ขะบวนพระราชอิสสริยยศ...

ขะบวนพระราชอิสสริยยศ

โคลงสี่

๏ เฉลีมบรร,พะจารีตเจ้า จักรี กษัตร์เอย
นะพาภิเษก,เฉกศุลีลี ลาสหล้า
พยุหะเหยียบ,เลียบกรุงศรี เสนีมพะสก สะการท่าน
ประเจีดเจตน์,สาทะเรศข้า นัคระปลื้มประเทีงขวัญ บาระนี ฯ

ประตูหน้า

๏ เฉีดฉันชะยานุภาพไท้ เฉวียนเชียง
พิริยะราชะบริพารเพียง พวกฟ้า
ประตูหน้าคู่พระยาเคียง บังคับ ขะบวนแฮ
นามพิทักษ์ภูบาลกล้า กราดเพี้ยงเวียงใน ฯ
๏ เต็มยศใหญ่เสื้อหมึก แมกทอง
ครุยห่มสมศักดิ์ผยอง ยอดกร้าว
ท้ายช้างเทีดธงสอง ธงเชีด ชัยแฮ
กำมหยี่ปักทองห้าว มะหิทธิหน้านำพยูห์ ฯ
๏ พระยาคู่นำริ้วอาจ องค์ปะถัมภ์
เต็มยศห่มครุยขำ พักตร์เข้ม
ภูบาล ฯ และพระยาบำ รุงราช ะฐานแฮ
เหนื่อยมิย่นทนเม้ม ปากเฝ้าเอางาน ฯ

มะหระธึก

๏ พละหาญมะหระธึกเร้า รัวเพลีน
สี่ชุดสี่สายเดีร ดึ่งดั้น
สี่หลวงต่างดำเนีร กำกับ
อ่าอาตม์เต็มขนาดชั้น หมวกซ้อนหงอนกาฬ ฯ
๏ เคียงขนานคชศักดิ์นั้น ศรีวัง ราชรา
สิทธิบรรณการฉมัง หมั่นเอื้อ
อักษรสรรพกิจยัง สาระวัด หนึ่งแน
หลวงวิสิทธิเสวกเกื้อ กิจชะม้อยคอยประจำ ฯ

พระตำรวจหลวง

๏ ตำรวจควบมะหาดนั้น สี่สาย
สี่สิบหกตับราย คู่เต้า
ตัวรองและตัวนาย ขนานระดับ ยศแฮ
นำเสด็จพระเป็นเจ้า เจีดเวี้งวังชัย ฯ
๏ เต็มยศใหญ่สนอบน้ำ เงินสุวรรณ รัดรา
รัตะคตร์คาดสะเอวพัน ภู่ห้อย
ม่วงเชีงอุไรพรรณ ครามแก่
สรวมหมวกทรงประภาสช้อย ปรกเกล้าเพราตา ฯ
๏ สองพระยาสง่าภู่ย้อม ขนยาง
ขาวและแดงแสงสะอาง โอ่ห้าว
สะพายดาพฝักทองลาง เงินปลอก ก็มี
ตระลึงหอกเงินกลอกกร้าว กระหยับเข้าเอาชัย ฯ
ขะบวนพระราชอิสสรยยศ ๑๕อี่
๏ พระยาใหญ่องคะรักษ์นั้น นามมี
มหาเทพมหามนตรี กลั่นกร้าว
พระอินทรเทพทวี พิเรนทรเทพ เคียงรา
ราชวรินทร์,อินทรห้าว เดชเหี้ยมเหิ่มสม ฯ
๏ พระพรหมบริรักษ์ทั้ง สุริยภัก ดีรา
พระราชโยธาศักดิ์ เทพสร้อย
อภัยสุรินทร์พระอินทรรัก ษาราช เรียงแฮ
จมื่นทิพเสนาคล้อย คู่ด้วยชัยภุษา
๏ ราชามาตย์ทั้งรักษ พิมาน
จมื่นสมุห์พิมานขนาน คู่เต้า
จ่าแรงรับราชการ กับจ่า เขม้นฯ เอย
จ่าเร่งฯ จ่าเขม็งฯ เข้า คู่เหี้ยมเทียมทะยาน ฯ
๏ จ่าผลาญอริพิษทั้ง จ่าหาญ ยุธฯ เอย
ควบจำใจฯ จ่าการ ฯ กิจเกื้อ
ขุนศิลปศาสตร์นายวิจารณ์ กิจจะราช ระวังแฮ
ตำรวจรองรองเมื้อ ต่อนั้นอะนันต์นาม ฯ

มะหาดเล็กหลวง

๏ สนอบครามเพลาสนับสร้าน สีขาว
เต็มยศมะหาดเล็กพราว ปักเสื้อ
ไหรญหมวกขนยาว เยี่ยงผะเงีบ หงอนฤา
ห้อยกะบี่ควบกะบี่เชื้อ ชะยัจฉะข้านารายณ์ ฯ
๏ ขวาซ้ายรายคู่เต้า เคียงตำ รวจรา
หัวหมื่นพระยาถกลฯ กำ กับคล้อย
ยศะจ่ายาตรานำ ภูวะนาถ สนองแน
พระพิทักษ์สราญรมย์ชะม้อย หมั่นเมื้อเหมือนคะเณ ฯ
๏ พระราชเสวกทั้ง พระดุสิต ะวันฯ เอย
พระอุทยานฯ ขนานชิด เชื่อมเมื้อ
เคียงพระบริหารจิต ลดาจ่า ประจำแฮ
ถัดพระ,หุ้มแพรเกื้อ เกียรดิ์เต้าเพราวิถี ฯ
๏ วิบูลย์พิรียภาพทั้ง อนันตรัก ษานา
รุกขชาติบริรักษ์ประจักษ์ จิตน้อม
อภิบาลอุดรภัก ดีบาท ะบงสุ์เอย
ถัดพวกหลวงหลวงพร้อม พรั่งหน้าถาทะยาน ฯ
๏ พิจารณ์สุรพิตร์ทั้ง ชำนาญ ภิรมย์เอย
พูนเลขเสรีมสมฐาน ถ่องรู้
นิวาสวาสพสมงาน วรวาส ประไพแฮ
แห่ควบตำรวจกู้ เกียรติ์เจ้าเนาสนอง ฯ
๏ รองหุ้มแพรแต่ล้วน หลวงงาน ขยันฤา
เจนจิตภัณฑการขนาน เนื่องเต้า
พฤกษการประสิทธิ์สมาน สฤษดิสุข ะการพ่อ
ทั้งวิสุทธิภัณฑฯเข้า คู่เมื้อมรรคา ฯ
๏ เลขาสุรกิจนั้น เรียงรุน
มะหาดเล็กวิเศษหนุน เนื่องคล้อย
หลวงรุ่งโรจประทีปขุน ขนานถัด ไปแฮ
ประภาสกิจโกศลชะม้อย มุ่งเกื้อสนองการ ฯ
๏ วราคารวิสุทธิ์ทั้ง พิสิฐภัณฑ์ วิจารณ์เอย
ประดิษฐ์ปราสาทขยัน เหย่ากล้า
สมาคมพิทักษ์จรัล ระดับสุทธิ์ พิมานแฮ
สุนทระมาลาหน้า หม่อมเจ้าเจรีญวงศ์ ฯ
๏ ธำรงวรวัฒน์แกล้ว แกลจร
มะหาดเล็กวิเศษสลอน หลั่นชั้น
ขุนสุธาธุระกิจจร ถัดทิพ พิมานพ่อ
บริคุตราชฐานนั้น เนื่องน้อมนำสนอง ฯ
๏ สำรองมะหาดเล็กล้วน ขุนขุน
ประดับปราสาทจุน เจีดเผ้า
ผดุงสีตละอาสน์หนุน เนื่องจัด พิมานแฮ
หิรัณยะปราสาทเต้า ต่อท้ายผายแถว ฯ

กลองชนะ

๏ แนวกลางกลองชนะถ้วน ทองเงิน
สนอบสนับเขียวแดงเลิน เล่อน้อย
ลำดวนกลีบหมวกเติน เต่อปก หัวฮา
แปดสิบเรียงละลิบคล้อย ครุ่มสะเทื้อนทางตี ฯ
๏ ปี่สองกลองจ่าท้า เปีงมาง
ทรงประพาสอาตม์สำอาง อกริ้ว
ปิ๋งเปีงร่าเรีงฉวาง วิถีสง่า
แถวถั่นหลั่นลิ่ววิ้ว หว่างซร้องกลองชัย ฯ
๏ นายใหญ่กำกับเสื้อ ยศะมี ครุยรา
นามพระรามเภรี เรียบร้อย
พละแตรเกร่ออินทรีย์ สนอบสนับ แดงพ่อ
ตุ้มปี่ฝาชีย้อย พับย้วยฉลวยหลัง ฯ
๏ แตรฝรั่งญี่สิบเกรี้ยว แตรงอน
สามสิบสองรองสลอน หลั่นเต้า
สีศังข์เกรีกกระทั่งตอน เลี้ยวออก ถึงฤา
ขุนเสน่หราชาเฝ้า ใฝ่คุ้นคุมแตร ฯ

พระอภิรุม

๏ เครื่องสูงแห่หน้าฉัตร์ เชีญสนอง นำท่าน
หกคู่ห้าชั้น, สอง เจ็ดชั้น
บังแซกสี่หักทอง ขวางแซก ไสวเอย
เฉลีมพระศักดาขยั้น เดชไท้ชัยสนาม ฯ
๏ สนอบงามลอมพอกซ้อน เศียรเชีญ ชระเดียรเอย
เพลาสนับระดับเดีรเพลีน เนตร์ฟื้น
พระกันภิรมย์เหีร ภิมุขะราช ะยานท่าน
ฉลองอาตม์ทรงประพาสพื้น ศุกละพร้อยแพรอุไร ฯ
๏ เชีญฉัตร์ชัยเทีดทั้ง เสนา ธิปัติ์เอย
เกาวะพ่าห์ศักดิ์สิทธิ์มะหา โชคไท้
โกไศย์เศรตถมอา คมกนก ะยันตร์เอย
ขลังชงัดยุธะฉัตร์ใช้ เชีดชั้นบัญจะดล ฯ
๏ พระแสงถะกละเกียรติ์ไว้ หว่างฉัตร์ หน้าแน
หกมะหาดราชะศัสตร์หัตถ์ เชีดเต้า
พระพินิจพระสมบัต ยาธิ บาลเอย
คุมเครื่องเนื่องขนานเข้า ขนบริ้วเรียงคลา ฯ

อาณัติ์

๏ ผู้อวยอาณัติป้อง ผองพยูห์พระยาเอย
ตำรวจราชมานู น่าใช้
พระยาเสถียร ฯ เทีดกรับชู เฉลียวรอบ ระวังแฮ
คอยบอกสัญญาณให้ หยุดย้ายผายนิกร ฯ
๏ อาภรณ์เต็มยศเสื้อ ครุยครอง
สรรพะราชะประเพณีฉลอง รอบรู้
ตราประดับทับสะพายผยอง ศักดิเด่น แดงแฮ
นำราชะยานผ่านกู้ เกียรติ์ไท้ชัยะสีห์ ฯ

นำ

๏ พราหมณ์พิธีลีลาสป้วน ป่าวศังข์ เสนีญท่าน
เคียงคู่ชูศักดิ์ขลัง เวทครึ้ม
องคะรักษ์ปักษ์ชะไมฉมัง มือเทด ธวัชแฮ
กะบี่ธุชครุฑะพ่าห์พรึ้ม พร่างพริ้วปลิวชาย ฯ
๏ นายนาวาเอกเรื้อง นาวี ศาสตร์พ่อ
พระยาวิชิตชลธี ท่วมห้าว
พระยาสรยุธเสนี นำราช ะยานท่าน
เชีญชยะธงหย่งก้าว กาจแกล้วกลางสมร ฯ

พระที่นั่ง

๏ อดิศรสุระอาสน์เบื้อง บุษบก ทรงเอย
พร่างเพรีดแพรวแก้วกนก เหน่งฟ้า
ราเชนทระยานดิลก เลีสะโลก เฉลีมแล
วิสูตร์ตาดโอภาสหล้า รวบพะเน้าเสางาม ฯ
๏ จอมสยามยุพะราชเจ้า เนาวะเสวย ถวัลย์รา
ยิภู่สิหิงค์อิงเขนย ตาดหุ้ม
ทรงพิชัยะมะกุฎเผย พิเชียระปร่า แสงพ่อ
สุวรรณะส่งลงยาซุ้ม ศุเลศกั้งปลั่งสถล ฯ
๏ โศภนอาภรณะพริ้ง พราวทอง
ฉลองพระองค์ครุยกรอง เตร็จฟ้า
สอดสีรัศมีมอง มะเลืองรัต ะนานา
เฉกอิศวรสู่หล้า โลกซร้องเสนอชัย ฯ
๏ งามไหนไป่แม้นมุข ะมงคล พระเลย
พระเนตร์พระโอฐยล หยิ่งยิ้ม
จับตาไพร่ฟ้ากล ะตรัสประกาศ ก้องแล
กูจักเลี้ยงเวียงปิ้ม ปกฟ้าสถาวร ฯ
๏ ราษฎรกรกระพุ่มจ้อง จับเนตร์ พระเอย
เหมือนจะทูลภูเบศวร์ บ่งซั้น
สรวงสุชัยะมังคะเลศ เฉลีมราช ถวิลรา
โดยสมัคร์สวามิภักดิ์ชั้น เลือดเนื้อเถือถวาย ฯ
๏ ถึงภิปรายพจะนาทแม้น แสนคำ ก็ดี
ไป่แน่ดึ่งแดชำ ชีพเพี้ยง
แถลงเนตร์มะนะสาสำ นึกนึก เสนอเลย
เห็นตระหนักพระจักเลี้ยง ราษฎร์สร้านเกษมจริง ฯ
๏ เพรีดพริ้งพระกลดกั้น สุวรรณถะเกีง เกียรติ์เอย
บังสุรยะบังสูริย์เรีง เร่าไท้
พัดโบกโบกบรรเทีง ถวายรื่น ลมแฮ
ถะกลพระเกียรติยศไว้ ศักดิ์สร้างสมพงศ์ ฯ
๏ จมื่นจงขวาเทีดด้าม พระทวย ถวายเอย
รองสุพรรณะศรีสวย ส่งบ้วน
พระราชปริมาณอวย กำกับ อาสน์ท่าน
สงวนบาทอะธิราชถ้วน อุเทศเที้ยรเศียรสนอง ฯ

คู่เคียง

๏ คู่เคียงฉลองบาทเบื้อง สะดำเฉวียง
สองภาคราเชนทร์เรียง เรียบเต้า
เจ็ดคู่เจ็ดขุนเฉียง หนึ่งยาต -รานา
พิทักษ์บาทบรมะนาถเจ้า ประเจีดเอื้อมอาสา ฯ
๏ พระยาจางวางเอกเมื้อ เมียงองค์
บุรุษรัตน ฯ และวรพงษ์ ฯ เผ่าเจ้า
ถัดพระยาบริบูรณ์ ฯ วงศ์ ดาระราช สะกูลเอย
พระยาพจนปรีชาเผ้า อิศระสร้อยศักดิ์สวรรค์ ฯ
๏ ศรีธรรมาธิราชผู้ พระยามะหาด ไทย์แฮ
พระยาปลัดไพศาล ฯ สมาร์ถ สิกข์เกื้อ
พระยาสวัสดิ์วรวิถีราช ตระกูลสนิท วงศ์เอย
พระยาอิศรพันธุ์ ฯ เชื้อ เชษฐะเจ้าจอมสยาม ฯ
๏ พระยามหานามราชเผ้า มะหามะกุฎ ะราชเจ้า
มะหาอมาตย์พระยาชุด เชี่ยวรู้
ไมตรีวิรัชกฤตย์อุด ดมะราช นิกูลแฮ
พระยาราชนาวีกู้ เกียรติด้าวดำรง ฯ
๏ พงศะราชะนิกุเลศทั้ง สองพระยา
พระกฤษณรักษ์สา มาร์ถรู้
พระยาสรรพกิจเกษตร์ ฯ ขวา ใขว่คู่ ท้ายแฮ
พระยาราชสมบัติ์ผู้ พระญาติ์ไท้เถลีงวงศ์ ฯ

ราชองครักษ์

๏ ราชะองคะรักษ์เก้าคู่ นายพล
คู่หนึ่งนายพันถะกล เกียรติ์แกล้ว
แวงถนอมพระจอมพะหล พยุหะยาต -รานา
อุภัยปรัศว์ร่วมมะนัสะแผ้ว พิบัติ์เบื้องบัวถนอม ฯ
๏ หม่อมเจ้าอมรทัตเจ้า พระยาบดินทร์ ฯ
พระยาเทพอรชุนชิน โชคตุ้น
หม่อมเจ้าบวรเดชอุภิน อลงกฎ
พระยาเทพหัสดินคุ้น ศึกแคว้นเยอร์มะนี ฯ
๏ พลตรีเจ้าแก้วนวะ รัฐสวา มิภักดิ์เอย
พระยาอนิรุธเทวา คู่เต้า
เจ้าพรหมสุรธาดา พระยาฤทธิ ไกร ฯ แฮ
พระยาภักดิภูธรเข้า คู่ด้วยสุรวงศ์ ฯ ฯ
๏ รามรณรงค์ ฯ คู่เมื้อ อมรวิสัย ฯ พระยาเอย
พระยาราชวังสันระไว ว่องกั้น
ตรงกับพระยาพิชัย รณ ฯ เลีส ณรงค์แฮ
พระยาประเสรีฐสงครามนั้น คู่เจ้าจักร์คำ ฯ
๏ เดีรโดยลำดับชั้น ทะหารสยาม ะยศเอย
พระยาจัตุรงค์สงคราม รบร้าย
พระยาเวหาสทยานสนาม นักเหาะ เหี่มแฮ
ราชะองคะรักษ์ท้าย พิทักษ์ไท้คระไลสถล ฯ

อินทร์พรหม

๏ อินทร์พรหมถะกละเกียรติ์ป้อง ปรัศว์เดีร เรียงแฮ
ชูพุ่มทองเงินเชีญ เชีดไม้
กรมะวังมะหาดเล็กเมีล มเลืองอาตย์ สะอางแฮ
หมวกเซีดเขียวแดงใช้ ชุดเบื้องโบราณ ฯ
๏ นายการสองพระ,เจ้า กรมสนม
อินทราทิตย์สม ศักดิ์เต้า
จันทราทิตย์อุดม ะเดชะ
แต่งเครื่องเต็มยศเข้า ขนบริ้วเฉลีมเรือง ฯ

พระเครื่องหลัง

๏ พระเครื่องหลังละล้วนหัก ทองขวาง
คู่แรกเจ็ดชั้นกาง ฉัตร์เต้า
ห้าชั้นสี่องค์สะอาง รัถเยศ ผยองแฮ
บังแซกสององค์เข้า ระเบียบชั้นขวัญชะรุม ฯ
๏ ชุมสายอยู่ท้ายสี่ องค์เชีญ
สองฟากนิเวศะมาร์คเพลีน เนตร์ชะม้อย
แถวตง่านเหล่าทะหารเดีร แซงสี่ สายนา
แสงหว่างเครื่องสี่คล้อย เครื่องกล้ำกลางราย ฯ
๏ ตัวนายคุมเครื่องเบื้อง หลังเดียร ะดาษรา
นายประพาศมณเฑียร ถั่นเต้า
นายเสถียรรักษาระเมียร เหมาะน่า ที่พ่อ
เฉลีมพระเกียรติ์ผ่านเผ้า เพียบพื้นไผทวัง ฯ

ทหารราชวัลลภ

๏ ขึงขังทะหารแกล้วราช ะวัลลภ มะหาดเฮอ
แซงเสด็จพระจอมภพ ผึ่งเต้า
สองฝ่ายสี่สายควบ ไทฺวศัต สมรเอย
ของพระจุละจอมเกล้า แกล่ใกล้ดะนัยสนอง ฯ
๏ มองเสื้อเหลือสง่าด้าว แดงฉาด
ดำขลับสนับเพลาพาด รักต์ริ้ว
หมวกขาวภู่ดำฉะกาจ กระหวัดรัด สะเอวเอย
ซองลูกผูกตระแบงหิ้ว เหี่มห้าวสะกาวหนัง ฯ
๏ ผังผงาดปืนพาดเบื้อง อังสา สะดำเอย
นายขนาบกุมดาพถา ถั่นป้อง
พ่างพฤทท์จักรินทร์พะญา มรกฏ เกรียงฤา
แสนศึกแสนฮึกต้อง แตกผ้ายถลายขวัญ ฯ

มหาดเล็กเชีญเครื่อง

๏ มะหาดพัลลภเลือกเต้า ตามขนอง พระนา
เชีญพระแสงตีนตอง สี่เสร้า
แสงตามแปดองค์รอง เรียงระดับ
ญี่สิบเชีญเครื่องเข้า ขนบถ้วนขะบวนหลวง ฯ
๏ ปวงมะหาดอ่าอาตม์ต้อง สมตัว
เสมือนภิเษกพระอยู่หัว ห่มเสื้อ
ครุยสะกาวกนกพราวพัว พิรูระกลัด ตราเอย
สง่าพักตร์ศักดิ์สิทธิ์เกื้อ เกียรติ์เจ้าจอมถวัลย์ ฯ
๏ ขรรค์ชัยศรีนั้นพระ ยาสนิธ
มานพนริศร์ชิด เชีดเรื้อง
มาลามิ่งมานิต พระยาบริ หารฯเฮย
พานกนกเชีญยกเยื้อง ยาตร์เต้าตามจร ฯ
๏ ทาณฑ์พระกรนั่นหุ้ม แพรวิจารณ์ บุตร์เอย
แสร้ถักหางคชะสาร เศวตหมั้น
ผลพันธินะสมาน สวามิภักดิ์ เชีญแฮ
รองจิตรภักดีนั้น เชีดแสร้จามะรี ฯ
๏ วาละวิชะนีนั้นมะหาด เล็กเชาวน์
ปาลกะวงศ์สนิธเนา เชีดไว้
พระแสงฝักทองเฉลา หลวงศักดิ์ฯ สนองแฮ
จมื่นมะหาดเล็กเชีญไม้ สักกะท้าวเทวะสึง ฯ
๏ ยอดบุตร์พนึงพระเต้า ตามเตรียม เชีญรา
มณฑปวิเศษะเนียม นั่นป้อง
พระขันหมากงามเทียม แทบไม่ มีเลย
กุญพึ่งบารมีต้อง เชีดเต้าตามจรัล ฯ
๏ สุพรรณะศรีบัวแฉกหุ้ม แพรเงิน ยองรา
หอกเพชระรัตน์ระมัดเลิน เล่อป้อง
รองเสนอฯห่อนเหม่อเติน เต่อนิด ไฉนเลย
เชีญเชีดเทีดสง่าต้อง แบบรู้ ชูศรี ฯ
๏ แสงตรีอนุศักดิ์เชื้อ หัสดินทร์ เชีญรา
แสงจักร์รองขันชิน เชีดไว้
ดาพชะเลยนั่นรองสุจิน ดาเชีด เชีญแฮ
ถัดนั่นรองสนองฯได้ เชีดฉง้อนศรเพลิง ฯ
๏ เถลีงนามข้ามแม่น้ำ สะโตงชู ชัยท่าน
โชติกเสถียรเชีญธนู เทีดก้าว
พระแสงดาพเขลภู ธระอมาต ยกุลนา
สล้างละดาวัลย์ง้าว เงือดผ้ายแสนพล ฯ
๏ เกลื่อนกล่นมะหาดเล็กเต้า แต่งกาย
เต็มยศเรียงตับหลาย ตับซ้อน
หมอหลวงพระแพทย์ปลาย ขะบวนติด ตามแฮ
ชัยแพทย์รัตนแพทย์ต้อน ต่อท้ายหมายระวัง ฯ

ประตูหลัง

๏ ประตูหลังเต็มยศเบื้อง ขวาพระยา
สิทธิโชคชุมนุมถา ถั่นเต้า
ซ้ายจมื่นราชนาคา รั้งราช ขะบวนแฮ
โดยขนาดพยุหะบาทเจ้า พิภพมื้อภิเษกสึง ฯ

----------------------------

เสด็จเข้าในพระอุโบสถพระแก้วมรกต

ร่าย

๏ ถึงเกยหลังสุธาวาส ศรีรัตะนะศาสดาราม
หลามขะบวนหลวงละลานตา ประทับราเชนทระยาน
ประเทียบณะสถานเกยชัย ลับองค์ในวิสูตร์ทอง
เสียงแตรกลองนฤโฆษ แส้รโสตร์ซร้องสยองอุรา
เปลื้องมะหาพิชัยะมงกุฎ ทรงมหุดมะมาลา
เสร้าสูงสง่าการะวิกวาล ช้อยญิก่ากาญจน์ตรูเนตร์
เสด็จประเวศสู่อาวาส โดยทางลาดพระบาทจร
สลอนตำรวจหลวงนำ ภาคเฉวียงสะดำดูสง่า
ภูษามาลาภิบาล อยู่งานพระกลดตาด
กลาดมะหาดเล็กนองเนือง เชีญเครื่องเชีญพระแสง
ตามตำแหน่งครบครัน ราชะกะกุธะภัณฑ์เผยสง่า
แสงอัษฎาวุธฉกาจ ทะหารมหาดแซงสองปรัศว์
ขนัดขุนนางเฝ้าสระพรั่ง เสด็จยังอุโบสถเยื้อง
เปลื้องพระมาลาราชะทาน พระยาบริหารราชมานพ
ทรงเคารพพุทธะมะณี มระกตศรีนะคระเสถียร
ทรงจุดเทียนไล้สุวรรณ ธูปไล้หิรัญญะนิมมาน
เครื่องนะมัสะการรัตะนะตรัย ถวายต้นไม้เงินทอง
ทรงประคองทัศะนัขะประณม บังคมรัตะนะปะฏิมา
ถวายวันทะนาอธิษฐาน เพื่อบรรดาลคุณานุภาพ
เฉลีมรัชชะลาภเรืองผล เฉลีมรัชชะพะหลเรืองสวัสดิ์
เสด็จเถลีงรัชยะเนานาน เถลีงสุขะศานต์เกษมถวัลย์
ผองอปรัณธัญญะชาต พอเลี้ยงราษฎร์เลี้ยงโลก
เฉลีมชัยะโชคเฉลีมสิน ภิญโญยอดตลอดรัฐ
ทรงจบพระหัดถ์เทียนทอง ธูปเงินสองพฤกษะภัณฑ์
สุวรรณหิรัญญะมัยบูชา พระมะหาพุทธะเจดีย์
ศักดิ์สิทธิ์ศรีสยามะจักร์ หลักไทประเทศเจ็ดสถาน
พระราชะทานอุปราช สมุหะชาติเทศาภิบาล
ไปนะมัสะการต่างพระองค์ เพื่อเฉลีมมงคลาภิเษก
เฉกบุรัพะราชะประเพณี ขัตติยะจักรีรำพึง
หนึ่งพุทธะบาทอยุธยา สองมะหาพุทธะชินะราช
พิษณุโลกราฐะอุดมสยาม สามบรมะธาตุสวรรคะโลก
เฉลีมโชคสุโขทัยสิริ สี่ธาตุหะริภุญชัย
หลักไผทลาวเฉียงนิคม ห้าพระปะฐมะเจดีย์
ศรีสุวรรณะภูมิดิลก หกพระศรีมะหาธาตุ
ศรีธรรมะราชมะหานิคม เจ็ดธาตุพะนมศรีแคว้น
แดนลาวกาวถะเกีงชาติ์ สยามะราฐะอาณาจักร์
เสร็จทรงศักดิ์สีหะยาตร์ ประทับพระราชะบัลลังก์สง่า
สะพรั่งบรมะราชูประโภค ผะดุงพระโชคเฉลีมพระขวัญ
ราชะกะกุธะภัณฑ์กษัตร์ พระแสงอัษฎาวุธ
ครบชุดมะหาดเชีญราย ยืนท้ายราชาอาสน์
พระบรมะราชะวงศา เสนามาตย์ราชะเสวก
ราชะทูตดิลกศักดิ์แสน แทนรัฐาธิบดี
ต่างประจำที่เฝ้าสล้าง ณะเบ็ญจางคะบัลลังก์
สังฆ์การีราธะนา เบ็ญจศีลาจบลง
จึ่งองค์สังฆะราชา ตั้งแฉกงาผงาดแพร้ว
ถวายนิจจะศิลจบแล้ว หละล้วนปรีดา บาระนี ฯ

----------------------------

ทรงปฏิญญาพระองค์เป็นพระพุทธศาสนูปถัมภก

โคลงสี่

๏ พุทธะศาสะนิกะราชเจ้า จอมไท พ่ออา
เสด็จยาตร์จากอาสน์อุไร ร่อยั้ง
ท่ามกลางชะนางค์ไสว เศียรระยอบ ภิวันท์ท่าน
พักตร์บ่งสงฆ์ชะนุมตั้ง สัตยเอื้อนโอภาส์ ฯ
๏ เป็นภาสามะคธก้อง ประกาศ
ไตรรัตะนะสันนิยาตน์ ยอบพร้อม
รับเป็นพุทธะศาสนะนาถ ปะถัมภก
สงฆ์อะสีติน้อม หัตถ์ซร้องสาธุการ ฯ
๏ แม้มานทิพยะเนตร์แม้น มะโนหรณ์ แล้วรา
เห็นฉะกามาวะจร จบฟ้า
ทวยเทพยะสะโมสร สมประจักษ์ แท้แล
ถวายนุโมทะนาสร้า เส่ราสะท้านวิมานสวรรค์ ฯ
๏ โปรยสุคันธะบุบผะชาตฟุ้ง บูชา
สมเด็จปรมินทร์มหา ปกเกล้า
โถมมะนัสราชะศรัทธา นุภาพเพี่ม ผะดุงแฮ
เฉลีมพระกุศะเลศพะเน้า มะนุษย์ด้วยกระสวยธรรม์ ฯ
๏ บรรเทีงพุทธะศาสน์เพี้ยง ผายฉัตร์ พิเชียรฤา
ร่มโลกโภคะสมบัติ์ เบีกเกื้อ
ธรรมะไทย์เกรีกไตรรัตน์ เฉลีมภพ ผยองเอย
ยิ่งสรรพะแสนทรัพย์เนื้อ นิโรธทั้งวังสวรรค์ ฯ
๏ บรรดาศาสะนึกะน้ำ ใจบาน รอรา
ทะมื่นมะโนสะโมธาน ท่วมเกล้า
สยามินทร์ปิ่นราชะฐาน กลับสถิต อาสน์ท่าน
สมเด็จสังฆะราชเจ้า จึงเอื้อนอวยชัย ฯ
๏ พิเศษะนัยอะติเรกน้อม พรภิปราย
สงฆ์ประสิทธิ์อิฐะพรถวาย วากย์แจ้ว
ลาองค์พระฦาสาย จากราช วิหารแฮ
ทรงนะมัสพุทธะรัตน์แล้ว นิวรรตเวี้งประชุมพล ฯ
๏ มงคละมงกุฎไท้ เถลีงศิโร เพษฎน์ท่าน
สถิตพระราเชนทร์มะโห ฬะรึกพรึ้ม
ให้ผายพยุหะโย ธายาตร์ ขะบวนแฮ
กลองชนะประโคมครึ้ม ครั่นแสร้แตรศังข์ ฯ
๏ คืนยังเกยแก้วก่อง อะลงกรณ์
เสด็จสู่ปรางค์อาภรณ์- พิโมกข์แล้ว
เปลื้องมะกุฎพุฒเยนทร เถลีงเกียรติ์ ถะเกีงเอย
ทรงพระมาลาแพร้ว สะพรั่งขึ้นบังคม ฯ
๏ บรมะโกศพระมะกุฎเกล้า เจษฎา ธิราชท่าน
เปลื้องพระมะหา,มาลา เยี่ยมยั้ง
เสด็จสถิตอาสน์ดุสิตมะหา ปราสาท สรวงเอย
พร้อมพระราชินีทั้ง ประยุระซร้องเสนี ฯ

ถวายบังคมพระบรมบรรพราช

ร่าย

๏ ที่ดุสิตมะหาปราสาท เมื่อเสร็จราชะพิธีภิเษก
เอีกอะดิเรกมะเหาฬาร เจ้าพะนักงานอัญเชีญ
บรมะอัสถิเดีรขะบวนมา ห้าบรมะโกศจอมกษัตร์
แต่ปฐมะรัชย์จักรี ถึงพระปียะมะหาราช
เบ็ญจะบรมะนาร์ถเอกอุดม พระปะฐมบรมะมะหาชนก
สมเด็จดิลกราชินี ศรีพัชรินทร์รวมเจ็ด
เสด็จขึ้นประดิษฐานแท่น ประดับมุกด์แม้นเบื้องบรรพ์
กั้นนพะปะฎละเศวตะฉัตร์ แต่งเครื่องนะมัสะการสรรพ
สำหรับพระราชะพิทธี ตามหมายมีสั่งถ้วน
เครื่องสะดัปปะกรณ์ล้วน เลือกผ้า,ไตรสนอง พร้อมแล ฯ

โคลงสี่

๏ สองบพิตร์บูชิตน้อม บังคม
บรมะอัสถิเจ็ดบรม ะนาถทั้ง
บรมะศพเชษฐ์ภราดุดม คุณูปะ การเอย
ถวายสะดัปปะกรณ์สลั้ง เหล่าเจ้าไทย์สงฆ์ ฯ
๏ แปดสิบองค์แปดเจ้า จอมจัก -รีเอย
สนองพระการุญพิทักษ์ ชาติ์เกื้อ
ทรงราชะอุทิศสัก การบ่วง สรวงท่าน
สมราชประเพณีเชื้อ ขัตติยะขึ้นสนององค์ ฯ
๏ สงฆ์โมทะนาแล้วพระ สังฆะราช
อะติเรกสองบรมะนาถ อ่อนน้อม
ถวายพรกลับอาวาส หวังสวัสดิ์ เสวยเอย
แด่พระปรมินทร์พร้อม พระน้องราชินี ฯ

