๏ โอ้พระทูลกระหม่อมแก้ว |
เมียมาแล้วพระโฉมศรี |
ลืมเนตรขึ้นพาที |
ด้วยเมียบ้างให้สว่างใจ |
๏ ควรหรือพระโฉมยง |
มาปลงชีพตักษัย |
ตัดช่องน้อยเสด็จไป |
พิมานมาศเมืองสวรรค์ |
๏ โอ้โอ๋พระน้องนุช |
มาสูญสุดซึ่งชีวัน |
อกพี่ดังเพลิงกัลป์ |
บรรลัยไหม้ในวิญญา |
๏ จะอยู่ไยให้ลำบาก |
พ่อเพื่อนยากมามรณา |
จะบั่นเกล้าเกศา |
ให้มอดม้วยไปด้วยกัน |
๏ พ่อมาต้องซึ่งพรหมาสตร์ |
พระเยาวราชมาอาสัญ |
พระพักตร์ผ่องคือดวงจันทร์ |
มาเศร้าสร้อยสลดลง |
๏ ผิวเนื้อเจ้าเหลืองอ่อน |
อรชรอยู่ทั้งองค์ |
นิ่มเนื้อนวลหง |
มาแน่นิ่งไม่ติงกาย |
๏ พระโอษฐแย้มตละจะยิ้ม |
พระเนตรพริ้มอยู่เพราพราย |
จะพิศไหนก็เฉิดฉาย |
เสียดายนักพระน้องอา |
๏ พระราเมศก็มาม้วย |
ใครเลยจะช่วยขนิษฐา |
พรหมาสตร์อสุรา |
มาต้องแน่นพระวรองค์ |
๏ ยิ่งระทดสลดใจ |
พระชลนัยน์ก็ไหลลง |
มิอาจที่จะดำรง |
พระวรกายนางกัลยา |
๏ ซบเศียรลงกับบาท |
ยุคลราชรามา |
กันแสงทูลซึ่งกิจจา |
พิไรร่ำระกำใจ |
๏ พระคุณเอ๋ยแต่เมียห่าง |
นิราศร้างพระองค์ไป |
ตั้งแต่จะโหยไห้ |
ไม่วายเว้นแต่สักวัน |
๏ หวังจะฟังคดีข่าว |
ทุกค่ำเช้ากันแสงศัลย์ |
คอยองค์พระทรงธรรม์ |
จะตามมาถึงเมืองมาร |
๏ เมียคอยถึงขวบปี |
ในสวนศรีอุทยาน |
ไม่เห็นองค์พระภูบาล |
จะผูกศอให้บรรลัย |
๏ พอหนุมานไปทันที |
จึงเมียนี้ไม่ตักษัย |
ได้แหวนกับสไบ |
จึงค่อยได้ซึ่งสมประดี |
๏ พระปิ่นมงกุฎเกศ |
มาหลับเนตรสลดศรี |
ลืมเนตรขึ้นพาที |
ให้เมียสร่างซึ่งโศกา |
๏ พระยอดฟ้าสุราลัย |
พระมิได้กรุณา |
เมียรักออกมาหา |
พระยอดฟ้ามาบรรลัย |
๏ เมียร่ำทูลกิจการ |
พระภูบาลไม่ปราศัย |
จะปลุกสั่นสักเท่าใด |
ไม่หวาดไหวพระกายา |
๏ มานิ่งนอนดังท่อนทอง |
กอดพระน้องนิ่งมรณา |
เหนือพื้นพสุธา |
อนาถนักพระจักรี |
๏ เมื่อแรกเราจักจร |
จากนครจรลี |
ทั้งสามพระชนนี |
ก็ตรัสห้ามมิให้มา |
๏ พระญาติวงศ์พงศ์กษัตริย์ |
จะทานทัดไม่นำพา |
กลัวจะเสียซึ่งสัจจา |
พระบิตุเรศที่บรรลัย |
๏ พระแม่ไกยเกษี |
มิได้ขัดอัชฌาสัย |
ชะรอยกรรมเราสิ่งไร |
จึงไกลจากพระพารา |
๏ พระเสาวนีย์ก็พร่ำสั่ง |
หวังจะฝากพระอนุชา |
จะเดินดั้นอรัญวา |
