พากย์นางลอย

พระราชนิพนธ์รัชกาลที่ ๒

๑๑

๏ ดาวเดือนก็เลื่อนลับ แสงทองระยับโพยมหน
จวบจวนพระสุริยน จะเยี่ยมยอดยุคนธร
๏ สมเด็จพระหริวงศ์ ภุชพงศ์ทิพากร
เสด็จลงสรงสาคร กับองค์พระลักษณ์อนุชา
๏ เสนาพฤฒามาตย์ โดยพระบาทเสด็จคลา
เกือบใกล้จะถึงสา คเรศที่ท้าวเคยสรงชล
๏ พระเหลือบเล็งชลาสินธุ์ ในวารินทะเลวน
จึงเห็นรูปอสุรกล อันกลายแกล้งเปนสีดา
๏ ผวาวิ่งประหวั่นจิต ไม่ทันคิดก็โศกา
กอดแก้วกนิษฐา ฤดีดิ้นอยู่แดยัน ฯ

ฯ โอด ฯ

๏ พระช้อนเกศขึ้นวางตัก พิศพักตร์แล้วรับขวัญ
ยิ่งคิดยิ่งกระสัน ยิ่งโศกเศร้าในวิญญา
๏ พิศพื้นศิโรโรตม์ พระองค์โอษฐ์แลนัยนา
กรแก้มพระกัณฐา ก็แม้นเหมือนสีดาเดียว
๏ พิศทรวงแลดวงถัน ในเบื้องบั้นพระองค์เรียว
ชะรอยรูปสีดาเจียว ประจักษ์แล้วนะอกอา
๏ พระเล็งลักษณเกศี สินีน้องจนบาทา
แทบท้าวจะมรณา พินาศแนบพระศพลง
๏ พระพิโรธพิไรรัก สลักลั่นพระทรวงทรง
กันแสงสะอื้นองค์ อรอ่อนทอดถอนใจ
๏ จึงตรัสเรียกเจ้าร่วมรัก พ่อลักษณ์เอ่ยจะทำไฉน
เจ้าสีดามาบรรลัย เสียจริงแล้วนะอกอา
๏ ใจจิตพี่เพียงขาด พระเยาวราชมามรณา
โอ้โอ๋อนุชา อนาถนักประจักษ์ใจ
๏ พระลักษณ์เล็งลานเทวษ พระชลเนตรเธอหลั่งไหล
โศกสองพระภูวไนย พระหฤทัยเธอฟั่นเฟือน
๏ พระน้องเอยเสียดายนัก พระวรพักตร์ดังดวงเดือน
หาไหนจะได้เหมือน ไม่มีแล้วในโลกี
๏ มาตรแม้นจะหาดวง วิเชียรช่วงเท่าคีรี
หาดวงพระสุริย์ศรี ก็จะได้ดุจดังใจ
๏ จะหาโฉมให้เหมือนนุช จนสุดฟ้าสุราลัย
ตายแล้วแลเกิดใหม่ ไม่ได้เหมือนเจ้านฤมล
๏ พระน้องเอยฤๅน้อยจิต เจ้าหวนคิดกระหวัดวน
ผูกศอให้เสียชนม์ สิ้นชีพแล้วจึงลอยมา
๏ ฤๅทศกัณฐ์มันโกรธ พิโรธเรากระมังหนา
ว่าฆ่าโคตรวงศา จึงฆ่าพระน้องให้ตายแทน
๏ เกิดฤๅจะรื้อรบ ตรลบวิ่งเข้าชิงแดน
ฟันเสียให้นับแสน ให้เศียรขาดลงดาษดิน
๏ พระดาลเดือดแล้วดับได้ กลัวเทพไทจะติฉิน
ไฉนหนอพระยุพิน ยุพาพี่จะคืนเปน
๏ พระน้องเอยแต่จากเจ้า ทุกค่ำเช้าแลยามเย็น
ยามเสวยพี่เคยเห็น ไม่เห็นเจ้าเราโศกา
๏ จะประมวลเทวษไว้ พระชลนัยน์ที่โหยหา
ดินฟ้าแลยมนา ไม่เท่าเทียมที่เรียมตรอม
๏ ทุกข์ทับบเหือดหาย พระวรกายก็ซูบผอม