ร่าย

๏ จอมจักรีเสด็จขึ้น ปางประโคมครึ้นสงฆ์คลา
ทางในมะหานิเวศะวิถี พร้อมราชินีจอมนาง
โดยทางลาดพระบาท จากปราสาทดุสิต
บงเบื้องทิศบูรพา พิมุขพระมะหามนเทียร
เวียนไปสู่ราชะสถาน บรมะพิมานมี่งวัง
บรมะบังอรเชีญขัน เหรียญหิรัญสลึงทรงปราย
อวยฝ่ายอันเตทะบวง ทั้งข้าหลวงนางใน
ดำเนีรใกล้องค์กษัตร์ ถัดถึงขัตติยานี
ฉลองบทะศรีผ่านเกล้า คือพระเจ้าวรวงศ์
พระองค์เจ้าสิริรัตน์ บุษบงกษัตรีสุดา
เจ้าฟ้าจอมพลสยาม นามกรมะหลวงนครสวรรค์ฯ
ต่างพระกรรณพระเนตร์ สมเด็จเชษฐะภราดา
อะภิรัฐะมะหามนตรี ที่เสน่หามะหาราช
ยอดสยามะชาติ์สรรเสรีญ เชีญพระแสงชิดองค์
ยังขัตติยะวงศ์หม่อมเจ้า เชีญเครื่องเต้าตามบาท
เสด็จยุระยาตร์สี่องค์ ทรงดำเนีรเป็นคู่
ดูน่าชมสมเผ่า หม่อมเจ้ารำไพประภา
พระธิดาเจ้าฟ้าใหญ่ จอมพละไทบรมะพงศ์
องค์สมเด็จบิตุลา กรมพระยาภาณุพันธุ์ฯ
ขวัญอะภิรัฐะมนตรี เป็นที่ทรงนับถือ
เลื่องลือพระเกียรติประกาศ เฉกปิยะราชะปะฏิมา
เชษฐะประยุระมะหาจักรี พระสุพรรณะศรีเชีญถนอม
หม่อมเจ้าดวงจิตรสุดา เจ้าฟ้ากรมะพระนริศร์ฯ
ราชะประยูรสนิธชิดชม สมเด็จบรมะวงศ์กษัตริย์
องค์อะภิรัฐะมนตรี พานพระศรีเชีญคระไล
เชื้อช่างใหญ่สยามะถวัลย์ พ่างพิษณุกรรม์เกียรติถนอม
หม่อมเจ้าพวงรัตนประไพ เชีญพระอุไรรัตะนะกะรัณฑ์
เคียงกันกับสุดาแด หม่อมเจ้าแขไขจรัส
ยูระยาตร์ถัดคู่รอง เชีญพานพระกล้องธุมะวะดี
สองบุตรีศรีสมัย ในสมเด็จมาตุลา
กรมพระยาบรมะพงศ์ เทวะวงศวโรปการ
แม้คืนวิมานศิวาลัย พระคุณะมัยยังกระเดื่อง
คนทั้งเมืองปรากฎ ทรงยศะเสนาบดี
ยิ่งยืนปีกว่าใคร สองรัชชชะสมัยสนองบาท
จบขะบวนราชะดำเนีร เกีนสายเนตร์พึงยล
เลี้ยวลับดลศิวาลัย เสียงนางในยังโจษ
โดยปราโมทมะโนนิยม ชื่นชมบรมะบาระมิน
เจ้าแผ่นดินจอมเสน่ห์ อัคระมะเหสีจอมสวาท
หวังพึ่งบาทมุลิกา จวบวิสัญญาลาลับ
สร้าศัพท์ถวายพรดัง ประสาชาววังตื่นเต้น
แดอะดักเหลือจักเว้น โจษเว้นปรีดา บาระนี ฯ

เวียนเทียนสมโภชพระราชมนเทียร

โคลงสาม

๏ หกนาฬิกาสายัณห์ ศรีวันขวัญฤกษะหล้า
พอย่ำสนธยาฟ้า ฟ่องด้วยเดือนฉาย บาระนี ฯ
๏ ตั้งบายศรีเงินทอง บายศรีตองก่องแก้ว
เหมเครื่องสังเวยแล้ว สะลั่งแม้นหมายนิยม พร้อมนา ฯ
๏ สมโภชพระราชะมนเทียร สามเฉวียนเวียนประทีปถ้วน
ขัตติยะจารีตล้วน เลีสะเผ้าประเพณี สืบรา ฯ
๏ ข้าธุลีชีพ่อพราหมณ์ หลามฝ่ายในฝ่ายหน้า
สนองพระคุณเจ้าหล้า หละล้วนเฉลีมบุญ บาระนี ฯ

----------------------------

เฉลีมพระราชมนเทียร

โคลงสี่

๏ กรุ่นกลิ่นดอกไม้ร่ำ รัชะนี เจ้าเอย
สวนศิวาลัยวะลีย์ ล่อมเลี้ยง
ดอกเอ๋ยดอกราตรี กลอยจิต พี่อา
ห่างชื่นขืนชิดเพี้ยง สร่าเหล้าเมาหมาง ฯ
๏ ในปรางค์ปะระเมศกล้ำ กลิ่นบุหงา หอมเฮอ
ไหนช่อกุสุมามา แมกไว้
ในราชะอุทยานผะกา กามะเทพ ถวายฤา
แข่งประทินกลิ่นใกล้ กระเถิดเข้าเนาปรางค์ ฯ
๏ พิมานสว่างไฟฟ้าโชติ์ เฉลีมบุญ
สวนสว่างสางโสมหนุน น่ายิ้ม
ใจสว่างพระคุณอะดุล ะเดชกษัตร์ สยามเอย
ชื่นพระบาระมีอะลิ้ม สร่างลื้นเรีงสมร ฯ
๏ แขร่อนลอยฟ้าแอร่ม ดาวราย โพยมเลย
เหมือนจะเชีญจอมชาย ชื่นเต้า
เฉลีมมนทิระฦาสาย เสวยสวัสดิ์ สวรรค์ฤา
วิศิษฎ์ศักดิ์จักรีเผ้า ผ่านแก้วโกสินทร์ ฯ
๏ เยาวะยุพินเชีญเครื่องล้วน นางกษัตริย์ สวยแม่
ยามกึ่งถึงขณะนัด นาฎใกล้
รอเสด็จพระเพชระรัชย์ เฉลีมแท่น ผะทมเอย
งามเงื่อนเลื่อนโพยมไว้ สวาทหล้าผวาดล ฯ
๏ ฟากสถละรัถเยศเวี้ง วังใน
เนืองนั่งชาววังไสว ว่างน้อย
ชาวนอกราชะนิเวศน์ใคร ครุ่นทัศ ะนานา
ผสมเพื่อนเกลื่อนทางชะม้อย มุ่นปลื้มลืมกลัว ฯ
๏ อยู่หัวทรงอย่างน้อย นะภีสี กุไศย์เอย
ฉลองบาทฉลองชงฆ์นี โลษะเรื้อง
ภูษิตพระฉลองสฺรีร์ ครามอ่อน อร่ามพ่อ
คาดพระคตร์สดสิหิงค์เบื้อง เหน่าน้ำเงินพราว ฯ
๏ วาวเฉวียงนพะรัตน์สร้อย แสนงาม
สร้อยพระนพ,ธุหร่ำพราหมณ์ เพรีดแพร้ว
วิรังคุลิศพระประวิชวาม วัชิรุเรศ ะเหรียญเอย
ตุ้มปี่เพชร์น้อยแก้ว ก่ำน้ำสำอาง ฯ
๏ ญิก่าหางการะเวกช้อย เฉลีมชุด ชเนศวร์ท่าน
ครั้งพระอัยะกามะกุฎ ก่องพร้อย
สมระหัสรัชชะมะหุต สะวินทร์วิลาส เถลีงเอย
กุมพระขรรค์องค์น้อย อะนัคฆะเยื้องยรรยง ฯ
๏ เสมือนองค์ปิยะราชเจ้า ของขรรค์ น้อยนา
ติดหัตถ์จอมถวัลย์กระสัน มากมื้อ
ยามเสด็จออกโรงคัล ว่าราช ะการฤา
สมส่งมงคละอื้อ โอฐซร้องสรวงพร ฯ
๏ บทะจรจากห้องพระ บรมพิมาน
จักรกฤษณ์จากเกษียรสถาน เทียบเค้า
พร้อมองค์ยอดนงคราญ ราชิ นีเอย
๏ คอยสนองบงกชะเปลื้อง โปรยประทาน
อะนงค์นาฎกลาดวังขนาน เนื่องเฝ้า
ชื่นชมราชะสมภาร สวามิภักดิ์ พูนเอย
เทวะยาตร์ทางลาดเต้า ตลอดขึ้นมนเทียร ฯ
๏ เฉนียนหน้านางชะแม่หิ้ว ชวาลา
เฉลีมบาทนำยาตรา ส่องไท้
เคียงคู่เชีดชูมะหา บาระเมศ มะเหนทร์เอย
สมขนบจอมพิภพไว้ สง่าเวี้งวังปะถัมภ์ ฯ
๏ ราชะดำเนีรน่าปลื้ม เปรมนุสรณ์ เสนีญท่าน
งามพักตร์งามอาภรณ์ ผึ่งคล้อย
แสงระเรีงวิชชุเพลิงชอน ฉวางโรจน์ มะเลืองเอย
เสมือนพระรัศมีพร้อย พร่างฟ้าหาไหน ฯ
๏ อรไทย์ทิพยะลักษณ์ล้วน นางกษัตริย์ สาวแม่
องค์อ่าสีฟ้าจรัส อร่ามฉอ้อน
ภูษิตสร่ายชายฉวัด ไหวระยาย ยงเอย
ฉลองบาทกำมาษะซ้อน สนับแพร้วแพรฉวี ฯ
๏ มะหิษีทรงเครื่องพริ้ง เพราโฉม เฉลีมแม่
งามพระจะรัณบรรโลม โลกปลื้ม
ประคองขันพิกุลตระโบม บาทเทีด ถวายเอย
หญิงยอดวังดังยื้ม ยอดฟ้ามาสยาม ฯ
๏ สามพระองค์เจ้าพระ เจ้าว รวงศ์เอย
สิริรัตน์บุษบงลออ เอี่ยมแย้ม
สุทธวงศวิจิตร์คลอ เคียงพี่ นางนา
งามพักตราภรณ์แฉล้ม ลักษณะเอื้อมอัปสร ฯ
๏ ยอกรเชีดด้ามพระ แสงทรง
องค์พิสิฐสพสมัยผะจง เจตน์อ้าง
ฉลองราชวิระบาทะบงสุ์ บรมะบิตุ -ลางค์เอย
เชีญพระแสร้หางช้าง เผือกด้าวสะดำจร ฯ
๏ สามสมรชะไมปักษ์เชื้อ ขัตติยะยง ยศแฮ
สมวิศิษฎ์ธิดาองค์ พี่เจ้า
เจ้าฟ้ามิ่งมะหามง คละชาติ์ เฉลีมเอย
สมเด็จจอมพละเผ้า พิระแกล้วจักรี ฯ
๏ กรมะหลวงสีหะศักดิ์แคว้น นครสวรรค์
วรพินิตสิทธิการอะนันต์ พะเน้า
ทาณฑ์กรศักดิ์สิทธิ์ถวัลย ะเทเวศ ะสึงรา
พระวรวงศ์องค์เจ้า เจีดเชื้อชะไมเชีญ ฯ
๏ ดำเนีรเฉวียงภาคอุ้ม ไก่ขาว ด้วยรา
มยุรฉัตร์นางกษัตริย์สาว แสล้ม
พระสุดาพี่ยาฉาว พิชาช่าง เฉลีมเอย
ทรงยศะกรมะหลวงแย้ม เกียรติ์สท้านนานฉนำ ฯ
๏ กำแพงเพชร์อัครเจ้า โยธิน
พัฒนคณนายุพิน หม่อมเจ้า
เชีญจั่นหมากสุวรรณะลิน ลาสสะภาค ขวารา
โฉมเฉีดเลีสจริตเร้า โลกสร้านสะเรีงชม ฯ
๏ สุดาบรมะเจษฎ์เจ้า เจรีญศรี
กรมะพระจันทบุรี หลักแคว้น
ปราชญ์เปรื่องเลื่องบาลี สันสกฤต เกรียงฤา
เศรษฐะศาสตร์สามาร์ถแปร้น เปรียบน้อยเสนอคุณ ฯ
๏ โฉมดรุณะดาเรศน้อย นางสยาม แม่อา
ทิพยโชติ์แจ้งหล้านาม หม่อมเจ้า
เชีญถุงถั่วงาตาม เสด็จสะภาค เฉวียงเอย
พักตร์ฉ่างช่างตรัสเคล้า จริตพริ้งสิงสมัย ฯ
๏ สุดาประไพพระเจ้าพี่ ยาเธอ
นิติศาสตราจารย์เลอ เลีสะแกล้ว
กรมะหลวงราชบุรีเสนอ นามเชีด เฉลีมแฮ
ถึงลับพระชนม์แล้ว โลกแสร้ประศังสา ฯ
๏ โมราบดหม่อมเจ้า ศักดิ์สม เชีญเอย
นามสวาทวัฒโนดม เด่นเยื้อง
พระสุดาพี่ยากรม ะหลวงเลีส ะรู้แฮ
ปราจินะกิติบดีเรื้อง ศักดิ์สิ้นเสียนาน ฯ
๏ พระหลานนามหม่อมเจ้า จารุพัส ตราแม่
โฉมฉ่างสมสุรางค์กษัตริย์ ซื่อโกร้
กุญแจสุวรรณะหัดถ์ ประคองเชีด เชีญเอย
สุดาใหญ่พี่ยาโอ้ อนาถสิ้นแสนหวง ฯ
๏ กรมะหลวงเรืองเดชแกล้ว เกลาหลัก
นาวิกะศาสตร์สยามะจักร์ เจีดไว้
ชุมพรเขตอุดมศักดิ์ อเนกะศิษย์ สอนนา
ศูนย์ชีพบ่ศูนย์ใช้ ชีพเกื้อถะเกีงถวัลย์ ฯ
๏ พรรณเพ็ญแขหม่อมเจ้า อุภัยะชินทร์ เฉลีมแม่
พานฟักเชีญทักษิณ สะภาคเยื้อง
กรมะหมื่นพิชัยมหิน ทระฯเอก สุดาเอย
สิ้นพระชนม์แต่เบื้อง หนุ่มกนั้นขวัญหาย ฯ
๏ ภาคซ้ายนางกษัตริย์อุ้ม วิฬาร์
นามสุริยนันทนา หม่อมเจ้า
บุตรีพระพี่ยา ทรงยศ
กรมะหมื่นไชยาฯ เข้า โกศแล้วเหลือดะนัย ฯ
๏ ถัดไปหม่อมเจ้าเชีด เชีญสนอง
เครื่องราชะอุปะโภคสอง คู่เต้า
ดวงจิตร์ธิดาของ สมเด็จ
กรมะพระนริศร์ฯเจ้า ประเจีดฟ้าอาว์หลวง ฯ
๏ ควงคู่อยู่สะภาคด้าว สะดำเชีญ
พานพระศรีดำเนีร เนื่องเต้า
รำไพประภาเดีร อุดระภาค พิไลแล
เชีญพระสุพรรณะศรีเจ้า พิภพผู้ภราดร ฯ
๏ สุดาสมรสมเด็จเจ้า ฟ้ากรม พระยารา
ภาณุพันธุวงศ์ฯ สม ศักดิ์ก้อง
แขไขจรัสภิรมย์ สุจริต เชีญเอย
พานพระธุมะวะดีกล้อง คู่ด้าวสะดำคระไล ฯ
๏ พวงรัตนประไพพิศะข้อน คมสัน สวยแม่
เชีญพระรัตะนะกะรัณฑ์ เรื่อยเต้า
สองสุดามาตุลาขวัญ วงศะจัก รีเอย
สมเด็จกรมพระยาเจ้า เจีดเวี้งเทวะวงศ์ ฯ ฯ
๏ แม้ทรงสู่ฟ้าลับ เหลือไกล ก็ดี
พระคุณูปะการไฉน ลับด้วย
หากนะดาและคณาดะนัย สนองบาท บดินทร์เอย
ถึงชีพม้วยใช่ม้วย โชคเกื้อเกษมนิกร ฯ
๏ สองบังอรหม่อมเจ้า ผุสดี วิลาสแม่
กับรัสสาทิศทวี ยะปักษ์เจ้า
เชีญพานเครื่องสะการ, ศรี ขัตติยะศักดิ์ สุดาเอย
กรมะพระสวัสดิวัดน์ฯเต้า ต่อท้ายฉายงาม ฯ
๏ สยามะนาถลีลาสขึ้น จักระพรรดิ์ พิมานท่าน
โปรยพิกุลสุวรรณะรัชต์ เรื่อยเต้า
เปลื้องศิราภรณะกษัตร์ สุรางค์เชีด ฉลองเอย
ทรงสักการพุทธะเจ้า เจีดห้องมะโหฬาร ฯ
๏ มะหิบาลรอฤกษ์ขึ้น มัญจา อาสน์ท่าน
พอเอกะพิสะนาฬิกา เกือบก้ำ
เอกะบัญญาสเศษนา ฑีถั่น เถีงแฮ
มะหาอุดมะฤกษะกล้ำ มะหุร์ดิมื้อสุมงคล ฯ
๏ อึงอลฆ้องพาทย์แสร้ แตรศังข์ ผะสานเอย
ดุริยะดนตรีประดัง ครั่นครื้น
ประโคมฤกษ์เบิกพิชัยะมัง คลาดิเรก เฉลีมแฮ
พระถอดฉลองบาทขึ้น สถิตเบื้องบรรจถรณ์ ฯ
๏ สองอัปสรกษัตริย์ด้าว สุดามะหา มะกุฎเอย
สมเด็จมาตุจฉา ยอบเกล้า
เทีดแสร้ถักหางพะญา ช้างเผือก ถวายแฮ
พระราชะเทวีเจ้า เจีดน้อมประณมถวาย ฯ
๏ จั่นหมากพรายกนก,ท้าว วรคณา นันต์เอย
ราชะกุละมาลานะดา พึ่งไท้
กุญแจสุวรรณะมะหา โกศะราชย์ ถวายแฮ
ทรงรับมาวางไว้ ยิภู่ข้างเขนยผะจง ฯ
๏ เอนองค์แทบแท่นเบื้อง ทักษิณ ปรัศว์ท่าน
เฉลีมราชะนิทราภิญ โญตม์ยั้ง
สีหะศัยยาสน์เยี่ยงระบิน บรมะกษัตริย์ สยามเอย
สืบประเพณีครั้ง อะดีตใช้เฉลีมสถาน ฯ
๏ สองวิมารดานอบถ้อย ทูลถวาย
พรพิพัฒน์เพื่อสวัสดิผาย โพธิ์ฟื้น
ปกเกล้าเหล่าสยามนิกาย เกษมโสตถิ์ เสมอเทีญ
เกรีกกระทั่งศังข์แตรครื้น พาทย์ฆ้องประโคมเฉลีม โฉลกแล ฯ

----------------------------

โทรเลขถวายพระพร

ร่าย

๏ เสรีมสวัสดิ์รัชชะพิทธี อะภิเษกศรีบรมะกษัตร์
จอมสยามะรัฐจักรินทร์ เจ้าแผ่นดินขัตติยะชา
และประธานาธิบดี เมืองไมตรีมีอเนก
ต่างโทระเลขถวายพระพร พระปิ่นนิกรสยามะชาติ์ ฯ
๏ องค์บรมะนาถอังกฤษ มะหิศวะราภิไธย์จอร์ชนั้น
ทูล“หม่อมฉันยินดี ฤกษะภิเษกศรีพระองค์
ขอถวายมงคละประสิทธิ์ พร้อมราชะอิศวะริยาภรณ์
นามบ๊าถกระฉ่อนเกียรติคุณ รุ่งเรืองบุณยาดิเรก
ชั้นเอกแด่พระองค์ ขอถือมงคะโลกาส
ประสาธน์พระพรถวาย โรคันดะรายอย่ามี
ทรงเกษมศรีสุระเดช ขอประเทศของพระองค์
จงเจรีญภิยโยยิ่ง ทุกสิ่งจงประสิทธิ์มุ่ง” ฯ
๏ พระเจ้ากรุงเบลเจี้ยม อัลแบร็ตเยี่ยมยะศาภิไธย์
ทูลว่า“ในชะโยกาส ราชะพิธีิราชาภิเษก
พระองค์เอกสยามะขัณฑ์ หม่อมฉันขอทูลแถลง
สะแดงน้ำใจยินดี สรวมอาศีรวาทถวาย” ฯ
๏ ฝ่ายท่านสันตะปาปา จอมศาสนาฆฤสตัง
ผู้สถิตยังกรุงโรม โถมะนาอำนวยสวัสดิ์
จากบิอัสที่สิบเอ็จ ผู้สำเร็จสังฆาณัติ์
“ทูลบรมะกษัตร์สยามินทร์ ได้รับระบินบอกประกาศ
ทรงเถลีงราชะสมบัติ จึงตั้งมะนัสะมั่นหมาย
ถวายพระพรชัยะมงคล ให้มาดลทันงาน
วารบรมะราชาภิเษก ขอองค์เอกอดิศวร
มวลราษฎรพร้อมสรรพ จงได้รับทิพยะพร
สุขสถาวรทั่วกัน เดชจอมสวรรค์บรรดาล” ฯ
๏ นางพะญาผ่านวิลันดา เรียกนัคะราเนเดรลันด์
องค์จอมขวัญประชา วิลเฮลมินาราชินี
มีโทรเลขมานั้น ทูล“หม่อมฉันปลื้มยิ่ง
โดยใจจริงสังหรณ์ ขอถวายพรพระองค์
ให้ทรงเจรีญสำราญ และรัชชชะกาลของพระองค์
จงรุ่งเรืองยืนยิ่ง ขอส่งสิงหะดารา
อิศวะริยาภรณ์ของขวัญ ของหม่อมฉันถวายทรง” ฯ
๏ จอมพงศ์องค์บรมะนาถ ราชาธิราชชาติ์ญิปุ่น
เดชอะดุลย์ราชะยะโศ โยชิหิโตสมเญศ
เจ้าประเทศทวีปญะแปน แล่นโทระเลขเฉกฉันท์
“วันพระราชะมะหาสมัย มงคละพิชัยะอภิเษก
พระองค์เอกครานี้ หมอมฉันมีอาทร
ขอถวายพรพระองค์ เสด็จทรงราไชศวรรย์
อยู่ยืนวันสวัสดี ราชะไมตรีสองนะคร
จงสถาวรเจรีญยิ่ง มิ่งมงคละสยามะมะนุษย์” ฯ
๏ องค์มงกุฎราชะกุมาร ส๊าเร็จราชะการนะคร
ปกประชากรอิศวะโร หิโรหิโตทรงสมเญศ
เจ้ามะหาประเทศญิปุ่น ส่งโทระสุนทระศาส์น
“หม่อมฉันบานเบีกใจ ถวายชัยอาเศียรวาท
โอกาสราชะอภิเษก ขององค์เอกอิศวะระวงศ์
ขอจงทรงพระสำราญ ทั้งประเทศสถานของพระองค์
จงเจรีญขึ้นยืนยิ่ง สมสิ่งทรงเจตะนา” ฯ
๏ ท่านประธานาธิบดี ริปุปลิกฝรั่งเศส
จอมประเทศผู้ปกครอง นามคัสตองดูแมร์ก
แหวกทูระเทศโทระเลข ถวายพรเฉกถวายศาสน์
“ในโอกาสบรมะพิทธี ศรีราชาภิเษกพระองค์
หม่อมฉันส่งโสมะนัส ถวายพรพิพัฒนะมงคล
อย่างจริงกะมละปราโมทย์ จงเสวยโสตถิ์เกษมสะราญ
ขอรัชชะกาลของพระองค์ จงรุ่งเรืองยิ่งผยอง
ขอประเทศของพระองค์ จงเจริญยิ่งขึ้นไป” ฯ
๏ พระจอมไผทอิตาลี มีศักดิ์มีเดโช
วิกโตริโอเอมา นุเอเลมะหากษัตร์เอก
ส่งโทระเลขแถลงเรีง ว่า“วันเถลีงสิริราชย์
ผ่านสยามะชาติ์ภิเษกศรี แสนยินดีชื่นฉ่ำ
ขอถวายคำปราศรัย โดยน้ำใจจริงสุด
ขอถวายมะหุตมะพรชัย ให้พระองค์และวงศ์กษัตริย์
ราชะสมบัติรัชชะบริพาร จงไพศาลเจรีญเปรื่อง
รุ่งเรืองสมบูรณ์ถวัลย์ อนึ่งหม่อมฉันได้กะ
คอมเมนดะโตเร เสนาอะมาโดรี
รับวะจีหม่อมฉัน ทูลยืนยันดุษฎี
หม่อมฉันมีจริงใจ และให้ช่วยฉลองงาน
การพิธีเถลีงถวัลย์ แทนหม่อมฉันผยองศักดิ์
เป็นอัคระราชะทูตพิเศษ ในเขตวิสามัญะกาล” ฯ
๏ อนึ่งสุ้ละต่านเมืองยะโฮ และโอรสอิสะไมล์
ได้โทระเลขเร็วจร ทูล“ถวายพระพรจอมภพ
โดยเคารพจริงใจ ในพระราชะพิธีเอก
ราชาภิเษกเถลีงรัชย์ เป็นจอมกษัตร์สยามะชาติ์” ฯ
๏ มงกุฎราชะกุมาร สำเร็จภารปกประเทศ
สะวิเดนเกษตรไกลลับ นามคุสตัฟอะโดลฟ์
โทระเลขโผนส่งมา “ในงานมะหาราชะพิธี
อภิเษกศรีพระองค์ ดำรงราชะสมบัติ
แสนโสมะนัสะถวายพร แด่ภูธรเฉพาะองค์
ขอจงอาณาจักร์ พิพัฒนะศักดิ์สมถวิล
ภิญโญยิ่งสมบูรณ์ สมถ้อยทูลถวายชัย” ฯ
๏ ยังในสยามะรัฐะอเนก โทระเลขและอักษร
ถวายชัยะพรประสิทธิ์ แด่สยามิศวะรานุชาติ์
ในวันพระราชะพิธี ศรีบรมะราชาภิเษก
อะดิเรกมะหุรดิสมัย ทั้งคนไทคนวิเทศ
แม้สยองเดชสยองศักดิ์ พ่วนสวามิภักดิ์พึ่งบุญ
บาระมีคุณแผ่ผะดุง ทั้งในกรุงหัวเมือง
เนื่องทั่วสะกละทิศา ราชะอาณาจักร์สยาม
เห็นประจักษ์ความน้อมนิยม ชื่นชมบรมะกษัตร์เจ้า
พึ่งทะนุกสุขเกษมเกล้า ตราบสิ้นชิวินศันติ์ สมแล ฯ

----------------------------

เสด็จออกรับอาเศียรวาทราชทูตแลกงสุลต่างประเทศ

โคลงสี่

๏ ศุกระวันฉัฬะพิสดิม์เบื้อง บุรณะมี กุมภ์รา
โสฬสะนาฬีก์ระพี ผ่องเยื้อง
จอมจักร์จักรีศรี สยามะราช เราเอย
ทรงยุธะอาภรณ์เรื้อง เดชเจ้าจอมพะหล ฯ
๏ ยุคละองค์อัคเรศแก้ว กษัตรี เอกเอย
สมเด็จพระมะเหสี คู่สร้าง
สองสะพักจักรีมี ศักดิ์ประดับ ดาวแฮ
เสด็จออกห้องนอกข้าง บุรพะเบื้องปรางค์ศรี ฯ
๏ จักรีปราสาทป้อง ปะจันต์ทวาร บังแฮ
สมราชระโหฐานสถาน โปรดเกล้า
สังสรรค์คุณะวันต์สมาน มิตระราช เฉลีมเอย
ทูตพิเศษต่างประเทศเฝ้า ประณตน้อมพรถวาย ฯ
๏ หลายชาติ์ราชะทูตล้วน ทูตพิเศษ
อะนุทูตรัฐะทูตประเทศ มิตร์ไท้
เถีงกฎรถยนตร์ประเวศ วังจัก รีเอย
นิเวศะรักษ์เชีญพักไว้ โว่งห้องหนขวา ฯ

อัครราชทูตพิเศษเฝ้า

๏ มะหาอมาตย์วิราฐะเอื้อ อวยปะฎี คมเอย
เชีญอัคระราชะทูตมี ยศเฝ้า
พิเศษทรงต่างองค์ศรี กษัตร์รัฐ บดินทร์ฤา
ทีละท่านผ่านเข้า สู่ห้องระโหฐาน ฯ
๏ ทูลศาส์นเศียรวาทเอื้อม แทนองค์
ภูวะนาถนพะชาติ์ทรง อ่อนน้อม
ถวายชัยณะสมัยะมง คะลาภิเษก สยามเอย
ฉันท์สนิธมิตระภาพย้อม สวัสดิให้ไทถวัลย์ วิโรจเทีญ ฯ
๏ ทรงธรรม์ตรัสตอบด้วย ดุษฎี แดรา
ขอบพระคุณภูมี มุ่งเอื้อ
แถลงราชหฤทัยทวี วุฒิมิตร์ สมานเอย
ชาติ์ต่อชาติ์สวาทเกื้อ เกียรติเกื้อกันเกษม ฯ
๏ ทุกทูตเปรมปลื้มพระ กะรุณา
สองกษัตร์ทรงอัชฌา ชื่นเกล้า
ประทานหัดถ์และตรัสปรา ศรัยเสนาะ มะโนเอย
ควรจากยังอยากเฝ้า ฝากน้ำใจสนอง ฯ
๏ ต่างปองพระปกเกล้า เนานาน
เจริญยิ่งสุขศฤงคาร ขุ่นไร้
ใดมาดลุราชะภาร พ่างมุ่ง เสมอเทีญ
ศิราภิวาทจิตประสาธน์ให้ ประสิทธิ์เพี้ยงพรถวิล ฯ
๏ นพะถิ่นเอกะราชย์ตั้ง ทูตา พิเศษเอย
ต่างพระองค์ส่งมา อ่อนน้อม
เยอระมันนั่นประธานา ธิปัติราษฎร์ แต่งท่าน
อัสมิสรูดอลฟ์พร้อม จิตเอื้อนอวยศรี ฯ
๏ สะหะปาลีรัฐะแคว้น อะเมริกา
ประธานทวีปแต่งทูตา ต่างนั้น
วิลเลียมรัซเซ็ลฐา นะพิเศษ สมเอย
ช่วยภิเษกเอกะราชย์ซั้น สวัสดิถ้อยถวายผะดุง ฯ
๏ จอมกรุงเบละเจี้ยมเลือก โปแลง
สมเญศมาร์เซลแสดง เดชเอื้อ
ทูตพิเศษต่างเทศแถลง กะมละราช ถวิลรา
หวังสวัสดิ์โสมะนัสะเกื้อ เกียรติไท้ถวายพร ฯ
๏ จอมนะครเด็นมาร์กตั้ง ทูตา พิเศยเอย
ท่านฟริตส์คราเม่อร์มา ต่างเจ้า
ช่วยภิเษกเฉกราชา เศียรวาท ถวายแฮ
เฉลีมราชะไมตรีเฝ้า ใฝ่จ้องเจรีญถวิล ฯ
๏ ธิบดินทร์ฝรั่งเศสตั้ง ทูตแทน องค์ท่าน
ออกุสต์วิลเด็นแสน เหมาะมื้อ
พรภิเษกเฉกเพื่อนแดน ผะดุงช่วย เฉลีมเอย
สมานมิตร์ไป่คิดรื้อ ร่วมน้ำใจเสถียร ฯ
๏ จอมบริเตียนโปรดตั้ง ทูตพิเศษ สนองเอย
พ่างพระองค์ภูเบศวร์ บ่งเอื้อ
ท่านโรเบีตเกร๊กประเทศ อังกฤษ แทนแฮ
เศียรวาทสมชาติ์เกื้อ เกียรติไท้ไทถนอม
๏ ทูตจอมวีระกษัตร์แคว้น อิตาลี
ท่านอะมาดอรี เลีสะแกล้ว
ช่วยไทผูกไมตรี กษัตร์ภิเษก สรวงเอย
แถลงจิตมิตระภาพแผ้ว ภิวาทน้อมสนองพร ฯ
๏ จอมนะครญิปุ่นตั้ง ทูตา พิเศษเอย
ต่างพระองค์ราชา ธิราชเจ้า
ฮายาชิสมญา สมยศ ะยิ่งแฮ
ถวายพระพรอ่อนเกล้า กษัตร์มื้อภิเษกศรี ฯ
๏ ราชินีศรีด้าววิ ลันดา
ทรงประศาสน์ราชะทูตมา ต่างเจ้า
ถวายพรเมื่อราชา ภิเษกกษัตร์ สยามเอย
นามท่านฮูเบอร์เฝ้า ใฝ่ดุ้งดีหวัง ฯ
๏ แฟนังด์ ปิล่าผู้ ทูตา พิเศษเอย
เรปุบลิกฝรั่งเศสมา เมื่อนี้
ยศะอัคระราชะทูตครา ภิเษกเสก พรเพื่อน
เฉลีมราชะไมตรีชี้ โฉลกแคว้นแสนสมาน ฯ

