พระราชปุจฉาที่ ๓๗

ว่าด้วยพระปัจเจกพุทธเจ้าแลพระยาบรมจักรพรรดิ์

ไม่เกิดในสูญกัลปนั้น ด้วยเหตุไร

----------------------------

๏ ศุภมัสดุตยุลศักราชสหัสสสตจัตตาฬีสนวเอฬกสังวัจฉรนักษัตรภัทรบทมาศกาฬปักข์จตุตถีตฤถีรวิวารปริเฉทกาลกำหนด สมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวเสด็จออกณพระที่นั่งจักรพรรดิ์พิมาน พร้อมด้วยเสนาพฤฒามาตย์ราชปโรหิตบัณฑิตยชาตินักปราชญ์ทั้งปวงเฝ้าพร้อมกัน สมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัว จึงมีพระราชโองการมานพระบัณฑรูสุรสิงหนาทดำรัสเหนือเกล้าเหนือกระหม่อม สั่งข้าพระพุทธเจ้าหลวงเมธาธิบดี ออกไปนมัสการเผดตียงถามสมเด็จพระสังฆราช พระราชาคณะทั้งปวง ว่าด้วยพระผู้เปนเจ้าทั้งหลายผู้เปนธรรมกถึก มาถวายพระธรรมเทศนาว่ามีวารพระบาฬีในคัมภีร์หลวงต่างๆ อันพระอริยเจ้าทั้งปวงยกขึ้นสู่พระสังคายนายถึง ๓ ครั้ง จบลงครั้งใดแผ่นดินไหวถึง ๓ ครั้ง ว่ากัลปมี ๒ ประการ คือ สูญกัลป ๑ อสูญกัลป ๑ แลสูญกัลปนั้น พระพุทธเจ้าพระปรัตเยกโพธิ พระยาบรมจักรพรรดิ์ ย่อมไม่บังเกิดแลกัลปนั้นสูญจากคุณธรรม แลบุทคลอันประกอบด้วยธรรม ทั้งพระพุทธเจ้า พระปรัตเยกโพธิเจ้า พระยาบรมจักรพรรดิ์ ก็มิได้บังเกิดในกัลปนั้นๆ จึงเรียกว่าสูญกัลป แลในคัมภีร์ปรมัตถโชติกาสารสังคหะมีเนื้อความว่า พระปรัตเยกโพธิเจ้าทั้งหลายจะมาตรัสนั้น ในกาลเมื่อพระเจ้าบังเกิดเปนปัจฉิมภวิกโพธิสัตวแล้วแต่ยังมิได้ตรัส ครั้นพระพุทธเจ้าใกล้จะได้ตรัสแล้ว พระปรัตเยกโพธิจะอยู่มิได้ ก็เสด็จนิพพาน กำหนดกาลที่พระปรัตเยกโพธิทั้งหลายจะมาตรัสนั้น ร่วมกันกับกาลสมเด็จพระพุทธเจ้าทั้งหลายจะมาตรัส คืออายุกาลแห่งสัตวตั้งแต่ ๑๐๐ ปีขึ้นไป แสนปีลงมา กำหนดกาลแห่งสมเด็จพระพุทธเจ้า พระปรัตเยกโพธิเจ้า อันจะมาตรัสนั้นร่วมกันฉนี้ เนื้อความในพระคัมภีร์หลวงต่างๆ เนื้อความรับกัน ก็เห็นว่าพระปรัตเยกโพธิจะตรัสนั้น ในอสูญกัลป เนื่องกันกับสมเด็จพระพุทธเจ้า แลมิได้ตรัสในสูญกัลปอันหาพระพุทธเจ้ามิได้ มีเนื้อความอยู่ฉนี้ แล้วมีเนื้อความในคัมภีร์หลวงนั้นเอง ว่าสมเด็จพระพุทธเจ้าตรัสทำนายนายสุมนมาลาการ พระเทวทัต นกเค้า อันเลื่อมใสคำรพบูชาด้วย กาย วาจา จิตร แก่พระองค์ สืบไปภายน่านับแต่ภัทรกัลปนี้ไปแสนกัลป