ทุกข์เท่าที่พี่ตรอม แต่ก่อนเก่าบเท่าทัน
๏ อันความทุกข์พี่ครั้งนี้ เปนสุดที่จะรำพัน
พ่างเพียงจะอาสัญ พระชนมชีพชีวา
๏ สีดาเอยถึงจะตาย จะวอดวายพระชนมา
จงเอื้อนโอษฐ์ออกเจรจา จะจากแล้วจงสั่งกัน
๏ เจ้าชายเนตรดูพี่บ้าง ให้พี่สร่างซึ่งโศกศัลย์
เราจะร่วมพระเพลิงกัน ในเขตขัณฑ์พระคงคา
๏ ถ้าแต่แรกพี่รู้เหตุ ว่าเยาวเรศจะมรณา
เมื่อจากศรีอยุทธยา จะฝากไว้กับชนนี
๏ พี่กับพระอนุชา จะมาอยู่พนาลี
ถ้วนครบสิบสี่ปี จะคืนเข้าพระเวียงไชย
๏ สีดาเอยชะรอยกรรม พระเคราะห์นำเข้าดลใจ
ห้ามเจ้าสักเท่าใด ไม่ฟังว่าอุส่าห์ตาม
๏ ทั้งพระญาติวงศา พระมารดาก็ห้ามปราม
ห้ามเจ้ามิฟังความ เจ้าวอนว่าอุส่าห์เดิน
๏ ด้วยพี่เปนเพื่อนยาก แสนลำบากระหกระเหิน
ในป่าพนาเนิน คิรีห้วยแลเหวธาร
๏ แค้นด้วยมฤคมาศ ดังมัจจุราชมาตามผลาญ
ล่อลวงเจ้าดวงมาลย์ สมรพี่ให้พี่จร
๏ จึงทุกข์ทับอุระเรียม ยิ่งกรมเกรียมให้อาวรณ์
สู้ยกพลากร มาต่อยุทธด้วยอสุรา
๏ หมดมารพี่ผลาญสรรพ จึงจะรับกนิษฐา
คืนเข้าอยุทธยา บุรีราชเมืองเรา
๏ ยังมิทันจะผลาญโคตร ให้รากโษสนั้นบางเบา
ควรฤๅพระนงเยาว์ มาสิ้นชีพเสียกลางคัน
๏ แม้นเจ้าม้วยในเมืองเรา พระศพเจ้าจะเฉิดฉัน
จะโสรจสรงสุคนธ์อัน กรลบด้วยกลิ่นสุมาลี
๏ พระโกศทองจะรองรับ สำหรับราชเทวี
เชิญศพขึ้นสู่สี วิกาแก้วอันเรืองรอง
๏ เข้าสู่พระเมรุมาศ อันโอภาสด้วยเทียนทอง
แสงเพลิงจะเริงรอง ไปต้องศรีวิสูตรพราย
๏ อัจกลับจงกลกลีบ ประทีปทองจะส่องฉาย
พู่ห้อยเพดานราย ระรวยรื่นรำเพยลม
๏ พระวิสูตรจะวงวัง บัลลังก์ทิพยบรรทม
รูปภาพจะเคียมคม กินรฟ้อนอยู่ผาดผัน
๏ อีกพระญาติวงศา ก็จะมาประชุมกัน
แสนสาวพระกำนัล จะนอบน้อมประนมกร
๏ ยามค่ำจะร่ำไห้ วิเวกใจให้อาวรณ์
เสียงสังข์แลแตรงอน จะประโคมอยู่ครืนเครง
๏ อยุทธยาจะเย็นระย่อ ระทดท้ออยู่วังเวง
ฝูงราษฎร์จะบรรเลง เมื่อถวายพระเพลิงปลง
๏ อนิจจาเจ้าเพื่อนไร้ มาบรรลัยอยู่เอองค์
พี่จะได้สิ่งใดปลง พระศพน้องในหิมวา
๏ จะเชิญศพพระเยาวเรศ เข้ายังนิเวศอยุทธยา
ทั้งพระญาติวงศา จะพิโรธพิไรเรียม
๏ ว่าพี่พามาเสียชนม์ ในกระมลให้กรมเกรียม