ราชทูตานุทูตประจำแลกงสุลเฝ้า

๏ มะหิบาลเสด็จออกท้อง พระโรง กลางท่าน
ปราสาทจักรีสะโอง เอ่อกว้าง
เฉลีมถวัลย์พระจรรโลง ดิลกรัฐ สยามเอย
โคมผลึกพฤกษ์สุวรรณสล้าง รัชดะล้อมวิไลตา ฯ
๏ กางมะหาเศวตะฉัตร์กั้น บัลลังก์ อุไรแฮ
ภาพทูตผึ่งตรึงผนัง น่าจ้อง
พื้นศิลาพร่าพรมยัง บงผงาด งามเอย
แหงนสง่าโคมระย้าปล้อง โปร่งแก้วตระการแขวน ฯ
๏ แสนโศภิตแพ้พระ โศภี
สมเด็จพระราชินี คู่ไท้
เคียงบาทราชสวามี มิ่งพระ โรงเอย
ยลพระโฉมโน้มให้ ชื่นเบื้องบาระมิน ฯ
๏ เสนินองคะรักษ์เข้ม ขุนตำ รวจฤา
เรียงปรัศว์ขัตติยะสดัมภ์ เด่นเฝ้า
เฉลีมบาทราชชะไมบำ เรอรัก ขารา
สมุหะราชะมนเทียรเข้า นอบไท้ทูลฉลอง ฯ
๏ เบีกผองพิเทศะทูตเฝ้า ธุลีบาท
ถวายวะราเศียรวาท เวี่ยเกล้า
ปางรับวิรานุญาต เผยพระ ทวารแล
ราชะทูตรัฐะทูตเข้า เยี่ยมห้องมะหระชัย ฯ
๏ พระองค์เจ้าไตรทศเชื้อ จักรี วงศ์เอย
ทรงยศะเสนาบดี ต่างเผ้า
นำอัคระราชะทูตมี ศักดิ์สิบ ท่านแล
อะนุทูตรัฐะทูตเฝ้า บาทน้อมเศียรประณาม ฯ
๏ รวมสามสิบเอ็จพร้อม เพรียงกัน
ยืนเกลื่อนพระโรงคัล คั่งหน้า
จึ่งอัคระราชะทูตวิลัน ดานอบ เศียรเอย
ทูลเบีกสดุดีกล้า กล่าวถ้อยถวายพร ฯ
๏ โดยสะโมสรสพน้ำ ใจสนอง
ราชะทูตรัฐะทูตผอง พรรคพร้อม
เห็นประจักษ์พระจักครอง สยามะเจีด เจริญเอย
เฉลีมราชะไมตรีน้อม สนิธถ้วนทวยสะกล ฯ
๏ ผลพิศิษฎ์พิทเยศทั้ง ปรีชา
พระพิริยะเดชสา มาร์ถแกล้ว
สรวมพระอะนุญาตอา เศียรวาท ถวายเอย
เสวยสวัสดิ์จีระรัชย์แผ้ว พิบัติ์ฟื้นยืนสยาม ฯ
๏ จบความหลามเกศน้อม วันทะนา
สมเด็จจอมพะสุธา ตอบถ้อย
ขอบใจใฝ่ใจอา เศียรวาท ถวายท่าน
อิ่มพระทัยใช่น้อย ตระหนักน้ำใจสยม ฯ
๏ สมพระพิริยะโน้ม ปะณิธาน เที่ยงเอย
ผะดุงราชะไมตรีสถาน ถูกต้อง
วิเทศนิยมพึ่งสมภาร สวามิภักดิ์ ไฉนนา
จักปกเพื่อนเสมือนป้อง ไพร่ฟ้าสามะคี ฯ
๏ ทรงยินดีได้ประสพ โสมะนัส
ราชะทูตอะนุทูตรัฐ ะทูตเฝ้า
ขออวยสิริสวัสดิ์ วุฒิทั่ว กันเทีญ
ตรัสจบต่างนบเกล้า กริ่มน้ำใจชม ฯ
๏ สองบรมะอัคระราชเอื้อน โอฐะปรา ศรัยแล
พระราชะทานหัดถา จับบ้าง
ตามสมเมื่อสมลา ยุคละบาท แล้วเอย
ถวายภิวาทกลาดเศียรสล้าง หละคล้อยถอยผาย ฯ
๏ รายนามอะนุทูตล้วน เรียงขนาน
อาวุโสราชะการ กระนี้
เลขานุการสถาน เกรตบริ เตียนพ่อ
คือท่านจอห์นยศะชี้ เชษฐะเผ้าภารสมาน ฯ
๏ ท่านกรุ๊ตรัฐะทูตแคว้น สวิเด็น
ท่านดิ๊กสันนั่นเป็น ทูตชั้น
เลขานุการเพ็ญ พิริยะภาพ ผยองแฮ
ทูตอะเมริกันปั้น ปะโยชน์เกื้อการเมือง ฯ
๏ เบื้องเยอระมันนั้นอะนุ ทูตขนาน นามเอย
หมอเอ๊กเนอเสนอภาร เพิ่มเอื้อ
เลขานุการสถาน ทูตญิปุ่น นั้นนา
นามท่านกุนจีเกื้อ เกียรติ์บ้านเมืองเจน ฯ
๏ เดรสกรึเอลส์ผู้ช่วย ทะหารฟรานศ์
ทรงยศพันตรีสถาน ทูตนั้น
อัลเบร็ดต์รัฐะทูตการ อะเมริ กันเอย
รัฐะทูตนอรเวย์ชั้น พิเศษนี้โมโนต์ ฯ
๏ โบโวรัฐะทูตอ้าง อิตาลี
ช่วยเกษตร์โปรตุเกษทวี กิจค้า
เจนเส็นช่วยทูตบุรี เดนมาร์ก
รองรัฐะทูตหกหน้า ต่างหน้านามดัง ฯ
๏ ชาลังต์ฝรั่งเศสคุ้น พะณิชย์ขยัน
ด้าวสวีดเอริกสัน เศรษฐ์น้อม
แฮนเส็นอะเมริกัน นุกูละกิจ ถะเกีงแฮ
เฮลวาร์ดเด็นมาร์กย้อม จิตค้าขายทวี ฯ
๏ รัจจีอิตาเลียนผู้ ทูตา รองเอย
เสแบสเตียนปรีชา ชอบเกื้อ
อังกฤษวะณิชภา รัตถะแหล่ง ถลองแฮ
สิบเอ็จรัฐะทูตเอื้อ อเนกะเผ้าเนาสยาม ฯ
๏ สามชานเซลเล่อร์เกื้อ ทูตา สถานเอย
ญิปุ่นซูซียา เยี่ยมรู้
กับอูมิโนสา มาร์ถอัก ษรแฮ
ท่านฮัคเยอระมันกู้ กิจเงื้อมงานเสมียน ฯ
๏ สองนักเรียนล่ามเข้ม ขยันเรียน
มิคัลรีดอังกฤษเพียร เพิ่มรู้
พลีออ็งคล่องงานเกษียล ฝรั่งเศส สนองเอย
เฝ้าบาทสยามะราชกู้ เกียรติน้อมพรถวาย ฯ
๏ ล้วนสหายสยามะชาติ์เว้น หวังดี ไฉนเลย
ต่อกษัตร์รัฐะไมตรี เกริ่นเกื้อ
ยิ่งเมื่อเชื่อบาระมี มะนุญญะราช ะแรงเอย
ยิ่งตลุ่นรุนจิตเอื้อ พ่างเอื้อนอาเศียร ฯ
๏ ยุโรเปียนเพี้ยนไพร่ฟ้า ไกลไฉน นักฤา
ชื่นช่วยอวยชัยไท ท่วมเกล้า
หวังบุญพึ่งคุณะมัย มะหากษัตริย์ สยามแฮ
ทะนุกคณาตม์ทุกชาติ์เฝ้า ฝากสิ้นสินศิรา ฯ
๏ ลับทูตทวาเรศแง้ม งำองค์ พระเอย
ลับพระคู่ยุคละบง กชฟ้า
เสด็จนิวรรตจักระพรรดิมง คละทิพย์ สถานท่าน
ลับบาทบ่ลับข้า บาทปลื้มเปรมหวัง บาระนี ฯ

----------------------------

คำฉันท์ของชาววิเทศถวายราชสดุดี

๏ ปราชญ์ฝรั่งหวังพระเจ้า แผ่นดิน นี้นอ
คงทะนุกสุขสมถวิล ไพร่ฟ้า
สู้ขยันแต่งฉันท์กะวิน เวียงวิลาต ฉลองเอย
พิมพ์ประกาศแก่ชาติ์กล้า กล่าวถ้อยถวายชม ฯ
๏ ถูกอารมณ์ใช่น้อย หนอเรา ไทเอย
จึ่งถอดความตามเขา เอ่ยอ้าง
แถลงเลศเหล่าวิเทศะเคา รพบาท ไฉนรา
สู่เพื่อนไทไป่ค้าง ทราบข้อเฉลยคำ ฉะนี้ ฯ

----------------------------

ทูนถวายพระเจ้าแผ่นดิน

๏ “สุโขทัยธรรมะราชขึ้น ครองไท ประเทศเอย
ถวิลประวัติ์ษัฬมะศัตก์สมัย เมื่อโน้น
สุโขทัยพึ่งจอมไผท ธรรมะราช เจรีญแฮ
เกรีกคุณานุภาพโพ้น สลักพื้นผาแถลง ฯ
๏ เดชแสวงวีระศักดิ์เยื้อย ยุกติธรรม์ เถลีงรา
อ่านดึกดำบรรพ์ฝัน ม่อยแม้น
สุบินคะนึงใคร่ถึงวัน วุฒิโชค ฉนั้นแล
ธรรมะราชคืนผงาดแคว้น อีกครั้งหวังสม ฯ
๏ บรมะการุญญะราชเอื้อ อวยผล ะทานท่าน
ถะเกีงศักดิ์รักธรรมถะกล ไพร่ฟ้า
คนมีหรึจนจน ชะเลยศึก ก็ดี
ไป่เลือกหน้าทั่วหน้า ทะนุกถ้วนผวนไฉน ฯ
๏ ไทเป็นไทไร้ทาส ถ่อยนะคร ท่านรา
เกษมสุขปลุกสะโมสร โศกไร้
ยุคต่อส่อสังหรณ์ หินฉลัก เฉลยเอย
นามพระธรรมะราชไท้ เทีดด้าวเดียวหนอ ฯ
๏ ผาพ่อหรอแล้วจัก เหลืออะไร ธุลีฤา
เวียงสุโขทัยประลัย ร่อยร้าง
รุ่งเรืองมิ่งเมืองไฉน อนาถลับ นิรันดร์แล
กนั้นก็ยังหวังอ้าง อิทธิฟ้ามาสมาน ฯ
๏ บรรดาลศรีสวัสดิฟื้น มะณียุค สยามเอย
สมัยะสุดผุดพหุละสุข สู่แคว้น
ชุบไทศิวิไลสปลุก พรประสาธน์ สมเทีญ
คืนอะดีตะจารีตแม้น มุ่นเพ้อเผยอถึง ฯ
๏ คะนึงสมาร์ถธรรมะราชเจ้า สุโขทัย น้อยพ่อ
ผ่านพิภพสพสมัยใน เมื่อนี้
ไฉนจักมิพักไข ขัตติยะเดช สะแดงเอย
เฉลีมระหัสอัจฉะรีย์กี้ กระลับฟื้นยืนสยาย ฯ
๏ ใยยอดชายชื่นเกล้า ชาวสยาม เจ้าเอย
จักมิเลื่องกระเดื่องนาม น่าน้อม
เผยผุละเกียรติคุณตาม ธรรมะราช โพ้นพ่อ
เลื่องฤทธิ์สิทธิธรรมพร้อม ไพร่ฟ้าสาธุการ ฯ
๏ บรรหารสารสัตย์ถ้วน ยุกติธรรม เที่ยงรา
แสวงราชะมนตรีนำ น่าคล้อย
โดยฉลาดอาจเบีกบำ รุงเด่น ดีเอย
ถูกหทัยไทน้อย โกฏิ์น้อมประนอมเห็น ฯ
๏ เช่นฉวยชัยะธุชน้ำ ใจคน ไทฤา
โดยรักเพียรรักผล แผ่เอื้อ
ใช่แต่แสร่สาละวน วายประโยชน์ เหยีงฤา
ผะเดียงเดชเกาศะเลศเกื้อ เกียรติสร้างสมองค์ ฯ
๏ พระคงสามาร์ถโน้ม นำพร พิพัฒน์พ่อ
มะณียุคคืนทะนุกนะคร อีกมื้อ
ไพรฟ้าจักสถาวร วุฒิภาพ ผยองแฮ
สยามะรัฐสืบสวัสดิอื้อ โอฐฉอ้อนพรสนอง ฯ
๏ ผองไททุกลิ้นเบีก บรรลือ ร่วมรา
เศียรพาทธรรมะราชระบือ โลกก้อง
เสวยสวัสดิ์จิระพรรษกระพือ พุฒิเกียรติ์ ถะเกีงเทีญ
ประชาธิปกสมพะสกจ้อง ปกเกล้าเพราศันต์ ขอเดชะ” ฯ

----------------------------

ทรงรับถวายดอกไม้ธูปเทียน

ทรงตั้งพระราชาคณะฤกษ์ และทรงธรรม

ร่าย

๏ ครั้นสัปดะรัสะนาฬิกา ปรมินทรมหาประชาธิปก
สยามะนายกยอดมะนุษย์ ทรงเครื่องยุธครึ่งยศ
อะลงกฎราชะนาวี สมสง่าสีหะลีลาส
จากราชะมนเทียระพิมาน สู่ไพศาลทักษิณ
ขัตติยะนารินทร์นารี มีบรรดาศักดิ์เฝ้า
น้อมเกล้าถวายอภิวาท ทรงเครื่องราชะสักการ
แท่นพุทธะประธานมณฑล สถิตถะกลบัลลังก์รัชย์
อเนกะนางกษัตริย์นางใน ถวายดอกไม้ธูปเทียน
น้อมเศียรนอบระยอบชงฆ์ พระจอมพงศ์เสด็จออก
พระโรงนอกอะมะรินทระฯสถาน ทรงสะการพุทธะพรรณี
จุลีย์รัตนะปฏิมามระกต เกลื่อนเกล้าประณตเกศะก้ม
พระบรมะวงศานุวงศ์ ทรงยืนสะพร้อมน้อมเศียร
ถวายธูปเทียนบุบผะชาต เสนามาตยะยืนพร้อม
น้อมศิระน้อมตังวาย ถวายดอกไม้ธูปเทียน
พ่างฟุบเศียรซบบาท บรมะนฤนาถถวายปราณ
พระราชะทานสัญญาบัฏ ไตรพัดบริขาระยศ
ชดสะมะณะศักดิสมญา ตั้งราชาคะณะสงฆ์
ฤกษ์รัชชะมงคละปะฐม สมสิริราชะประเพณี
ศรีศาสนูปะสดมภก สังฆะสาวกธรรมะยุติ์ก์
พระครูสุทธะญาณะสุขุม ปะทุมธรรมะธาดา
เป็นปัญญาพิศาละเถร เพ่นพุทธะเกียรติกำจาย
นิกายมะหานิกายจำกัด มะหาพรวัดประยูระวงศ์
เป็นองค์ปิฎกโกศล มะหาคงปรนปะริยัติ์
วัดสนามเหนือรามัญ เป็นธรรมะวิสารทะ
เชื่อมชยะมงคละพจน์ ทศะชิโนรสสวาธยาย
ฝ่ายนะวกะราชาคณะ หนึ่งถวายอะนุโมทะนา
สังฆะราชาอะติเรก เอกองค์ถวายพรลา
จึ่งพระสาสนโสภณ พร้อมชีต้นสี่สงฆ์
มานั่งมงคละอาสน์ สยามะราชสถิตบัลลังก์
สะพรั่งเครื่องบูชาธรรม ทรงนะมัสะกรรมถะเกีงไฟ
เจ้าไทย์ถวายเทศนา ขึ้นแท่นมะหาเศวตะฉัตร์
เฉลีมสิริรัชชะมงคล ถวายวิมละศีละเบ็ญจางค์
พลางบอกศุภะศักราช ถวายพรยาจะนาภัย
วิสัชชะนานัยสรูปลง มงคละรัตะนะเมตตะสูต
พ่างพุทธะทูตแถลงธรรม ถวายพรนำราชะจะรัณ
เพื่อเถลีงถวัลย์ทวีสวัสดิ์ มงคละรัชชะวะโรปะการ
เบื้องอวะสานถวายยะถา สงฆ์ฐานานุกรมรับ
สัพพีกลับสู่อาสน์ ทรงประสาทธรรมะพะลี
เครื่องกัณฑ์ชีองค์เอก ถวายอะติเรกพรลา
สร้านกุศละฉ่าเฉลีมบุญ พระคุณคืนอาวาส
จอมสยามะชาติ์เสด็จขึ้น นฤนาทครึ้นดนตรี
ไสวเกศีสลอนกาย ถวายคำนับพรึบพร้อม
ขัตติยะขุนนางน้อม มะโนชพ้องสนองพร ไชย์โย ฯ

----------------------------

หัวหน้าสมาคมและพ่อค้าประชาราษฎร

เฝ้าถวายชัยมงคล

โคลงสี่

๏ ทินะกรก่ำฟ้าก่ำ กะมละไท โถมรา
ชะโยกาสชาติ์ถวายชัย ชื่นเกล้า
ชมบุญพระอุ่นมะไห ศวะรยะราชย์ เฉลีมเอย
สมสมัคร์สวามิภักดิ์เจ้า เจีดเบื้องบิดรถวิล ฯ
๏ เสาร์สุทินสับดะพิสดิม์มื้อ มาสะกุมภ์
บัณณะรัสะนาฬีก์ชะรุม ราษฎร์ล้อม
สนามหลวงเกลื่อนรวงกุสุม ะเทียนธูป ถือแฮ
ตำรวจสำรวจพร้อม ไพร่ฟ้าพาเดีร ฯ
๏ เมิลมะหาชนมากเคล้า คลาไคล
แขกฝรั่งพลั่งจีนไท ท่วมปลื้ม
สู่บรมะราชะวังใน สนามจัก รีเอย
เสมือนนิมิตสิทธิโชคยื้ม โชคฟ้ามาสึง ฯ
๏ ผึ่งผยองผองมะนุษยะกลุ้ม กลาดสมร ะภูมิ์เอย
อเนกคะณะสะโมสร ต่างเผ้า
นิเวศะรักษ์จัดพักนิกร สมเกียรติ์ สะกูลฤา
สมุหะพระนะครพะเน้า ทั่วหน้าสามะคี ฯ
๏ จักรีปราสาทซุ้ม มุขเด็จ อุดรเอย
เทียบอาสน์อุภัยะราชเขบ็จ เบีกตั้ง
ห้อยผ้าทิพย์ประเทืองเตร็จ เกรียงเฉีด ฉานแฮ
มะหระธึกแตรศังข์สลั้ง ระดับเรื้องลานชัย ฯ
๏ สนามในไพร่ฟ้าเกล้า เกลื่อนชะนุม
เทียนธูปโกสุมสุม โต๊ะซ้อน
วงศามาตยาประชุม พลอยชื่น ชมรา
โพยมฉ่างพ่างอะมรฟ้อน ฟากฟ้าผะกาโปรย ฯ
๏ ลมโชยชื่นเกล้าชื่น บาระมี
โสฬสะนาฬีก์สุรีย์ ร่อนคล้อย
สยามินทร์ปิ่นกรุงศรี ทรงเครื่อง ทะหารแฮ
เหล่าอัศวางค์อย่างน้อย ออกท้องโรงกลาง ฯ
๏ ในปรางคะปราสาทแก้ว จักรี
เคียงพระปรมะ,ราชินี แน่งน้อย
องคะรักษ์พิทักษ์ธุลี บงกช ะมาษท่าน
มะหาดเล็กเชีญเครื่องคล้อย บาทขึ้นคอยฉลอง ฯ
๏ นางสนองพระโอฐทั้ง พระกำ นัลนา
โดยเสด็จจอมขวัญประจำ แม่เจ้า
เฉลีมบุญพระขุนดำ รวจระแวด ไสวเอย
สมพระเกียรดิผ่านเผ้า พ่างล้อมดารา ฯ
๏ เจ้าพระยายมราชน้อม เศียรภิวันท์
เบีกคะณะนักพรตคัล คู่ไท้
สังฆะราชฆฤสตโรมัน คะโถลิข นิกายรา
เปร์โรสนำคะณะใกล้ บาทก้มเศียรสรวง ฯ
๏ บาทหลวงสิบแปดน้อม วันทะนา
หลวงพี่ฮีแลร์สา มาร์ถรู้
อ่านราชสดุดีคะณา เศียรวาท ถวายเอย
แถลงมะนัสหวังสวัสดิกู้ เกียรติไท้ไทเสนอ ฯ
๏ เวเวอเรนต์โปสต์ผู้ ประธานพรต
เปรสบิเตียเรียนจรด เจตน์เฝ้า
สิบสี่ศาสะนึกหมด อเมริ กันนา
ประสิทธิ์พระพรอ่อนเกล้า แกล่ถ้อยแถลงประเด็น ฯ
๏ แฮฟเฟ็นเด็นโจกพ้อง พาณิชย์ สภาพ่อ
นำฝรั่งสิบแปดพิพิธ ะพ่อค้า
พร้อมกันศิรัญชะลิต ระยอบบาท พระเอย
ถวายพระพรผ่านฟ้า ฝากถ้อยสดุดี ฯ
๏ มิเยกีญิปุ่นด้วย เจ็ดนาย
นอบบาทอะภิวาทผาย พากย์พร้อง
สรรเสรีญพระคุณถวาย เศียรวาท
พึ่งโพทธิสมภารป้อง ปะโยชน์เผ้าเพราศันต์ ฯ
๏ หีบหิรัญบรรจุถ้อย ถวายพร ถวายท่าน
ของญิปุ่นสะโมสร พ่อค้า
เฉลยจิตมิตระสังหรณ์ เหีมภัก ดีเอย
หวังสวัสดิ์ทีฆะรัชย์เจ้า เจีดเกื้อถะเกีงถวัลย์ ฯ
๏ พรรค์จีนะพาณิชนั้น เซียวฮุด เส็งรา
ญี่สิบนายนำชุด เชีดเผ้า
ถวายภิวาทประกาศดุษ ฎีชื่น ชมเอย
สรวมประสาธน์เศียรวาทเฝ้า ใฝ่โน้มมะโนปะถัมภ์ ฯ
กะรัณฑ์คำก้าไหล่ป้อง คำสดุ ดีท่าน
คะณะจินางกูรจุ จิตน้อม
โดยสวามิภักดิ์อุ เทศะเทีด ถวายแฮ
เฉลีมราชะอะนุสรณ์พร้อม สมัคร์เอื้อมอาสา ฯ
๏ นายนานาพ่อค้า อิสะลาม
คะณะแขกญี่สิบสาม เสกซร้อง
สรรเสรีญพระคุณตาม จริงจิต นิยมแฮ
อ้าหล่าเชีญมาป้อง ธิปัติ์เจ้าเจรีญถวัลย์ ฯ
๏ สุวรรณะมัญชุสก้าไหล่ รองบัฏ
เศียรวาทวีระกษัตร์ เสกถ้อย
เฉลีมราชะสิริสวัสดิ์ วุฒิสืบ สยามเทีญ
ระลึกจิตอิสะลามชะม้อย มุ่งเกื้อเกษมถวัลย์ ฯ
๏ พรรค์แขกพ่อค้าซิกข์ โสฬส บดีเอย
อ่านราชะสดุดีพจน์ ผ่านฟ้า
พรถนอมพระจอมยศ สยามะชาติ์ เฉลีมเทีญ
เกษมภิเษกเฉกผองข้า บาทโน้มมะโนสนอง ฯ
๏ สำเภารองบัฏชะเงื้อม เงินงาม
เป็นราชะพะลีสยาม ะราชเจ้า
แถลงคะนึงพึ่งบุญทราม พิบัติ์เบีก เกษมแฮ
ก่องกะตัญญูพะเน้า มะโนชย้อมนิยมถวิล
๏ ชะคัตรามฮิ่นดู่พร้อม คะณางค์นิยม
ญี่สิบสามนามผสม ซบเกล้า
สรรเสริญเกริ่นคุณบรม กษัตริย์ภิเษก สยามเอย
อ้างเดชอัมะเรศเฝ้า ใฝ่น้อมพรถวาย ฯ
๏ ฝ่ายคะณะแขกเทศผู้ สมภูมิ์ พิสเอย
นายอับดุลกายูม อยู่หน้า
หีบหิรัญบุษบันตูม แต่งปก พรเพื่อน
เชีญเชีดเทีดเดชอ้า หล่าป้องผยองนาน ฯ
๏ อ่านอักษรเสกถ้อย แถลงคุณ
บรมะนาถชาติ์เฉลีมบุญ เบีกฟื้น
ถวายพรพระพรอะดุล ะศักดิ์ประสิทธิ์ สมเทีญ
พำนักภักดีชื้น ชีพด้วยเดชา ฯ
๏ พระยากรมะท่าซ้าย ศักดา ดิเรกเอย
นามบริบูรณโกษา ฯ เศรษฐ์กว้าง
นำสยามวณิชะอา เศียรวาท ถวายแฮ
ญี่สิบหกท่านสล้าง ร่วมน้ำใจสนอง ฯ
๏ ขันถมรองบัฏน้อม เศียรสะการ
เสนีญพระคุณมะหิบาล บากเอื้อ
พึ่งผะดุงรุ่งเรืองตระการ เกษมพะสก สมเอย
สรวมสวัสดิ์จิระรัชย์เกื้อ กฤตยะค้าสถาวร ฯ
๏ สะดับพรสิบคะณะน้อม เศียรถวาย พรท่าน
เฉลยราชสดุดีภิปราย ปลี่ถ้อย
สมเด็จพระจอมชาย สยามะชาติ์ เฉลียวเอย
ตรัสตอบขอบใจคล้อย มะนัสะโน้มโถมถวิล ฯ
๏ แม้สยามินทร์มุ่งเกื้อ การนะคร ไฉนฤา
จักประสิทธิ์อิฐะสังหรณ์ เหตุด้วย
ศาสะนิกวะณิชนิกร นุกูละช่วย ฉลองท่าน
เสมือนอะวัยะวะช้วย เชื่อมเกื้อสกนธ์เกษม ฯ
๏ ทรงเปรมปรีดิ์ที่แจ้ง ใจภัก ดีรา
ท่านที่มีศักดิ์สมัคร์ มอบน้อม
ร่วมมุ่งช่วยผะดุงจักร ะราษฎร์รุ่ง เจรีญเอย
สรวมสวัสดิ์พัฒนาย้อม ชีพช้าเฉลีมคุณ ฯ
๏ สมบุรณ์สมตรัสเอื้อน อวยศรี ประสิทธิ์เทีญ
แด่ทุกท่านทวีดี เด็จเศร้า
ขอบใจใฝ่อารี เศียรวาท ถวายเอย
แด่พระราชินีเจ้า จึ่งพร้องสนองแทน ฯ
๏ แสนโสมะนัสะน้อมศิโรตม์ รับพระ พรเอย
ต่างท่านต่างถอยผละ ที่เฝ้า
จากไท้แต่ใจจะ จากระลึก ไฉนเลย
วะโรกาสทูนบาทเจ้า พิภพล้วนพะอวนถึง ฯ
๏ รำพึงพึ่งบาทเกื้อ กะระณีย์
เพิ่มพะณิชย์กิจสวรรค์ทวี โวฒิ์ด้าว
ทุกกะมลก่นหวังดี แด่บาท ะบงสุ์รา
สมานจิตพิธะพรรคน้าว สนิธน้ำใจผะดุง ฯ
๏ จอมกรุงเสด็จออกหน้า จักรี มุขเอย
มะหระธึกแตรศังข์นี นาทซร้อง
เศียรพันต่างอัญชะลี แลอเนก ขนานนา
สามคาบไชย์โยก้อง กระหึ่มด้วยปรีดา ฯ
๏ ต่างตาต่างจ้องชื่น ชมองค์
อุภัยะกษัตร์ประณมหัตถ์จง เจตน์ปลื้ม
ต่างใจต่างถวายมง คละสวัสดิ -หวังแฮ
จวบพระโฉมชะไมยื้ม ยั่วชะม้อยถอยหาย ฯ
๏ หญิงชายชื่นเกล้าพระ กะรุณา
รับพิกุละรัชดา แจกถ้วน
เกลื่อนกระพุ่มกลุ่มหัดถา ถวายภิวาท ไสวแฮ
ประชาราษฎร์ทุกชาติ์ล้วน ร่วมตั้งกะตัญญู บาระนี ฯ
๏ ทุกประตูพรูพลั่งเจื้อย ประชาจร
ทุกแพรกทุกทิศสลอน หลากเผ้า
จากวังท่วมถั่งนะคร คะนองชื่น ชีวารา
บุญไพร่ยลอุภัยะเจ้า พิภพผู้ผะดุงสยาม ไชย์โย ฯ

----------------------------

ทรงรับถวายดอกไม้ธูปเทียน และทรงธรรมเฉลีมพระราชสิริ

โคลงสี่

๏ ตามหมายบ่ายคล้อยสพ สุริยะสา ยัณห์เอย
จวนสิบเจ็ดนาฬิกา กะพร้อม
วงศะราชมาตยะชายา สยมะภัก ดีท่าน
ทั้งฝ่ายในหน้าน้อม มะนัสะเบื้องบุญชม ฯ
๏ อาตม์อ่าสมหน้าครึ่ง ยศะแกล ตราเอย
ผะกากูบธูปเทียนแพ เพียบตั้ง
ไพศาลฯ อุฬารแล ดิเรกฝ่าย ในเจ้า
เสมือนสง่าฝ่ายหน้าสลั้ง ดิลกเวี้งอะมะรินทร์ฯ ฯ
๏ จักรินทร์จากห้องจักร ะพรรดิ์พิมาน
ทรงเครื่องครึ่งยศทะหาร บกม้า
เสด็จคระไลสู่ไพศาล สรวงพระ แล้วท่าน
สถิตราชะบัลลังก์ข้า บาทข้างในชระเดียร ฯ
๏ ถวายธูปเทียนดอกไม้ ถวายตัว
โอนอ่อนถอนสายบัว เบี่ยงเกล้า
สมเด็จพระอยู่หัว ออกพระ โรงเฮย
เสร็จนะมัสะการพระเจ้า ประทับเจ้าขุนคัล ฯ
๏ สรรพะมะหาเสวกถ้วน เสวะกา รองเอย
ถวายธูปเทียนมาลา นอบเกล้า
สงฆ์รับราธะนามา สถิตอาสน์ สงฆ์แฮ
สมเด็จสังฆะราชเจ้า เสด็จขึ้นบัลลังก์ ฯ
๏ ที่นั่งเศวตะฉัตรช้อน ชะโยปะถัมภ์ ถนองท่าน
ทรงเครื่องบูชาธรรม เทียบพร้อม
ถวายศีลและแถลงคำ บอกศัก ราชแล
ถวายพระพรอ่อนน้อม เผื่อพลั้งหวังอะภัย ฯ
๏ เสนอนัยธรรมะลักษณ์เบื้อง เทวะตา ทิสน์เอย
จักระวรรดิวัตกะถา ถ่องถ้วน
ทศะพิธราชะธรรมะสา ระรัชชะเลีส เฉลีมแล
ยะถารับสัพพีม้วน สัตถะแล้วถอยลง ฯ
๏ สุดเสียงสงฆ์สนั่นครึ้ม ดนตรี ประโคมรา
ทรงประเคนพัสดุ์พะลี เทศน์แล้ว
สังฆะราชอะติเรกชี เฉลีมพจน์ ผะดุงท่าน
ถวายพระพรลาแคล้ว จากท้องโรงคัล ฯ
๏ จอมถวัลย์ขวัญชาติ์ขึ้น ปรางค์ใน
เกร่อท่านกลางศิรางค์ไสว แวดน้อม
สมวิศิษฏ์อิศวะระมะไห ศวรรเยศ ผยองเอย
ทุกจิตเรีงจิตพร้อม จิตชะม้ายถวายพร ไชย์โย ฯ

----------------------------

พระราชอภัยทานปล่อยนักโทษ

โคลงสี่

๏ มะหานะครอะมระรัตน์เจ้า จักรี กษัตร์เอย
สงวนพระราชะประเพณี เนื่องต้น
ปางภิเษกเอกอัยยะสีห์ สันตะติสืบ สนองรา
ปล่อยโปรดนักโทษพ้น โทษให้อภัยะทาน ฯ
๏ ระวิวารอัฐะพิสดิม์สิ้น กุมภา พันธ์พ่อ
กรมราชะทัณฑ์พาคะณา นักร้าย
ตรำทุกข์คุกตะรางมา ประชุมณะ ศาลแฮ
ระลึกพระมาลัยละม้าย เปีดเวี้งอะเวจี ฯ
๏ เสนาบดียศะเจ้า พระยา
เอกอภัยราชา ร่วมเชื้อ
รับบรมะราชะโองกา ระเกียรติต่าง องค์ท่าน
ปล่อยโปรดนักโทษเนื้อ เลือดด้าวเฉลีมดี ฯ
๏ จอมชิวีสังเวชผู้ อันธะพาล ผองเพื่อน
ปะทุสสะจิตบิดบรรดาล เดีดเข้า
ตรุขังสังขะลิกะฐาน ทุกข์โทษ ทนแฮ
จึ่งออกโอฐโปรดเกล้า ตรวจถ้วนทะเบียนถวาย ฯ
๏ ข่ายการุญญะลักษณ์นั้น กำหนด
ปล่อยใช่ปล่อยคนหมด คุกล้าง
ปล่อยเฉพาะเหมาะสมกฎ หมายมุ่ง สมานเพื่อน
เพื่อทะนุกสุขเกษมสร้าง สวัสดิเลี้ยงเวียงศันต์ ฯ
๏ อุกฤษฏะทัณฑ์นั่นโปรดยั้ง ประหารแหน หัวแฮ
จำคุกจนตายแทน โทษซึ้ง
มะหันตะโทษโปรดปล่อยแสน สมประพฤติ์ ดีพ่อ
ทนญี่สิบปีตรึ้ง กระลับน้ำใจกุศล ฯ
๏ เว้นคนโทษพิฆาตได้ อะภัยครา หนึ่งแล
คะรุโทษกะทงเดียวปรา กฎเปลื้อง
ใจชั่วกลับตัวหา หิตะประโยชน์ ผยองเอย
จำกว่ากึ่งโทษเสื้อง ส่อให้อะภัยสม ฯ
๏ มัธยมะโทษที่ต้อง จำตะพึด
กว่ากึ่งโทษหากประพฤติ์ ชอบใช้
สาระภาพเข็ดหลาบยึด ยำชั่ว แล้วรา
เข้าข่ายอะภัยะทานให้ ปล่อยเว้นบางคน ฯ
๏ โจรสลัดปล้นอั้งยี่ วางเพลีง
โกงตะเพิ่นปลอมเงินเชีง ฉกฉ้อ
พะยานเท็จบ่เข็ดละเลีง ฉลายศักดิ์ มะนุษย์นา
ขังคุกทุกข์ท้อข้อ ขยาดน้อยไฉนยำ ฯ
๏ ละหุโทษจำถ่ายใช้ พินัยหลวง ก็ดี
หรือเพราะสินไหมทวง โทษเอี้ย
ทะหารตำรวจหนีทะบวง บ่งราช อะภัยแฮ
เว้นโทษลักเล่นเบี้ย สบถปลิ้นปลอมสาร ฯ
๏ ชะราพิการอายุชั้น ปะฉิมะวัย
อุกฤษฏะโทษมะหันตะโทษไฉน โปรดเกล้า
สงสารราชะทานอะภัย ะโทษทุก คนแล
มิตร์ญาติ์อะนุญาตเร้า รับให้ไปปะถัมภ์ ฯ
๏ จึ่งนำนักโทษแคว้น กรุงเสนอ
มะหาอมาตย์ยุกติธรรม์เธอ ถั่งพ้อง
พระยาสมุห์พระนะครเลอ ศักดิเพชร ะดาแล
ชัยวิชิตราชะทัณฑ์ป้อง ประกอบผู้พิพากษา ฯ
๏ พระยาอะธิบัติเบื้อง โบรี สะภาเอย
มานวราชเสวี เกียรติ์เรื้อง
พระยาพัศดีฤดี กะรุณะเจตน์ คุมแฮ
คอยขยับรับสั่งเปลื้อง ปล่อยพ้นโทษา ฯ
๏ ห้าร้อยห้าสิบห้า นักโทษ ชายพ่อ
หญิงญี่สิบเอ็จโปรด ปล่อยถ้วน
ห้าร้อยเศษคนโฉด เจ็ดสิบ หกฮือ
รวมทุกมณฑลล้วน สรูปสิ้นสองพัน ฯ