สัตว์ทั้งสามนี้จะได้ตรัสเปนพระปรัตเยกโพธิในอนาคตกาลเมื่อสิ้นภัทรกัลปนี้แล้ว จะเปนสูญกัลปไปนั้น ถึงอสงไขยกัลปแผ่นดิน เนื้อความนี้มีในอนาคตวงศ์ เมื่อว่าไปภายน่าจะเปนสูญกัลปไปถึงอสงไขยแผ่นดินฉนี้ แลท่านทั้งสามซึ่งพระองค์ตรัสทำนายว่าจะได้ตรัสเปนพระปรัตเยกโพธิในที่สุดแสนกัลปแผ่นดินนั้น จะมิเปนพระปรัตเยกโพธิในสูญกัลป ก็ผิดกับคำเดิมที่ว่าพระปรัตเยกโพธิ มิได้ตรัสในสูญกัลปนั้นฤๅ ๆ เนื้อความเปนสองเงื่อนอยู่ฉนี้ ถ้าจะถือว่าพระพุทธฎีกาอันโน้นชอบ พระพุทธฎีกาอันนี้ผิด แลพระพุทธรัตน พระธรรมรัตน พระสังฆรัตน เปนแก้วประเสริฐ เปนที่เทพามนุษย์สัตวทั้งปวงในโลกธาตุนับถือเปนพระไตรสรณคมน์ หาความแคลงสงไสยมิได้ แลมามีเนื้อความเปนคำสองให้สัตวทั้งปวงสงไสยฉนี้ก็บมิควร ขอพระคุณเจ้าทั้งปวงอันเปนพุทธชิโนรสวิสัชนาบำรุงพระพุทธสาสนาให้แจ้ง อย่าให้สัตวทั้งปวงมีความแคลงในพระไตรสรณคมน์ได้ ประการหนึ่งอันสมเด็จพระพุทธเจ้าทั้งปวง พระองค์ลงมาตรัสในโลกนี้ ๆ ย่อมเล็งแลดูอายุกาลแห่งสัตวต่ำกว่า ๑๐๐ ปี สัตวนั้นมีสันดานหนาด้วยกิเลศ จะตรัสพระธรรมเทศนานั้นสัตวมิได้มรรคผล จึงมิได้ลงมาตรัส ถ้าอายุสัตวมากกว่าแสนปีขึ้นไป สัตวประมาทมิได้เห็นทุกขัง อนิจจัง อนัตตา จะตรัสพระธรรมเทศนาพระไตรลักษณ์นั้น สัตวมิได้เชื่อ แลสัตวทั้งปวงก็ไม่ได้โลกอุดรมรรคผล จึงมิได้มาตรัส จำเดิมแต่อายุสัตวตั้งแต่ร้อยปีขึ้นไป ต่ำแสนปีลงมา จึงพระพุทธเจ้าทั้งปวงมาตรัส เพราะสัตว์จะได้โลกอุดรมรรคผล ในระหว่างอายุกาลเพียงนั้นเห็นควร เพราะพระพุทธองค์ทั้งปวงโปรดสัตวให้ได้โลกอุดรสมบัติมรรคผล สิ้นสังสารทุกข์ชาตินั้น แลฝ่ายพระปัจเจกโพธิ พระยาบรมจักรพรรดิ์นั้น โปรดสัตว์ทั้งปวงให้ได้โลกอุดรสมบัติสิ้นสังสารทุกข์ ในชาตินั้นดุจพระเจ้าทั้งปวงฤๅ จึงกำหนดเฉภาะบังเกิดในอสูญกัลป มิได้เกิดในสูญกัลป ดังสมเด็จพระพุทธเจ้าทั้งปวง ท่านทั้งสองนี้สิโปรดสัตวทั้งปวงให้ได้แต่มนุษย์สมบัติสวรรค์สมบัติดอก ถ้าบังเกิดในสูญกัลป อันปราศจากสมเด็จพระพุทธเจ้า สัตว์หาที่พึ่งมิได้ จะได้พึ่งพระปรัตเยกโพธิ พระยาบรมจักรพรรดิเจ้าอิกเห็นจะควร แลพระปรัตเยกโพธิ พระยาบรมจักรพรรดิ์ มิเกิดในสูญกัลปนั้นอิกเล่า ด้วยเหตุผลเปนประการใด ขอให้พระคุณทั้งปวงวิสัชนามาจงแจ้ง

