พากย์สามตระ เบิกหน้าพระ

พากย์สามตระ เบิกหน้าพระ ความที่ ๑

๑๖

๏ ข้าไหว้พระเสร็จเรืองฤทธา ทศรถมหา
เปนเจ้าสำหรับพระธรณี  
๏ ไหว้บาทวรนาถจักรี ในพื้นปฐพี
ผู้ใดจะเปรียบปานปูน  
๏ ชาวพ่อไพร่ฟ้าหน้าขุน เล็งแลใครจะปูน
ทุกท้าวพระยาย่อมรักษา ฯ  

๑๑

๏ มีเมียคนหนึ่งเล่า เมื่อจะขึ้นเฝ้าย่อมเล่าลา
เลื่องฦๅแต่ก่อนมา เสร็จแล้วจะไหว้ครูเรียน ฯ

๑๖

๏ ครูข้าบ่ายหน้าเข้าจับเอาบังเหียน แต่ล้วนคงกะเรียน
ก็จับระบำอยู่เปนกง  
๏ อุ้มครกยกสากวางลง เท้าถีบศรก่ง
ปากก็คาบเอาถ่านเพลิงแดง ฯ  

๑๑

๏ เบื้องเท้าเธอเหยียบดาบ ปากก็คาบเอาคมแวง
มีดตรีกระบี่แทง พระแผลงเอาไส้ออกเรี่ยราย ฯ

๑๖

๏ บัดใจท้าวจะแผลงให้ล้มตาย อาเพศกลับกลาย
ก็กลายเปนพลของท้าวไท  
๏ ยกบุญยอคุณพระวิสัย พิณพาทย์ปางไฉน
เสร็จแล้วจะไหว้ท้าวลา  
๏ ท้าวเธอยกหัตถ์ขึ้นวันทยา จึ่งจะเริ่มให้หา
เอาหนังพระโคมาตัดแปลง ฯ  

๑๑

๏ จำหลักรูปพระรามา นางสีดาเข้าเฝ้าแฝง
พระลักษณ์ผู้ทรงแรง จะเริ่มเล่นให้อุ่นวัน ฯ

๑๖

๏ เบื้องซ้ายข้าจะไหว้ทศกัณฐ์ เบื้องขวาอภิวันท์
สมเด็จพระรามจักรี ฯ  

ฯ ทวย ๑ ฯ

๏ โอมฤๅษีฤทธิเดโชไชย เดชพระเลิศไกร
ประสิทธิพรมงคล  
๏ ศรีศรีสวัสดีอำพน สุขเกษมสถาผล
ขอเกิดสวัสดีมีไชย  
๏ ข้าไหว้คุณพระพุทธสบสมัย โปรดสัตว์อสงไขย
ให้ลุถึงห้องพระนฤพาน  
๏ ข้าไหว้พระอนิรุทธเริ่มการ โป่งป่าท่าธาร
ทุกห้วยละเมาะเซาะเขา ฯ  

๑๑

๏ ข้าไหว้เทพอยู่ในน้ำ ทุกเถื่อนถ้ำแลลำเนา
ไหว้ครูประสิทธิเรา ครูผู้เฒ่าสถิตเสถียร ฯ

๑๑

๏ ข้าจะขอเล่นเรื่องรามเกียรติ์ สอนวาดฉลาดเขียน
สอนเรียนฉลุฉลักเฉลา ฯ  

๑๑

๏ พากย์พลส่งเสียงให้ล้ำเลิศ ทั้งคนเชิดให้เพริศเพรา
เล่นล้วนแต่ชาวเรา ให้สรรเสริญเยินยอ
๏ ตัดไม้มาสี่ลำ ปักทำขึ้นเปนจอ
สี่มุมแดงยอ กลางก็ดาดด้วยผ้าขาว ฯ

๑๖

๏ วาดรูปพระอิศวรรายดาว เทียบรถบนกลางหาว
อาทิตย์ก็เลื่อนอยู่เห็นแสง  
๏ ลงการากษสสำแดง อยุทธยากล้าแขง
จะเล่นให้ท่านทั้งหลายดู ฯ  