ร่าย

๏ เบื้องนั้นจึ่งเจ้าพระยา อภัยราชามหาอมาตย์
ราชะสกุละเสนาบดี มีน้ำใจกะรุณา
แจกผ้านุ่งผ้าสะพัก นักโทษทุกสตรี
กางเกงมีผ้าคาด นักโทษชาตชายจน
เงินอีกคนละบาท อวยโอวาทน่าฟัง
หวังสั่งสอนพรประสิทธิ์ ผู้พ้นผิดเพื่อเอื้อ
อาชีพเกื้อพฤติการ “เมื่อพ้นฐานเป็นโทษ
โดยพระโปรดกะรุณา ณะมะหาราชาภิเษก
มงคละเอกเถลีงถวัลย์ เดชทรงธรรม์เวทะนา
ไพร่ฟ้าอันพะเอีญผิด อะกุศละจิตครอบงำ
ยำสันดานดึ่งชั่ว ยั่วสันดานดึ่งคุก
ต้องทนทุกข์ทนโทษ บัดนี้โปรดภาคทัณฑ์
ยกโทษบรรเทาระทม สมระลึกถึงพระคุณ
ราชะการุญล้นหัว น่าตั้งตัวกะตัญญู
เชิีดกรชูถวายพระพร พร้อมกันจรสู่ถี่น
คิดหากินเรียบราบ สุจริตะภาพสมชาติ์
เลิกอาฆาตข่มเหง เลีกนักเลงระราน
รักเพื่อนบ้านเอาใจ ไร้พยสนะไพร่เลวทราม
เสื่อมศักดิ์สยามเสียชาติ์ เลีกประมาทมุ่งถนอมตน
เป็นพละเมืองดีหมั่น มานะมั่นหมายชอบ
กอบแต่บุญแต่ทาน ไป่คบพาลปาปะมิตร์
คบบัณฑิตคบพระ กุศละสะสมทั่ว
เลี้ยงครอบครัวเลี้ยงตน บรรลุผลสุขะศันติ์
สมมิ่งขวัญสมสะกุล พึ่งชมบุญบรมะกษัตร์
เจรีญศรีสวัสดิวัฒะนา ไร้โรคาพิบัติภัย
จงตั้งใจจดจำ น้ำคำเราสั่งสอน
จงสมพรเราประสิทธ เรีงชีวิตชื่นช้า
กอบกิจคิดขายค้า ยืดย้วยรวยสม จริตเทีญ” ฯ

โคลงสอง

๏ พุ่มมือประณมมากร้อย รับพจน์รับแจกชะม้อย
ทะมื่นน้ำใจเกษม แสนแล ฯ  
๏ เปรมกะมลพ้นโทษพร้อม พ่อแม่แกล่เกลื่อนล้อม
กริ่มหน้าลาคระไล แลนา ฯ  
๏ เสมือนเกีดใหม่แม่นแท้ นักโทษพ้นโทษแสร้
ส่งถ้อยถวายพร ไชย์โย ฯ  
๏ ลูกเมียสลอนร่อยิ้ม ญาติมิตรชีวิตปิ้ม
เปี่ยมด้วยปรีดา บาระนี ฯ  
๏ สาธุการมือท่วมเกล้า ขอบพระคุณพระเจ้า
ชิวิตเปลื้องพันธะนา พ้นแน ฯ  
๏ ขอชันมะษายืดเยื้อ เสวยสุขนฤทุกข์เกื้อ
เกศข้าสิมาเกษม บาระนี ฯ  
๏ เอีบเอมอี่มจิตเต้า ปราโมทย์เดชโปรดเกล้า
กราบร้อยพันสยม สรวงแล ฯ  

----------------------------

เลียบพระนครสถลมาร์ค

โคลงสี่

๏ ปะฐมะสุทินมินะมาสะมื้อ ศัศิวา เรศเอย
เตรียมเสด็จพยุหะยาตรา เลียบแคว้น
กรุงเทพอะมระรัตน์มะหา นะคระจัก -รีพ่อ
เผยพิศิษฏ์์นิติราชย์แม้น ศิวะเมื้อเมืองเยือน ฯ
๏ กล่นเกลื่อนกระบวนใหญ่สล้าง พรรลึก
พละรบพละเรือนอะธึก เทียบริ้ว
สี่สายผึ่งผายผนึก แผนกเรียบ รายแฮ
กลองชนะจังหวะวิ้ว สง่าเวี้งวังชัย ฯ
๏ ทวยไททวยเทศะล้วน เรีงประนอม มะโนเพื่อน
ชมพระบาระมีจอม เจิีดเกล้า
เสียงลือเลีสระบือหอม เกียรติราช เฉลีมเอย
อุภัยะภาคสถละมาร์คเคล้า มะนุษยะร้อยพรรณขนาน ฯ
๏ ราชะสักการทุกบ้าน บูชา
เทียนธูปบุบผาดา ดื่นตั้ง
นั่งประณมเพื่อคมมะหา ยุคละบาท พระเอย
ยืนก็ยืนหมื่นสลั้ง เพื่อน้อมเศียรภิวันทน์ ฯ
๏ สีสรรพ์สมสง่าเสื้อ สวยสวย
สุภาพบุรุษสตรีจะรวย รื่นยิ้ม
ทั่วหน้ามะนะสาอวย สวัสดิอิ่ม อุราแฮ
น่าพินิศะฟูจิตปิ้ม เปิ่งร้องไชย์โย ฯ
๏ เสมือนโอกาสพระเจ้า จากสวรรค์
สะพานรัตน์อุไรหิรัญ ลิ่วฟ้า
แสนสัตว์เทีดนะมัสะบรร เทีงพุท ธะคุณพ่อ
สยามะเหล่ายลเจ้าหล้า ละม้ายถวายชัย ฯ
๏ ตำรวจระไวรัถยะริ้ว เรียงกระจาย
จัดรถจัดคนราย เรียบร้อย
สมเสพน์เทพะนิกายปราย กุสุมะทิพย์ ถวายฤๅ
ชื่นมะโนชปราโมทชะม้อย หมื่นหน้าสาธุการ ฯ
๏ ลูกหลานรุ่นหนุ่มเถ้า เทมา
บ้านนอกขอกนาพา เพื่อนเข้า
กรุงมุ่นตื่นบุณยะบา ระมีราช เราเอย
โดยชื่นชมนิยมเฝ้า บาทมื้อเฉวียนเมือง ฯ
๏ แม้เปลืองแม้เหนื่อยแม้ มีงาน ก็ดี
ผละพรากจากถิ่นฐาน ท่วมปลื้ม
เรือไฟรถไฟขนาน คนแน่น เนืองพ่อ
สยามะเผ่ารักเจ้ายื้ม ปู่เถ้าเนาถนอม ฯ
๏ ยอมแผ่สุดแท้จัก กะรุณา เลี้ยงเทีญ
ขอแต่อิ่มนอนตา หลับแล้ว
ไป่นึกฮึกเหีมหา เหตุทุ่ม ทะนงเลย
คร้านนิดแต่จิตแกล้ว กระลับเฮี้ยนเลียนฉมัง ฯ
๏ ผิวะยังอ่อนรู้อ่อน พะลาธิการ ก็ดี
เปรมปลุกสุขศันติ์สมาน มิตระชื้น
เมืองสงบสพเกษมปาน ปุรัคระชาติ์ เฉลีมเอย
อเนกะชาติ์ถึงผงาดฟื้น แฟ่ร้ายหมายไฉน ฯ
๏ ไทเป็นไทพึ่งไท้ ทะนูปะถัมภ์
ฝนฉ่าทำนาดำ เกี่ยวอื้อ
สวามิภักดิ์รักเรียนบำ รุงครอก ครัวเทีญ
สยามะจักร์จักเจรีญมื้อ หนึ่งเหี้ยมเทียมเขา ฯ
๏ เจ้าเราปกเกล้ารอด เป็นเชลย
เพื่อนชาติ์ต่างพินาศะเกย แกร่วกลิ้ง
ถึงสมัยละไทเอ๋ย ด่วนตื่น เถีดเพื่อน
ใฝ่ฝึกศึกษาทิ้ง เถ่ยคร้านงานขยัน บาระนี ฯ

ร่าย

๏ ศุภะวันสุวรรณะอักษร เหล่าราษฎรปรีดา
ยิ่งมะหานักษัตระฤกษ์ เบีกบานสมนิยมยิน
จอมโกศินทร์นัคะเรศ จักเสด็จประเวศเฉวียนเวียง
เสียงลือกระฉ่อนนะครหลวง ทุกกระทรวงทะบวงการหยุด
เป็นมะหุร์ดิฤกษ์สะเรีงราษฎร์ ฝูงประชาชาติ์คฤหะบดี
เศรษฐีนายห้างร้าน ล้วนสะโมธานสมานสมัคร์
โดยจงรักภักดี พึ่งบาระมีภีนิหาร
รัถยาสถานแห่แหน แม้นนิรมิตเมืองสะคราน
สมุหะนะครบาลตั้งปะรำ ถนนราชะดำเนีรใน
ใกล้เนติบัณฑิตยะสะภา สำหรับข้าราชะการ
เฝ้าบทะมาลย์จอมกษัตร์ จัดเป็นหมวดมะหาดไทย์
ในสนามถนนพระจันทร์ ปันเป็นกระทรวงต่างประเทศ
ปลูกปะรำเขตเยื้องศาล เป็นสถานทูตกงสุล
สะกุละวิรัชชะเพสภาสา พาภรรยาพาดะนัย
ชมบุญไท้ไปล่ปลื้ม มีเครื่องดื่มเครื่องว่าง
ไสววางต้อนรับเลี้ยง ปะรำเรียงมุมสนามหลวง
เป็นทะบวงนัคะราทร เพื่อพักผ่อนร้อนสร่าง
ตรงซุ้มนางพระธระณี เป็นที่ข้าราชะการ
พาวงศ์วาลเฝ้าบาท ริมราชะดำเนีรกลาง
สร้างปะรำเชีงสะพาน ผ่านพิภพลีลา
ของพ่อค้าจีนเฉลียว เซียวฮุดเส็งหัวหน้า
เครื่องบูชาจีนตั้ง ทั้งเครื่องดื่มบริบูรณ์
สำหรับสะกูลพ่อค้า จีนะชาติ์มาทูนธุลี
สี่แยกถนนตะนาวทำ ปะรำข้าหลวงเดีมเสถียร
เยื้องโรงเรียนสตรี เป็นที่พ่อค้าไท
ปลูกปะรำไว้วันทะนา เครื่องบูชาเรียงหลาย
มีเครื่องสายบรรเลง เพลงสรรเสรีญบาระมี
จอมธระณีเมื่อผ่าน ปะรำเชีงสะพานผ่านฟ้า
ของพ่อค้าแขกตั้ง สะพรั่งพวกแขกคอยสะลาม
ชมจอมสยามเลียบเวียง ยังปะรำเรียงกันห้า
หน้าหอสมุดวะชิระญาณ ผ่านถนนหน้าพระธาตุ
ข้าราชะการหอสมุด ปะรำชุดกรรมะการะสะภา
ปะรำข้าหลวงฝ่ายใน ปะรำใหญ่นักเรียนชะนุม
ซุ้มสงฆ์ถวายชัยะพร ปางภูธรผ่านวัด
กาชาดจัดเต็นตั้ง สี่หลังหนึ่งเชีงสะพาน
ผ่านพิภพลีลา สองผ่านฟ้าลีลาส
สามอาวาสบวระนิเวศ สี่วัดเชตุพนสถาน
นางพะยาบาลคอยทะนุก บรรเทาทุกข์ทวยประชา
มีน้ำยาหลายขนาน เลี้ยงสาธารณ์ทั่วกัน
เป็นปัจจุบันะพะยาบาล ยังกรมทะหารเรือวาง
อ่างลายครามน้ำสอาด ยาปะทุมะชาดแช่เย็น
เป็นสาธาระณะกุศล เลี้ยงมะหาชนขะบวนแห่
แต่สุทไธศวรรย์ไป ถึงวิเศษชัยศรีวาง
ญี่สิบอ่างโดยตรา ทุกบ้านข้าราชะการ
แถวห้างร้านค้าขาย เรียงปะรำระบายธงผ้า
โต๊ะบูชาเลอสลั้ง ตั้งบรมะฉายาลักษณ์
โรงพักชนะสงคราม ปลูกปะรำงามสง่ายวด
กรมตำรวจนะครแต่ง ทั้งแหล่งสงฆ์ถวายชัย
ขวดดอกไม้สดอร่าม หน้าอารามละลานตา
ตลอดรัถยาเยียดคน หญิงชายปนกันประนัง
ทั้งไพร่ทั้งผู้ดี ทั้งเสนีอำมาตย์
ทั้งต่างชาติ์ต่างเพส พอสุริเยศะบ่ายคล้อย
ยิ่งร้อยร้อยระดมรุม มาชะนุมในสถละมาร์ค
ทั้งสองฟากแออัด ขายสาระพัดเครื่องดื่ม
เครื่องเคี้ยวลืมหิวโหย โดยปลื้มโดยอิ่มหนำ
ล้วนชื่นฉ่ำใจชม บรมะราชะสมภารกษัตร์
ล้วนโสมะนัสะปรีดา แสนมะนะสาถวายพระพร
พระจอมนิกรสยามะชาติ์ ซึ่งเสวยราชย์สับดะมะรัชย์
แสนหัตถ์เทีดสะโมธาน ถวายนะมัสะการเกียรติคุณ
หวังพึ่งบุณยะบาระเมศ บำรุงประเทศถวัลยะศักดิ์
อาณาจักร์รุ่งเรือง เป็นพ่อเมืองมิ่งเผ้า
เดชดิลกพระปกเกล้า เกรีกช้าเฉลีมปราณ ยิ่งเทีญ ฯ

โคลงสี่

๏ สุริย์ฉานผ่านฟ้าเกือบ นาฬิกา
บัณณะรัสขัตติยะมะหา ราชเยื้อง
สู่ที่นั่งดุษฎา ภิรมย์เอี่ยม องค์เอย
จันทระเดชสีเศวตเรื้อง สิริช้อนเฉลีมองค์ ฯ
๏ ฉลองชงฆ์ฉลองบาทแพร้ว แพรขาว
ฉลองพระองค์ในสะกาว ก่องเกลี้ยง
ดุมหัตถ์เพชระรัตน์วาว วะวับส่ง แสงเอย
ปลอกพระศอลออเพี้ยง แผ่นแป้งแสงเฉลา ฯ
๏ สนับเพลาเศียรนาคช้อย เชีงสุวรรณ วาวพ่อ
ภูษิตขาวเขียนสุพรรณ เฉีดแผ้ว
ฉลององค์เยี่ยระบับปิลัน ธะนาก่อง สะกาวเอย
ดุมเพชร์ตะละเม็ดแพร้ว สะพร่างคล้ายประกายหาว ฯ
๏ ดาวเพชร์เหรียญเพชระพร้อย เพราทรวง
ทรงสะพักจักรีพวง ครีพห้อย
สังวาลนพะรัตน์รวง นพะรัตน์ มเลืองเอย
สร้อยพระนพพระสร้อย ธุหร่ำแม้นนิมานถวาย ฯ
๏ สายรัดองค์รัตะนะซ้อน สุวรรณะวาว วิเชียรเอย
ฉลองพระองค์ครุยพราว มาษพร้อย
สร้อยช้างเผือกแพรขาว ขะจิตะศักดิ์ สรวมแฮ
ทรงพระชะฎา, กะฐินน้อย นาดขึ้นเกยชัย ฯ
๏ ครั้นได้มะหุร์ดิฤกษ์ย้าย สุระยาน สถิตเอย
ที่นั่งพุดตานกาญจน์ ก่องหล้า
จางวางประคองพาน ฉลองบาท สอดท่าน
เสียงกระทั่งศังข์แตรท้า ระธึกก้องกลองชัย ฯ
๏ พะหละไกรน้อมเกล้ากลับ กระบวนผัน
ขยายพยุหะยาตราอะนันต์ เนื่องเต้า
สง่าราชพิริยะขัณฑ์ฉัน เชษฐะจัก รีฤา
เสร็จเศีกเบีกขะบวนเข้า เหยียบแก้วโกศินทร์ ฯ
๏ ชัยะเภรินครุ่มครึ้ม คลากระแสร กระบวนท่าน
เสียงปี่เสียงศังข์แตร เกรีกเคล้า
ตำรวจมะหาดเล็กแล ตระลิึงศัสตร์ สยองเอย
พ่างอะมัจจักระพรรดิเผ้า แผ่แกล้วเกรียงสมร บาระนี ฯ

ขะบวนทหารบก

๏ นิกรทะหารบกออกหน้า นำขะบวน
อาจเพีกแสนเศีกรวน ราบแพ้
จงรักบดิศวรสงวน ยุคละบาท สนองท่าน
ผะดุงชาติ์ศาสนาแม้ เลือดเนื้อเถือพะลี ฯ

กรมบัญชาการกองพล

๏ นายพลตรีเกรีกแกล้ว เอกอง คะรักษ์เอย
พระยาพิชัยรณรงค์ ร่อนม้า
นำพยูห์หมู่พะหละสง ครามเชี่ยว ชัยแฮ
วินัยะมั่นบัญชากล้า กราดป้องผองพะลางค์ ฯ
๏ สี่ตนต่างช่วยเบื้อง บัญชา การเอย
นามพระไกรกรีธา แกว่นถ้วน
กับพระเทพเดชา ขุนชวะ หัตถ์แฮ
ธนะพุฒิ์ร้อยโทล้วน ขับม้าถาเรียง ฯ

กรมทหารบกม้ากรุงเทพ ฯ รักษาพระองค์

๏ พันโทเกรียงฤทธิผู้ บังคับ การเฮย
หัยะนิกะนิกระขับ ขี่ม้า
พระโจมพินาศรับ อำนาจ สนองท่าน
คุมหมู่มะหัศวากล้า กลั่นเข้าขะบวนทะหาร ฯ
๏ ขุนประสานดุริยะผู้ ครูแตร วงเอย
ผยองอัศวดรดูแล เหล่าม้า
บัลเลงดุริยางค์แปร เพลงเพราะ แผลงฮือ
เฉลีมพระเกียรติ์เจ้าหล้า เลียบแคว้นแผนผยอง ฯ
๏ กองแตรวงขี่ม้า บรรเลง
แตรปี่กลองประลองเพลง คล่ำครื้น
ปลุกใจไพร่ฟ้าเครง ครึ้มยั่ว นิยมแฮ
ทะหารเหี่มเสรีมจิตฟื้น ฝ่าร้ายวายสยอง ฯ
๏ ธงประจำกองม้ามิ่ง ม้าเหีร
ทะนายเทีดเชีดเชีญเดีร เดชห้าว
สง่ากองย่ำสยองเมีล มะหิทธิศักดิ์ สนามแฮ
สมขนัดอัศวิกก้าว กน่ำเสี้ยนเศีกแสยง
๏ แตรเดี่ยวแซงม้าสี่ ม้าผยอง หยัดเอย
เรียงตับคอยขยับปอง เป่าอ้าง
บรรหารสั่งทะหารสนอง เกียรติ์ก่น ประสงค์แฮ
แกล้วฝึกเข้มคึกค้าง ขณะน้อยไฉนมี ฯ

กองร้อยที่ ๑

๏ กองร้อยที่หนึ่งผู้ บงการ กองเอย
ขุนอะธึกประจันบาน บากสู้
ขี่ดุรงค์จิตทะนงผลาญ ปัจจะนึก สนองท่าน
ชาญอัศวากล้ากู้ เกียรติ์ก้ำนำพะหล ฯ
๏ คนบังคับหมวดนี้ สี่นาย ร้อยนา
รมยะบุรุษ, เกตุนุติ์ชาย เชี่ยวม้า
บุญสมศักดิ์สมกาย สมเกียรติ์ ทะหารแฮ
ชัยะโกมลกล้า กลั่นขึ้นมะโนมัย ฯ
๏ ไสวทะยานทะหารม้าขับ พาชี
มือเทีดทวนจามะรี เรียบเต้น
หมวกขาวภู่ขาบสี สนอบขาบ ขมึงแฮ
ครบสี่หมวดอวดทะเล้น ร่านล้างกลางสมร ฯ

กองร้อยที่ ๒

๏ สิทธิกุญชรร้อยเอก เหีนอัศ วารา
บังคับพละม้าขนัด เนื่องเต้า
กองร้อยที่สองหัด เหีมขี่ คะนองแฮ
คอยสั่งผาดผังเข้า ข่มขยี้อรีสลาย ฯ
๏ นายหมวดบังคับเผ้า พละพา ชีเอย
สุบรรณณอยุธยา ยั่นน้อย
บุนนาค, ทับทิมถา หัยะเหี่ม หาญแฮ
เสวิกุลนายร้อย สี่ป้องผองพะหล ฯ
๏ พละแสระขับแสระริ้ว เรียงตับ สี่พี่
ทวนเทีดหัตถ์ลำดับ หมวดร้อย
องค์อาจเผ่นผงาดหรับ แต่เรียบ เรียงแฮ
แก่ฝึกฮึกเหีมชะม้อย มุ่งเข้าเอาชัย ฯ

กองทหารบกปืนใหญ่ที่ ๑ รักษาพระองค์

๏ กรมปืนใหญ่แกล้วรัก ษาองค์
พระยอดอาวุธดุรงค์ ขับเข้ม
บังคับรับรณะรงค์ ฉลองราช ถวิลรา
ถึงเหนื่อยยากปากเม้ม ไม่ท้อขอผะจญ ฯ
๏ นายทะหารคนสนิธขึ้น พาชี ชิดเอย
นามวิมลร้อยตรี เกรี่นกล้า
คอยขยับรับสั่งขมี ขมันสั่ง สมแฮ
กลัวชั่วไป่กลัวข้า ศึกโข้นโผนสนอง ฯ

กองร้อยที่ ๑

๏ กองร้อยที่หนึ่งผู้ คุมโย ธาแฮ
สุนทระวรรณร้อยโท เทีดเชื้อ
เชี่ยวเลขเชี่ยวเล็งโผ พินาศะศัต -รูนา
เหีรมะหัศวินเกื้อ เกียรติ์เผ้าพะลัมภังค์ ฯ
๏ ผู้บังคับหมวดนั้น สองนาย ร้อยนา
ภาณุศว์,วีระหงส์ชาย เฉีดแกล้ว
ใจกล้าขับม้าผาย พละรถ ะปืนรา
ไวว่องคล่องแคล่วแผ้ว เศีกพ้นชนม์สงวน ฯ
๏ ถึงขะบวนปืนลากล้อ รางเกวียน
หัยะลากปากบังเหียน รวบรั้ง
ทะหารผะจำช่ำยิงเพียร ยิงแม่น มือฮือ
ทะหารขับสรรพกระสุนทั้ง หมวดร้อยคอยผยอง ฯ

กองร้อยที่ ๒

๏ กองร้อยสองร้อยเอก ขุนเรีง รณรา
บังคับขับแสระถะเกีง เกียรติ์ห้าว
พิชาแกว่นแม่นมือเชีง ปืนใหญ่ ยิงแฮ
เตรียมออกศึกสะอึกก้าว เกม่นสู้ริปูสลาย ฯ
๏ นายหมวดสองหมวดแกล้ว เกรียงเดช
ลางคุละเสน,สิทธิเวช ว่องม้า
คุมพะหลจระดลเขต ขัตติยะเบีก ขะบวนเฮ
เดีรเรียบสมระเบียบกล้า อวดได้ใครเห็น ฯ
๏ ดุรงค์เข็ญปืนลากล้อ เรียงจรัล
ทะหารขับทะหารคุมขยัน ยอดแกล้ว
ช่ำยิงยัดปัสตัน ประทุกท่วม ถังฮา
คอยขะจัดดัสกระแผ้ว พิภพพ้นผองภะยางค์ ฯ

กรมทหารบกช่างที่ ๑ รักษาพระองค์

๏ กรมทะหารช่างชะงัดเกื้อ เกียรติศักดิ์ สนามเอย
พระศักดาพลรักษ์ ลิ่วม้า
บังคับสรรพการสมัคร์ มอบชีพ ฉลองฮือ
ศิลปะกิจพิทยากล้า กลั่นใช้ใจทะหาร ฯ

กองร้อยที่ ๑

๏ ร้อยเอกชาญช่างเอื้อม อินทะโย ฺธินเอย
บังคับการทะยานโอ กาสเกื้อ
กองร้อยหนึ่งผึ่งโผ ผยองมหัศ วานา
สาระกิจทุกชะนิดเอื้อ อ่อยน้อยไฉนมี ฯ
๏ ร้อยตรีสี่หมวดเข้ม คุมนิกรม พะหลแฮ
ประดิษฐานนท์สม ศักดิ์ใช้
ปรีชา,สุขารมณ์ เรืองสิป ปะกรณ์เอย
อัตถะโยธินไร้ ครั่นคร้านงานสนาม ฯ
๏ หลามถนนพละช่างใช้ เชีงทะหาร
ตับละสี่คนขนาน เนื่องเต้า
แบกปืนแช่มชื่นปาน ไปเล่น กิฬาฤา
สมรักษาองค์เจ้า พิภพผู้ผะดุงพงศ์ ฯ

กองร้อยที่ ๒

๏ บงการกองร้อยที่ สองอุดม ะศักดิ์เอย
ขุนกาจกลางสมรสม กาจกล้า
ศิลปะศาสตร์สมาร์ถนิยม ยุธะเกียรติ์ ถะเกีงแฮ
เหมาะน่าที่ขี่ม้า มุ่นป้องผยองนิกาย ฯ
๏ นายร้อยคุมหมวดนี้ สี่ขุน
ศัศะบุตร์,วงศ์สมบุญ บากเอื้อ
ศีละวันต์,ไปล่ขวัญสะกุล จันทระประดิษฐ์
ขยันกิจทอดชิวิตเกื้อ เกียรติไท้ชัยฉลอง ฯ
๏ ทะหารช่างกองร้อยที่ สองแบก ปืนรา
เดีรตับพรื่อฤาแปลก หมวดต้น
เนืองแน่วเฉกแถวแรก พักตร์รื่น เรีงเฮ
นายสิบนายดาพด้น ระดับริ้วเรียงราย ฯ
๏ นายทะหารคนสนิธผู้ บังคับ กรมนา
ชัยะรัตน์ร้อยตรีขับ ขี่ม้า
ท้ายกองแคล่วคล่องกระฉับ กระเฉงตรวจ ตราเฮย
ไป่ปล่อยรุกปล่อยล้า เรียบถ้วนขะบวนสมาน ฯ

กรมทหารบกราบที่ ๑๑ รักษาพระองค์

๏ ทะหารราบสิบเอ็จผู้ ผะดุงสมร กรมเฮย
คือพระยาดัสกร ฯ เกียรติ์แกล้ว
บังคับขับอัศวะดร เดีรเนื่อง นำแฮ
สวามิภักติ์จักริศแก้ว กษัตร์ป้องผองพะหล ฯ
๏ นายทะหารคนสนิธเข้ม แข็งกิจ
จามะรัตน์สถิตมิตร์์ หมู่แกล้ว
ดุรงค์ผยองประลองฤทธิ์ ย่ำเรียบ ทางรา
คอยขยับรับสั่งแล้ว รีบแจ้งสมใจ ฯ
๏ แตรวงใหญ่เป่าครื้ม มรคา
หน้าแฉ่งแต่งกายา เหยาะเต้า
สนอบครามสดมาลา ขาวภู่ ครามแฮ
สมสง่ารักษาเจ้า เจีดแคว้นขวัญชัย ฯ
๏ ทะหารไทใจแกว่นเหี้ยม เหีรเชีญ
ธงประจำกองเดีร ออกหน้า
นำกองผาดผยองเมีล มะหิทธิเหี่ม หาญแฮ
สง่าช่วยจิตทวยทะกล้า กรี่มชื้นชูขวัญ ฯ
๏ พละขัณฑ์คอยเงี่ยเฝ้า ฟังแตร เดี่ยวพ่อ
อุโฆษข่าวป่าวประกาศกระแสร สั่งซั้น
สี่ทะนายต่างสะพายแจ ธงจรด เดีรเอย
ก่อนผ่านกองทะหารนั้น ออกหน้าถาถนอง ฯ

กองพันที่ ๑

๏ กองพันที่หนึ่งผู้ บงการ
หลวงฤทธิเรืองรณชาญ เชี่ยวห้าว
เหีรมะหัศวาทะยาน สุระยศ ผยองแฮ
กำกับพละทัพก้าว เก่งกล้าถาถนอง ฯ

กองร้อยที่ ๑

๏ นายกองร้อยหนึ่ง,ร้อย เอกคุปต์ เสถียรเอย
ผยองมะโนมัยกุบ กับเต้น
สี่หมวดสี่นายอุป ะกรณ์เกียรติ์ กองแฮ
บังคับรับสั่งเขม้น มะหิทธิเกื้อนิกายฉมัง ฯ
๏ ศังขโพฒิ์,รัตนกิจทั้ง สนิกวา ทีเอย
เหี้ยมณรงค์,วงศา โรจด้วย
กำกับหมวดโยธา ราบเอก ะทัศพ่อ
องค์อาจเลีกขยาดม้วย มั่นได้ชัยะรณ ฯ
๏ พละราบสิบเอ็จห้าว เหีมณะรงค์
ทวยรักษาองค์ทะนง น่าคร้าม
สนอบครามสนับขาลง หมึกหมวก ขาวแฮ
นิละภู่ชูใจป้าม บ่าป้องปืนเดีร ฯ

กองร้อยที่ ๒

๏ ทะเมีลมองกองร้อยที่ สองขยับ ย่างแฮ
ร้อยเอกขุนบังคับ ขี่ม้า
บำราบปฎิปักษ์ศักดิ์ สุระกาจ ฉกรรจ์พ่อ
คุมนิกรตอนหน้า ออกหน้านำพิรีย์ ฯ
๏ สี่หมวดนายร้อยสี่ นายฤท ธิแรงฮือ
แสงส่องใส,สราวิช ควบคุ้ม
ภูมิประภาสฉกาจพิท ยายุธ ยงแฮ
วิเศษะอามินสุ้ม สง่าแกล้วเกรียงสมร ฯ
๏ พะหละนิกรข้อนกระเหี่มน้ำ ใจเดีร
บ่าแบกศรเพลีงเพลีน พล่านเต้า
ตับสี่สี่กองเกีน ฉกาจร่าน ณะรงค์ฮา
สวามิภักดิ์ชูศักดิ์เจ้า พิภพผู้ผะดุงสยาม ฯ

กองร้อยที่ ๓

๏ กองร้อยสามร้อยเอก อวยพิทักษ์ พะหลเฮย
ขุนประหัดปรปักษ์ จิตป้าม
แสระเถลีงถะเกีงศักดิ์ สมเกียรติ์ ทะหารแฮ
คะนองศึกฮึกหาญคร้าม อะมิตรน้อยไฉนมี ฯ
๏ สี่นิกายนายหมวดนี้ สี่ตน
บุณยะเกสานนท์ กับทั้ง
บุญไทช่ำชัยผะจญ จารุบุตร์
เย็นฤดีทวีตั้ง จิตเอื้อมอาสา ฯ
๏ โยธากองร้อยที่ สามสมาร์ถ
บ่าแบกปืนองค์อาจ เอี่ยมเสื้อ
ตับสี่ท่วงทีฉกาจ ถะเกีงเกียรติ์ พะหลเฮอ
สมชาติ์ไทไว้เชื้อ ชื่นหน้าถาถนอง ฯ

กองร้อยที่ ๔

๏ กลองร้อยที่สี่ร้อย เอกขุน
พลฤทธิ์ประจักษ์หนุน เนื่องเต้า
นำกองแห่สนองคุณ จอมทัพ ไทเฮย
ม้าเผ่นเต้นน้อยเข้า ขนัดเหี้ยมเหีรจร ฯ
๏ นายหมวดตอนนี้สี่ โกมล ะมิตร์เอย
กับปัถคามินผะจญ เศีกเหี้ยม
โศภนดิศฤทธิ์ถะกล สมเกียรติ์ ทะหารฮือ
นายรักบ้านเกีดเสี้ยม สง่ากล้าขาณะรงค์ ฯ
๏ พลทะหารคงหัดห้าว เหีมใจ
แต่ละนายหมายชัย เชีดเผ้า
เดีรตับฉับเฉียวไสว บ่าแบก ปืนเพื่อน
ยาวยืดแลสะพรืดเข้า ระเบียบคล้ายไขกล ฯ
๏ นายทะหารคนสนิธผู้ บงการ กองแฮ
พันที่หนึ่งสนองงาน อยู่ท้าย
ร้อยตรีเฟื่องสวัสดิชาญ ชัยต่าง ตานา
เหีรดุรงค์หย่งย้าย ย่ำน้อยคอยสนอง ฯ

กองพันที่ ๒

๏ กองพันสองนั้นผู้ บงการ
หลวงสุระณรงค์หาญ ระเห็จม้า
พันตรียศทะหารชาญ เชีงยุธ ขยันแฮ
วินัยเคร่งเข้มเขม็งกล้า กล่อมน้ำใจฉมัง ฯ

กองร้อยที่ ๕

๏ บังคับกองร้อยเยี่ยม ยุธะนางค์
ทรงยศร้อยโทพะลางค์ ที่ห้า
โยธีพุกก์ช่ำทาง ถนอมจิต พะหลแฮ
ใจเด็จขึ้นระเห็จม้า มุ่นเกื้อกระบวนทะหาร ฯ
๏ ประธานหมวดสี่หมวดนั้น โรหิต เสถียรแฮ
ชัยะพฤกษ์,โกมลมิตร หมั่นเอื้อ
ปาลกะวงศ์ทะนงฤทธิ์ ณอยุธ ยาเฮย
ใจแกร่งกำแหงเชื้อ ชาติ์ห้าวชาวทะหาร ฯ
๏ พะหละชาญเชีงรบรู้ เรีงชัย
ศรสง่าแบกบ่าใจ แจ่มเจื้อย
แคล่วคล่องว่องไววินัย ตระหนักน่า ชมเพื่อน
เดีรระดับตับตับเยื้อย ย่านขยี้อรีสยอง ฯ