แก้พระราชปุจฉาที่ ๓๗

๏ สมเด็จพระสังฆราช ๑ พระพนรัต ๑ พระพิมลธรรม ๑ พระธรรมราชมุนี ๑ พระพุฒาจารย์ ๑ พระพุทธโฆษา ๑ พระราชกระวี ๑ พระราชมุนี ๑ พระธรรมโกษา ๑ พระเทพมุนี ๑ พระพรหมมุนี ๑ อาตมภาพทั้งปวง ๑๑ รูปด้วยกัน ได้รับพระราชทานฟังพระราชปุจฉาในข้อซึ่งว่ากัลปมี ๒ ประการ คือสูญกัลป ๑ อสูญกัลป ๑ สูญกัลปนั้นหาสมเด็จพระพุทธเจ้า พระปรัตเยกโพธิ พระยาบรมจักรพรรดิ์ จะบังเกิดมิได้ อสูญกัลปนั้น สมเด็จพระพุทธเจ้า พระปรัตเยกโพธิ พระยาบรมจักรพรรดิ์จะบังเกิด แล้วมีเนื้อความว่าพระพุทธเจ้าทำนายนายสุมนมาลาการ พระเทวทัต นกเค้า ว่าจะได้เปนพระปรัตเยกโพธิ ในที่สุดแสนกัลปแต่ภัทกัลปอันนี้ไป แลเมื่อสิ้นภัทรกัลปแล้ว จะเปนสูญกัลปอยู่ถึงอสงไขยกัลปหนึ่ง มีในคัมภีร์อนาคตวงศ์นั้น ก็ต้องกันกับวารพระบาฬีในคัมภีร์หลวงทั้งปวงอยู่แล้ว แลข้อซึ่งว่า เมื่อเปนสูญกัลปไปถึงอสงไขยแผ่นดินฉนี้ แลนายสุมนมาลาการ พระเทวทัต นกเค้า ซึ่งพระเจ้าทำนายว่าจะได้ตรัสเปนพระปรัตเยกโพธิ ในที่สุดแสนกัลปแผ่นดินนั้น จะมิตรัสในสูญกัลปฤๅ คำก่อนกับคำหลังผิดกันหาต้องกันไม่ พระราชปุจฉาข้อนี้เปนอุภโตโกฏปัณหาลึกล้ำคัมภีรภาพยิ่งนัก อาตมภาพทั้งปวงค้นดูพระบาฬีในตัมภีร์ต่างๆ เห็นต้องกันว่า ซึ่งเปนสูญกัลปหาพระพุทธเจ้า พระปรัตเยกโพธิ พระยาบรมจักรพรรดิ์ จะมาบังเกิดมิได้นั้นมีโดยมาก ที่พระปรัตเยกโพธอ พระยาบรมจักรพรรดิ์ได้มาบังเกิดในสูญกัลปนั้นก็มีอยู่บ้าง แต่มีน้อย พระพุทธฎีกาก่อนซึ่งตรัสเทศนาว่า พระปรัตเยกโพธิ พระยาบรมจักรพรรดิ์ มิได้มาบังเกิดในสูญกัลปนั้น ว่าโดยเยภุยฺนัย ยกเอาที่มากนั้นขึ้นเทศนา พระพุทธฎีกาอันนี้เปนสาวเสสจะได้เปนนิราวเสสห้ามขาดทีเดียวนั้นหามิได้ พระพุทธฎีกาก่อนกับพระพุทธฎีกาหลังนั้น พระบาฬีต่างกัน แต่อรรถาธิบายนั้นจะได้ผิดกันนั้นหามิได้ สมกันเปนอันดี