พากย์นางสีดามาสนามรบ

๏ เสด็จจากสร้อยสวนมาลา นางตรีชฎา
นั่งหน้าพิไชยรถทรง  
๏ วรลักษณ์อัคเรศโฉมยง ตั้งแต่กันแสงทรง
พิไรรำจวนครวญจร  
๏ พระที่นั่งบุษบกเกสร เลื่อนลอยอัมพร
ไปสู่สนามราวี  
๏ รถทรงร่อนลงธรณี จึงโฉมนางตรี
ชฎาก็กราบทูลไข  
๏ เชิญพระแม่เพื่อนเข็ญใจ ทรงผ้าสไบ
กระสันให้มั่นกายา  
๏ ทูลพลางเชิญนางสีดา ลงจากมหา
พิไชยรถบทจร ฯ  

ฯ เพลง ฯ

๏ พลบค่ำย่ำสนธยากร ดาวเดือนเลื่อนจร
จากเมฆกระจ่างแจ่มสี  
๏ เสด็จพลางนางทรงโศกี เห็นพลกระบี่
พินาศกลาดกลางณรงค์  
๏ กองก่ายตายทับยับลง วานรบ่มิคง
ระเนนระนาดดาษดา  
๏ ระทดพระทัยแทบจะมรณา ลุยเลือดโยธา
ท่วมท้องสมรภูมิไชย  
๏ ว่าโอ้พระยอดฟ้ายาใจ หาแห่งหนใด
ไม่พบพระยอดเยาวมาลย์  
๏ เที่ยวทั่วสมรภูมิไพศาล ทั้งสมรภูมิกาล
วิเวกสงัดในดง  
๏ เซาเซียบเงียบเหงาไพรพง ตั้งแต่กันแสงทรง
กำสรดพิไรไปมา  
๏ เหลือบเห็นหนุมานมรณา เคียงเศียรไอยรา
พินาศอยู่กลางปัฐพี  
๏ ตกพระทัยแทบสิ้นสมประดี ว่าโอ้กระบี่
เจ้าแม่มาสิ้นสุดปราณ  
๏ เจ้าซี่อสัตย์ต่อพระภูบาล ใจจงจะผลาญ
อรินให้ม้วยบรรลัย  
๏ ครั้งนี้เจ้ามาปราชัย ยิ่งอเนจอนาถใน
ใจแม่จะขาดอยู่รอนรอน ฯ  

ฯ โอด ฯ

๏ ครวญคร่ำร่ำรักวานร แล้วเสด็จจากจร
ไปในสนามราวี  
๏ ตรีชฎานำเสด็จจรลี เห็นพระจักรี
พินาศแนบองค์อนุชา  
๏ สองกรข้อนทรวงกัลยา วางวิ่งโศกา
เช้ากอดเอาบาทพระจักรี ฯ  

