๏ พระนิพนธ์ไกรทองสองเล่ม |
เขียนเต็มตัวผจงลงเส้นสอ |
ใครติเตียนแล้วเจียนจะเปนบอ |
ถึงจะต่อก็เต็มยากลำบากคิด |
ทรงประดิษฐคิดใส่ให้เปนกลอน |
ไว้รำเต้นเล่นลครงอนจริต |
แต่ก่อนเก่าได้ดูอยู่เปนนิจ |
บำรุงจิตรชาวประชาข้าราชการ |
ตั้งโรงต้นสนคนแออัด |
ซ้อมหัดแก้ไขในราชฐาน |
เมื่อช้างเผือกมาใหม่ได้ออกงาน |
ทั้งเครื่องอานโอ่อ่าน่ารัก |
ตัวลครเล็กเล็กเด็กหมด |
สมเกียรติสมยศสมศักดิ์ |
มีแต่คนมาสามิภักดิ |
จงรักรองบาทบทมาลย์ |
เหล่าขุนนางต่างถวายบุตรี |
พวกที่มีบุตรชายถวายหลาน |
ปะที่เปนหมันบุตรกันดาร |
คิดอ่านไกล่เกลี่ยน้องเมียมา |
ทั้งจีนแขกลาวพวนญวนทวาย |
ต่างถวายลูกเต้าเอาหน้า |
เขมรมอญชาวชุมพรไชยา |
ทุกภาษามาพึ่งพระบารมี |
ทรงพระเดชปกเกษราษฎร |
ให้เปนศุขถาวรเกษมศรี |
บำบัดโศกโรคไภยไม่ยายี |
ทั้งพราหมณ์ชีสมณะได้สบาย |
ลูกค้าพานิชต่างประเทศ |
บรรทุกของวิเศษเข้ามาถวาย |
สมบัติพัศถานมากมาย |
ทรงแจกจ่ายนิจภัตรเบี้ยหวัดปี |
พร้อมหมู่โยธาข้าเฝ้า |
ล้วนเหล่ามั่งคั่งตั้งเศรษฐี |
ต่างคนศุขเกษมเปรมปรีดิ์ |
ทุกทิวาราตรีปีเดือน เอย ฯ |
๏ ไกรทองสองเล่มล้วน |
ลายผจง |
เปนพระนิพนธ์ทรง |
สืบไว้ |
คือจอมพิภพพงศ์ |
ภาณุมาศ |
แถลงพระนามท่านไท้ |
เลิศหล้าฦๅแสยง ฯ |
กลอนแลโคลงนี้ เขียนไว้ในท้ายบทลครพระราชนิพนธ์ไกรทอง กลอนเปนของเก่า เข้าใจว่าแต่งในรัชกาลที่ ๓ แต่โคลงแต่งเมื่อในรัชกาลที่ ๔