กองร้อยที่ ๖

กองร้อยที่หกร้อย เอกผะเดียง เดชเอย
ขุนใหญ่พลไกรเกรียง ฤทธิ์กล้า
บังคับขับพหละเรียง ลำดับ กองแฮ
นำพิรียะขี่ม้า หมั่นเอี้ยวเหลียวระวัง ฯ
๏ บังคับหมวดสี่หน้า นายทะหาร
ชังคมานนท์ดาล เดชแกล้ว
สุวรรณะมะณีปาน มะณีแกร่ง เกรียงเอย
เหมะเสถียรเพียรแพ้ว ห่อนเพี้ยนพลกุน ฯ
๏ พหละรุนเรียงตับซ้อน เสมอแนว
อาวุธแบกแถวแถว ถั่นเต้า
แก่ฝึกฮึกหาญแวว เนตระชัด เฉลยเอย
เคยอดทนรณะเร้า ร่านสู้ริปูถอย ฯ

กองร้อยที่ ๗

๏ กองร้อยที่เจ็ดห้าว เหีมชัย
นายขับอาชาไนย์ ออกหน้า
ขุนพลสิทธิเกรียงไกร บังคับ กองนา
ชะเลงขนบกล้ารบกล้า กล่อมน้ำใจพิรีย์ ฯ
๏ นายหมวดสี่หมวดกล้า ปะกาสิต สมแฮ
ศิวะแพทย์และชัยสมิต หมั่นป้อง
สุทธิคำช่ำชองฤทธิ์ เชีงรบ อรินรา
กับหมื่นสงครามจ้อง พึ่งเจ้าเอาชัย ฯ
๏ พะหละไกรใจแกล้วเมือบ มรคา
ศรเทีดอังสาสา มาร์ถเมื้อ
หละตับหละตับถา ถูกระดับ เดีรแฮ
อ่าอาตม์องค์อาจเสื้อ สะพรึบน้ำเงินผอง ฯ

กองร้อยที่ ๘

๏ กองร้อยที่แปดผู้ คุมพะหล
ร้อยเอกขุนราญรณ กาจเกื้อ
เถลีงดุรงค์ฤทธิรงค์ผะจญ เป็นโจก นำเอย
รู้ขู่รู้เอื้อเฟื้อ เฝื่อนน้อยไฉนมี ฯ
๏ สี่หมวดนายหมวดป้อง ปกสูร สหายเฮ
บูรณ์มนัส,อมระปาล,ปูน หม่อมเจ้า
วงศ์ทองใหญ่ทองทูล ถวายว่อง วินัยเอย
แกล้วกลั่น,จันทร์นวลเฝ้า ใฝ่ป้องผองพะหล ฯ
๏ พละปืนพื้นแกล้วแบก ปืนเหีร สถลรา
เกลื่อนกลอกแกว่งศอกเดีร พรึบพร้อม
อำมะหิตแกว่นฤทธิเมีล น่ามั่น กะมลเพื่อน
อาจเพีกแสนเศีกห้อม แห่เจ้าเทาถวาย ฯ
๏ นายทะหารคนสนิธเกื้อ นายกอง พันเอย
ราบสิบเอ็จที่สอง ศักดิ์เตื้อง
ร้อยตรีดุษฎีผยอง อัศวะตรวจ กระบวนพ่อ
สะกูลสุคันธมาศเยื้อง อยู่รั้งหลังแฉว ฯ

กรมบัญชาการกองทัพบก

๏ แม่ทัพกองทัพน้อย นายพล โทเอย
สีหราชฤทธิไกรถะกล เกียรติ์ก้ำ
บัญชายุธนาพะหล เหีรมะหัศ วาแฮ
เทียบพระยาท้ายน้ำ เดชน้ำใจหาญ ฯ
๏ บัญชาการทัพนั้น พระยา
ประสิทธิสงครามสา มาร์ถกว้าง
วรฤทธิ์เรืองฤทธิ์ชะยา นุภาพเลีส ะลือแฮ
ทรงยศพันเอกอ้าง อัศวะห้าวเหีรจร ฯ
๏ นายนิกรทรงยศะชั้น พันตรี รองรา
หลวงทิพอักษรดี เด่นพร้อย
หลวงชาญสรกลวี ระชาติ์เชี่ยว ณะรงค์แฮ
เถลีงแสระแหระๆคล้อย แสระเจ้าคุณสนอง ฯ
๏ ร้อยตรีรองอีกชั้น พาชี เหีรแฮ
ขุนวิจักษ์กลยุธที แกว่นแกล้ว
ขุนชาญฯ ร่านราวี เฉวียนว่อง ระวังแฮ
รับสั่งหวังช่วยแผ้ว พิบัติชื้นชัยเฉลีม บาระนี ฯ

ขะบวนพระราชอิสสริยยศ

ร่าย

๏ เริ่มขะบวนราชะอิศวะริยะยศ เฉลีมบงกชผ่านเผ้า
พระปกเกล้าเกรียงเดช เสด็จประเวศเวียงขจร
เพื่อราษฎรชื่นชม ถวายบังคมถวายชัย
ตามนิติไสยะประเพณี ขัตติยะราชีย์เฉลีมถวัลย์ ฯ

ประตูหน้า

๏ ประตูหน้านั้นเสนอศักดิ์ พระยาพิทักษ์ภูบาล
ควบคู่ขนานเวียงใน ฯ เต็มยศใหญ่สรวมครุย
นำกรุยกระบวนผาย นายท้ายช้างย่างเดีร
เชีญธงชัยชายหยัก หักทองขวางขวัญดิลก
สองเสวกนำริ้ว สรวมครุยปลิวหงอนสง่า
พระยาบำรุงราชฐาน พระยาภูบาลบรรเทีง ฯ

มหรธึก

๏ เรีงมะหระธึกระธึกวิถี คนหามสี่สำรับ
ญี่สิบสรรพะคนรัว ยังสี่ตัวนายสนับ
เดีรกำกับสมกระทรวง หลวงคชศักดิ์,หลวงศรี-
วังราชทวีวะราทร หลวงอักษรสรรพะกิจ
หลวงสิทธิบรรณะการ สรวมครุยขนานสี่สาย
สาระวัดนายตรวจกิจ นั่นหลวงวิสิทธิเสวก ฯ

พระตำรวจหลวง

๏ ตำรวจดิลกฤทธิฉกาจ ควบกับมะหาดเล็กทิว
ริ้วสี่สายซ้ายขวา อ่าเต็มยศดาพสะพาย
พิศะผึ่งผายผาดผยอง เก้าสิบสองสรูปหมวด
ตำรวจหอกถือหอก เงินเงากลอกเกรียงณะรงค์
รักษาองค์กษัตร์สยาม ออกนามขามขนสยอง
องคะรักษ์สองพระยา มหาเทพมหามนตรี
ยอดภักดีภูบดินทร์ พระอินทรเทพพิเรนทรเทพ
เสพสวามิภักดิ์ภูมินทร์ พระราชวรินทร์อินทรเดช
ภักดิภูเบศวร์บงพิทักษ์ พรหมบริรักษ์สุริยภักดี
กัตะเวทีจอมไผท อภัยสุรินทร์อินทรรักษา
ถัดจมื่นราชามาตย์ พระราชโยธาเทพ
สัตยะพิเลปน์เลีสะลิบ จมื่นทิพเสนา
ชัยภูษา,สมุหพิมาน รักษพิมานขนานขันแข็ง
จ่าแรงรับราชการ ฤรู้สท้านลำเค็ญ
จ่าเขม้นสรยุทธยิ่ง ย่ำประวิงบาทบริบาล
ถัดจ่าผลาญอริพิษ หาญยุทธกิจฉกาจเก่ง
จ่าเขม็งสัตรยาวุธ เหี้ยมเหีมสุดสมหน้า
จ่าเร่งงานรัดรุด ชุดตำรวจองค์อาจ
ขุนศิลปสาตร์แสนหาญ จ่าการประกอบกิจ
เรืองฤทธิ์พิชิตชะเลงชัย จ่าใจสุรแกว่นทะยาน
นายวิจารณ์จำนงค์ ใจซื่อตรงปานเหล็ก
ควบมะหาดเล็กเรียงราย เป็นสี่สายสี่แนว ฯ

มหาดเล็กหลวง

๏ แถวมะหาดเล็กซ้ายขวา อ่าอาตม์เต็มยศใหญ่
เรียงคระไลตามยศผยอง รองหัวหมื่นอยู่ต้น
พระยาถกลทิพอาศน์ คู่จ่าราชเฉลีมศักดิ์
พระพิทักษ์สราญรมย์ นิกรมพระราชเสวก
ยศะดิลกราชะฤทธิ์ พระดุสิตวันวิจารณ์
พระบริหารจิตรลดา พระอุทยานะบริรักษ์
อะนุศักดิ์หุ้มแพรนุกูล พระพิบูลย์พิริยะถั่น
ถึงพระอนันตรักษา เรียงยศฐานะขนาน
พระอภิบาลอุดรอาศน์ พระรุกขชาติบริรักษ์
ศักดิ์หลวงชำนาญภิรมย์ นิกรมหลวงพูลเลขเสรีม
เพี่มหลวงวิจารณ์สุรพิตร์ ชิดหลวงนิวาศวาสพ
บรรจบหลวงวรวาสประไพ ถัดไปรองหุ้มแพร
เข้าขะบวนแห่เรียงติด หลวงเจนจิตร์ภัณฑการ
ผ่านหลวงพฤกษการประสิทธิ์ ถึงหลวงสฤษดิสุขะการ
ควบขนานตำรวจขยัน หลวงวิสุทธิภัณฑารักษ์
ขุนศักดิ์รองหุ้มแพร แค่เลขาสุรกิจ
หม่อมเจ้าชิดเชื้อวงศ์ นามธำรงวรวัฒน์
ถัดมะหาดเล็กวิเศษโสตถิ์ หลวงรุ่งโรจน์ประทีปฉาน
ขุนวราคารวิสุทธิ์ ขุนบริคุตราชฐาน
ขุนสุทธิพิมาน,ทิพพิมาน ขนานขุนสมาคมพิทักษ์
ลำดับศักดิยศฐาน์ ขุนสุธาธุระกิจ
ขุนประดิษฐ์ปราสาท ขุนประภาสกิจโกศล
ต้นขุนพิสิฐภัณฑ์วิจารณ์ ขุนขนานดำรวจจร
สุนทรมาลาการ ฐานมะหาดเล็กสำรอง
เข้าขะบวนคล่องจระลี ขุนผดุงสีตลอาสน์
ขุนราชมาลาการ ขุนจัดพิมานรังสรรค์
ขุนหิรัณยปราสาท ขุนฉลาดฟังบังคับ
ประดับปราสาทสนอง แถวกลางผอง, กลองชนะ ฯ

แตรศังข์ กลองชนะ

๏ ทองเงินอะสีติพะลา แต่งกายน่ายำเยง
เสื้อกางเกงสีล้วน หมวกลำดวนฉาดแสง
แดงก็แดงทั้งตัว เขียวเขียวสลัวทั้งกอง
สองปี่สองเปีงมาง อ่าอาตม์สอางสมอาตม์
หมวกทรงประพาสสนอบตรู เป็นตัวครูกลองชัย
นายใหญ่เสวกสยาม ยศะพระรามเภรี
เสนีรักษาวัง ยังอีกสองสนองคุม
ปิ๋งเปี่งครุ่มครื้นประโคม ครั่นครึกโครมสะเทื้อนทอย
ปี่แอ้อี๋อ่อยติ๋งเปีง เปีงมางเรีงรับครุ่ม
เดีรเป็นกลุ่มสองกอง กลองเงินทองเขียวแดง
เหี่มกำแหงสมแห่ สาระวัดแตรช่ำเล่ห์
ขุนเสน่หราชา กำกับคะณาแตรศังข์
แตรฝรั่งทั้งแตรงอน อ่าอาภรณ์แดงดาษ
หมวกพับลาดหลังปรก ห้าสิบหกรวมผอง
เดีรถัดกลองแถวกลาง แม้ถึงทางเลี้ยวรุด
หรือเมื่อหยุดเมื่อออก ละล้วนบอกขัษณะสำคัญ
ป่าวศังข์สนั่นแตรกระทั่ง หวั่งลั่นสัญญาณพะนึง ฯ

อภิรุม

๏ ถั่นถึงเครื่องสูงหน้า รายมรคาสามคู่
ห้าชั้นชูเกียรติแหวก บังแซกแซกหว่างฉัตร์
สองคู่ขนัดเครื่องสูง เจ็ดชั้นจูงเจีดชัย
คู่ท้ายใกล้ราชะอาสน์ หกมะหาดเล็กระดับเดีร
เชีญพระแสงหว่างเครื่อง เป็นแนวเนื่องรัถโยดม
พระกันภิรมย์สามองค์ คนเชีญทรงทรงประพาส
แพรสะกาวฉกาจก่องชุด เสนากุฎหักทอง
ผองเครื่องสูงนอกนั้น ทรงประพาสชั้นรองเชีญ
เสื้อริ้วเมีลมะเลืองอาตม์ คาดผ้าคาดสนับเพลา
เลีสะเฉลาแลมะหึมา คือพระเสนาธิปัติ์
พระฉัตร์ชัยเฉลีมพะลา พระเกาวะพ่าห์ห้าชั้น
ฉัตร์ขาวยันตร์ทองลง เป็นมะหามงคละรัชย์
สำหรับขัตติยะยุธนา เชีดเดชาเฉลีมทัพ
คุมกำกับเครื่องต้น พระพินิจนนทิศาสตร์สมรรถ
พระสมบัตยาธิบาล อวยสัญญาณพยูห์ประกาศ
นั่นพระยาราชมานู ผู้รัวกรับบัญชา
พระยาเสถียรสุรประเพณี พราหมณ์พิทธีเป่าศังข์
หน้าบัลลังก์ราชะยาน ปานพระศุลีลีลา
เยี่ยมโลกาถะเกีงคุณ เผยแผ่บุณยะบาระเมศ
สิงภูเบศวร์สยามะนาถ ราชะองคะรักษ์เชีญธุช
พระกะบี่ยุธครุฑะพ่าห์ พระยาปรีชาชลยุธ
พระยาฤทธิรุทคำรน คู่แรกถะกลเกียรติสมรรถ
มีคู่ผลัดอีกแปด คอยเวียนระแวดเชีญคลา
คือพระยานาวาพล พยุหรักษ์รณะฤทธิแรง
พระยากำแหงณรงค์ฤทธิ์ ชัยะพิชิตเฉลีมพิรีย์
พระยาศรีสุรสงคราม พระยาสยามพิชัยภูเบนทร์
เช่ี่ยววิชาเจนยุธนา พระอาสาสงคราม
และพระรามฤทธี พระศรีณรงควิชัย
พระไกรภพรณฤทธิ์ พิทยาประสิทธิ์สามาร์ถ
พระอาจหาญณรงค์ ยงยุธะศาสตร์สมแกว่น
ทั้งพระแม่นศรจักร หลวงฤทธิศักดิชลเขต
ช่ำยุธะเวทยุธะวินัย หลวงสกลไกรนุชิต
หลวงฤทธิจักรกำจร พิชิตชโลทรหลวงสมาร์ถ
หลวงศรีราชสงคราม สมนามน้ำใจหาญ
ขุนบริบาลยุทธสมบัติ์ ผลัดเชีญธงเถลีงยุธ ฯ

พระราชยาน

๏ พระที่นั่งพุดตานทอง เลีสะลำยองยานทรง
องค์สมเด็จจอมคน ทรงเครื่องต้นมะหากะฐิน
เลียบนัคะรินทร์ลือชา ภูษามาลาภิบาล
อยู่งานพระกลดสุวรรณ บังสูรย์กันสูริย์แสง
พัดโบกแกว่งรำเพย พระพายเชยชื่นชวย
เชีญพระทวยสุพรรณะศรี เป็นน่าที่จมื่นจง
ซ้ายขวาส่งถวายผลัด จมื่นสวัสดิวังราช
เคียงบรมะอาสน์ประจำ ผู้กำกับพระที่นั่ง
ระวังคนหามยามผลัด หัดมิสะเทือนเลื่อนปลาด
นั่นพระราชปริมาณ ถนอมราชะยานเลียบเวียง ฯ

คู่เคียง

๏ คู่เคียงเรียงเจ็ดคู่ พิทักษ์ภูธระยานยาตร์
สองอุปราชเทศาภิบาล สำเร็จราชะการมณฑล
คู่ต้นพระยานักปราชญ์ โบราณราชธานินทร์
อุปราชถิ่นอยุธยา มะหาเสวกโทภิชาติ์
อุปราชราชนกูลพระยา ปกทิศาอิศาน
เทศาภิบาลมะหาราษฎร์ คู่เคียงบาทปะสดัมภก
มะหาเสวกโทพระยา เดชานุชิตแช่มมะโน
จางวางโทเถลีงกะวิน พระยาสุรินทรราชา
เทศาภิบาลภุเก็ตปก มะหาเสวกโทกล้า
พระยาเพชรดาเรืองเดช สมุหะเขตพระนะครบาล
ผ่านพิษณุโลกมณฑล สมุหะพลพระยาอาจ
ศรีสุริยราชวรานุวัตร์ สมุหะรัฐะมณฑล
เบื้องอุบละราชะธานี พระยาศรีธรรมศกราช
ร้อยเอ็จราษฎราธิปะไต พระยารณชัยชาญยุทธ์
สมุหะชุดเทศาภิบาล ด้านนะครสวรรค์ด้าวดิน
พระยามหินทรเดชานุวัตน์ สุราษฎร์รัฐะอาณา
พระยาคงคาธราธิบดี สมุหะราชบุรีแคว้นโต
จางวางโทฉานฉ่า พระยาคทาธรบดี
เพชรปาณีพระยา เทศาภิบาลภิบาละชาติ์
แคว้นนะครราชะสีมา ยศะมะหาเสวกตรี
จันทระบุรีรัฐะอุทัย พระยาไกรเพชรรัตน์ฯ
สมุหะรัฐาภิบาล ยศะสถานจางวางตรี
สุนทรบุรีพระยา สมุหะเทศาภิบาลนิกร
มณฑลนะครชัยศรี ทุพพะลินทรีย์สุดสนอง
ต้องเปลี่ยนพระยาเชื้อวงศ์ อุดมพงศ์เพ็ญสวัสดิ์แทน
แสนสง่างามสยามะศักดิ์ คู่เคียงพิทักษ์ธรรมะราช
ล้วนมะหาอมาตย์มีศักดิ์ สมุหะพิทักษ์รัฐะมณฑล
สะกละราชะอาณาจักร์ โดยสวามิภักดิ์ภูมิบาล
อ่าอาตม์สอ้านอำไพ เต็มยศะใหญ่สรวมครุย
หงอนหมวกกระจุยปลิวลม สมพระเกียรติยศเลีสะลิบ
รวมสิบสี่เจ็ดคู่ แสนศัตรูสยดสยอง
ซบฝ่าละอองธุลีรัชย์ วางศัสตราวุธกล่น
แทบบาทะยุคลขัตติยะนาถ เฉลีมพระบรมะราชะสมภาร ฯ

ทหารราชองครักษ์

๏ นายทะหารราชะองคะรักษ์ แวงพิทักษ์เบื้องเฉวียงสะดำ
ตามตำแหน่งอิศวะริยะ แทนสมุหะราชะองคะรักษ์
นายพละศักดิสมเผ่า หม่อมเจ้าอมรทัตหน้า
พลเอกพระยาเทพอรชุน พลโทสะกุลขัตติยะเผ่า
หม่อมเจ้าบวรเดชทรง คู่พระองค์เจ้าคำรบ
หม่อมเจ้าลบยศะยง อลงกฎแม่ทัพน้อย
คล้อยพระยาเทพหัสดิน พลตรีชินยุธะเชาวน์
พระองค์เจ้ายศะหย่ง ทศศิริวงศ์ลือชัย
พระยาฤทธิไกรเกรียงหาญ พระยาชาญฤทธิรณะแรง
รามกำแหงเดชะมะหิทธิ์ พระยาพระกฤษณรักษ์
เลีสะศักดิ์พระยาสุรวงศ์ ฯ รามรณรงค์,อินทรวิชิต
เรืองฤทธิ์พระยาอมรวิสัย ฯ พระยาพิชัยสงคราม
พระยาสยามสุรเสนา และพระยาเฉลีมอากาศ
พระยาราชวังสันวิชัย อานุภาพไกรภพเดช
พระยาวิเศษสงคราม ล้วนเลื่องนามเลื่องศักดิ์
ราชะองคะรักษ์เลื่องหาญ ญี่สิบท่านแวงพิทักษ์
พระจอมจักรีอุดม ทวยอินทร์พรหมแซงขะบวน ฯ

อินทร์พรหม

๏ สองภาคทวนถือชู จามะรีภู่ไปล่ปลิว
เป็นท่วงทิวเถือกระยับ มะหาดเล็กกับกรมวัง
แต่งกายดังเทวะทะแมง เสื้อเขียวแดงสรวมเซีด
เฉีดเฉกนิกรมสยมภู ผู้กำกับอินทร์พรหม
สนมพละเรือนประสิทธิ์ อินทราทิตย์พระขยัน
จันทราทิตย์พระขยาย สองฝ่ายเดีรสะดำเฉวียง ฯ

เครื่องหลัง

๏ เรียงเครื่องสูงเจ็ดชั้น สององค์บั้นปฤษฎางค์
ห้าชั้นกางสี่องค์ สูงส่งสองแผนกแยก
บังแซกแซกหว่างฉัตร์ ชุมสายถัดสองคู่
เกรี่นตรูชูศักดิ์ขลัง คุมเครื่องหลังแลผงาด
นั่นนายประพาศมณเฑียร กับนายเสถียรรักษา
มะหาดเล็กผ่ากลางแซง เชีญพระแสงหว่างเครื่อง
สี่องค์เนืองแนวกระจาย พระแสงรายตีนตอง
สี่องค์สนองบทะบงสุ์ แปดองค์พระแสงตาม
เชีญเครื่องหลามรัถยา จัตตาฬีสะราชะบริพาร ฯ

พระราชพาหนะ

๏ พระราชะยานสุวรรณลงยา คลุมผ้าเยียระบับทอง
ที่นั่งรองจอมกษัตร์ พันทองถนัดกำกับ ฯ

กรมพระอัศวราช

๏ ถับถึงกรมอัศวะราช เจ้ากรมอาจเอกอุดม
สองปลัดกรมเดีรตาม เครื่องแบบอร่ามแดงจ้า
นำมะหัศวาพระที่นั่ง สี่ม้าผังผาดผยอง
ผูกเครื่องทองเรืองระยับ คลุมเยียระบับมี่งระเมียร
ขลุมบังเหียนงามตรู ภู่ตั้งภู่หูห้อย
จามะรีลอยลมสะอาง ภู่ซองหางแผงผ่อง
เขียนลายทองกระทบโกลน อาชาโผนผงาดเฉียว
คนจูงเหนี่ยวเต้นน้อย เคียงคู่คล้อยคลอสอง
พระที่นั่งรองสองคู่ ดูดังอัศวะวะลาหก
มารุตดิลกโพยมหน นายม้าต้นนายเวร
เจนอัศวะวิทย์ชิดตาม เป็นตับหลามแวงระแวด ฯ

แพทย์และ ประตูหลัง

๏ พระรัตนแพทย์หมอไท พระชัยแพทย์หมอฝรั่ง
ประตูหลังแลทะมื่น คือจมื่นราชนาคา
พระยาสิทธิโชคชุมนุม แนวท้ายคุมขะบวนยาตร์
เฉลีมราชะอิศวะริยะยศ เกรีกปรากฎกังวาล ฯ

ทหารมหาดเล็กแซง

๏ ทะหารมะหาดเล็กขะบวนแซง สรวมสนอบแดงเพลาดำ
หมวกขาวขำภู่หมึก แวงบาทอะธึกสี่สาย
นายพันนายร้อยมี เอกโทตรีนายดาพ
นายสิบขนาบแนวสอึก พลทะหารฝึกช่ำชอง
ทั้งแคล่วคล่องทั้งเรียบ เดีรเรียงระเบียบแบกศร
ตัวนายกรไกวดาพ ปลาบคมขาววาวตา
อิงอังสาสง่าผงาด ล้วนองค์อาจเอีกฤทธิ์
ปรัตยามิตร์ยลสยอง สนองบาทจอมจัตุรงค์
รักษาองค์รายดิเรก นายพันเอกแขงขัน
พระยาราชวัลลภานุสิษฐ์ พันตรีฤทธิลือจบ
จมื่นพัลลภพลาธิการ หลวงห้าวหาญโหมรุธ
สุรยุทธโยธาหาญ หลวงราญบำราบอมิตร์
สรสิทธยานุการ ร้อยเอกขนานแนวพิทักษ์
หลวงสรจักรานุกิจ หลวงเรีงฤทธิรำบาน
ศิลปสารสราวุธ เสมระสุตร้อยโท
ลำพองโผยุธนา เพี้ยนสุนทะรารชุนกระฉ่อน
สุวรรณะกร,สมรรคบุตร์ สุวรรณะทัตรุดโรมรัน
พรหมะวรรณ,สุเดชะ องค์ขัตติยะร้อยตรี
นามประเสรีฐศรีหม่อมเจ้า จันทรศิริเผ่าจักริช
และพิสิฐดิศพงศ์ ฉัตรวงศ์,บุนนาคเพียร
โชติกะเสถียรพิทยะชิน สิริเทวิน,ไกรฤกษ์
ร้อยตรีเกรีกคลีสกุล สุนทะรารชุนเยี่ยมชาย
นายดาพนายสิบกลาด พลทะหารราชะพัลลภ
ครบกองพันราบหนึ่ง แต่ละตนดึ่งสวามิภักดิ์
รักษาองค์ภวะนาถ ยามพยุหะยาตราขะบวน
ยวนสยามนิยมชมคุณ พึ่งการุญญะบาระเมศ
ยกศิโรเพษฎน์ผองพะสก ทุกหัตถ์ปรกท่วมเกล้า
ถวายพระพรผ่านเผ้า ผ่องพ้นภัยเกษม ไชย์โย ฯ

กรมทหารบกราบที่หนึ่งมหาดเล็กรักษาพระองค์

โคลงสี่

๏ เปรมกะมลพละทัพถ้วน ทุกใจ
มะหาดเล็กกรมทะหารไท ทบด้วย
รายหนึ่งพึ่งจอมไผท เถลีงศักดิ์ สมแฮ
สวามิภักดิ์ยอมจักม้วย มะหิทธิเอื้อมอาสา ฯ
๏ พยุหะยาตราเลียบแคว้น กรุงศรี
นายหนุ่มคุมโยธี หนุ่มเต้า
ตามเสด็จพระจอมชี วิตชาติ์ เฉลีมเอย
ล้วนระรื่นชื่นชมเข้า ขนบริ้วเรีงสมร ฯ
๏ อาภรณ์พรรลึกเสื้อ แดงเพลา ดำพ่อ
หมวกเศวตภู่หมึกเฉลา ล่ำล้วน
ของมะหาปิยะราชเนา สนองดนุช ะนาถท่าน
ช่ำฝึกฮึกหาญถ้วน ทั่วหน้าชิวาถวาย ฯ
๏ นายกรมสมศักดิ์เจ้า พระยา
รามะราฆพสา มาร์ถกว้าง
พละเอกเฉกบัญชา ชินะยาตร์ พยูห์แฮ
เถลีงมะหัศวาอ้าง ออกหน้าคะณาพะหล ฯ
๏ นายทะหารคนสนิธขึ้น อาชา
นามสวัสดิ์ณสงขลา ติดเต้า
ร้อยตรีเชี่ยวปรีชา เชีงยุธ ะเยี่ยมพ่อ
คอยขยับรับสั่งเร้า รีบร้นดลประสงค์ ฯ

กองแตรวง

๏ กองแตรวงนั่นร้อย โทศรี ชัยเอย
นำพวกพละดนตรี เกรี่นเต้า
ระวังหลังนั่งพาชี เฉลีมพรรค ผยองแฮ
เพลงหัดสันทัดเฝ้า ฝ่าย้อนสอนสยุม ฯ
๏ วาทิตก์กุมเครื่องแปร้น ประโคมเวียง
เป่าปี่มี่แตรเสียง สะเทื้อน
รัวกลองล่องสำเนียง เสนาะเหมาะ
จังหวะประท้าวเอื้อน อาตม์คะยั้นผันผยอง ฯ
๏ ธงประจำกองก่องแคว้น ขวัญสมร
นายธวัชเชีญทะเมีลจร เจีดแกล้ว
เรีงพะหลเหี่มรณนิกร ถะเกีงเกียรติ์ กองนา
สง่าภพพัลลภแผ้ว เศีกสิ้นสรวงชัย ฯ
๏ เกรียงไกรแตรเดี่ยวเข้ม แข็งผยอง เยี่ยมเอย
สี่มิตร์ติคธงคะนอง หนุ่มเนื้อ
แตรสะพายสร่ายไหล่มอง สั่งกระทั่ง ถลันแฮ
เดีรผับผับขยับเกื้อ เกียรติ์ไท้ใจขยัน ฯ

กองพันที่ ๒

๏ กองพันสองสนัดแกล้ว กรีฑา
นายยศพันตรีสา มาร์ถป้อง
หลวงรามฤทธิรงค์พา ชีขี่ นำแฮ
เชี่ยวรบพละรบต้อง จิตเลี้ยงเพียงสหาย ฯ

กองร้อยที่ ๕

๏ นายกองร้อยที่ห้า เหีมสุด
ร้อยเอกหลวงศัลยยุทธฯ เหย่าม้า
คุมทะหารฮึกหาญรุด รัถเยศ
สมสมาร์ถองค์อาจกล้า กล่อมน้ำใจพะหล ฯ
๏ สี่ตนนายหมวดเข้ม คุมขนัด นิกรเวย
หนึ่งหม่อมเจ้าพรพิพัฒน์ ผึ่งแต้ม
ทิพย์, อุทัยและสิริวัฒน์ ผดุงถิ่น สมรแฮ
ช่ำยุธช่ำยิงแสล้ม รสะย้อมใจทะหาร ฯ
๏ พะหละชาญเชีงยุธเต้า ตับๆ ตามรา
มือแบกปืนชื่นกระชับ บ่าเยื้อง
คู้แขนแกว่นไกวฉับ เฉียวพรึบ พร้อมเฮ
ตัวไม่ใหญ่ใจเตื้อง เตีบแกล้วเตรียมสนอง ฯ

กองร้อยที่ ๖

๏ กองร้อยที่หกผู้ นำพะหล
หลวงสระการฤทธิรณ ร่านเกื้อ
ร้อยเอกเอกสมตน สมยศ ผยองฮือ
เหีรอัศวะดรห่อนเรื้อ รุ่มเฝ้าเอางาน ฯ
๏ นายทะหารคุมหมวดล้วน เรืองฤทธิ์ สี่รา
นรเดช,กัลยาณมิตร์ หมั่นกล้า
สุธากาส,รักตะประจิตร์ ใจเยือก เย็นแฮ
ดีเด่นสมเป็นข้า บาทไท้เถลีงสยาม ฯ
๏ พลทะหารตามต่อริ้ว เรียงแถว
ตับตับแลระยับแนว เนื่องคล้อย
แบกศรร่อนรายแวว วับแดด วาวแฮ
ครึบ ๆ เดีรสะพรึบพร้อย พร่างพื้นภูมแสน ฯ

กองร้อยที่ ๗

๏ แกว่นผยองกองร้อยที่ เจ็ดเจน ซ้อมฤา
ร้อยเอกหลวงภูเบนทร์ฯ บ่งป้อง
สิงหะนาทอุกอาจเนร ะนาสะดัส กรนา
เหีรดุรงค์ก่งก้อง เกียรติก้องเสียงชม ฯ
๏ นายหมวดสมหมวดแกล้ว เกรียงกราด สี่พี่
สฤษฎิฉัตรกุลฉกาจ เก่งสู้
หม่อมเจ้ารัตโนภาส ผึ่งไม่ ลดเลย
เยี่ยมยิ่ง, สกุนะสิงห์กู้ กิจสิ้นสมใจ ฯ
๏ ไททะหารปานพะลิศยะเจ้า จักรกฤษณ์
กายย่อมไป่ถ่อมจิต จวกกล้า
อดทนมิย่นคิด ขยาดระย่อ ไหนเลย
ขมองทะมื่นแบกปืนหน้า แฉ่งเข้าขะบวนฉลอง ฯ

กองร้อยที่ ๘

๏ กลองร้อยที่แปดเหี้ยม หาญสมาร์ถ
หลวงอภิบาลภูวนาถ ควบคุ้ม
ร้อยเอกเฉกพญาฉกาจ มรรกะเฎศ อดุลย์ฤา
ผยองมะโนมัยชะงุ้ม ครีพม้าถาเดีร ฯ
๏ น่าเมีลนายหมวดกล้า จาตุรงค์ เลื่องเอย
สุนทระพยาฆร์ยง ยุธห้าว
เพื่อนสุภาพ,ศิริวงศ์ ณอยุธ ยาแล
ลีละชาติ์,ไร้ขลาดน้าว มะโนชย้อมนิยมทะหาร ฯ
๏ พะหละยุธชาญยุธเข้ม ขันฝึก
ย้วยเยี่นเดีรกึกกึก กะก้าว
แบกศรไกว่กรตึก ตักตับ ตามเฮ
สี่หมวดต่างประกวดห้าว แห่ท้ายลายถนน ฯ
๏ นายทะหารคนสนิธผู้ บังคับ กองเอย
พันที่สองประลองขับ แสระเมื้อ
คุมนิกายอยู่ท้ายขยับ ระวังยาต -รานา
จารุปาณฑุเชื้อ ฉลาดร้อยโทเสถียร ฯ