ฯ โอด ฯ

๑๑

๏ โอ้พระทูลกระหม่อมแก้ว เมียมาแล้วพระโฉมศรี
ลืมเนตรขึ้นพาที ด้วยเมียบ้างให้สว่างใจ
๏ ควรหรือพระโฉมยง มาปลงชีพตักษัย
ตัดช่องน้อยเสด็จไป พิมานมาศเมืองสวรรค์
๏ โอ้โอ๋พระน้องนุช มาสูญสุดซึ่งชีวัน
อกพี่ดังเพลิงกัลป์ บรรลัยไหม้ในวิญญา
๏ จะอยู่ไยให้ลำบาก พ่อเพื่อนยากมามรณา
จะบั่นเกล้าเกศา ให้มอดม้วยไปด้วยกัน
๏ พ่อมาต้องซึ่งพรหมาสตร์ พระเยาวราชมาอาสัญ
พระพักตร์ผ่องคือดวงจันทร์ มาเศร้าสร้อยสลดลง
๏ ผิวเนื้อเจ้าเหลืองอ่อน อรชรอยู่ทั้งองค์
นิ่มเนื้อนวลหง มาแน่นิ่งไม่ติงกาย
๏ พระโอษฐแย้มตละจะยิ้ม พระเนตรพริ้มอยู่เพราพราย
จะพิศไหนก็เฉิดฉาย เสียดายนักพระน้องอา
๏ พระราเมศก็มาม้วย ใครเลยจะช่วยขนิษฐา
พรหมาสตร์อสุรา มาต้องแน่นพระวรองค์
๏ ยิ่งระทดสลดใจ พระชลนัยน์ก็ไหลลง
มิอาจที่จะดำรง พระวรกายนางกัลยา
๏ ซบเศียรลงกับบาท ยุคลราชรามา
กันแสงทูลซึ่งกิจจา พิไรร่ำระกำใจ
๏ พระคุณเอ๋ยแต่เมียห่าง นิราศร้างพระองค์ไป
ตั้งแต่จะโหยไห้ ไม่วายเว้นแต่สักวัน
๏ หวังจะฟังคดีข่าว ทุกค่ำเช้ากันแสงศัลย์
คอยองค์พระทรงธรรม์ จะตามมาถึงเมืองมาร
๏ เมียคอยถึงขวบปี ในสวนศรีอุทยาน
ไม่เห็นองค์พระภูบาล จะผูกศอให้บรรลัย
๏ พอหนุมานไปทันที จึงเมียนี้ไม่ตักษัย
ได้แหวนกับสไบ จึงค่อยได้ซึ่งสมประดี
๏ พระปิ่นมงกุฎเกศ มาหลับเนตรสลดศรี
ลืมเนตรขึ้นพาที ให้เมียสร่างซึ่งโศกา
๏ พระยอดฟ้าสุราลัย พระมิได้กรุณา
เมียรักออกมาหา พระยอดฟ้ามาบรรลัย
๏ เมียร่ำทูลกิจการ พระภูบาลไม่ปราศัย
จะปลุกสั่นสักเท่าใด ไม่หวาดไหวพระกายา
๏ มานิ่งนอนดังท่อนทอง กอดพระน้องนิ่งมรณา
เหนือพื้นพสุธา อนาถนักพระจักรี
๏ เมื่อแรกเราจักจร จากนครจรลี
ทั้งสามพระชนนี ก็ตรัสห้ามมิให้มา
๏ พระญาติวงศ์พงศ์กษัตริย์ จะทานทัดไม่นำพา
กลัวจะเสียซึ่งสัจจา พระบิตุเรศที่บรรลัย
๏ พระแม่ไกยเกษี มิได้ขัดอัชฌาสัย
ชะรอยกรรมเราสิ่งไร จึงไกลจากพระพารา
๏ พระเสาวนีย์ก็พร่ำสั่ง หวังจะฝากพระอนุชา
จะเดินดั้นอรัญวา ทุเรศร้างมาแรมไพร
๏ เห็นหน้ากันแต่สามองค์ พระญาติวงศ์ก็อยู่ไกล
ศิลป์ศรพระขรรค์ไชย อย่าวางไว้ให้ไกลองค์
๏ ควรฤๅพระราเมศ ดูเบาเหตุในการณรงค์
ละให้พ่อโฉมยง มาทำสงครามด้วยยักษา
๏ อสูรทั้งเมืองมาร ไม่ต่อต้านพระอนุชา
ครั้งนี้มาอัปรา มาพ่ายแพ้แก่ไพรี
๏ คิดมาน่าน้อยใจ ช่างกระไรพระจักรี
ละให้แต่พระศรี นุชน้องทำสงคราม
๏ อินทรชิตอสุรา ทั้งเมืองฟ้าย่อมเข็ดขาม
ควรฤาพระโฉมงาม ไม่ช่วยน้องให้บรรลัย
๏ พ่อทูลกระหม่อมชองพี่อา เจ้ายอดฟ้าจำเริญใจ
ได้ชูชื่นอารมณ์ใน ไม่วายเว้นสักเวลา
๏ ยามเสวยได้เชยชม ยามบรรทมในหิมวา
เปนเพื่อนยากด้วยกันมา ได้เห็นหน้ากันสามองค์
๏ เจ้าซื่อสัตย์ด้วยพี่ยา ไม่คิดว่าจะปลดปลง
หาไหนไม่เหมือนองค์ เจ้าลักษณ์พี่ที่มรณา
๏ เมื่อแรกจะก่อกรรม เพราะอีสำมนักขา
เกิดเหตุแต่นั้นมา พี่สีดาจึงจากจร
๏ โทษพี่นี้ผิดนัก นะพ่อลักษณ์ผู้สายสมร
มิฟังคำพระภูธร วอนให้ตามมฤคา
๏ ไม่รู้ว่าอสูรแสร้ง มันแกล้งร้องริษยา