๑๑

๏ ไชยศรีโขลนทวาร เบิกบานประตู
ฆ้องกลองตะโพนครู ดูเล่นให้สุขสำราญ ฯ

๑๖

๏ หนังเราใช่ชั่วช้าสามานย์ เล่นมาแต่ก่อนกาล
บ่ห่อนจะมีใครไยไพ ฯ  

๑๑

๏ ขอกันสารพัด อุบาทว์เสนียดแลจัญไร
ไว้แก่ผู้ไยไพ ติหนังที่ดีว่าบ่มิงาม ฯ

๑๖

๏ ข้าขอคุณพระลักษณ์พระราม เทพเจ้าผู้ทรงนาม
สถิตอยู่ทั่วทุกตัวหนัง ฯ  

ฯ ทวย ๒ ฯ

๏ สำเร็จสนธสานนท์สำแดง เขียนแล้วดัดแปลง
เปนเกียรติยศพระรามา ฯ  

๑๑

๏ เอาหนังพระโคมาจำหลัก ให้เห็นประจักษ์อยู่กับตา
เชิญท่านทั้งหลายมา ชมแต่รูปเงาแทน ฯ

๑๖

๏ งามเกลี้ยงเพียงจงกลหัวแหวน ท่านผู้เฒ่าท่านกล่าวแทน
ว่าหนังนี้เกิดสถาพร ฯ  

๑๑

๏ อุปเท่ห์ท่านบอกให้ ครูผู้ใหญ่ย่อมสั่งสอน
ขอเดชพระภูธร อย่าให้พ่ายแพ้จะอดสู
๏ ที่ใครแพ้ก็ว่าแพ้ อย่าท้อแท้ทำอ่อนหู
ใครชนะเอาเปนครู หาท่านผู้รู้มาให้หนัง
๏ เร่งเร็วเถิดนายไต้ เอาเพลิงใส่เข้าหนหลัง
ส่องแสงอย่าให้บัง จะเล่นให้ท่านทั้งหลายดูฯ

ฯ ทวย ๓ ฯ

พากย์สามตระ เบิกหน้าพระ ความที่ ๒

(มีฉบับแต่ทวยเดียว)

๑๖

๏ ข้าไหว้พระบรมอิศรา อิศวรสมญา
ในไสยเวทเวทางค์  
๏ ข้าไหว้พระนารายณ์เริ่มปาง ประทมปฤษฎางค์
เหนืออาสน์ภุชงค์นาคา  
๏ ข้าไหว้จัตุรพักตร์พรหมา เสด็จยังมหา
สุวรรณหงสครรไล  
๏ นบบาทธิราชหัสนัยน์ เสด็จทรงองค์ไอ
ยเรศเอราวัณ  
๏ ไหว้ครูไวยวิษณุกรรม์ ไหว้เทพเทวัญ
ไหว้ท้าวผู้ทรงธรณี  
๏ อยุทธยาถาวรเปรมปรีดิ์ ทุกข์ภัยไม่มี
สนุกนิแม้นเมืองสวรรค์  
๏ เครื่องเล่นโขนละครหุ่นประชัน เชิดชูกลางวัน
ด้วยเครื่องวิจิตรแต่งกาย  
๏ ราตรีรัศมีเพลิงพราย หนังงามลวดลาย
กระหนกกระหนาบภาพหาญ  
๏ เปนที่ประชาชนชื่นบาน ทอดทัศนาการ
สำราญสำรวลปรีดา  
๏ ครั้นได้ศุภฤกษ์เวลา สนธเยศสุริยา
พิไชยฤกษ์เบิกบน  
๏ เบิกโขลนเบิกทวารโดยกล แต่งตั้งกำนล
บายศรีทั้งสองซ้ายขวา  
๏ บัตรพลีพลีกรรมเทวา ขออัญเชิญมา
รับเครื่องสังเวยอภิวันท์  
๏ จึงจุดธูปเทียนฉับพลัน จบเศียรโบกควัน
แล้วเจิมซึ่งปลายศรไชย  
๏ พลโห่ขานโห่หวั่นไหว ปี่แจ้วจับใจ
ตะโพนแลกลองฆ้องขาน  
๏ คนพากย์คนเชิดชำนาญ ชำนิในการ
จะเล่นให้เปนขวัญตา ฯ  