แลซึ่งว่าพระธรรมกถึกสำแดงพระธรรมเทศนาว่า พระปรัตเยกโพธิ พระยาบรมจักรพรรดิ์มิได้บังเกิดในสูญกัลปนั้น ว่าตามแต่พระบาฬีในคัมภีร์แต่ตะคัมภีร์ๆ จะได้อธิบายแก้ออกไปในคัมภีร์อื่นๆ นั้นหามิได้ บุคคลผู้สดับก็เข้าใจต่อกันมาว่าพระปรัตเยกโพธิ พระยาบรมจักรพรรดิ์ มิได้บังเกิดในสูญกัลปเปนอันขาดทีเดียว แลอาตมภาพทั้งปวงได้รับพระราชทานฟังข้อพระราชปุจฉาในครั้งนี้ พิจารณาดูในพระคัมภีร์ต่างๆ จึงเห็นแจ้งว่าในสูญกัลปก็มีพระปรัตเยกโพธิ พระยาบรมจักรพรรดิ์อยู่ แต่ว่ามีโดยน้อย พบพระบาฬีในคัมภิร์อรรถกถาเถรคาถานั้นว่า “อิโต จุทฺทสกปฺเป เอกํ ปจฺเจกพุทฺธํ ทิสฺวา” เนื้อความว่าแต่ภัทกัลปอันนี้ถอยลงไปได้ ๑๔ กัลป เปนหว่างสาสนาพระเวศภูกับพระกกุสนธต่อกัน ที่อันนั้นเปนสูญกัลปอยู่ ๓๐ กัลป ครั้งนั้นพระวิสาขเถรได้บังเกิดในตระกูลเข็ญใจ ได้ถวายผลแตงแก่พระปรัตเยกโพธิองค์หนึ่งในสูญกัลปนั้น ประการหนึ่งมีพระบาฬีว่า “อิโต สตฺตติเม กปฺเป ปทุมปจฺเจกพุทฺธํ ทิสฺวา” เนื้อความว่าแต่ภัทกัลปนี้ถอยลงไปได้ ๗๐ กัลป เปนหว่างสาสนาพระวิปัสสีกับพระสิขีต่อกัน ที่อันนั้นเปนสูญกัลปอยู่ ๙๕ กัลป พระอโนปมเถรได้บังเกิดเปนมาณพผู้หนึ่ง ได้ถวายดอกไม้ร้อยกรองต่างๆ แก่พระปทุมปรัตเยกโพธิ มีเนื้อความในพระอรรถกถาเถรคาถาฉนี้ อาตมภาพทั้งปวงจึงถวายวิสัชนาว่า พระปรัตเยกโพธิ พระยาบรมจักรพรรดิ์บังเกิดในสูญกัลปนั้นน้อยที่มิได้บังเกิดนั้นมาก แลซึ่งพระเทวทัต นายสุมนมาลาการ นกเค้า ท่านทั้งสามนี้บำเพ็ญปรัตเยกโพธิบารมีได้ ๒ อสงไขย แล้วยังอิกแสนกัลป จะได้ตรัสเปนพระปรัตเยกโพธิในสูญกัลป เหมือนดังพระปทุมปรัตเยกโพธิเปนอาทิอันตรัสในสูญกัลปนั้น อาตมภาพทั้งปวง ถวายวิสัชนาฉลองพระเดชพระคุณแต่ตามสติปัญญาสกานุรูป ขอถวายพระพร ๚

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