เหมือนเสียงพระรามา อกพี่ประหวั่นขวัญหาย
๏ ใช้ให้เจ้าออกไปตาม พระโฉมงามไม่คลาดคลาย
เจ้าบอกว่าอสุรกาย มันแกล้งร้องให้ตกใจ
๏ มิฟังคำเจ้าลักษณ์เลย พ่อทรามเชยผู้พิสมัย
ชะรอยกรรมเราสิ่งไร จึงดลใจให้ไกลกัน
๏ รักพี่ออกมาตาม พยายามถึงไพรวัน
กับองค์พระทรงธรรม์ เสด็จดั้นในดงดอน
๏ เพราะรักเมียสู้เสียกาย กับน้องชายผู้สายสมร
ถมทางในสาคร มาต่อต้านสงครามขัน
๏ จนมาบรรลัยลง ทั้งสององค์ไม่เห็นกัน
นับเดือนจะเลื่อนวัน จะแลลับอัประมาณ
๏ ทั้งพานรินทร์กระบิลไพร ก็มาบรรลัยด้วยศรกาล
ใครเลยจะถือสาส์น ไปยังศรีอยุทธยา
๏ กราบทูลพระชนนี ทั้งสองศรีพระอนุชา
ทั้งพระญาติวงศา ให้ประจักษ์คดีการ
๏ ว่าพระยอดสุเมรุมาศ มาพินาศแทบเมืองมาร
กับองค์พระสงสาร ขนิษฐามาม้วยมรณ์
๏ สีดาเดียวนี้กันแสง สยบแสยงตระกองกร
กอดบาทพระภูธร อยู่เหนือพื้นแผ่นดินดาน
๏ จะยกศพพระน้องพี่ ขึ้นสู่สีวิกากาญจน์
กลับคืนยังสถาน เข้ายังนิเวศวังใน
๏ เชิญสู่พระเมรุมาศ จะโอภาสด้วยเทียนไชย
แตรสังข์ส่งเสียงใส ทั้งดุริยางคดนตรี
๏ โขนหนังประดังกลอง จะกึกก้องทั้งกรุงศรี
จะเอิกเกริกในบุรี พิภพก้องอยู่หวั่นไหว
๏ เครื่องสูงสุวรรณรัตน์ มยุรฉัตรแลธงไชย
จะรายริ้วเรียบเรียงไป รอบพระราชเมรุทอง
๏ มาลาระย้าย้อย สร้อยสนจะร้อยกรอง
จะรายริมพระศพสอง ทั้งอัจกลับประดับงาม
๏ พระแท่นทองจะรองโกศ จะรุ่งโรจน์อยู่เรืองราม
แสงแก้วจะแวววาม ไปต้องศรีวิสูตรทอง
๏ ทั้งพระญาติประยูรวงศ์ จะส่งสักการพระศพสอง
จะโหยไห้ในเมรุทอง ทั้งสาวสนมพระกำนัล
๏ ทั้งร้อยเอ็ดกระษัตรา ก็จะมาประชุมกัน
จะกำสรดกันแสงศัลย์ ด้วยจงรักพระจักรี
๏ วันถวายพระเพลิงท้าว ประชาชาวบุรีศรี
จะโศกนักด้วยภักดี พระพี่น้องทั้งสองไท
๏ อนิจจาพระภูเบศร พระราเมศมาบรรลัย
ละเสียซึ่งเวียงไชย ไอศวรรย์พิมานทอง
๏ เอาแต่พื้นพระธรณี มาเปนที่เขนยรอง
อกเมียจะพุพอง เพียงพินาศบรรลัยลง
๏ พระบิตุเรศไม่เห็นผี พระชนนีไม่เห็นองค์
อกเอ๋ยใครจะปลง พระศพสองกระษัตรา
๏ จะต้องละอองธุลีลม จะเกรียมกรมพระอุรา
ต้องแสงพระสุริยา จะรุ่มร้อนระงมองค์
๏ จะผุพังพระมังสา พระกายาจะโทรมลง
จะสูญสิ้นเปนดินผง ที่กลางท้องสนามไชย
๏ สิ้นบุญพระคุณแล้ว เมียแก้วจะอยู่ไย
เสวยสวรรค์ไปชั้นใด จะตามเสด็จพระภูบาล
๏ สนองคุณพระรามา กว่าจะสิ้นอวสาน
ความสัตย์เปนประธาน จะสืบสร้างพระบารมี
๏ โอนเศียรกันแสงสั่ง วิเวกทั้งในพงพี
เทวาในราศี เอ็นดูด้วยช่วยโปรดปราน
๏ จงสดับยุบลกิจ ไปพิดทูลสนองสาร
กับองค์พระภูบาล ยังกรุงแก้วมิถิลา
๏ ว่าลูกรักนี้มาม้วย เสียด้วยสองกระษัตรา
ขอถวายบังคมมา จะลาแล้วไปเมืองสวรรค์
๏ อินทร์พรหมยมเรศ ทั้งเทเวศในหิมวันต์
กันแสงไห้แล้วรับขวัญ ยิ่งรันทดระทวยองค์
๏ ไห้ร่ำแต่ย่ำฆ้อง ไก่ขันก้องอยู่ในดง
หมองไหม้ฤทัยทรง สลดช้ำระกำทรวง
๏ สะอึกสะอื้นกันแสงสั่ง วิเวกทั้งไศลหลวง
เขตเขาคิรีปวง พระเมรุอ่อนระทวยลง
๏ พระสุรเสียงก็ผ่าวแผ่ว วะหวีดแว่วสลดลง
เกศแก้วเกยกับชงฆ์ พระพักตร์ก็เผือดลงทันใด ฯ