ฯ ทวยที่ ๑. ๑๕ เพ้ย ฯ

พากย์สามตระ เบิกหน้าพระ ความที่ ๓

๑๖

๏ ข้าไหว้พระบาทสามองค์ อิศวรผู้ทรง
อุศุภราชฤทธิรอน  
๏ ข้าไหว้พระนารายณ์สี่กร ทรงครุฑเขจร
ประจญอรินเรืองณรงค์  
๏ ข้าไหว้จัตุรพักตร์ผู้ทรง มหาสุวรรณหงส์
มหิทธิฤทธิฦๅนาม  
๏ สามองค์ทรงภพทั้งสาม สามโลกเข็ดขาม
ขยดขยาดฦๅขจร  
๏ เรืองเดชเรืองเวทเรืองพร ปราบฟ้าดินดอน
พระเดชก็จบจักรวาฬ  
๏ ไหว้พรหมบรมราชอาจารย์ สาปสารพันการ
เครื่องเล่นในโลกโลกา  
๏ กลางจันโขนละครโสภา หุ่นเห็นแจ่มตา
ประดับด้วยเครื่องเรืองไร  
๏ ราตรีอัคคีแจ่มใส หนังส่องแสงไฟ
จึงเห็นวิจิตรลวดลาย  
๏ หวังประสาทราษฎรทั้งหลาย ชมชื่นสบาย
สมบูรณ์พิพัฒน์สถาพร  
๏ เร่งเร็วเอาเทียนติดปลายศร อ่านเวทขอพร
ศรีศรีสวัสดิสมพอง  
๏ พลโห่ขานโห่ทั้งผอง พิณพาทย์ตะโพนกลอง
ดูเล่นให้สุขสำราญ ฯ  

ฯ ทวย ๑ ฯ

๏ ข้าไหว้ฤๅษีทรงญาณ ยิ่งยวดชำนาญ
ในไสยเวทมนตรา ฯ  

๑๑

๏ ไหว้เทพอยู่ในน้ำ ทุกเถื่อนถ้ำหิมวา
อารักษ์รักษาสา คเรศอันลึกแลลาน ฯ

๑๖

๏ ข้าไหว้ไทเทพทุกสถาน หนึ่งข้านมัสการ
บงกชบาทกระษัตรา  
๏ ขอแถลงแจ้งเรื่องไตรดา ปางพระจักรา
นเรศรคือองค์อวตาร  
๏ หน่อท้าวทศรถไชยชาญ สุริยวงศอัชบาล
เปนเจ้าพิภพอยุทธยา  
๏ ทรงนามราเมศเชษฐา พระลักษณ์อนุชา
ธิราชเธอร่วมบิตุรงค์  
๏ ฝ่ายพระลักษมีโฉมยง ไวกูณฐ์ในวงศ์
อสุเรศอันเรืองฤทธิรอน  
๏ ทรงนามสีดาดวงสมร เสมอโฉมอัปสร
มาแสร้งสังหารอสุรา  
๏ นายช่างผู้ช่างรจนา เอาหนังพระโคมา
วาดรูปจำหลักลวดลาย  
๏ เปนพระจักรรัตน์แก้วแพรวพราย สีดาดวงสาย
สวัสดิยอดกระษัตรีย์  
๏ วาดรูปสุริย์วงศภูมี ในอยุทธยาศรี
แลไกยเกษกรุงไกร  
๏ วาดรูปวานรเรืองไชย ต่างเรืองฤทธิไกร
ขยับจะล้างไพริน  
๏ ต่างต่างเหาะโหยโบยบิน ดำด้นแดนดิน
ก็ได้สะดวกโดยดาย  
๏ เพียงพลิกพิภพคว่ำดินหงาย ถีบถอนเขาทลาย
ด้วยฤทธิ์นุภาพพึงชม ฯ  

ฯ ทวย ๒ ฯ

๏ ข้าไหว้จัตุรพักตร์พงศ์พรหม ผ่านภพอุดม
สมบัติดิเรกลงกา  
๏ เปนวงศ์ราพณ์ร้ายริษยา ล้วนทรงศักดา
นุภาพจะปราบแดนไตร  
๏ เรืองฤทธิพิธีสบสมัย คทาธรศรไชย
หอกแก้วประสิทธิ์วิทยา  
๏ เหาะเหิรเดินโดยเมฆา บิดเบือนกายา
ก็ได้ด้วยเวทไชยชาญ  
๏ นายช่างสลักรูปขุนมาร ทั้งพลทวยหาญ
ล้วนเหี้ยมกำแหงแรงรณ  
๏ กระหนกกระหนาบคาบเครือสร้อยสน แรร่องแกมกล
กระจ่างกระจัดชัชวาล  
๏ สองฝ่ายมนุษย์หมู่มาร ล้วนเทพไชยชาญ
สถิตอยู่ทั่วตัวหนัง  
๏ ผ้าขาวบางกางกั้นกำบัง สมมุติเรียกจอหนัง
จึงสอดซึ่งแสงเงางาม  
๏ เบื้องขวาข้าจะไหว้พระราม เบื้องซ้ายทรงนาม
เปนเจ้าอสุรศักดา  
๏ ข้าขอพระเดชเดชา ทั้งสองจงมา
ช่วยกันเสนียดจัญไร  
๏ ศรีศรีสวัสดีมีไชย เล่นแหล่งสถานใด
ขอลาภล้ำโดยหวัง  
๏ ท่านทั้งหลายตาดูหูฟัง คำพากย์ตัวหนัง
จงเห็นประจักษ์แจ้งการ  
๏ ผู้พากย์พากย์เสนาะเสียงหวาน ผู้เชิดเชิดชำนาญ
ชำนิให้หนังแจ่มจอ  
๏ แม้นดีสรรเสริญเยินยอ ชั่วอย่าสอพลอ
จงติให้ต้องคำแสดง  
๏ เร่งใส่เพลิงให้เห็นแสง สองท้าวเธอจะแผลง
พระเดชให้ดูเต็มตา ฯ  

