- คำนำ
- อธิบายประเพณีพระราชปุจฉา
- พระราชปุจฉาที่ ๑๗
- พระราชปุจฉาที่ ๑๘
- พระราชปุจฉาที่ ๑๙
- พระราชปุจฉาที่ ๒๐
- พระราชปุจฉาที่ ๒๑
- พระราชปุจฉาที่ ๒๒
- พระราชปุจฉาที่ ๒๓
- พระราชปุจฉาที่ ๒๔
- พระราชปุจฉาที่ ๒๕
- พระราชปุจฉาที่ ๒๖
- พระราชปุจฉาที่ ๒๗
- พระราชปุจฉาที่ ๒๘
- พระราชปุจฉาที่ ๒๙
- พระราชปุจฉาที่ ๓๐
- พระราชปุจฉาที่ ๓๑
- พระราชปุจฉาที่ ๓๒
- พระราชปุจฉาที่ ๓๓
- พระราชปุจฉาที่ ๓๔
- พระราชปุจฉาที่ ๓๕
- พระราชปุจฉาที่ ๓๖
- พระราชปุจฉาที่ ๓๗
- พระราชปุจฉาที่ ๓๘
- พระราชปุจฉาที่ ๓๙
พระราชปุจฉาที่ ๒๑
ว่าด้วยเรื่องสึกภิกษุลาวเสียแล้วบวชใหม่ ปฤกษาว่ามีบรรพชาโทษเพราะอักขระวิบัตินั้น มีพระพุทธบัญญัติว่าอักขระภาษาอื่นผิดเพี้ยนไม่เปนบรรพชาอุปสมบท ฤๅมีพระพุทธบัญญัติไว้ว่าเหตุที่จะเปนบรรพชาอุปสมบทได้กี่ประการ ไม่เปนบรรพชาอุปสมบทกี่ประการ
----------------------------
ศุภมัสดุจุลศักราช ๑๑๔๘ อัสสสังอัจฉรนักษัตรอัฐศกอาสาธมาศศุกรปักษ์ ทศมีดฤถีพุฒวารปริเฉทกาลกำหนด สมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัว เสด็จออกณพระที่นั่งท้องพระโรงราชวินิจฉัยจักรพรรดิพิมาน มีพระราชโองการมานพระบัณฑูรสุรสิงหนาทดำรัสเหนือเกล้าเหนือกระหม่อม สั่งให้หลวงศรีวิเชียรปรีชา หลวงเมธาธิบดี ไปเผดียงถามพระราชาคณะผู้ใหญ่ผู้น้อยทั้งปวงว่า กิจบรรพชาเปนสามเณร แลกิจอุปสมบทเปนภิกษุนี้เปนข้อใหญ่อายุพระสาสนา ย่อมมีในประเทศราชธานีต่างๆ คือเมืองเหนือ เมืองมอญ เมืองลาว เมืองพม่า ว่าอักขระตามภาษาผิดเพี้ยนกันกับสยามภาษา เปนต้นว่า “พุทธํ สรณํ” อุปัชฌยาจารย์แต่ก่อนในเมืองต่างๆ ก็บวชสงฆ์บวชสามเณรสืบๆ มานับด้วยร้อยพันหมื่นแสนเปนอันมาก ก็ถือว่าบาฬีอักขระถูกมิได้วิปลาศเปนบรรพชาอุปสมบทอยู่ แลพระผู้เปนเจ้าทั้งปวงมาชุมนุมพร้อมกันชำระพระสาสนาบวชภิกษุลาวครั้งนี้ ว่าอักษร ระ เปน ละ ละ เปน ระ เปนวิปลาศมิเปนบรรพชาอุปสมบท ให้สึกเสียบวชใหม่นั้น มีพระพุทธบัญญัติตัดลงเปนแท้ว่า อักขระในประเทศภาษาอื่น ผิดเพี้ยนมิต้องอักขระในสยามภาษา ไม่เปนบรรพชาอุปสมบท ฤๅมีพระพุทธบัญญัติไว้ว่า เหตุที่จะเปนบรรพชาอุปสมบทได้นั้น มีกี่ประการ ที่จะมิเปนบรรพชาอุปสมบทได้นั้นมีกี่ประการ ขอพระคุณเจ้าทั้งปวงค้นหาพระบาฬีตัดสินลงให้ขาด จะได้เปนคติเยี่ยงอย่างสืบไปในพระสาสนา ขอให้พระคุณทั้งปวงวิสัชนามาจงแจ้ง
แก้พระราชปุจฉาที่ ๒๑