ทุเรศร้างมาแรมไพร |
๏ เห็นหน้ากันแต่สามองค์ |
พระญาติวงศ์ก็อยู่ไกล |
ศิลป์ศรพระขรรค์ไชย |
อย่าวางไว้ให้ไกลองค์ |
๏ ควรฤๅพระราเมศ |
ดูเบาเหตุในการณรงค์ |
ละให้พ่อโฉมยง |
มาทำสงครามด้วยยักษา |
๏ อสูรทั้งเมืองมาร |
ไม่ต่อต้านพระอนุชา |
ครั้งนี้มาอัปรา |
มาพ่ายแพ้แก่ไพรี |
๏ คิดมาน่าน้อยใจ |
ช่างกระไรพระจักรี |
ละให้แต่พระศรี |
นุชน้องทำสงคราม |
๏ อินทรชิตอสุรา |
ทั้งเมืองฟ้าย่อมเข็ดขาม |
ควรฤาพระโฉมงาม |
ไม่ช่วยน้องให้บรรลัย |
๏ พ่อทูลกระหม่อมชองพี่อา |
เจ้ายอดฟ้าจำเริญใจ |
ได้ชูชื่นอารมณ์ใน |
ไม่วายเว้นสักเวลา |
๏ ยามเสวยได้เชยชม |
ยามบรรทมในหิมวา |
เปนเพื่อนยากด้วยกันมา |
ได้เห็นหน้ากันสามองค์ |
๏ เจ้าซื่อสัตย์ด้วยพี่ยา |
ไม่คิดว่าจะปลดปลง |
หาไหนไม่เหมือนองค์ |
เจ้าลักษณ์พี่ที่มรณา |
๏ เมื่อแรกจะก่อกรรม |
เพราะอีสำมนักขา |
เกิดเหตุแต่นั้นมา |
พี่สีดาจึงจากจร |
๏ โทษพี่นี้ผิดนัก |
นะพ่อลักษณ์ผู้สายสมร |
มิฟังคำพระภูธร |
วอนให้ตามมฤคา |
๏ ไม่รู้ว่าอสูรแสร้ง |
มันแกล้งร้องริษยา |
เหมือนเสียงพระรามา |
อกพี่ประหวั่นขวัญหาย |
๏ ใช้ให้เจ้าออกไปตาม |
พระโฉมงามไม่คลาดคลาย |
เจ้าบอกว่าอสุรกาย |
มันแกล้งร้องให้ตกใจ |
๏ มิฟังคำเจ้าลักษณ์เลย |
พ่อทรามเชยผู้พิสมัย |
ชะรอยกรรมเราสิ่งไร |
จึงดลใจให้ไกลกัน |
๏ รักพี่ออกมาตาม |
พยายามถึงไพรวัน |
กับองค์พระทรงธรรม์ |
เสด็จดั้นในดงดอน |
๏ เพราะรักเมียสู้เสียกาย |
กับน้องชายผู้สายสมร |
ถมทางในสาคร |
มาต่อต้านสงครามขัน |
๏ จนมาบรรลัยลง |
ทั้งสององค์ไม่เห็นกัน |
นับเดือนจะเลื่อนวัน |
จะแลลับอัประมาณ |
๏ ทั้งพานรินทร์กระบิลไพร |
ก็มาบรรลัยด้วยศรกาล |
ใครเลยจะถือสาส์น |
ไปยังศรีอยุทธยา |
๏ กราบทูลพระชนนี |
ทั้งสองศรีพระอนุชา |
ทั้งพระญาติวงศา |
ให้ประจักษ์คดีการ |
๏ ว่าพระยอดสุเมรุมาศ |
มาพินาศแทบเมืองมาร |
กับองค์พระสงสาร |
ขนิษฐามาม้วยมรณ์ |
๏ สีดาเดียวนี้กันแสง |
สยบแสยงตระกองกร |
กอดบาทพระภูธร |
อยู่เหนือพื้นแผ่นดินดาน |
๏ จะยกศพพระน้องพี่ |
ขึ้นสู่สีวิกากาญจน์ |
กลับคืนยังสถาน |
เข้ายังนิเวศวังใน |
๏ เชิญสู่พระเมรุมาศ |