จะเกลี่ยทรายขึ้นทำเทียม ต่างแท่นทิพยบรรทม
๏ จะอุ้มองค์ขึ้นต่างโกศ เอาพระโอษฐ์มาระงม
ต่างเสียงพระสนม อันร่ำร้องประจำเวร
๏ สาครจะต่างเมือง สีขรเนื่องจะต่างเมรุ
มังกรโตกิเลน จะต่างพาหนะยนต์
๏ ดาวเดือนจะต่างเทียน วิเชียรแก้วกลีบจงกล
เมฆหมอกในเวหน จะต่างพู่แลเพดาน
๏ พฤกษาจะต่างฉัตร สุวรรณรัตน์อันไพศาล
ดอกไม้ในหิมพานต์ จะต่างพุ่มอยู่เรียงราย
๏ ฟากฝั่งมหรรณพ จะวงศพเจ้าโฉมฉาย
ต่างศรีวิสูตรสาย สุวรรณรัตน์อันอำไพ
๏ เสียงคลื่นจะต่างกลอง พิณพาทย์ฆ้องประโคมใน
จักรจั่นแลเรไร จะต่างสังข์แลเสภา
๏ จะเก็บพรรณไม้หอม มารวมล้อมขึ้นบูชา
เชิญศพเจ้าสีดา ขึ้นวางไว้ในเพลิงรุม
๏ จะอุ้มองค์เข้ากว่าจะม้วย จะตายด้วยเมื่อไฟชุม
ร้อนเร่าฤทัยจุม พลราชเธอรำพัน
๏ แค้นคิดบรู้หาย เสียดายทำสงครามขัน
ขับเคี่ยวประจำกัน เจียนจะสิ้นลงหลายครา
๏ ไม่คิดกายเสียดายรัก กับเจ้าลักษณ์อนุชา
คุมพลโยธา มาถมทางในวารี
๏ หวังจะรับพระนุชคืน ไปชมชื่นในกรุงศรี
พี่มาพบแต่ซากผี สีดาพี่น่าน้อยใจ
๏ เสียแรงรู้พระเวทมนตร์ ทั้งศรพลอันเกรียงไกร
เจ้าสีดามาบรรลัย จะทำศึกไปไยมี
๏ คทาธรแลศรขรรค์ จะหักสะบั้นให้ยับยี
โยนเข้าเผาอัคคี ให้ม้วยไหม้จะตายตาม
๏ เจ้าลักษณ์เอยถ้าพี่ม้วย เพราะตายด้วยเจ้าโฉมงาม
อย่าคิดแค้นทำสงคราม จงคืนเข้าอยุทธยา
๏ แม้นพระแม่เจ้าทั้งสาม จะถามถึงพระพี่ยา
อีกทั้งเจ้าสีดา อย่าทูลว่าพี่บรรลัย
๏ พระชนนีจะสร้อยเศร้า พระญาติเราจะร่ำไร
จงว่าพี่นี้อยู่ไพร ประพฤติเพศเปนมุนี
๏ สั่งพลางพระทางร่ำ แต่แรกย่ำอรุณศรี
จวบจวนพระรวี จะบ่ายเบี่ยงลงยอแสง
๏ พระกำลังสลดเลือด พระพักตร์เผือดลงโรยแรง
พระวรกายก็เย็นแสยง สยองเส้นพระโลมา
๏ สิ้นเสียงก็สิ้นสั่ง แลสิ้นทั้งพระเขฬา
เหือดแห้งพระกัณฐา พระนัยน์เนตรก็หลับลง
๏ พระเสโทธโซมซาบ ก็ไหลอาบพระทรวงทรง
เอนแอบพระองค์ลง กับเกศแก้วกุณฑลนาง
๏ สิ้นโสตพระนาสา พระวาตาก็อับปาง
เหลือแต่หทยางค์ ระริกริกอยู่ริมทรวง
๏ ทึกทึกสะท้อนจิต นิ่งสนิทฤดีดวง
ดังหนึ่งจะสูญทรวง สวรรคตนิคาลัย ฯ

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