ขะบวนทหารเรือ

ร่าย

๏ ระเมียรหมู่พยูหะทวยทะหาร เข้าขะบวนขนานยาตรา
เฉลีมเดชมะหากษัตร์สยาม ยามจะเรศรัตะนะโกสินทร์
พร้อมทะหะรินราชะนาวี กรีฑาเป็นทัพหลัง
รวมกำลังกองพัน ปันเป็นสี่กองร้อย
แตรวงปล่อยออกหน้า กองบัญชาการถัด
เป็นขนัดขนัดแนวนับ เป็นตับตับเรียงแถว
เลือกละล้วนทะแกล้วทะกล้า อ่าอาตม์เต็มยศใหญ่
นายทะหารใช้เสื้อดำ ดูกำยำยวนสยอง
ติดบ่าทองภู่พราว พละทะหารสะกาวกายกอบ
กางเกงสนอบขาวทะแมง รัดสนับแข้งเกือกหนัง
หมวกสานกระบังใบแผ่ แลมะหึมาน่าขาม
ครบเครื่องสนามผูกสะพัทธ์ คาดเข็มขัดขึงขัง
สอดซองหนังปัสตัน เข้มแข็งขันร่าเรีง
แบกศรเพลีงแสนสง่า พักอังสาสมสมาร์ถ
องค์อาจผาดสะพรึบเดีร นายทะหารเหีรหัยะผาย
เพียงยศะนายนาวา นายเรือถาทะนงยาตร์
โดยลำบาทพรรลึก แตรวงครึกครื้นประโคม
ยั่วทะหารโสมะนัสะเดีร ยาวเยี่นยั่วพิศวง
โดยเสด็จองค์อัคระราช ผู้ประศาสน์ถ้อยทวยทะหาร ฯ

กองบังคับการ

๏ ผู้บงการกองพัน ฤทธิแข็งขันแกล้วกล้า
นาวาโทเกรียงไกร พระชลัมพิสัยเสนี
เหีรพาชีเชี่ยวณะรงค์ กองแตรวงบังคับ
เดีรถับถับถ่องวิถี นายเรือตีพิณสุวรรณ
ถั่นถึงวงแตรกระเฉง ป่าวบรรเลงเพลงฝรั่ง
กลองตะรังตรังปี่สอด ตอดเสียงทุ้มเสียงสูง
จูงใจทะหารร่านเดีร คนดูเพลินหูสดับ
ถับถึงธงประจำกอง ทะนายธงผยองธงแบก
สะพักสาแหรกพักคัน คมขึงขันประเปรียว
ภะนายแตรเดี่ยวเดีรตับ สี่คนขยับรับสั่ง
เตรียมแตรกระทั่งพะลาณัติ์ แก่หัดสมรรถสง่าตง่าน ฯ

กองร้อยที่ ๑

๏ กองทะหารร้อยที่หนึ่ง หน้าถมึงทึงน่าสยด
เหี้ยมทระหดเหี่มสู้ ผู้บังคับโยธี
เรือเอกศุภีจันทระมาศ เดีรองค์อาจสำรวจ
สี่นายหมวดเขม้นเมื้อ เรือโทวิเชียรรัตนกุล
เรือโทฉุนบุญญวงศ์ เรือตรีทะนงฤทธิสะเทื้อน
เอื้อนกลไกรเวศไว เรือตรีไฮ้ชลศึก
พลทะหารอะธึกเถลีงแถว แนวละสี่คนเรียง
เคียงกันเดีรครึบครึบ พร้อมพรึบสะพรึบผายผยอง ฯ

กองร้อยที่ ๒

๏ กองร้อยสองมองสมรรถ หัดแคล่วคล่องว่องอะธึก
คงแก่ฝึกแก่รู้ ผู้บังคับกองผึ่ง
เดีรกึงกึงคางเชีด สง่าเฉีดเพรีดเพราเหลือ
เรือเอกสวัสดินิลนิธิ์ เผยปะกาสิตเด็ดขาด
นายหมวดอาจหาญสี่ คุมโยธีต่างหมวด
คอยตรวจตักเตือนเอื้อ เรือโทเชี่ยวเชีงรอน
สังวรณ์สุวรรณชีพเชื้อ เรือโทสมบูรณ์พยูห์
เรือตรีหนูแจ่มผล เรือตรีรณฉลอมสินธุ์
พลทะหารชินเชีงเดีร เมีลอำมะหิตฤทธิแรง
กุมปืนทะแมงแบกบ่า กำยำหน้าขมึงทึง
ท่าขังขึงเยื้องขยับ เป็นตับตับเรียงแถว
จังหวะแนวตรงระนาว ทุกตีนก้าวประเปรียว
เหมือนตีนเดียวพร้อมกัน ทั้งเข้มขันท่วงทะยาน ฯ

กองร้อยที่ ๓

๏ ทะหารกองร้อยที่สาม นามผู้บังคับเกื้อ
เรือเอกประยูรศาสตร์รุจิ เจ้าสติเจ้าปัญญา
ทั้งแกล้วกล้ายิ่งยวด นายหมวดมีสี่ตน
เลือกล้วนคนหว่านล้อม เรือโทพร้อมวีระพันธุ์
เรือโทกลั่นแกล้วหาญ ชัชวาลย์อมาตยกุล
เรือโทอะดุลยะเดชด่ง ล้อมภุชงคสมุทร์
เรือตรีอุดดมะสมรรถ นามจำรัสลัดพลี
พละนาวีคระวีศาสตร์ ศรเพลีงฉกาจกำแหง
แบกบ่าทะแมงมุ่งเดีร เมีลมะหึมาสง่าชัย
ล้วนว่องไวใจฉกาจ อาจพินาศแสนปัจจะนึก
แผลงเดชอะธึกธระณี สนองบทะศรีบรมะกษัตร์
แม้ดำรัสสั่งไฉน เลีกชิวาลัยไหวคระวาด
อาสาราชออกณะรงค์ คงเอาชัยมาสนอง ฯ

กองร้อยที่ ๔

๏ ทะหารกองร้อยที่สี่ เลือกคนที่ฉกาจฉกรรจ์
เข้มแข็งขันโรมรับ ผู้บังคับกองประจำ
เรือเอกคำทังสุบุตร์ เชี่ยวเชีงยุธะนาวิน
นายหมวดชินยุธนา สี่นายกล้าสาหัส
เรือโทสวัสดิอุณหนันทน์ กลั่นแกล้วศึกฮึกห้อม
เรือโทล้อมศรีพยัตต์ เรือตรีถนัดเชีงประชิต
นามะชลิตกลกำจร สุนทรเรือตรีเลิส
เกีดสะกุละช่วยวงศ์วาล ล้วนนายทะหารว่องไว
ฉลาดเลี้ยงใจไพร่พล ทั้งคำรนทั้งปลอบ
ชอบแต่เขบ็จเด็จขาด ไป่รู้ขยาดรู้ขยั้น
รู้แต่ขยันแต่ขะเยอ ควรเจ๋อเจ๋อเจียมเจียม
พลทะหารเหี้ยมหาญรบ ไป่รักหลบรักหนี
รักน่าที่รักวินัย รักเจ้าใจรักตรง
คงแก่หัดแก่หาญ เรียบตับขนานแบกปืน
หน้าแช่มชื่นเดีรสลั้ง พร้อมสระพรั่งทั้งแถวงาม
เยี่ยงออกสนามยุธนา คอยอาสาคอยเอื้อ
ทางบกเรือเลีกท้อ ขอออกรับออกรอน
ผลาญดัสกรบีฑา ชาติ์ศาสนามะหากษัตริย์
เตรียมป้องปัดปัจจะนึก แลพรรลึกละลานฤทธิ์ ฯ
๏ ทะหารคนสนิธนายทัพ ผู้บังคับกองพัน
เรือโทกลั่นอบรม บุญญพรหมปัทมะ
เหีรมะหัศวะองค์อาจ กำกับยาตราขะบวน
ส่วนพละราชะนาวี ดำเนีรวิถีอยู่ท้าย
หาญศึกมินึกผ้าย เผ่นเข้าเอาชัย บาระนี ฯ

โคลงสี่

๏ ฟากอุภัยะรัถเยศล้วน ทะหารราย ทางรา
วันทิยาวุธถวาย จวบคล้อย
ตำรวจก็แหล่หลาย เรียงตลอด ถนนพ่อ
หัตถ์ระกะวันทิยะชะม้อย เนตรตั้งระวังคน ฯ
๏ แน่นสถลพ้นเขตล้อม วงเยียด ยัดรา
หนุ่มแก่สาวแสร้เบียด บ่คร้าม
ช่องตึกน่าพิลึกเสียด แซกตื่น เต็มเพื่อน
เว้นแต่หน้าต่างห้าม เหตุชะง้ำต่ำสูง ฯ
๏ ทุกเหตุจูงเจตน์ให้ เหี่มคะนึง ขนานเนอ
หูตื่นปืนตึงตึง ครั่นครื้น
ตาแลแห่ขังขึง ขะบวนยาต -รานา
ใจสิปีติตื้น ปากต้องไชย์โย ฯ
๏ โฆษะครื้นปืนใหญ่ท้อง สนามหลวง ชะรุมรา
ยิงสลูตร้อยเอ็จกระทรวง สั่งซั้น
เพลายาตราทะบวง พยุหะบาท
จากพระราชะวังชั้น แรกล้อมฉลองชัย ฯ
๏ พอขะบวนใหญ่ออกเวี้ง วิเศษชัย ศรีเอย
หน้าพระธาตุยาตร์ไป เลียบเลี้ยว
สนามหลวงล่วงถนนใน ราชิ นีพ่อ
ข้ามผ่านผ่านพิภพเอี้ยว ออกเบื้องจักระพงศ์ ฯ
๏ วงถนนสุเมรุราชคล้อย มรคา
ถึงประทับพลับพลาอา วาสต้น
วัดบวระนิเวศมะหา ราชะวระ วิหารแฮ
แหล่งสถิตธรรมะยุติก์พ้น พิบัติ์ไว้วงศ์เฉลีม ฯ

ประทับวัดบวรนิเวศวิหาร

๏ ชะเงิ้มอาสน์นวยนาดเข้า วิสูตร์ผงม องค์ท่าน
เปลื้องพระชะฎาภิรมย์ พักร้อน
พยุหะบาทราชนิกรมสม ผ่อนเหนื่อย สนองรา
ภีศะผ่าวไหนอ้าวซ้อน สนอบเข้าเบาหรือ ฯ
๏ ผยองกระพือโพยมเยี่ยงก้อง เกียรติ์พะญา ครุฑฤๅ
เรือเหาะเหาะฟ้าถา เถือกด้าว
แปรขะบวนสับสวนอา กาสะเกรีก ไกรแฮ
ตั้งญี่สิบยานห้าว เหาะเลี้ยวถวายลำ ฯ
๏ โปรยคำเศียรวาทเข้า ตอกผะกา แกมเอย
ฉายรูปศิเนมาผวา วกเตี้ย
ตุ้นใจไพร่ฟ้าตา ตลึงตื่น บุญฮือ
ดินผื่นพื้นนะภาเยี้ย พยุหะเทื้อนทวยหาญ ฯ
๏ ชาลโบสถ์บวระนิเวศล้วน คนนอง
ทะหารถะเกีงเกียรติ์กอง หนึ่งตั้ง
วงศะราชมาตยาผยอง ยศะใฝ่ เฝ้าเอย
โต๊ะเครื่องบูชาสลั้ง ภิมุขะเบื้องเรืองราย ฯ
๏ สงฆะนิกายธรรมะยุติก์ถ้วน ราชา คะณะเอย
สมเด็จสังฆะราชนา ยกพร้อม
ทั้งปะเรียญและฐานา นุกรมะศักดิ์ สูงแฮ
แน่นอุโบสถน้อม มะนัสะได้ถวายพร ฯ
๏ มะหิศรสะอางเกล้าปก มาลา สะกาวเอย
เสด็จประวาสราชะพลับพลา ยาตร์เยื้อง
โดยทางลาดบาทมา อุโบสถ
ตำรวจนำเสด็จเบื้อง ภิมุขทั้งธงชะไม ฯ
๏ ไสวเกล้าเคารพน้อม วันทะนา
เปลื้องพระมาลาคลา เคลื่อนเข้า
เกรีกพรพุทธะสาวะกา ประกาศเอีก อวยเอย
ทรงนะมัสะการพระเจ้า เจีดเชื้อชินะศรี ฯ
๏ ถวายพะลีสุพรรณะพฤกษ์ทั้ง เงินงาม
สมที่สี่กษัตร์สยาม ผนวชยั้ง
บำเพ็ญภินิษกรมณ์ยาม เยาวะราช ะยศเอย
เสมือนพุทธะชินะศรีกั้ง เกียรติให้ไผทศวรรย์ ฯ
๏ ทรงธรรม์บูชิตเบื้อง บัฎิมา
สมเด็จสังฆะราชศรา พกไท้
ปวเรศวร์วชิรญาณฯ มะหา สมะณะหน่อ กษัตริย์เจ้า
ทรงจบจารุพัสตร์ให้ โอบสะอ้านฐานพะลี ฯ
๏ พุทธะชินะศรีแล้วประทับ อาสน์อะลง กฎเอย
สังฆะราชอะติเรกสงฆ์ สวดน้อม
ชัยะพรพิพัฒนะมง คละประสิทธิ์ สนองท่าน
แถลงมะนัสพระคฤหัสถ์พร้อม พรั่งตั้งกะตัญญู บาระนี

เคลื่อนพยุหยาตราขะบวนต่อมา

๏ จอมภูคืนสู่ห้อง พลับพลา
ทรงพระ, มะหากะฐินชะฎา ใหม่แล้ว
ปักวิเชียระญิก่ากา ระเวกวิชิต ะวาลเอย
กาญจน์ก่องผ่องเพชระแพร้ว เสด็จขึ้นเถลีงยาน ฯ
๏ พุดตานที่นั่งต้น ถะกละเวียง
กลองชนะศังข์แตรเสียง เกรีกเกรี้ยว
เคลื่อนมะหาพยุหะยาตร์เรียง รัถเยศ สุเมรุ์รา
เลียบนัคระปราการเลี้ยว ราชะด้าวดำเนีร ฯ
๏ เจรีญใจไพร่ฟ้าปลื้ม เปรมชม
มือหมื่นผื่นบังคม คั่งล้อม
ฝรั่งแขกแซกจีนผสม สยามญิปุ่น ญวนฤา
สมัยใหม่ยืนไสวน้อม เกศก้มสะการถวาย ฯ
๏ ตวันบ่ายผายพยุหะเต้า ตามวิถี
ถนนราชะดำเนีรศรี มาร์คหล้า
ข้ามสะพานผ่านพิภพลี ลายาตร์ พยูห์แฮ
ถนนใหญ่สนามชัยหน้า นิเวศน์ไท้ประทักษิณ ฯ

ประทับวัดพระเชตุพน

๏ พฤนท์เลียบเทียบอาสน์แก้ว เกยชัย
หน้าพระเชตุพนไพ โรจน์เรื้อง
เสด็จสู่พลับพลาไข วิสูตร์บด บังแฮ
ชะฎาพระ, กะฐินเปลื้อง เปลี่ยนใช้มาลา ฯ
๏ ตำรวจหน้าออกหน้า นำเสด็จ
พระกลดอยู่งานเตร็จ เกรี่นฟ้า
มะหาดเชีญเครื่องสมเขบ็จ เบื้องพระ ขนองท่าน
สีหะยาตร์ทางลาดผ้า ผึ่งแกล้วเกรียงไกร ฯ
๏ เข้าในลานอุโบสถ์แสร้ สงฆ์เสียง สนั่นเอย
รายรอยพระระเบียงเคียง คั่งซ้อน
ฐานาอนุกรมเรียง พัดยศ อเนกพี่
เกรีกชยะมงคละช้อน โฉลกไท้เถลีงพร ฯ
๏ ลูกเสือสลอนระดับซร้อง สรรเสรีญ
สะหะพรรคนักเรียนเมีล มากเฝ้า
เสนามาตยาผะเชีญ ชะนุมฉะแวก เฉวียงแฮ
เสด็จผ่านคั่งขนานเกล้า เกลื่อนน้อมอะนันต์เนือง ฯ
๏ เปลื้องมาลาเสด็จเข้า อุโบสถ
สงฆ์สวดชยะพรพจน์ พรั่งเฝ้า
ราชาคะณะมาหมด มะหานิ กายพ่อ
สมเด็จวันรัตเจ้า คะณะเบี้องบูรพ์นะคร ฯ
๏ สลอนฐานานุศักดิ์ยั้ง ยศะสถาน สูงเอย
พร้อมพระครูปะเรียญขนาน นั่งอื้อ
พิชัยะฤกษ์ต่างเบีกบาน บงกษัตร์ สยามแฮ
ถวายสวัสดิ์พูนพิพัฒน์มื้อ เมื่อขึ้นเถลีงถวัลย์ ฯ
๏ ทรงธรรม์ทรงเครื่องน้อม นะมัสะธร
พุทธะเทพะปะฏิมากร ก่องเผ้า
บรมะอัสถิมะหิศร ปะฐมกษัตร์ สยามเอย
ทั้งพระสมะณะเจ้า นุชิตเชื้อปรมา ฯ
/*๏ จบพัสตราตาดเกื้อ สักการ
โอบณะฐานพระประธาน เทีดน้อม
สถิตราชอาสน์โอฬาร วันรัต เจ้าเอย
ถวายพระอะติเรกพร้อม พระซร้องสรวงชัย ฯ

ประทักษิณประเวศพระบรมมหาราชวัง

๏ จอมไผทคืนห้องราช ะพลับพลา
ถอดพระมาลากิลา พักเปลื้อง
วิศิษฏ์ทรง,พระมะหาชะฎา กะฐินบท ะจรเอย
เกยเก็จพระเสด็จเยื้อง ย่างยั้งเถลีงยาน ฯ
๏ พุดตานกาญจน์ก่องก้อง ศังข์แตร
รัวกรับกลับกระบวนแปร เคลื่อนคล้อย
กลองชนะประโคมแล ละลิ่วยาตร์ พยูห์เอย
สองฟากสถละมาร์คชะม้อย มากผู้ดีทวี ฯ
๏ ชมบาระมีมี่งแคว้น ขวัญเวียง
ผ่านวัดเชตุพนเรียง เลียบเลี้ยว
โดยมะหาราชะมาร์คเพียง พิรียะอิศ วรฤา
เวียนประเวศพระนิเวศน์เอี้ยว โอบเข้าคืนสถาน ฯ
๏ ผ่านราชะวระดิตถ์พร้อม นางใน อเนกนา
ขัตติยะนารีไสว เวี่ยเกล้า
ชมบุญพระอุ่นมะไห ศวรรเยศ สยามเอย
สมเด็จราชินีเฝ้า ฝ่ายนี้ศรีสุรางค์ ฯ
๏ เลี้ยวทางถนนหน้าพระ ลานชัย
คืนพระราชะวังอุไร รัติ์ชะเงื้อม
เทียบเกยที่นั่งไอ ศวะรยะดุษ ฎา ฯ เอย
จากอาสน์ยานะมาศสะเทื้อม กระทั่งแสร้แตรศังข์ ฯ
๏ กลองชนะดังย้ายท่า ถลองเดช ประลือฮือ
ครุ่มครุ่มกลุ่มศิโรเพษฎน์ ผึ่งน้อม
ทรงเปลื้องพระชะฎาประเวศ จักระพรรดิ์ พิมานท่าน
พะลามัจโสมะนัสะพร้อม ไพร่ฟ้าสาธุการ ไชย์โย ฯ
๏ เสมือนจารจารึกน้ำ ใจไท เสถียรฤา
เหลือจะลืมปลื้มสมัย เมื่อเฝ้า
ประเวศะเวียงเลียบเชียงชัย เฉลีมเกียรติ์ กรุงเอย
แตกตื่นชมชื่นเกล้า กลับบ้านบานสมร ฯ
๏ ทุกกรเทีดเกศขึ้น บังคม
ทุกจิตพิศฐานสยม โพฒิ์ไท้
ทุกปากประศังสะชม บุณยะราช เราเอย
ทุกชิวิตพรประสิทธิ์ให้ พระยั้งยืนเกษม ฯ
๏ เปรมอุราสวามิภักดิ์เบื้อง บาทะบงสุ์
พึ่งพระปกเกล้าทรง ปกเกล้า
หวังนะครชื่นกระฉ่อนมง คละชาติ์ เฉลีมเอย
มอบชิวิตโลหิตเคล้า หยดท้ายถวายพะลี ฯ
๏ ศรีอะยุธยายอดแง้ม แหลมทอง นิอา
เอกะราชชูชาติ์ผยอง หยิ่งเอื้ือม
อัจฉรีย์จักรีปรอง ประโยชน์เด่น ผะดุงเอย
ขอกษัตร์สัปดะรัชย์ชะเงื้อม เดชเลี้ยงเวียงสยาม โสตถิ์เทีญ ฯ

----------------------------

เลียบพระนครชลมาร์ค

โคลงสี่

๏ สามสุทินมินะมาสเจ้า จุฬาสยา มะราชเอย
สมเด็จปรมินทร์มหา ปกเกล้า
จักยาตร์ราชะนาวา ประวาสะเลียบ เมืองแฮ
โดยพยุหะยาตราเค้า ขัตติยะขึ้นเถลีงนะคร ฯ
๏ สลอนพะหละนาเวศริ้ว เรียงขะบวน
สมสง่ามะหึมาพรวน ไพร่ฟ้า
หมื่นหมื่นตื่นกันชวน มาชื่น ชมเอย
บาระเมศเดชเจ้าหล้า หลักแคว้นแสนนิยม ฯ
๏ ระดมเรือไฟใหญ่น้อย แจวพาย ยนตร์ฤา
สองฝั่งจอดสลั้งราย แม่น้ำ
หลั่นลำส่ำซ้อนหลาย ระดับสลับ สลอนรา
ตำรวจตรวจตราก้ำ เกี่ยงน้อยไฉนยล ฯ
๏ ทุกหนคฤหาสน์ห้าง ทางนะที มาร์คเอย
ตั้งเครื่องบูชาพะลี นอบเจ้า
แถลงใจไพร่ฟ้าทวี สวามิภักดิ์ ผยองเอย
วังวัดแน่นขนัดเกล้า เกลื่อนตั้งตากระหาย ฯ
๏ ยิ่งบ่ายยิ่งอเนกหน้า ประชาชุม
แขกฝรั่งเจ๊กไทสุม บกน้ำ
ยัดเยียดเบียดกันรุม ชมราช ะฤทธิ์ท่าน
อ่าอาตม์สวยสอาดก้ำ เกือบเย้ยสวรรค์เวียง ฯ
๏ แซ็ดเสียงเพียงโสตรอื้อ อละเวง
ขานแข่งกละแต่งเพลง เพรียกพร้อง
สรรเสรีญพระเกียรติ์ชะเลง ลักษณะเลีส ะบุณย์รา
พรุณะร่วงเทวะสรวงซร้อง สวัสดิปลื้มโปรยถวาย ฯ
๏ ครั้นบ่ายลิบสิบห้า นาฬีก์ ฤกษ์เลย
สมเด็จจอมจักรี เกรีกแกล้ว
แต่งขัตติยะภูษะณี เสนอราช สิริท่าน
พุธะยศมระกตแก้ว ก่องสร้านศรีทรง ฯ
๏ ฉลองชงฆ์ฉลองบาทหุ้ม โกไศย์ เขียวเอย
เศียรนาคสนับเพลาอุไร ปักดิ้น
ภูษาสุวรรณะมัย มะแลงทับ เทียมฤา
ฉลองอาตม์ นิละมาศจิ้น เจีดก้านผะสานกุสุม ฯ
๏ พระดุมพระปั้นเหน่ง มระกต ตระการเอย
อิศวะริยะดารายศ เพชร์พร้อย
พระเหรียญพิเชียรจรด อุระราช มะเลืองแล
สะพายพัสตร์นพะรัตน์สร้อย นพะสร้อยธุรำเฉวียง ฯ
๏ เฉลีมเวียงเฉวียนสร้อยจักร์ กรีกรอง ศอท่าน
ฉลองพระองค์ครุยตอง มาศริ้ว
สร้อยพระจุละจอมผยอง ศักดิปรก ทรวงเอย
โบสะกาววาววิ้ว วิลาสเบื้องอังสา ฯ
๏ มะหามาลาศิโรตม์เข้ม เขียวตระการ
พระญิก่าการะเวกวาล เสียบช้อย
เสด็จจากจักระพรรดิ์พิมาน มาสถิต เกยเอย
เถลีงราชะยานทองพร้อย พร่างน้ำยาศรี ฯ
๏ เคลื่อนพิรีย์ขะบวนราบเต้า ตามอะมร วิถีเอย
ผ่านดุสิต, ศรีสุนทร ถัดทั้ง
เทวาภิรมย์จร ตำหนัก แพแฮ
สง่าแง่แหนแห่สลั้ง ดิลกล้วนยวนสยอง ฯ
๏ สองแถวตำรวจหน้า ดำเนีร นำเอย
พระอาจหาญณรงค์เชีญ ธุชไท้
กับหลวงอัศวิน ฯ เดีร นำราช ะยานท่าน
กะบี่ยุธครุฑะพ่าห์ใกล้ บาทแกล้วสมรเกรียง ฯ
๏ กรมวังเคียงอาสน์เยื้อง ระวังยาน
พระกลดบังสุรยะฉาน เฉิีดกั้น
พัดโบกอยู่งานขนาน ขนองเนื่อง พระเอย
องคะรักษ์แวงพิทักษ์ชั้น เอกถ้วนเถลีงนาม ฯ
๏ เจ้าพระยาราม ฯ หม่อมเจ้า อมรทัต ปะฐมแฮ
สามพระยาคู่ขนัด เนื่องเยื้อง
พระกฤษณรักษ์ถัด ถึงพระ ยาเอย
รามะกำแหงเรื้อง ฤทธิเต้าตามคลา ฯ
๏ พระยาสรชาติ์ ฯ ทั้ง พระนรา ธิราชแล
พระนิยมยุทธนา คู่ท้าย
แวงเฉวียงคู่เคียงสยา มะราชะยาต -ราแฮ
หลวงพิชิตชโลทรชะม้าย มะหิทธิ์กล้าถาทะยาน ฯ
๏ ถัดทะหารมะหาดเล็กเสื้อ สีแดง
เนืองแน่วสองแถวแซง ส่ำคล้อย
เจนหัดท่าทะมัดทะแมง มือแบก ปืนนา
คุมนิกายนายร้อย ออกหน้าถาแถว ฯ
๏ แนวกลางพัลลภใกล้ ราชา อาสน์เอย
มานพนริศร์พระยา ยศเตื้อง
เชีญพระแสงราชะศัสตรา โดยเสด็จ เดีรแฮ
มะหาดเล็กเชีญเครื่องเยื้อง ยาตร์เต้าตามสอ ฯ
๏ ขะบวนรอพอลุด้าว วระดิตถ์
เกยผงาดราชะยานสถิต เทียบยั้ง
เสด็จสู่ราชะกิจวินิจ ฉัยะอาจ องค์เอย
ประทับราชะบัลลังก์ตั้ง บ่ายเบื้องอัสดงค์ ฯ
๏ พร้อมองค์อรนาถเกล้า กษัตรี เอกเอย
สมเด็จพระราชินี แน่งน้อย
รำไพพรณีศรี เมืองมิ่ง สมรแม่
สะพักพัสตร์นพะรัตน์สร้อย สง่าเพี้ยงพิศวง ฯ
๏ พระราชะวงศ์ฝ่ายหน้า ฝ่ายใน อเนกเอย
ถวายอะภิวาทน์จอมไผท อยู่ถ้วน
ปะรำถัดนัททีอุภัย ะภาคเพียบ
อำมาตย์ราชะทูตล้วน ดิลกข้างทางเหนือ ฯ
๏ เฝือหญิงอิศวะริยะเฝ้า ฝ่ายทัก ษิณนา
ต่างแต่งเต็มยศศักดิ์ สะคร้าน
แลรอบขอบเขตสะพรัก ศีระราษ ฎรแฮ
หลั่นเรียบเงียบเสียงสะท้าน ผิสะเทิ้มปรีดา ฯ
๏ แสนสง่าบาระเมศเพี้ยง ภีศะมณ ฑลฤๅ
ลอยฉ่างกลางโพยมหน เหี่มแกล้ว
ไพร่ฟ้าทั่วสากล ะโลกร่วม แลแฮ
เลี้ยงพิภพสพเกษมแผ้ว พิบัติด้วยรังสี ฯ
๏ เสนาบดีเดชอ้าว องค์รอง เรือเอย
ถวายอะภิวาททูลฉลอง เมื่อพร้อม
ขะบวนเรือเพื่อบรรลอง ฤทธิแล่น ฉลองแฮ
รับราชะอะนุญาตน้อม เกศคล้อยถอยมา ฯ
๏ แตรสัญญาป่าวก้อง กังวาล โหวกเฮอ
ทะหารโบกธงสัญญาณ สั่งให้
เบิกขะบวนยาตราขนาน เรือล่อง เรียงฮา
ตามระเบียบเทียบริ้วไว้ สง่าย้ายถวายลำ บาระนี ฯ

เดีรขะบวนเรือพยุหยาตรา

ร่าย

๏ ส่ำเสียงแซ็บประศังสรร ส่ำเนตรอะนันต์แน่วจ้อง
ส่ำกล้องส่องกล้องไถ่ กล้องรูปไหวศิเนมา
ส่ำมะนัสะปราโมทชะม้อย คอยดูคอยชมชื่น
ตื่นตาตื่นใจนิยม บรมะอะภินีหารจอมราช
เผยพยุหะยาตราแกว่น แล่นชละมาร์คเลียบเมือง
โดยเบื้องบุรพะประเพณี เฉลีมบาระมีมะหัศจรรย์
ปางเถลีงถวัลยาภิเษก บุณยาดิเรกเลีสะชาติ์
อวยโอกาสไพร่ฟ้า มานอบกายถวายกร
ถวายพระพรถวายบังคม สมร่มเย็นเป็นข้า
พึ่งเจ้าฟ้าสวามิภักดิ์ จงรักราชะบทะมาลย์
ผู้บงการนาวี เสนาบดีกระเดื่องบุญ
กรมะขุนสิงหวิกรมฯ กะ พระองค์เจ้าสนิทพงศ์ ฯ
องค์รองบัญชาการ ทั้งพระยาหาญกลางสมุทร์
เสนาชุดเชี่ยวเจน พระนเรนทรบดินทร์ทะบวง
หลวงสรไกรณรงค์เอื้อ เรือเอกรัษฎะวรรณ
เรือตรีอัณวะนาวิน ชินจัดกระบวนเรือแพร่
ปล่อยคู่แห่แร่น้ำ คู่แรกนำขะบวนเรือ
พิลึกเหลือเสือทะยานชล เสือคำรนสินธุผาย
ผองพละพายฝ่ายทะหาร อ่าอาตม์สะอ้านสีสะกาว
ฉาวฉกาจราชะนาวิน กรรเชียงชินเชี่ยวกระแสร
เรียกเรือกระแซสามัญ ขานเสียงลั่นเลียนเล่ห์
ฮุยเยเยเยี่ยงกระแซ แลอิเลเลลั่กคลั่ก
กรรเชียงพรักพร้อมตี ขุนเสนีประจำจัด
รัตโนดม,ศังขมาน เรือโทขนานคศักดินั่ง
ถัดเรือดั้งสิบคู่ สายนอกดูมะหึมา
ทะหารราชะนาวีพาย ทุกลำรายพรึบเพรา
ขานยาวเสร้าเร้าเร็ว เสียงเหยวเย่วอะวาอะวา
แสนสง่าท่าทะมัดทะแมง ภู่เสร้าแสงแดงรุ่ง
ครึกโครมกระทุ้งจังหวะ แตรเดี่ยวกระทั่งศัพท์
ถวายคำนับเมื่อผ่าน สรรพนายทะหารเรือประจำ
ญี่สิบลำเลื่องยะโศ นายเรือโทเถลีงสมาร์ถ
อ่าอาตม์เต็มยศะใหญ่ ล้วนเกรียงไกรฤทธิรุตม์
กายะสุต,ศุระภัฏ นายขนัดคู่แรกฉลอง
คู่สองรุจิโกไสย์ ชะไมกับกุสุมา
ณอยุธยาผยองนาม คู่สามกันตะนี,นำ
ธรรมะรักษา,เรือตรี คู่สี่นามประสารสุข
ปิ่นอุทัยฉุกเศีกชะลา คู่ห้าบุรณะสิงหัตถ์
กับศุภชลัษฐ์,ฤทธิดิลก คู่หกจันทรประยูร
ธุวะเสน,พูนยุธะเขบ็จ คู่เจ็ดวรทรัพย์วิเศษ
กับสายเนตร,เดชแผด คู่แปดชูโตสมรรถ
กับเสถียรสวัสดิ์วุฒิสูร คู่เก้าพูลสุนทร
บุณยะสิทธิ์,ขจรใจกริ่ม คู่สิบทิมกระจ่าง,ขยัน
กับสุภัทระพันธุ์ชาญชิด ล้วนจงจิตสวามิภักดิ์
ล้วนทรงศักดิ์เรือตรี เป็นนายพิรียะเรือดั้ง
แนวในสลั้งเรือประตู คู่แรกกะบี่รอนราพณ์
กับกะบี่ปราบเมืองมาร หัวเรือขนานรูปกะบิล
กำแหงสินธุเศีกโผ เรือโทลีนะสมิต,อาจ
เรือตรีฉกาจ,ศิวะทัต ชละยุธะถนัดนามดัง
ควบเรือดั้งคู่สาม นามอะสุระปักษา
และอะสุระวายุภักษ์ รูปนกยักษะทะยานเหยื่อ
อยู่หัวเรืออำมะหิต เรือตรีฤทธิเข้มขัน
สัมฤทธินันทน์,สวาสุนั่ง ควบเรือดงคู่ห้า
ประดากลองชนะสล้าง ปี่เปีงมางคอยประโคม
ปางเสด็จโจมกระบวนผาย นายพระรามเภรี
เรือพาลีรั้งทวีป เรือสุครีพครองเมือง
สองกะบิละเรืองฤทธิล้ำ เผ่นผงาดง้ำเรือเมื้อ
ควบเรือดั้งคู่เจ็ด กละเหีรระเห็จชละชิต
มิลินทะวิจิตร์เรือโท วุฑฒะกนกโยธินคุม
กลองชนะรุมระดับเรียง ปี่ชะวาเสียงเสนาะฟัง
ควบเรือดั้งคู่เก้า เหล่าเรือครุฑเหีรเห็จ
เรือครุฑเตร็จไตรจักร์ รูปกุเวระศักดิสึงขลัง
แตรศังข์ทั้งคู่ประดา ขุนเสน่หราชานาย
เรือตรีผ่ายทะหารผะดุง เตชะตุงคโยธีสมรรถ
เรือตรีรัตนายน แถวกลางถะกละเกียรติ์เมื้อ
ควบเรือดั้งคู่แรก กลองนอกแหวกเวิ้งชล
นายพลเรือตรีขยัน ราชวังสันพระยา
วรทรัพย์ฐานะโต นายเรือโทนาวิน
สิริเวทินเรือตรี สามเสนีนำพะหล
ปางจอมพลเรือเสด็จ โดยเขบ็จประโคมผริ่ง
ติงโหนงติงทั่งเรื่อย ปี่ชะวาเฉื่อยเสียงฉ่ำ
กังวาลน้ำเสนาะเหลือ เรือกราบตำรวจนอก
แถวกลางออกหน้าละลิบ เวรจมื่นทิพรักษา
กับจมื่นราชานุบาล เป็นตัวประธานซ้ายขวา
อ่ากายสะพายดาพคำ หอกเงินกำหัตถะวาง
ขุนหมื่นสะอางอาตม์เข้ม เต็มลำตำรวจหลาย
ท้ายขะบวนหน้าแนวนอก ประตูในออกชละสนาม
นามเรือทองขวานฟ้า เรือทองบ้าบี่นขนาน
แหน่งกระยาสนานม่านกั้ง แหน่งพระบังคนคู่
ผู้พิพักษ์สุประภาตะนันทน์ กล้ามเสตะจันทน์เรือโท
แนวกลางโอ่ฤทธิไกร ตำรวจในไหวกริบ
จมื่นทิพเสนา กับจมื่นราชามาตย์
ขุนหมื่นสมาร์ถลงประจำ เลอลำรักษากษัตร์
เรือกิ่งประภัศระชัย พละพายไสวลำแวง
เสื้อหมวกแดงดูระหง กลางกระทงเชีดเครื่องสูง
บุษบกพะยูงพานสุวรรณ ซ้อนสองชั้นนามชิน
พระมะหากะฐินเฉีดฉลอง รองพัสตร์ตาดตรูตา
เพื่อบูชาพุทธะรัตน์ บังสูรย์จรัสลายสุวรรณ
กลดเฉีดฉันเฉลีมโชค พัดโบกเบื้องท้ายไกว
ธงชัยสามชายเชีด บรรเจีดรุจิราเร่
เสียงเกรี่นเหเหี่มศัพท์ พละพายรับพร้อมกัน
ฮ้าไฮ้ลั่นชละจร ละลอกกะฉ่อนเฉีบพาย
โปรยสะลิลปรายแวววับ เหเห่สลับครึกครื้น
ชื่นหูชื่นใจโอ่ เรือโทเกศาศรัย
และเศวตนัยประจำสนอง ถึงเรือกลองแขกใน
นำพิชัยะชละยานหยัด พระยาปลัดทูลฉลอง
นายพละรองฤทธิฉกาจ ดำรงราชพลขันธ์
ผู้บัญชาพะลารักษ์ ทังสุยุทธศักดิ์เรือตรี
นายเรือทวีระวังพิทักษ์ เรือคู่ชักเชื่อมชะไม
นามเอกะชัยเหีรหาว เอกะชัยหลาวทองพิลึก
วางมะหระธึกคอยรัว เมื่ออยู่หัวยาตร์พยูห์
เรือโทผู้บงกิจ โกกิละกนิษฏ์เกรีกเตร่
เรือโทเภตรานนท์ กำกับพลเรือทะบวง
หลวงคชศักดิ์หลวงศรี- วังราชมีงานสนอง
กำกับกลองโลหะมัย ถัดถึงพิชัยะนาวี
ศรีสุพรรณะหงส์หัวหงส์ ช้อยพักตร์ก่งคอชู
ภู่จามะรีเลีสะลอย คาบปากห้อยหาวปลิว
ท้ายกนกลิ่วลมเชีด แสงสุวรรณะเฉีดฉายวะวับ
แกมแก้วประดับดิลกงาม กราบทองอร่ามลายแพรว
สองแถวพละพายฉกาจ หมวกทรงประพาสเสื้อแดง
พายทองตระแบงปืนบ่า แสนสง่าราชิศวะริยะเลีส
หัวท้ายเทีดธงชัย เครื่องสูงไสวตลอดลำ
พระแสงประจำตีนตอง บุษบกทองเถลีงอาสน์
พระยิภู่ลาดเขนยอิง บังสูรย์สิหิงค์กลดตาด
พัดโบกมาษปฤษฎางค์ ตาววัลละภางค์เชีญตรู
เชีญราชูปะโภคพิลาส ลอยลำผงาดชละฉาน
ผู้บงการพระยา นาวาโทอรณพ
เรือโทสพสวัสดี บุญญชารีชาญกิจ
พระพินิจนนทิศาสตร์ นายประพาศมณเฑียร
ชระเดียรอะดุลยะราชิศวะริยะ พระรัตนแพทย์แพทย์หลวง
ประจำทะบวงราชะนาเวศ เบื้องนัทเยศะยาตรา
เรือพลับพลาอเนกะชาติ์ ภุชงคะผาดเทียบประทับ
เถือกทองวับวะวาวศรี ลายวาสุกีแกมแก้ว
ท้ายพรายแพรวกนกะเชีด หน้าโขนเทีดสุพรรณะพัสตร์
จามะรีหยัดย้วยภู่ หัวท้ายตรูตามอง
พระสูตร์ทองรูจี หลังคาสีแสงกนก
สอดแววกระจกวับวาม เรืองอุไรอร่ามบัลลังก์
ฝีพายนั่งสองกราบ เสื้อหมวกฉาบแดงทะมื่น
ต่างตระแบงปืนกำพาย ทองเถือกรายลำดิเรก
นายเรือเอกบัญชา คุปตาภาเรือโท
โคปาละสุตนายรอง เตรียมสนองบาทบงกช
สมพระยศจอมกษัตร์ นาวีขนัดเนื่องพร้อม
คอยเสด็จนัททเยศะน้อม เกศะก้มประณมถวาย กรเอย ฯ