จะโอภาสด้วยเทียนไชย |
แตรสังข์ส่งเสียงใส |
ทั้งดุริยางคดนตรี |
๏ โขนหนังประดังกลอง |
จะกึกก้องทั้งกรุงศรี |
จะเอิกเกริกในบุรี |
พิภพก้องอยู่หวั่นไหว |
๏ เครื่องสูงสุวรรณรัตน์ |
มยุรฉัตรแลธงไชย |
จะรายริ้วเรียบเรียงไป |
รอบพระราชเมรุทอง |
๏ มาลาระย้าย้อย |
สร้อยสนจะร้อยกรอง |
จะรายริมพระศพสอง |
ทั้งอัจกลับประดับงาม |
๏ พระแท่นทองจะรองโกศ |
จะรุ่งโรจน์อยู่เรืองราม |
แสงแก้วจะแวววาม |
ไปต้องศรีวิสูตรทอง |
๏ ทั้งพระญาติประยูรวงศ์ |
จะส่งสักการพระศพสอง |
จะโหยไห้ในเมรุทอง |
ทั้งสาวสนมพระกำนัล |
๏ ทั้งร้อยเอ็ดกระษัตรา |
ก็จะมาประชุมกัน |
จะกำสรดกันแสงศัลย์ |
ด้วยจงรักพระจักรี |
๏ วันถวายพระเพลิงท้าว |
ประชาชาวบุรีศรี |
จะโศกนักด้วยภักดี |
พระพี่น้องทั้งสองไท |
๏ อนิจจาพระภูเบศร |
พระราเมศมาบรรลัย |
ละเสียซึ่งเวียงไชย |
ไอศวรรย์พิมานทอง |
๏ เอาแต่พื้นพระธรณี |
มาเปนที่เขนยรอง |
อกเมียจะพุพอง |
เพียงพินาศบรรลัยลง |
๏ พระบิตุเรศไม่เห็นผี |
พระชนนีไม่เห็นองค์ |
อกเอ๋ยใครจะปลง |
พระศพสองกระษัตรา |
๏ จะต้องละอองธุลีลม |
จะเกรียมกรมพระอุรา |
ต้องแสงพระสุริยา |
จะรุ่มร้อนระงมองค์ |
๏ จะผุพังพระมังสา |
พระกายาจะโทรมลง |
จะสูญสิ้นเปนดินผง |
ที่กลางท้องสนามไชย |
๏ สิ้นบุญพระคุณแล้ว |
เมียแก้วจะอยู่ไย |
เสวยสวรรค์ไปชั้นใด |
จะตามเสด็จพระภูบาล |
๏ สนองคุณพระรามา |
กว่าจะสิ้นอวสาน |
ความสัตย์เปนประธาน |
จะสืบสร้างพระบารมี |
๏ โอนเศียรกันแสงสั่ง |
วิเวกทั้งในพงพี |
เทวาในราศี |
เอ็นดูด้วยช่วยโปรดปราน |
๏ จงสดับยุบลกิจ |
ไปพิดทูลสนองสาร |
กับองค์พระภูบาล |
ยังกรุงแก้วมิถิลา |
๏ ว่าลูกรักนี้มาม้วย |
เสียด้วยสองกระษัตรา |
ขอถวายบังคมมา |
จะลาแล้วไปเมืองสวรรค์ |
๏ อินทร์พรหมยมเรศ |
ทั้งเทเวศในหิมวันต์ |
กันแสงไห้แล้วรับขวัญ |
ยิ่งรันทดระทวยองค์ |
๏ ไห้ร่ำแต่ย่ำฆ้อง |
ไก่ขันก้องอยู่ในดง |
หมองไหม้ฤทัยทรง |
สลดช้ำระกำทรวง |
๏ สะอึกสะอื้นกันแสงสั่ง |
วิเวกทั้งไศลหลวง |
เขตเขาคิรีปวง |
พระเมรุอ่อนระทวยลง |
๏ พระสุรเสียงก็ผ่าวแผ่ว |
วะหวีดแว่วสลดลง |
เกศแก้วเกยกับชงฆ์ |
พระพักตร์ก็เผือดลงทันใด ฯ |