อาตมาภาพสมเด็จพระสังฆราช พระพนรัต พระพิมลธรรม พระพุฒาจารย์ พระพุทธโฆษา พระธรรมโฆษา พระอุบาฬี ๗ รูป ปฤกษาพร้อมกันค้นดูพระบาฬี ถวายวิสัชนาในกิจบรรพชาเปนสามเณร แลกิจอุปสมบทเปนภิกขุ เปนข้อใหญ่อายุพระสาสนานั้น อาตมาภาพทั้งปวงค้นดูพระบาฬีในคัมภีร์พระวินัยว่า “วคฺคิ จ ภิกฺขเว ฯ ล ฯ โอสาธิโตติ” เนื้อความว่ากุลบุตรจะบรรพชาอุปสมบทในพระสาสนา ที่ห้ามนั้นบุคคล ๑๑ จำพวก คือกะเทย ๑ ลักเพศเปนสามเณรภิกษุเอาเอง ๑ ภิกขุถือลัทธิเดียรถีว่าประเสริฐกว่าพระสาสนา ๑ สัตว์เดียรฉาน ๑ ปิตุฆาฏ ๑ มาตุฆาต ๑ อรหันตฆาฏ ๑ ภิกขุนีทูสก ๑ สังฆเภท ๑ โลหิตุบาท ๑ อุภโตพยัญ ชนก ๑ บุทคล ๑๑ จำพวกนี้ ห้ามบรรพชาอุปสมบทเปนอันขาดทีเดียว ยังบุคคล ๒ จำพวก คือคนมีอายุมิได้ครบ ๒๐ ปี ๑ ภิกษุเปนปาราชิก ๑ คน ๒ จำพวกนี้ ห้ามแต่อุปสมบทเปนภิกษุ มิได้ห้ามบรรพชาเปนสามเณร อนึ่งบุคคล ๒๓ จำพวก คือ คนมือด้วน ๑ เท้าด้วน ๑ ด้วนทั้งมือทั้งเท้า ๑ หูด้วน ๑ จมูกด้วน ๑ ด้วนทั้งหูทั้งจมูก ๑ นิ้วมือด้วน ๑ แม่มือเท้าด้วน ๑ เอ็นใหญ่ขาด ๑ คนมีนิ้วมือติดกัน ๑ เปนค่อม ๑ คอพอก ๑ เตี้ย ๑ คนเขานาบแขนนาบอก ๑ คนเขาเฆี่ยนหลังลายยังไม่หายแผลสด ๑ คนเขาสักประจานไว้ ๑ คนตีนทู่ ๑ เปนโรคลามก ๑ บุรุษโทษมีสูงนักเปนต้น ๑ ตาบอดข้างเดียว ๑ เปนง่อย ๑ เปนกลาก ๑ มีกายตายไปจำระ ๑ คนเดินมิได้ ๑ คนชราทุพลภาพ ๑ คนตาบอต ๒ ข้าง ๑ คนเปนใบ้ ๑ คนหูหนวกมิได้ยินศัพท์ ๑ คนทั้งบอดทั้งใบ้ ๑ คนทั้งบอดทั้งหนวก ๑ คนทั้งใบ้ทั้งหนวก ๑ คนทั้งบอดทั้งหนวกทั้งใบ้ ๑ แลคนเหล่านี้เปนบรรพชาโทษ ถ้าอุปัชฌาย์ กรรมกาจา สงฆ์ ให้บรรพชาอุปสมบทแก่คนเหล่านี้ กุลบุตรก็เปนบรรพชาอุปสมบทคยู่ แต่อุปัชฌาย์ กรรมวาจา สงฆ์ ต้องอาบัติ แลซึ่งกุลบุตรในประเทศเมืองลาว เมืองมอญ เมืองพม่า เมืองเขมร จะบรรพชาอุปสมบทตามภาษานอกกว่าภาษาไทยนั้น พระพุทธเจ้าอนุญาตให้สวดกรรมกาจาตามพระบาฬีมคธภาษาอย่างเดียว อันท่านผู้เปนนักปราชญ์ในประเทศต่างๆ แต่ก่อนรู้บาฬีมคธภาษา แลอักขระมคธภาษาแน่ จะได้สวดให้ผิดอักขระนั้นหามิได้ บรรพชาอุปสมบทนั้นก็บริบูรณ์หาสงไสยมิได้ แลนานมากุลบุตรมิได้รู้พระบาฬีแท้ ผู้บวชผู้สวดว่าให้ผิดอักขระอักษรไป บรรพชาอุปสมบทนั้นมิได้บริบูรณ์ จึงให้สึกเสียบวชให้บริบูรณ์ อาตมาภาพทั้งปวงจะสงไสยติเตียนท่านผู้รู้แท้ แต่ก่อนนั้นหามิได้ สงไสยติเตียนกุลบุตร แต่ในทุกวันนี้เห็นกุลบุตรรู้น้อยนัก ว่าอักขระอักษรเปนทุรุตกล่าวผิดดังพระบาฬี “ทุรตฺตํ กโรตีติ เอตฺถ ปน อยํ วินิจฺฉโย โย หิ อฺสมึ อกฺขเร วตฺตพฺเพ อฺํ วทติ อยํ ทุรุตฺตํ กโรติ นาม” ผู้สวดกรรมวาจานั้น อักขระตัวอื่นสวดออกว่าอักขระตัวอื่นไป ผู้สวดนั้นชื่อสวดผิดเปนอนุสสาวนวิบัติไม่เปนอุปสมบทเลย อาตมาภาพทั้งปวงกลัวจะสวดผิดดังนี้ จึงให้สึกเสียบวชใหม่ ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด ขอถวายพระพร ๚