ฯ โอด สีดากลับ ฯ

๏ พิเภกเห็นพระภุชพงศ์ สลบลงอยู่กลางดิน
กลิ้งเกลือกพระกายิน ทรียกลั้วธุลีทราย
๏ วิ่งเข้าประคองบาท บรมนาถองค์นารายณ์
ทูลเกล้าแล้วฟูมฟาย ชลเนตรลงโศกา
๏ โอ้พระปิ่นมงกุฎเกศ พระนเรศร์มาสังขาร์
ละข้าไว้เอกา อนาถนักพระจักรี
๏ พลัดเมียแล้วเสียวงศ์ มาถึงองค์พระโฉมศรี
เสียแรงข้าภักดี หวังมาพึ่งพระจักรา
๏ อนิจจาอกกูเอ๋ย ไฉนเลยเปนเวรา
แรมร้างพระบาทา ทุกข์ทับทุ่มดังสุมไฟ
๏ นับวันจะลับแล้ว ประทีปแก้วอันผ่องใส
สิ้นแสงจะอับไป จะมืดมิดอยู่อัตรา
๏ นับวันชีวิตอยู่ ไม่รู้ที่จะพึ่งพา
ผู้ใดใครจะเปนผา สุกภาพที่พ้นภัย
๏ เล็งหาไม่เหลียวเห็น ใครจะเปนที่อาศัย
โอ้อกจะอยู่ไย เปนตัวเล่าไม่ต้องการ
๏ สะอื้นฮักสลักอก แสนวิตกดังเพลิงผลาญ
เชิญเสด็จพระอวตาร เอาข้าไปเปนเพื่อนองค์
๏ กอดบาทเข้ากลิ้งเกลือก แล้วเสือกเศียรสลบลง
แทบบาทพระภุชพงศ์ สลบนิ่งไม่ติงกาย ฯ

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