โคลงสี่

๏ ตำรวจรายเรียบริ้ว รอดำ เนีรรา
กะบี่ธุชครุฑะพ่าห์นำ นิ่งยั้ง
องคะรักษ์กลดปรักประจำ น่าที่ ถนองเอย
วงศะราชอำมาตย์ทั้ง ทูตขึ้นยืนเตรียม ฯ
๏ จอมสยามเยี่ยมยศะแกล้ว เกรียงวิชา ฉลาดเอย
ทรงพระมะหา,มาลา ส่งเสร้า
จระดลจากชละคา เรศะอาจ องค์เอย
เดชะรุ่งผ่านทุ่งเกล้า เกลื่อนน้อมเสนอชัย ฯ
๏ ภูวะนัยเสด็จสู่ห้อง พลับพลา
อเนกะชาติภุชงคะนา เวศเวิ้ง
เปลื้องมะหาราชะมาลา เฉลีมศิโรตม์ แล้วท่าน
ทรงพระ,ชะฎาเซิ้ง ศักดิหล้ามะหากะฐิน ฯ
๏ คู่แผ่นดินเด่นแก้ว พิเชียระกาญจน์ ก่องเอย
พระญิก่าการะวิกะวาล เสียบช้อย
เสด็จสถิตบุษบกพิมาน สุพรรณะราช ะหงส์เฮย
หว่างพุ่มกรสลอนร้อย หัตถ์สลั้งบังคม ฯ
๏ ขรมเสียงแตรฝรั่งซร้อง สรรเสรีญ
ปืนใหญ่ลั่นสนั่นเสนีญ ครั่นครื้น
สยองใจไพร่ฟ้าพะเชีญ นิมิตมะหัจ ฉะรีย์แฮ
ทรวงปึกเกือบสะอึกสะอื้น อุธัจด้วยปรีดา ฯ
๏ นาวาพระที่นั่งเจ้า จอมสยาม
เคลื่อนท่าแสนสง่างาม เงื่อนฟ้อน
พายทองฟ่องหาวยาม เผยีบร่วง ลอองเอย
เสียงเกริ่นฟังเพลีนฉอ้อน โศรตรเพี้ยงเผลอสุบิน ฯ
๏ เล่ห์ปิ่นไกลาสะขึ้น นนทิการ เหีรแฮ
เสด็จสู่เกษียรสมุทร์สมาน มิตร์ไท้
นารายณ์อะวะตารผลาญ สัตตะบาป เบียฬฤา
เผยพระเกียรติยศไว้ ฝากฟ้าดินนุสรณ์ ฯ
๏ แสนกรแสนเนตรจ้อง ตระกองประณม หัตถ์แฮ
เสมือนทุ่งบัวบังคม ทุกด้าน
ทุกใจใฝ่ใจนิยม บาระเมศ เสนีญท่าน
ทุกโอฐอาเศียรสร้าน จิตปลื้มเปรมสนอง ฯ
๏ เรือแซงสองภาคเต้า ตามจร
สองคู่หมู่พะหละนิกร กาจกล้า
ขานยาวเกรีกกราวสมร ชละมาร์ค อึงเอย
เหยีวเยี่วเหีมเฮี่วท้า ถี่ถ้อยลอยฉิว ฯ
๏ แล่นละลิ่วปลิวน้ำน่า ดูนัก
หลวงกิจการกลจักร์ นั่งยั้ง
เรือเอกหนึ่งพะนึงพิทักษ์ นามสิริ นามแล
ชละศึก, ไกสยะทั้ง สี่นี้นายแซง ฯ
๏ สะแดงเดชบาระเมศเจ้า จักระราช
เลียบนะครสอนชาติ์ เชื่อมเกล้า
จงรักภักดีบาท บากพึ่ง ผะดุงเอย
เกษมสุขนฤทุกข์พะเน้า ไพร่ฟ้าสามะคี ฯ
๏ ที่นั่งรองแม้นที่ นั่งทรง
อะนันตะนาคะราชระหง เห่ครึ้ม
อุรคระเมียรเจ็คเศียรมง คละบุษ บกท่าน
พายกนกยกสะพรั่งพรึ้ม พร่างฟ้าฝอยกระจาย ฯ
๏ นายเรือเรือเอกแกล้ว เกรียงฤทธิ์
หลวงประจญประจามิตร มอบเอื้อ
นายเสถียรรักษาพินิต คุมเครื่อง สูงแฮ
ชัยะแพทย์แพทย์หลวงเกื้อ เกียรติ์เจ้าเนาปะถัมภ์ ฯ
๏ ลำพลับพลาน้อยที่ นั่งรอง
ทวยเทพถวายกรผอง เทพฟ้อน
บัลลังก์ปลั่งอุไรอะมร พิมานมาษ ะแม้นฤา
สีปร่ากัญญาซ้อน กระจกกล้ำคำแพรว ฯ
๏ ขุนแกล้วกลางศึกนั้น นายลำ
พายมาษพละพายกำ หัตถ์ฟ้อน
สนอบหมวกรักตะกำยำ สยองราช ริปูรา
เฉลีมพระเฉียรติยศะซ้อน เฉีดท้ายผายขะบวน ฯ
๏ ยวนใจไทเทศพร้อม พรูมะโน
เสียงสนั่นลั่นไชย์โย ย่านก้อง
ชื่นชมเมื่อสมโอ กาสปลุก ใจเพื่อน
หนุ่มแก่ก่นแต่ซร้อง สวัสดิฉอ้อนพรถวาย ฯ
๏ เรือเหาะว่ายฟ้าเหาะ เห็นโฉม หลายแล
โปรยแผ่นถวายพรโพยม ยั่วปลื้ม
บ้างร่ายถ่ายรูปโสม ะนัสะว่อง เวียนเอย
เฉี่ยวฉกเนตรนกยื้ม เยี่ยงวิ้วทิวสถล ฯ
๏ พละพายกรายหัดถ์ฟ้อน พายทอง เทีดแฮ
ปานปีกพะญาหงส์ผยอง เมฆดั้น
ถึงฉนวนท่าด่วนปรอง ประทับวัด อะรุณฯ เอย
นาเวศทุกประเภทซั้น สงบเมื้อเรือรา ฯ
๏ เรือพลับพลาเข้าเทียบ ฉนวนสุธา วาสเอย
เรือสุพรรณะหงส์ถา เทียบเยื้อง
เสด็จจากบุษบกคลา ไคลลับ วิสูตร์ท่าน
เรือภุชงค์ทรงเปลื้อง มะกุฎแก้วมะหากะฐิน ฯ
๏ ภูมินทร์ถวิลถ่วงน้อย เพลา
สะอางพักตร์พักพะหุณหะอา กาศอ้าว
พระทรงพระมาลา วีระยาตร์ เกยเอย
สถิตราชะยานถมอะคร้าว เคลื่อนเบื้องขะบวนจร ฯ

เสด็จสู่พระอุโบสถวัดอรุณราชวราราม

๏ รายสลอนตำรวจเลื้อย เรียงเดีร นำนา
กะบี่ธุชครุฑะพ่าห์เชีญ ชิดเจ้า
ราชะองคะรักษ์ดำเนีร อุภัยะภาค พิพักษ์ท่าน
ทะหารราบหนึ่งแซงเต้า แต่งเสื้อแสงแดง ฯ
๏ มะหาดแวงเชีญเครื่องเบื้อง ขนองตาม
กองเกียรติยศทะหารหลาม แหล่งพร้อม
แตรวงส่งเสรีญสยาม ะบาระเมศ
วันทิยาวุธน้อม ดาพน้อมศรถวาย ฯ
๏ บ่ายราชะยานประทับขึ้น เกยลา
เสด็จผ่านซุ้มทวารวะรา วาสเข้า
สู่อุโบสถโศภา ผยองเกียรติ์ ตระการเอย
อมาตย์ดื่นยื่นระยอบเกล้า เกลื่อนด้านลานเฉวียง ฯ
๏ นักเรียนเรียงระดับซ้อน ลูกเสือ สยามเอย
เพลงสนั่นสรรเสรีญเฝือ ฝ่าร้อง
ระเบียงวงส่ำสงฆ์เครือ ชิโนรส ระดมแฮ
ปะเรียญและฐานาป้อง พัดแสร้สุพรถวาย ฯ
๏ เยี่ยมชายอุโบสถเปลื้อง มะหามา ลาท่าน
รับพระพรราชา คะณะพร้อม
สมเด็จพุทธโฆษา จารยะเชษฐ ะชีเอย
ทรงเครื่องนะมัสะการน้อม พระเจ้าเจรีญขวัญ ฯ
๏ ธรรมิศระราชตั้ง เป็นประธาน
จบหัตถ์กนกะพัสตร์ฐาน พระห้อม
พะนักงานรับโองการ ไปกระหวัด วงแฮ
ทรงเครื่องราชสะการน้อม หัตถ์ตั้งบังคม ฯ
๏ พระบรมะอัสถิไท้ ปัยะกา ธิราชท่าน
ทรงจุดเครื่องบูชา ส่งน้อม
พุทธะนฤมิตร์, ปะฏิมา ฉลองพระ องค์เอย
สรวมสวัสดิ์จิระรัชย์พร้อม ไพร่ฟ้าสถาวร ฯ
๏ รับพรสมเด็จเอื้อน อติเรก ถวายรา
สงฆ์ช่วยอวยชัยะเสก สวดพร้อม
เสด็จกลับประทับเอก ะยานะยาตร์ กระบวนแฮ
สู่พลับพลาเรือห้อม วิสูตร์เปลี้องมาลา ฯ

เสด็จคืนพระบรมมหาราชวัง

๏ ทรงชะฎากะฐินน้อยสถิต บุษบก สุวรรณเอย
อะนันตะนาคะราชดิลก แหล่งน้ำ
เบีกขะบวนยาตรายก พยูห์นิวรรต วังท่าน
พระยศะเรีงถะเกีงก้ำ เกียรติฟ้ามาเสมือน ฯ
๏ เคลื่อนมะหานาเวศเมื้อ ชละมรร คาเอย
ถึงท่าวระดิตถ์ถวัลย ะราชเรื้อง
เสด็จจากบุษบกอะนัน ตะนาคะราช
ประทับพลับพลาเรือเปลื้อง มะกุฏป้องมาลา ฯ
๏ ยาตราสู่เวิ้งราช ชะลาลัย
นามราชะกิจวินิจฉัย ฉุกยั้ง
วงศาฝ่ายหน้าใน น้อมเกศ ภิวันทน์ท่าน
เสวะกามาตย์ทั้ง ทูตก้มเศียรขนาน ฯ
๏ มะหิบาลปราโมทก้ม ศิรำลา
ขัตติยะชาติ์มาตยะเสนา ทูตน้อม
สถิตราชะอาสน์ลงยา ยานเบีก ขะบวนเอย
คืนพระราชะนิเวศน์ห้อม แห่เมื้อพิมานใน ฯ

โคลงสาม

๏ แลเศียรไสวเต็มลาน วระดิตถ์สถานเถือกแคว้น
ทั้งรถยนตร์คนแม้น มดแสร้สวนกัน กลาดนา ฯ
๏ เป็นนานครันกองตระเวน แม้จัดเจนระเบียบป้อง
คนมากรถมากต้อง เติ่งม้านนานหนอ พี่อา ฯ
๏ สอสอราษฎรเกลื่อน รถยนตร์เขยื้อนยากพ้น
ต่างใคร่กลับต่างท้น ต่างท้อรอทาง กันรา ฯ
๏ เห็นใจคะณางค์นัคะเรศ ทั้งไทเทศทึ่งพ้อง
ชมพระบาระเมศป้อง ปกเกล้าเนาเกษม บาระนี ฯ
๏ เปรมมะนะสาสวามิภักดิ์ พึ่งพำนักผ่านฟ้า
เชื่อพระปรีชาข้า บาทพร้อมประนอมสนอง แน่วนา ฯ
๏ บ้างถึงพร้องพจะนา บ้างสีหน้าบอกแจ้ง
เห็นประจักษ์ไป่พักแกล้ง กล่าวถ้อยถวายชม พระเลย ฯ
๏ คนนิยมจอมธระณี หวังบาระมีปกเกล้า
ทรงทนุกสุขเกษมเผ้า ผึ่งเพี้ยงพรถวิล บาระนี ฯ
๏ เจ้าแผ่นดินเด่นศักดิ์ ไพร่ฟ้าสมัคร์มอบเกื้อ
เกียรติ์กระเดื่องเปรมเปรื่องเชื้อ เช่นนี้ศรีสมัย ไชย์โย ฯ

----------------------------

เฉลีมพระบรมราชประเพณี

ร่าย

๏ มงคละชัยเฉลีมฉัตร์ ขัตติยาภิเษกสยามะเจ้า
พระปกเกล้าเกรียงยศ ยังกำหนดสถาปะนา
บรมะวงศาเสนีมถวัลย์ โดยรอวันมหุรดิฤกษ์ ฯ
เบิกราชะพิธีเถลีงนิยม สมเด็จพระนางเจ้า
อิศวะริยะเผ่าพิเศษสุรางค์ สว่างวัฒนานุชาติ์
พระบรมะราชะเทวี โสทะระศรีมาตุจฉา
สถาปะนาพระยศะเด่น เป็นสมเด็จนารี
ศรีสวรินทิราภิรมย์ บรมะราชะเทวีถวัลย์
จอมขวัญพันวัสสา มาตุจฉาเจ้าเจีด
บูชาเชีดคุณะสนอง ธูปเทียนทองเงินกุสุม
พุ่มสุพรรณะรัชดะพฤกษา ราชะบรรณาการประณต ฯ
๏ เฉลีมอิศวะริยะยศขัติตยะสุรางค์ พระนางเจ้าสุขุมาลย์-
มารศรีสมานมิ่งญาติ์ พระวรราชเทวี
เสรีมศักดิ์ศรีประยุโรดม เป็นสมเด็จปิตุจฉา
สุขุมาลย์มารศรีพิลาส พระอัครราชเทวี ฯ
๏ โสทะระปียะราชะนุกรม สมเด็จบรมะวงศ์เธอ
เจ้าฟ้าเสนอสมญา ภาณุรังษีสว่างวงศ์
กรมพระยาองค์เอกถวัลย์ ภาณุพันธุวงศ์วรเดช
ทรงศักดิเชษฐะดิสัยะชาติ์ เป็นพระราชบิตุลา
บรมพงศาภิมุข เทียบทะนุกอิศวะริยะบัณฑูร
ปูนวังหลังก่อนมา ทรงศักดินาแสนหนึ่ง
ผึ่งพระเกียรติคุณะบูชา ธูปเทียนทาหิรัญอุไร
ต้นไม้เงินทองวิโรจ อนึ่งโปรดเฉลีมศักดิ์ศรี ฯ
๏ สมเด็จพี่ยาเธอ เจ้าฟ้าเสนอนามกษัตริย์
บริพัตร์สุขุมพันธุ์ นครสวรรค์วรพินิต
กรมะหลวงพิศิษฎ์์ศักดิเลีส เทีดยศฐาน์กรมะพระ
สมขัตติยะผยองบุญ ทรงเกียรติคุณโด่งดี ฯ
๏ สมเด็จพี่ยาเธอ อุปราชเลอภิไธย์ถะกล
เจ้าฟ้ายุคลทิฆัมพร กรมะขุนกระฉ่อนศักดิ์ศรี
ลพบุรีราเมศวร์ ปกรัฐะเกษตร์ธรรมะราช
กรมะหลวงชาติเฉลีมเผ่า อิกพระเจ้าบรมะวงศ์ ฯ
๏ กรมะพระองค์สนิธนาถ บรมะบิตุราช, ะมาตุลา
ทั้งสะสุระวะราธิปะรัชย์ สวัสดิวัดนวิศิษฎ์
เกาศละนิติธรรมะเขบ็จ เป็นสมเด็จสมศักดิ์ ฯ
๏ พระอัคระชายาเธอ กรมะขุนเสนอนามภิปราย
สายสวลีภิรมย์ศรี สุทธาสินีนาฎเด่น
เป็นพระวิมาดาเธอ ทรงศักดิเสนอยศฐาน์
กรมะพระสุทธาสินีนาฎ ปิยะมะหาราชปะดิวรัดา ฯ
๏ พระกรรมะวาจาจารย์ กรมะหมื่นขนานนามะกร
ชินวรสิริวัฒน์ สังฆะราชกษัตริย์สูงส่ง
ทรงยศะกรมะหลวงหลัก พุทธะจักร์เจีดเกียรติวิบุล
สนองพระคุณสมประศาสน์ กุศละราชะจะริยะวัฒน์
เพื่อเกษมสวัสดิสถาวร แด่มะหิศรสยาเมศ ฯ
๏ ภูเบศวร์ทรงปะกาสิต นิมิตพระชะฎามะหากะฐิน
คู่แผ่นดินที่เจ็ด ญิก่าเพชร์การะวิกะวาล
เยี่ยงรัชชะกาลฉัฐะมี อนึ่งราชะพิธีศักดิ์สิทธิ์ ฯ
๏ นิรมิตร์พระชัยะวัฒน์ ประจำสัปดะมะรัชย์เฉลีมถวัลย์
ยังรอวันวิชัยะฤกษ์ เกรีกจัตุรงคะฯ ราชะเดช ฯ
๏ จักเสด็จประเวศอยุธยา เพื่อสักการะบวงสรวง
ปวงบรรพะกษัตร์เฉลีมมะกุฎ กรุงศรีอยุธยาสถาน
ในอะดีตะกาลทุกองค์ เพื่อเฉลีมมงคละพร ฯ
๏ ทรงพระอะนุสรณ์ทุกประการ ตามโบราณะประเพณี
เจ้าจักรีเกรียงเดช อะนุโลมเชษฐะประดิบัติ์
หวังสิริสวัสดิวุฒิเฉลีม เสรีมพุทธะศาสน์ไพศาล
ทรงอะภิบาลสยามะชาติ์ สมชะโยกาสเชีดชื้น
เปรื่องพะณิชย์พิทเยศฟื้น พิภพเพี้ยงพะลาสา สนองเอย ฯ

----------------------------

ราชธฺมมสโมธาน

โคลงสี่

ทายาท

๏ คะณามาตย์ขัตติยะชาติ์ทั้ง ทวยประชา สยามฤา
จักโสตถิ์ศันต์หรรษา สั่วด้วย
เดชประศาสน์ราชะจะริยา นุยุกติราช ะธรรมท่าน
องค์เอกเสกผละย้วย ยิ่งล้านสมานเมือง ฯ
๏ กระเดื่องศักดิ์จักริศะเชื้อ เฉลีมวงศ์
จะตุระพิธะทายาทะพงศ์ ผ่านด้าว
สันตะติสืบสนององค์ อิศวระเจษ ฎางค์ท่าน
สมยึดพฤติคุณน้าว นิติเกื้อกะระณีย์ ฯ

๑ กุลทายาโท

๏ ศรีสะกุละทายาทเจ้า จักรี นั้นนอ
ท่วมทะนุกสุขเกษมศรี สืบเกื้อ
เกียรติวงศ์ยืดยงทวี วุฒิศักดิ์ เสนีมแฮ
ประทีปสว่างเพราะฉ่างเชื้อ ชดน้ำมันเสมอ ฯ

๒ รัชชทายาโท

๏ เผยอรัชชะทายาทด้วย เดชผะดุง ราษฎร์รา
พละรบพละเรือนพะยุง ยั่วเอื้อ
พาณิชย์กิจเกษตร์ปรุง ประเทืองศึก ษาฤา
เฉลีมฤทธิ์ศักดิ์สิทธิเกื้อ พะสกะโน้มนิยมถวัลย์ ฯ

๓ ธมฺมทายาโท

๏ สมธรรมะทายาทย้วย ยุกติธรรม
ไว้เยี่ยงห่อนเพลี่ยงพลำ พฤติ์ร้าย
หลีกชั่วมั่วมะนัสะบำ เพ็ญชอบ ฉลวยแฮ
เสมือนหลักชัยใฝ่ชะม้าย ชาติ์โน้มนุโลมหา ฯ

๔ สาสนทายาโท

๏ ศาสนะทายาทนั้น สะระณู ปะถัมภ์เอย
ไตรรัตน์ปะริยัติฟู ใฝ่ฟ้า
อวยจัตุปัจจัยะชู ชิโนรส ะเรียนแฮ
เพียรประกาศธรรมะภาสท้า พุทธะถ้อยแถลงชวน ฯ
๏ บดิศวรเสวยราชย์เพี้ยง พุทธา ภิเษกพ่อ
แม้ลุโลกุตะระมะหา โพธิ์แผ้ว
ไป่โปรดสัตว์เทศนา นำนิเทศ สมฤา
เสมือนกษัตร์ทรงรัชย์แล้ว เรีสะเลี้ยงเวียงเกษม ฯ

----------------------------

ทสพิธราชธมฺม

๏ จักเปรมกะมละราชแม้ มะเล็งองค์ โอ่เอย
ทศะพิธะธรรมะธำรง เลีสะเจ้า
ยวนหะทัยใฝ่ถวิลทรง เสนีมจริต เจรีญแฮ
ลูกรัฐหัตถะท่วมเกล้า เกรีกหล้าสาธุการ ฯ

๑ ทานํ

๏ โปรดอวยทานทั่วข้า ขัณฑะสี มางค์เอย
วงศะราชมาตยะเสนี เนื่องเลี้ยง
สาธาระณะประโยชน์ทวี วุฒิแผ่ พะสกท่าน
สะเรีงรับราชะทรัพย์เพี้ยง โภคะปลื้มประชาสนอง ฯ

๒ สีลํ

๏ ทรงประคองคุณะศักดิ์รู้ สำรวม จริตท่าน
กายจิตวะจีกรวม กราดร้าย
บำราบบาปเบียฬสรวม กุศละชอบ เฉลีมเอย
ไป่หมิ่นยึดศีลละม้าย ศัสตระป้องผองพาล ฯ

๓ ปริจฺจาคํ

๏ ราชะศฤงคารแม้ราช ะชีวัน ก็ดี
เมืองสุขปลุกเกษมศันต์ สุขด้วย
เมืองวิบัติ์ทอดมะนัสะสรร พะบริจาค สนองเทีญ
ปราโมทย์แต่ประโยชน์ช้วย ชาติ์เพี้ยงพีระหงส์ ฯ

๔ อาชฺชวํ

๏ ซื่อตรงทรงสัตย์ไร้ มาฤษา สนองเลย
ชังเสนียดเกลียดมายา แหย่ร้าย
ราชุบายบ่ายทางสถา วีระสุจ จริตพ่อ
ประยุระมิตรผูกจิตร์ชะม้าย แต่ข้อกรอเกษม ฯ

๕ มทฺทวํ

๏ เปรมฤดีศรีสวัสดิเอื้อน อัธยางค์ ยงเอย
แสยงหยิ่งพริ้งเพราสะอาง อ่อนน้อม
เสมือนไกสะระราชปาง อิ่มภักษ์ ผยองแฮ
เลีกขู่ขานหว่านล้อม ลักษณะแกล้วแกลสรวล ฯ

๖ ตปํ

๏ รัญจวนประจาคร้าย หมายดี
ข่มมะนัสะกำดัดวิถี ถ่อยเว้น
เกลศมารมิหาญคระวี วระบาท ไฉนเลย
อุสาหะมานะเขม้น มุ่นข้างเถลีงคุณ ฯ

๗ อกฺโกธํ

๏ น่าฉุนกรุ่นกริ้วพระ กำหราบ เสียรา
โดยแผ่เม็ตตาปราบ โปร่งแค้น
เวรวิรัติ์เมื่อระหัสะกราบ ทูลตัก เตือนฤา
ข่มพิฆาตอาฆาตแม้น เมือกมะล้างโสมม ฯ

๘ อวิหึสํ

๏ ทรงอบรมระรื่นด้วย กะรุณา
ห่างเคียดขึ้งพิหึงสา ใส่ไคล้
เบียฬอุบาทว์อาชญาหา เหตุพินาศ ใครเลย
สะเรีงราชะอำนาจใช้ ชอบเกื้อถะเกีงศันติ์ ฯ

๙ ขนฺตึ

๏ พระช่ำธรรมะชาตเอื้อม อดทน
เหนื่อยหน่ายพระกายกะมล ไม่ท้อ
ถูกยั่วถูกหยันยล แสยงขยาด ไฉนฤา
ไป่ละกะระณีย์ข้อ ข่มคะยั้นขันตยางค์ ฯ

๑๐ อวิโรธนํ

๏ วางองค์ยงยิ่งเพี้ยง หลักเพชร์
ยอขู่รู้ถึงเขบ็จ บ่ย้าย
ถือมั่นยุกติธรรม์เผด็จ อะธรรมะเทีด ธรรมแฮ
ไป่หมิ่นยินร้ายละม้าย หมิ่นด้วยยินดี ฯ
๏ จอมปัฐะพีพิศิษฎ์ถ้วน ทศะธรรม ฉนี้นา
น่านับถือเกรงยำ ยอบเกล้า
ถวิลไหนไป่พลำสำ เร็จเลื่อง จะรีย์ท่าน
ผะดุงรัฐเกษมสวัสดิก้ำ เกียรติฟ้ามาสมาน ฯ
๏ ข้าบทะมาลย์หมิ่นน้อย ไฉนมี
มีแต่ยอบมอบชี วิตเส้น
ประพฤติ์เดียวเหนี่ยวภักดี หรือเดีด สะแดงเอย
ทุกราชราชะธรรมเว้น มิได้ดังนุสรณ์ ฯ

----------------------------

ราชสงฺคหวตฺถุ

๏ อุปะกรณ์ราชะเกียรติ์ป้อง ปะชาศันต์ โสตถิ์เอย
เดชกษัตร์ทรงสุภัทระจะรัณ หลักเกื้อ
จะตุระสังคะหะพัสดุ์สรรพ์ สฤษฎิถูก ธรรมพ่อ
บัณฑิตบัญญัตเนื้อ นิเทศน์ ไว้หวังฉลอง ฯ

๑ สสฺสเมธํ

๏ โปรดปรองปรนเกษตร์ท้วย ธัญญา หารแฮ
สมส่วนช่วยสวนนา ทดน้ำ
ชาวนิคมอิ่มอุดมะอา หารส่ำ สินฤๅ
โดยพระปรีชาค้ำ คะติฉะนี้ศรีจรัณ ฯ

๒ ปุริสเมธํ

๏ ข้าขอบขัณฑ์ขยิ่มสิ้น ใจเสาะ
พึ่งบาทราชะสงเคราะห์ ชุบเลี้ยง
โดยเกาศะละเลศเภาะ พูนภัก ดีรา
อุ่นจิตทั่วทิศะเพี้ยง เทพยะเจ้าเนาปะถัมภ์ ฯ

๓ สมฺมาปาสํ

๏ สำเรีงใจไพร่ฟ้า สาธุการ
ยวนนิยมสมภาร แผ่คล้อง
น้ำจิตชื่นชิดสมาน เสมือนชะนก นิกรฤา
เดชพระปรีชาป้อง ประโยชน์ป้องผองภยา ฯ

๔ วาจาเปยฺยํ

๏ พระพจะนาน่าปลื้ม เปรมปราณ
ถั่งราชะปะฏิสันถาร ถูกถ้อย
เพลาทุกข์ปลุกปลื้มปาน สุรามฤต ชะโลมฤา
มอบชิวิตโลหิตย้อย หยดท้ายถวายพะลี ฯ

นิรคฺคลํ

๏ ผละสี่สังคะหะแม้ มะหากษัตริย์ สนองเอย
อุบายบ่มรัฐะสมบัติ์ เบีกเผ้า
บ้านเมืองรุ่งเรืองขจัด โจรฉก ฉลฤๅ
ไป่พักลงกลอนเหย้า อยู่เพี้ยงเวียงสวรรค์ ฯ
๏ ประศังสะพรรค์บัณฑิตเบื้อง บัญญัต นามแน
เรียกนิรัคคะลังรัฐ รื่นด้าว
เดชบรม,ะกษัตร์จัด ราบคาบ นะครท่าน
เฉลีมพระเกียรติคุณน้าว ดนุชะหล้าสามะคี ฯ

----------------------------

จกฺกวตฺติวตฺต

๏ จอมธระณีนาถผู้ ผยองยศ ะยอดเอย
กอบกุศละกรรมะบถ สิบถ้วน
ทรงธรรมเฉกนำรถ ชัยะธุช เถลีงฤา
สามัคคีรสะล้วน ดิลกด้วยไตรรงค์ ฯ
๏ คือทรงอดกลั้น,เม็ต ตา,กา รุญ.แล
สงเคราะห์อวยยศฐาน์ ศักดิ์,ทั้ง
เคหะฐาน,ธนะสาร.นิวา ระณูบัทว์ เบียฬ.เอย
ธรรมิการักษ์กั้ง กอปด้วยองค์ตรี ฯ
๏ โดยวิถีธรรมะบัถเบื้อง ทวารัส
ขัตติยะศักดิ์จักระวรรดิวัต เวี่ยพร้อม
อาณาจักร์จักสวัส ดีประเจีด เจรีญแล
ผองพะสกยกหัตถ์น้อม เกศถ้วนถวายสะการ ฯ

