พระญาณโพธิ พระญาณไตรโลก พระวินัยรักขิต พระสุเมธ พระธรรมมุนี พระนิกรม พระปรากรม ๒๒ พระองค์ ปฤกษาพร้อมกัน ณกุฎีสมเด็จพระสังฆราชด้วยข้อพระราชปุจฉาว่า คนลอกทองพระแลทำลายพระพุทธรูปแลพระเจดีย์ด้วยอกุศลเจตนานั้น จะบวชได้ฤๅไม่ได้ อาตมภาพทั้งปวงขอถวายพระพรจำเริญพระราชศิริสวัสดิ์ ค้นพระบาฬีในคัมภีร์มหาวรรค อรรถกถามหาวรรค วิมติวิโนทนี ฎีกามหาวรรค สารัตถทีปนีฎีกามหาวรรค คุยหัตถทีปนีแก้มหาวรรค บริวาร อรรถกถาบริวาร สารสังคหลฎีกาวินัยวินิจฉัย ได้ข้ออธิบายว่า บุทคลผู้ใดยังพระโลหิตห้อให้บังเกิดในพระกายแห่งสมเด็จพระพุทธองค์อันยังมีพระชนม์อยู่ โดยน้อยแต่มาทว่าเท่าแมลงวันตัวน้อยกินอิ่มด้วยน้ำจิตรประทุษฐร้าย แลวธกจิตรจะฆ่าสมเด็จพระพุทธองค์เหมือนอย่างพระเทวทัต บุทคลผู้นั้นจะบวชเปนสามเณรเปนภิกษุไม่ขึ้นโดยวาระพระบาฬีว่า “โลหิตุปฺปาทโก ภิกฺขเวติ เอตฺถ โย เทวทตฺโตวิย ทุฏฺจิตฺเตน ฯ ล ฯ เอตสฺส ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ วาริตา” ข้อหนึ่งในคัมภีร์พระบริวาร ในคัมภีร์พระอรรถกถาปริวารมีเนื้อความว่าอาบัติอันหนึ่งต้องแต่เมื่อสมเด็จพระสรรเพ็ชญ์พุทธองค์ยังมีพระชนม์อยู่ ครั้นเสด็จเข้าสู่พระนิพานแล้วมิได้ต้อง คือได้แก่พุทธโลหิตุบาท โดยพระบาฬีว่า “อตฺถาปตฺติ ติฏฺนฺเต ภควติ โน ปรนิพฺพุเต” ข้อหนึ่งในคัมภีร์สารสังคหะ มีเนื้อความว่า บุทคลทำลายพระเจดีย์ พระมหาโพธิ พระบรมธาตุ ด้วยอกุศลเจตนา กรรมอันนั้นเปนครุโทษ เปนกรรมอันหนักเหมือนอนันตริยกรรม โดยพระบาฬีว่า “เย ปรินิพฺพุเต ตถาคเต ฯ ล ฯ ภารยํ กมฺมํ โหติ อนนฺตริยสทิสํ” ข้อหนึ่งในคัมภีร์วิมติวิโนทนีฎีกามหาวรรค คุยหัตถทีปนีแก้มหาวรรค วินัยสารัตถทีปนี ฎีกาวินัยวินิจฉัย มีเนื้อความว่า บุทคลทำลายล้างพระเจดีย์ พระศรีมหาโพธิ พระปฏิมากรเปนอาทิ ด้วยอกุศลเจตนา กรรมอันนั้นมิได้เปนอนันตริยกรรม แต่ทว่ามีโทษมากเหมือนอนันตริยกรรมโดยพระบาฬีว่า “เจติยมฺปน โพธึ วา ปติมาทึ วา ฉินฺทโต วา อนนฺตริยํ น โหติ อนนฺตริยสทิสํ มหาสาวชฺชํ โหติ” แลบุทคลลอกทองพระทุกวันนี้ จะจัดเอาเปนพุทธโลหิตุบาทนั้นไม่ได้ เหตุพระพุทธองค์เข้าสู่พระนิพานแล้ว แต่เปนกรรมอันหนักเหมือนอนันตริยกรรม ไม่มีบาฬีห้ามบรรพชาอุปสมบท แต่ทว่าอาตมภาพทั้งปวงพิจารณาเห็นพร้อมกันเห็นว่าสันดานแห่งคนพวกนี้กักขลภาพหยาบช้ายิ่งนัก แสนมหาแต่พระปฏิมากรฉลองพระองค์ เปนที่เคารพแก่สัตวโลกทั้งปวงแล้วยังทำลายเสียได้ หนึ่งกรรมของคนจำพวกนี้เปนกรรมอันหนัก มีโทษมากเหมือนปัญจานันตริยกรรม แม้นคนจำพวกนี้จะบวชเข้าในพระสาสนาก็ดี สันดานเคยหยาบอยู่แต่ก่อนแล้ว จะกลับกระทำกรรมอันหยาบต่อไปอิก ซึ่งจะจำเริญในพระพุทธสาสนาหามิได้ อาตมภาพปฤกษาพร้อมกันไม่รักที่จะสงเคราะห์ ให้บรรพชาอุปสมบทบวชบุทคลจำพวกนี้ไว้ ในพระสาสนาเปนอันขาดทีเดียว ขอถวายพระพร ๚

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