ฯ ทวย ๓ ฯ

พากย์สามตระ เบิกหน้าพระ แต่งทีหลังอีก ความที่ ๔

๑๖

๏ ศรีศรีสิทธิไชยเดชา เดชะพระมหา
ประลัยโกฏฤๅษี  
๏ พระวสิฏฐ์สวามิตรมุนี เรืองเวทวิธี
ทรงพรตตบะเชี่ยวชาญ  
๏ ขอคุ้มจัญไรภัยพาล ทุกสิ่งสามานย์
อย่าได้มาตามเบียดเบียฬ  
๏ ขอแถลงแจ้งเรื่องรามเกียรติ์ ปางพระจากเกษียร
สมุทรมาเปนพระรามา  
๏ หน่อท้าวทศรถราชา มงกุฎอยุทธยา
ยิ่งยศทุกด้าวแดนไตร  
๏ ปางพระลักษมีศรีใส ไวกูณฐ์เกิดใน
วงศากษัตริย์ลัสเตียน  
๏ นายช่างฉลาดวาดเขียน เอาหนังพระโคเจียน
ให้พร้อมให้งามตามวงศ์  
๏ ร่างเส้นรจนากระยารง ช่างจำหลักลายลง
มุกกัดแลเคียงเรียงรอย  
๏ รวงแก้วกระหนาบลายพรายพรอย แรร่วงเครือลอย
ลดาประดับดอกแฝง  
๏ คเนจรจับง่าเรี่ยวแรง สอดสีเขียวแดง
ประดุจจะเทียบเทียมองค์  
๏ วาดรูปพระราเมศสุริยวงศ์ สีดาดวงอนงค์
เปนเอกอัปสรกัลยา  
๏ วาดรูปพระลักษณ์อนุชา รูปภาพนรพา
นเรศผู้เรืองฤทธี  
๏ วาดรูปราพณาสูรอสุรี ผู้ผ่านธานี
ลงกาทวีปเวียงไชย  
๏ วาดรูปมณโฑอรไท อินทรชิตฤทธิไกร
พระยาพิเภกกุมภกรรณ  
๏ รูปภาพพวกพลกุมภัณฑ์ ขี่ช้างขบขัน
คนเล่นเจรจาคำคะนอง  
๏ เร่งเร็วปี่พาทย์ฆาฏกลอง สองท้าวเธอจะลอง
กำลังพระแสงแผลงพล ฯ  

ฯ ทวยที่ ๒ ฯ

๏ โอมฤกษ์เบิกฟ้าดินดล ศักดิ์สิทธิฤทธิรณ
รูปหนังจำหลักลักขณา  
๏ รูปยักษ์ย่อมยักษ์รักษา รูปลิงล้วนพา
หุลีประจำสำแดง  
๏ สมุนโรงโหงพรายร้ายแรง เดชะพระแผลง
ผลาญพวกศัตรูหมู่พาล  
๏ ปล้นวิ่งทิ้งขว้างกลางงาน ติหนังจังฑาล
ให้ถูกอุบาทว์ขาดใจ  
๏ ตั้งกรรมทำอย่างลิงไพร มัดตัวชั่วไป
เปนฤกษ์บำราบปราบดา  
๏ ผู้ใดใจร้ายริษยา ให้ต้องราชอาญา
เหมือนลิงทะโมนโลนลาม  
๏ เชิญท่านดูหนังฟังความ เราจะเล่นเรื่องราม
เกียรติยศให้เกิดสวัสดี  
๏ นายไต้เร่งใส่อัคคี ดูสองภูมี
จะแผลงเดชให้จบจักรวาฬ ฯ  

ฯ ทวยที่ ๓ จบแต่เท่านี้ ฯ

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