๑ อนฺโตชนสฺมึ พลกายสฺมึ

๏ ราชะทานโอวาทให้ เหีมกุศล
อวยลาภ,อวยยศ,ประดล เดชป้อง_
ภะยูบัทว์,แด่ขนัดพะหล ะเสวก ก็ดี
ไป่ห่วงหาเลี้ยงท้อง ทั่วยั้วครัวเรือน ฯ

๒ ขตฺติเยสุ

๏ ไป่เฝื่อนใฝ่เกี้ยวราฐ ะไมตรี
ต่อขัตติยาธิบดี ต่างด้าว
อวยมะหัคฆะภัณฑ์ทวี วุฒิมิตร์ สมานท่าน
เป็นราชะบรรณาน้าว เสน่ห์น้ำใจสนอง ฯ

๓ อนุยนฺเตสุ

๏ ผองขัตติยะชาติ์ชั้น วงศา สนิธเอย
ถนอมมะโนชโปรดเม็ตตา ตอบเอื้อ
อวยอิศวะริยะยศ,พา หะนะ,โภค ผะดุงแล
สมานมิตรสมชิดเชื้อ ชื่นพร้อมประนอมสงวน ฯ

๔ พฺราหฺมณคหปติเกสุ

๏ ควรนุกูลนายคฤหาสน์ทั้ง พราหมะณา
เครื่องเกษตร์เครื่องพรตหา ช่วยบ้าง
ยวนนิยมชื่นชมสวา มิภักดิ์นับ ถือเอย
ญาติ์มิตรสานุศิษย์สล้าง หละรู้คุณูปะถัมภ์ ฯ

๕ เนคมชานปเทสุ

๏ บำเพ็ญอะนุเคราะห์ฟื้น ฝูงประชา นิกรเทีญ
ชนะบทชดเครื่องหา โภชน์เลี้ยง
ใช่เพรื่อเมื่อเพลา เข็ญขัด แคลนฤา
เสมือนฝึกสำนึกเพี้ยง พ่อแคว้นแหนนิยม ฯ

๖ สมณพฺราหฺมเณสุ

๏ สมสักการสมะณะทั้ง พราหมณ์พรต
โดยหว่านบริขารชด ช่วยเกื้อ
เจรีญธรรมะปะฏิบัติบถ บุรานุศาสน์ สนองเอย
เป็นราชะกุศละเนื้อ เนื่องฟ้านาบุญ ฯ

๗ มิคปกฺขีสุ

๏ อวยคุณแก่สัตว์เอื้อน อะภัยะทาน ถั่งเทีญ
มฤค,วิหค,มัจฉะเดียระฉาน ช่วยบ้าง
ห้ามกระเหี้ยนเบียดเบียฬผลาญ ศูนย์พืช พันธุ์ฤา
สมราชะการุญอ้าง โอบป้องผองชิวัน ฯ

๘ อธมฺมการปฏิกฺเขโป

๏ ห้ามกันอะธรรมิกเลี้ยง ชีวิต
เวี่ยกุศละสุจริต ร่ำสร้าง
ยำบทกฎหมายคิด แต่ชอบ ฉลวยแฮ
เพื่อบั่นคนพาลสล้าง แหล่งล้นคนดี ฯ

๙ อธนานํ ธนานุปฺปทานํ

๏ ใครที่ยากแค้นขัด สนทุน
เลี้ยงชีพเชีงเบี่งบุญ บากหน้า
สมสุดโปรดอุดหนุน อะนุเคราะห์ บ้างเทีญ
เทียบชะนกปกไพร่ฟ้า ใฝ่ข้างทางถนอม ฯ

๑๐ สมณพฺราหฺมเณ อุปสงฺกมิตฺวา ปฺหปุจฺฉนํ

๏ ย้อมพระหะทะเยศสร้าน สพน์ธรรม เสถียรเทีญ
สังสรรคนักพรตนำ แหน่งฟ้า
เสวะนะสมณะบำ เทีงพบ พราหมณ์ฤา
วาทะ,ปะฏิวาทกล้า กล่าวต้อนเตือนถวาย ฯ

๑๑ อธมฺมราคสฺส ปหานํ

๏ ไป่วายไวรัติ์ห้าม อะธรรมสมาน
ในอัคะมะนิยะสถาน ถ่อยด้อย
ถึงกำหนัดประหยัดญาณ ยั้งราค ละเลีงเทีญ
เสียใช่เสียเล็กน้อย เนื่องเชื้อเหลือสมาน ฯ

๑๒ โลภสฺส ปหานํ

๏ ประหานวิสะมะโลภไร้ เจตะนา นิตย์เทีญ
ห้ามขาดอย่าปราร์ถนา ลาภร้าย
ห่อนสมจะนิยมหา เหตุวิบัติ์ องค์เลย
เสมือนพิษอะสะระพิษบ้าย บ่อนผล้าแผลเอง ฯ
๏ เพรงบุญบรมะนาถเจ้า จักระพรรดิ -ราชเอย
เสวยศวรรยาธิปัตย์ ปกเผ้า
บำเพ็ญจักระวรรดิวัต ทวารส ประการแฮ
ผะดุงทิศเรืองฤทธิเฝ้า ฝากหล้านุสามะรีย์ ฯ
๏ สวัสดีทวีเดชด้วย เดชวิรัติ์ ร้ายเอย
พ้นภะยันดะรายวิบัติ์ เบีกแกล้ว
ใดชอบประกอบ,ระมัด ใดชั่ว ฉะนี้แล
ทรงศักดิ์จักระพรรดิแผ้ว โพฒิเพี้ยงภีศะแสง ฯ

----------------------------

ปฺจราชพลํ

๏ บัณฑิตแถลงลักษณะห้า พะลาธิการ
ของกษัตร์รัฐะมะหาศาล สืบเชื้อ
อำนาจราชะสมภาร ผยองโลก ประลือแฮ
เดชกอบเบ็ญจะพลเกื้อ เกียรติ์ฟ้ามาถวาย ฯ

๑ กายพลํ

๏ พระพะลังกายเกีดด้วย บริหาร องค์เอย
ปราศจากโรคประลองสะราญ ร่างไท้
จอมกษัตริย์ปกรัฐะดาล พิริยะเดช ผะดุงแฮ
ยามศึกยามศันติ์ไร้ พะลัฑฒ์แล้วสมหรือ ฯ

๒ โภคพลํ

๏ โกศะกระพือโภคะราชด้วย ภาษี สร่วยฤา
ผะดุงอมาตย์ราชะโยธี ท่วมแกล้ว
เกษตร์กิจพะณิชะกรรมทวี วุฒิโภค พะลังเทีญ
บรมะกษัตริย์สินวิบัติ์แล้ว เลีสะเลี้ยงเวียงไฉน ฯ

๓ อมจฺจพลํ

๏ จอมไผทชัยะเศีกด้วย เสนี สนองนา
ผะดุงชาติ์โดยอมาตย์ดี ดื่นหน้า
เอกองค์ผิทรงสี หะเดชสมาร์ถ ไฉนฤา
สุกพิศิษฎ์บุณยะฤทธิ์,ข้า บาทเพี้ยงพะลังฉลอง ฯ

๔ อภิชจฺจพลํ

๏ กษัตร์ครองภพะนาถเนื้อ หน่อราช
ทรงศักดิ์อุภะโตสุชาต โชคฟ้า
สะกละภพมิสพประมาท หมิ่นศักดิ์ สูงเลย
เสมือนพระกำลังกล้า กลั่นเชื้อเฉลีมคุณ ฯ

๕ ปฺญาพลํ

๏ ผู้มีบุญเบีกแกล้ว กลางสะมา คมเอย
เพราะเปรื่องปรีชาสา มาร์ถกว้าง
เดชดิลกปกพะสุธา เถลีงฉัตร เฉลีมฤา
ยอดพะลัฑฒ์จอมกษัตร์อ้าง เอกนั้นปัญญา ฯ
๏ คุณาภระเณศเจ้า จอมไผท
ตามพุทโธวาทะนัย เยี่ยงนี้
มีโลกย่อมมีอัย ยะสีห์ปก โลกเอย
จอมพุทธ์จอมมะกุฏชี้ เชื่อมใช้ชะไมปะถัมภ์ โลกแล ฯ
๏ พุทธะจักร์พำนักฟื้น ใจคน ผะดุงรา
ละบาปบำเพ็ญกุศล สู่ฟ้า
อาณาจักร์พิทักษ์สนธ์ กำจัด ภัยแฮ
ศันติสุขพึ่งทะนุกหล้า หละเกื้อกายใจ ฯ

----------------------------

ปรมาเศียรวาท

๏ รตนตฺตยานุภาโว ปรมินฺทมหาปชาธิปกํ มหาราชํ อภิรกฺขตุ ฯ

๏ สรวมพระไตรรัตะนะเรื้อง วระคุณา นุภาพเอย
เชีญภิรักษ์บรมะกษัตร์มะหา ราชเจ้า
ปรมินทรมหาประชา ธิปกศัก ดิเดชน์ท่าน
สมเด็จพระปกเกล้า ปกเกล้าเราเกษม ฯ

๏ รตนตฺตยานุภาวํ นิสฺสาย ปรมินฺทมหาปชาธิปโก มหาราชา พุทฺธสาสนฺจ สฺยามรฏฺฐฺจ ปชฺจ อภิปาเลนฺโต สุขํ ชีวตุ จิรํ รชฺเช ปัติฏฺฺฐาตุ นิจฺจํ ชยตุ ฯ

๏ เปรมใจใคร่เสี่ยงอ้าง อาศรัย
คุณานุภาพรัตะนะตรัย เกริ่นเกล้า
ขอพระปรมินทร์มะหัย มะหาราช เราเอย
สมเด็จประชาธิปกเจ้า เจีดแกล้วเฉลีมกรุง ฯ
๏ บำรุงพุทธะศาสน์ชื้น ชนมะสุข
สยามะชาติ์ราฐะทำนุก เนื่องเลี้ยง
ดำรงสิริรัชย์ปลุก เกษมยืด ยงเทีญ
ผะดุงประชาชัยเพี้ยง พิภพดั้นนิรันดร ฯ

๏ รตนตฺตยานุภาเวน ปรมินฺทมหาปชาธิปกสฺส มหาราชสฺส โสตฺถิ อิทฺธิ วุฑฺฒิ ภวตุ ฯ

๏ สังหรณ์อานุภาพแก้ว สามประการ
สรวมพระสวัสดีดาล ด่งฟื้น
สรวมพระอิทธิโอฬาร ดิลกะเดช อดุลเทีญ
สรวมพระพุฒิภาพพื้น เพิ่มเพี้ยงพรประสงค์ บาระนี ฯ
๏ จงมีแด่พระเจ้า แผ่นดิน เอกเอย
สมเด็จพระปรมินทร์ ปกเกล้า
มหาประชาธิปกภิญ เญาวะภาพ ผยองเทีญ
สมราชะปะณิธานเฝ้า ใฝ่เกื้อเกษมประชา สิทธมัสดุ ฯ

----------------------------

จบ

๏ ลิลิต ข้านราธิปเอื้อม อวยระบิน
รา มิมีทวีถวิล ว่างน้อย
ชา ครีย์กลั่นกะวีจิน ดะนาเสนาะ สนองเอย
ภิเษก พระปกเกล้าชะม้อย มุ่งแล้วเร็วถวาย ฯ
๏ จบ ภิปรายพจะนาทไว้ เฉลีมเวียง
บ รมะนาถชูชาติ์เพียง เพชร์พร้อย
ริ ระจิตเพื่อพิศิษฎ์เสียง เสนอต่าง องค์อา
บูรณ์ บทบ่บูรณ์ถ้อย โทษข้าขออะภัย ฯ
๏ จง ใจไว้ชื่อมื้อ มระณา สันแล
รัก พระราชะจะริยา ยั่วปลื้ม
ภัก สาอุสสาห์หา ไหนเปรียบ กะรุณเลย
ดี เด่นเหมือนเฟ้นยื้ม หยาดฟ้ามาผงม บาระนี ฯ

----------------------------

อธิษฐาน

ร่าย

๏ อัญขยมประณมหัตถ์ชะไม ประณามพระไตรรัตะโนดม
บังคมบรมะเทพะบิดร โปรดประศาสน์พรศักด์สิทธิ์
ให้สมจิตสมเจตน์ เดชระจิตลิลิตสุภาพ
พจะนาทปลาบปลื้มกะมล ใครอ่านดลปรีดา
ฟูมะนะสาสมแต่ง แม้น้อยแห่งน้อยคำ
น้อยคนบำเรอมะโนช เบีกปราโมทย์ประโยชน์ยล
ประเทืองทิพยะผลสมหวัง บังเกิดกุศละศุภะกรณ์
เกียรติสังหรณ์ให้สม มะโนภิรมยาธิษฐาน
จงบรรดาลสิริสวัสดิ์ แด่สยามะกษัตร์สัปดะมะราช
เฉลีมชาติ์ชื่นชนมะมาน จิระฐิติกาลถะเกีงบุญ
อำนวยพระคุณสมศักดิ์ ขัตติยะจักรีเกรียงเดช
ทำนุกประเทศประเทืองไผท ทำนุกไทประเทืองวงศ์
ยืนยงคู่ฟ้าดิน เสริศวะระภิญโญนิยม
ขอบรมะวงศ์จักรี มีชะโยกาสเกื้อรัฐ
อวยเกษมสวัสดิ์วุฒิไกร แด่ชาติ์ไทฐิติกาล
คุณะไพศาลสะโมสร เกื้อมะนุษยะนิกรสกละพิภพ
เกียรติศักดิ์ลบเลีสะนิกาย สัมะภาคผายพิริยะวิชัย
ขอชาติ์ไทเอกอะธึก ศึกษาเปรื่องเฟื่องวิชา
ทรงศักดิสาธุประพฤดิ์ ยึดพิริโยตม์โสตถิ์สถิต
พาณิชยะกิจเกษตระกรรม ช่ำเชีงเรีงรวยสิน
รักธรรมะภิญโญเกษม เปรมพรหมะวิหาระสามะคี
ปรองประเพณีสมฐาน ห่อนทะเยอทะยานเกีนสมาร์ถ
พำนักราชยะธิปะไตย์ จวบถึงสมัยเหมาะหน้า
เปรื่องวิชาสามาร์ถป้อง ปกครองตนโดยงาม
ห่อนเหิ่มห่ามเอาอย่าง ตื่นกระดางลางเลียนเขา
เอาแต่สมแต่ควร ห่อนด่วนห่อนกำเรีบ
เสีบสารส่อกะลียุค รนหาทุกข์หาโทษ
โดยชั่วโฉดเฉาญาณ ขอบรรดาลสยามะชาติ์
คงเอกะราชย์เลอโลก ปราศจากโชคร้ายตลบ
จวบสะกละพิภพศิวิไลส์ ร่วมหฤทัยเป็นชาติ์เดียว
ชุดเฉลียวเฉลีมโสตถิ์ศันติ์ เลีกผลาญกันพินาศ
ขอพุทธะศาสน์ส่องหล้า เป็นศาสนาสากล
โลกานุสนธิ์สมดี ธรรมะรังสีสว่างสวรรค์
เลี้ยงไกวัลย์วุฒิสวัสดิ์ อย่ารู้วิบัติบำเพ็ญ
เป็นสาธาระณะประโยชน์ โปรดสัตวะนิกรทั่วหน้า
จงประสิทธิ์สมจิตข้า ขจิตน้อมมะโนธิษฐาน นี้เทีญ ฯ

----------------------------

อวสานพจนาท

๏ เริ่มสารโคลงลิลิตนี้ ชีวิน ทระวารเอย
พุทธะศกสองพันกะษิณ สี่ร้อย
เศษหกสิบแปดสุทิน สิบแปด กุมภ์รา
ฉลูสัปตะศกชะม้อย มุ่งแล้วทันถวาย ฯ
๏ ในปลายพุทธะศกหน้า นานพอ
เฉลีมพระชันมะษารอ ฤกษ์พร้อม
ปางแรมมะหระณพชลอ ชีโวสร์ วิทูรพี่
องค์สุขปลุกญาณย้อม ขยิ่มฟื้นฟูสมอง ฯ
๏ ประลองเหยาะสารเสนาะสิ้น ฝีโอฐ พี่อา
เสมือนส่งลำปราโมทย์ เมื่อเถ้า
อะวะสานพจะมาลย์อุโฆษ ขัตติยะลักษณ์ กะวินเอย
เฉลีมรัตะนะโกสินทร์เย้า จิตจี้กะวีสะหาย ฯ
๏ ขวนขวายสืบเรื่องร้อย เรียงคำ
ทุกระหัสมุ่งมะนัสะทำ ถ่องถ้วน
อ่านเล่นหรึเป็นตำ รับสืบ สนองรา
สมัยเปลี่ยนเพี้ยนยุคล้วน เปลี่ยนเพี้ยนเฉนียนนิคม ฯ
๏ อัญขยมสมแต่งใช้ เวลา ว่างเอย
ตามจุใจในครา คร่ำแล้ว
ฉลองขวัญส่อศันติผา สุกเศษ ชนม์พี่
ได้เปรียบเทียบกะวีแกล้ว หนุ่มกลุ้มแกลงาน ฯ
๏ สังขารทุพละภาพโอ้ อาภัพ พี่เอย
ไหนมะรามัยถับ ท่วมเงื้อ
อาสันนะวิโยคลับ ลาระร่อ แล้วเพื่อน
รู้ขนาดธรรมะชาตเรื้อ ละโมภเคลี้งเหลีงไฉน ฯ
๏ กำไรชีวิตเกื้อ เกษมชนม์ พี่อา
ไป่เปล่าเพียรเกลานิพนธ์ เพิ่มไว้
สมัยใหม่ยากใครสน ใจรัก กะวีเลย
ศรีอยุธยาถ้าไร้ กะวิชกะนี้ดีหรือ ฯ
๏ พรื่อไผทใช้ผูกถ้อย แถลงโคลง คร้านฤา
สพโศลกตื่นโชคชะโลง เพร่าพร้อง
ไป่เสาะพจน์เสนาะสะโอง อัตถะอวด รู้รา
ฝึกจริตติดตัวต้อง เติ่งฉะนี้มีถม ฯ
๏ แม้อบรมรักเฟ้น เป็นกะวี แท้แล
แต่งมิเด่นเห็นดี ฉีกทั้ง
อุสาห์ตรองสอดส่องวิถี เธียระฉบบ เฉลยรา
ประพันธ์เหมาะคำเพราะพริ้ง เลีสะไร้ใครฉิน ฯ
๏ ปรุงประทินพจะนาทกล้ำ คำกระหวัด
เอีบอักษระสัมผัส พากย์แพร้ว
ไป่เลีสเท่าเทีดอรรถ อ่านจับ ใจเลย
เพลาเสนาะเหมาะความแล้ว กลับกะก้ำขำขะบวน ฯ
๏ กำศวล, ยวนสวาท, พ้อ พิโรธระหัส สยองฤา
แต่งง่ายสร่ายสัมผัส เพราะได้
เดชความบ่งง่ามฉวัด เฉวียนส่อ เสนอเพื่อน
เล่าเรื่องเปลืองสมองให้ เสนาะเนื้อเหลือระอา ฯ
๏ คะณาอักษรผ่อนสั้น ยาวไฉน เจ้าเอย
สุดแต่อ่านสมานไพ เราะห์ลิ้น
วางเหมาะก็เสนาะนัย ะพจะนาท สนองเพื่อน
ไร้หลักยักคำดิ้น เด่นเลี้ยงเสียงสะอาง ฯ
๏ ละม้ายนางช่างดอกไม้ มองผะจง ระจิตฤา
พวงบุบผาพิศวง เมื่อแล้ว
ผะสมฉลาดกับสมาร์ถมง คละมิ่ง มือแม่
โศภิตพ่างนิมิตแพ้ว พิริยะเพี้ยงเรียงคระโลง ฯ
๏ นายโรงนางเอกฟ้อน ละครรำ วิไลแม่
เหตุถนัดนัฏะกรรมนำ เนตรปลื้ม
ท่าละครอักษรสำ เรีงโลก ละม้ายรา
สมานเหมาะเหมือนเหยาะยื้ม หยาดฟ้ามาแฝง ฯ
๏ ช่างแผลงเขียนภาพน้ำ ยาสี สวยเจ้า
เลือกท่าเลือกที่ดี เด่นวิ้ว
งามไหนใฝ่วาดฝี มือนิมิต นั่นเพื่อน
จึ่งวิจิตร์วิษณุกรรมพลิ้ว เพรีดแพ้แลเฉลา ฯ
๏ ยามเนานัคะเรศะพ้อง อเนกะภาร พี่อา
สุดประดิษฐ์ลิลิตขาน ขัดถ้อย
ยามยั้งฝั่งชะเลปาน อะมระชุบ เชาว์ฤา
สารเสนาะเดาะพจน์พร้อย พร่ำพร้องเพลีนหนอ ฯ
๏ เหลือพนอวระอาตม์แม้น เคยมา แล้วพี่
ตื่นแต่เยี่ยมสุริยา หยุดน้อย
ยามเสวยและสรงสา คระพัก ไฉนเลย
ตรองบทพจะนาทชะม้อย แต่แต้มแถมระบิน ฯ
๏ ยิ่งถวิลร่วมแล้วยิ่ง ผยองเพียร ยิ่งรา
เคยแขกแปลกพักตร์เยียน ยั่วปลื้ม
ปราศรัยผูกใจเจียน จับเบื่อ เบือนฤา
ชอบเปลี่ยวอยู่เดียวยื้ม เยี่ยงลี้อิสีสถาน ฯ
๏ วารสุรีย์ที่สิบเบื้อง พุทธะศก
เยี่ยมเศษพฤษภหก สิบเก้า
จวนเที่ยงเยี่ยงทิพยุทก เทพยะโปรด โปรยฤา
ชื่นชิวิตเพราะลิลิตเร้า อุระแล้วเลอถวิล ฯ
๏ สิ้นแปดสิบสี่ถ้วน ทิวัสะกาล ประมวลเพื่อน
หากงดรจะนาวาร ออกเว้น
สี่สิบแปดทินะประมาณ วันแต่ง เต็มเอย
ไม่น่าแล้วแล้วเส้น ชีพเพี้ยงพราหมณ์ขลัง ฯ
๏ ตั้งพิทธีเอกเอื้อน อิศวะระมน ตราฤา
เบ่งตะบะผละกังวล อื่นสิ้น
หยุดระงับแต่หลับปรน ชิวาผ่อน ผงมพี่
เกษมเสาะฉอเลาะลิ้น ดุริยะถ้อยประเทืองหู ฯ
๏ เถีงผู้ชำนิห์แกล้ว กะวิีนิพนธ์ ฉมังรา
ใช่ผูกบทพจะนะถะกล ก่องถ้อย
ตามจิตมักติดฉงน ชะงึมเงื่อง งงพ่อ
เคยเสนาะหนิเพราะน้อย นั่งตื้อหือไฉน ฯ
๏ ยามไวไขพจะนะเพี้ยง เทพัญ พิศิษฎ์ฤา
ถั่งทิพยะประพันธ์สวรรค์ วากย์เจื้อย
สามเสมียนมิเขียนทัน เทียบมรุษ ะสึงฤา
บางคาบเสมือนศาปเยื้อย เยี่ยงสท้านมารสิง ฯ
๏ ยิ่งพินิศแจ้งจิตเที้ยร ทิพยะนัย ะเนตรฤา
ประดิษฐ์เพราะเพราะเหมาะใจ จวกเย้า
เพราะรัก, ภักดีใคร เพราะโศก ถึงฤา
ละล้วนเหตุอาเภทเร้า อุระเต้นเป็นกระแสร ฯ
๏ ที่แท้ทุกมะนุษยะปลื้ม เปรมใด เสมอฤา
ประโลมปลอบยอบยอใจ เจิ่งยิ้ม
ขู่ขานชักสท้านหะทัย ประเทีงมะโนช ไฉนเพื่อน
นะวกะราชน่าสวาทปิ้ม ปิเยศฟื้นคืนปะถัมภ์ ฯ
๏ นำวงศ์นำรัฐะเมื้อ วุฒิมรร คารา
ยิ่งพินิศพิธะราชจะรัณ ยิ่งปลื้ม
ก่องเกาศะละลักษณ์ธรรม์ ธีระนิเทศ เถลีงเอย
สยามมะนุษย์ดุษฎียื้ม โอฐฟ้ามาเสนีญ ฯ
๏ พะเอีญเผือเชื้อกษัตริย์ต้อง ปรีดา ยิ่งแล
เห็นร่วมราชะปรีชา ช่วยแคว้น
ใคร่สนองพระกะรุณา สมพะลัฑฒ์ พะลีท่าน
จึ่งประดิษฐ์โคลงลิลิตแม้น มาษะแก้วกุสุมถวาย ฯ
๏ ใช่ตะกายหมายเกย่งเอื้อม อันใด อื่นเลย
นอกจากภักดีใน บาทเจ้า
หวังเฉลีมพระเกียรติไพ โรจพิภพ ผยองแฮ
ทั้งฝากฝีปากเถ้า อุทิศะถ้อยถวายลา ฯ
๏ เป็นข้าก็เยี่ยมข้า หลวงเดีม
ข้าสนิธชิดประยุระเสรีม ศักดิ์เจ้า
วิสาสะบาท,แต่สวาทเฉลีม กุมาเรศ มารา
เถลีงรัชย์ยังประวัติ์เกล้า กระนั้นผันไฉน ฯ
๏ ถือใจพึ่งไท้ภัก ดีบาท ยิ่งแล
สมเช่นเป็นพระญาติ์ หย่งเกื้อ
สามัญนระสันนิวาส วายตระหนัก กระนี้ฤๅ
รักอย่างเจ้า,อย่างเชื้อ นุชาตด้วย,เอ็นดู ฯ
๏ เมื่อรู้ภูธะเรศตั้ง หวังดี เด่นเอย
มุ่งทะนุกสุขศันติ์ทวี ชาติ์ชื้น
ปรีดาพระบาระมี บรมะนาถ ไฉนรา
ภูมจิตจักริชฟื้น เกียรติ์แคว้นเฉลีมขวัญ ฯ
๏ มรณาสันนะภาพรู้ ศึกสกนธ์ หนอพี่
หวังสุทธ์เกษมเปรมกะมล ชั่วมื้อ
รอบาศมรณาตม์ดล นิพุติโลก สะเรีงฤๅ
แน่วมะโนชปราโมทชื้อ ชีพเพี้ยงแผนพอ ฯ
๏ ขอแต่เย็นจิตเลี้ยง ชีวัน วิเวกเทีญ
เลี้ยงร่างสร่างพยาธิศันติ์ โสตถิ์แผ้ว
พ่างชะนิดนักสิทธ์ขัน ตีชื่น ชะราพี่
สมศักดิ์จักริชะแกล้ว เกร่อชั้นปะฉิมะวัย ฯ
๏ ไป่มาดพยาบาทล้าง ผลาญคน ใดเลย
มาดนุเคราะห์เหมาะพะลังตน แต่เกื้อ
มะนุษยะชาติ์ญาติ์มิตร์พล ะโลกร่วม ตายแล
เถิ่งถนัดศัตรูเงื้อ ง่าสะเที้นเมีนเสีย ฯ
๏ เงี่ยร้ายหมายเขม่นจ้อง จากใคร ก็ดี
สู้สกดปลดร้ายไถล หว่านล้อม
มือเดียวเฉี่ยวตบใน อากาส ะดังฤา
สมเฒ่าเผ่าพงศ์น้อม นอบฉะนี้ศรีชะรา ฯ
๏ คราเยาว์เอาพจน์ผู้ คุณูปะถัมภ์ แถลงเจ้า
ครารุ่นมุ่นเรียนสำ เหนียกคล้อย
คราหนุ่มกรุ่มเสน่ห์กำ ดัดพล่าน เพลีนเทีญ
คราใหญ่ใฝ่กิจชะม้อย มุ่งเกื้อสะกูลเกษม ฯ
๏ คราแก่เปรมจิตเบื้อง บุณย์ทาน
เอีบอุเบกษาหลาน ลูกล้อม
ต่างวัยต่างสมัยขนาน สนุกต่าง กันเพื่อน
จึ่งจะสมภูมิ์ย้อม เยี่ยงหล้าสถาพร ฯ
๏ อาทรถนอมชีพทั้ง ทำดี ไฉนฤา
ทำชั่วสั่วศักดิ์ศรี ส่อร้าย
จนทุเรศหรึเศรษฐี เถลีงยศ ไฉนรา
ร้อยศกวกศูนย์ละม้าย ลบข้อเขียนคำ ฯ
๏ สำคัญนั่นไว้เยี่ยง ยามประพฤติ์ ไฉนนา
เผื่อปัจฉิมะชนยึด อย่างอ้าง
เนายานแผ่ผ้านตะพึด พละโลก เลียนแฮ
ดีก็ดีมีข้าง ชั่วแล้วมลายเกษม ฯ
๏ แม้เปรมใจใคร่สร้าง กุศลทวี ถวิลเทีญ
พฤติเฉีดเทีดนิทัสะนีย์ น่าน้อม
อาจทะนุกสุขเกษมปรี ดาโลก ระบือแฮ
ไว้ประศาสน์อะนุชาตย้อม จริตฉะนี้ศรีชนม์ ฯ
๏ ยิ่งคนโตใหญ่เอื้อน อันใด
มากมะนุษย์รุดเลียนไว เวี่ยป้วน
นระชนมักพ้นพิสัย แสร่เยี่ยง สยมแฮ
ฝรั่งแขกแปลกเภทล้วน จะรีตพื้นพันธุ์ไฉน ฯ
๏ ถวิลไตรลักษณะรู้ ธรรมะนิยา มะโลกเอย
ทุกสัตว์ปัจจัยะพา เกีดแล้ว
เจรีญพักหนึ่งชักชะรา พาธดับ ศูนย์แล
แน่ไม่มี, ที่แต้ว เติ่งด้วยฉลวยกรรม ฯ
๏ ทำดีได้สุข,ร้าย ระทมทุกข์ แท้แล
ล้วนไม่จริงจังบุก เบี่งเพ้อ
หลงสมมตขยดขยุก ละเลีงร่าน ระเบ็งแฮ
ถือก่นตัวตนเฟ้อ เดชฟุ้งเฟือนทะยาน ฯ
๏ ร่านยินดีอยากให้ ใดรัก รุมแฮ
อยากห่างใดชังชัก ทุกข์ท้น
ดับร่านก็ปานดัก ดับทุกข์ ถลายพ่อ
อุสาห์ประพฤติ์ผละยึดพ้น โลภะแล้วเลอศันติ์ ฯ
๏ หวงน้ำมันมืดตื้อ ตะเกียงดับ เสียรา
เปลืองรอด,เนตรบอดกลับ แกล่ร้าย
ใช่ประหยัด,มัจฉะรีย์ทับ หะทัยคลั่ง เขลาฮือ
เปลืองนิด,อาจนิมิตละม้าย สว่างห้องเหมวิมาน ฯ
๏ ทิวัสะกาลตะเกียงจุดแม้น ราตรี
เพลีงหรึแข่งแสงสุรีย์ โรจฟ้า
แถลงโง่โอ่อวดดี สุรุ่ยสุร่าย เปล่าพ่อ
ใจเท่านั้นผันถ้า ถูกมื้อระบือผล ฯ
๏ พึงยลกระดานหนึ่งทิ้ง ธระณี แนบนา
แสนง่ายใต่จระลี เหรียะเต้น
ยกสูงสักเส้นตี ตะปูปัก เสาเทีญ
หมื่นมะนุษย์ถึงฉุดเค้น ขู่ด้วยเดีรหรือ ฯ
๏ มีมือมีปากแม้น ชักใย ยนตร์ฤา
ส่อประโยชน์ทุกข์โทษไฉน ทั่วหน้า
ปัญญาศึกษาใจ เป็นโจก บงเพื่อน
รู้เงี่ยได้เสียกล้า กลั่นแล้วเลอเกษม ฯ
๏ เปรมฤดีที่เกีดเชื้อ ขัตติยะจัก -รีพี่
พึ่งสี่สีส์ประยุระศักดิ์ ชุบเกล้า
มะนะสามั่นสวามิภักดิ์ ภูวะนาถ เนืองเอย
ถือกะตัญญูพะเน้า มะโนชน้อมคุณางค์สนอง ฯ
๏ เพื่อฉลองบงกชเจ้า ชีวิต สยามพี่
จึ่งอุบัติ์โคลงลิลิตประดิษฐ์ ด่วนแล้ว
ราชาภิเษกสถิต ถวัลยะราชย์ เฉลีมเอย
สมจิตพิพิธะภัยแผ้ว พิศิษฎ์์เพี้ยงพรผะสงค์ ฯ
๏ จงใจไว้ประดับเบื้อง บาระมินทร์
เฉลีมรัตะนะโกสินทร์ สืบช้า
กะวีสะดับดุจะขับพิณ ผะเดียงโสตร์ เสนาะเพื่อน
ไหนโฉดโปรดอะภัยข้า เดชด้อยเฉลียวเดียว ฯ
๏ เหลียวหาลาเพื่อนแก้ว กะวีสยาม สะหายเฮย
นราธิป ฯ หายละลิบนาม เมื่อหน้า
อ่านนิพนธ์ก่นรับความ เคารพ เรียมเทีญ
ขอฝากฝีปากข้า แค่นเอื้อนอะนุสรณ์ ฯ
๏ จอมบิดรสยามะราฎร์เจ้า จงเจรีญ ยิ่งเทีญ
สยามะชาติ์เอกะราชเพลีน กิจเกื้อ
พุทธะศาสน์สุวะภาสผะเชีญ สะกละโลก นิยมรา
วงศ์จักริชวิศิษฎ์เชื้อ เชีดเที้ยรธงไท ฯ
๏ ขอมะไหศวะริเยศยั้ง ยืนยง
ขอกษัตริย์จักรีคง ปกหล้า
ขอขัตติยะวงศ์ทรง สมรรถะกิจ นุกูลเทีญ
ขอผูกใจไพร่ฟ้า ฟุบเกล้าเทาถวาย ฯ
๏ ขอนิกายสยามะชาติ์รู้ เรียนเรีง วิชารา
ขอพะณิชย์กิจเกษตร์ถะเกีง เกียรติ์ด้าว
ขอศันติ์สืบบรรเทีง ไทวิราศ อรีแล
ขอสะมาคมน้าว ทั่วหน้าสามะคี ฯ
๏ ขอพะจีนี่ประสิทธิ์เพี้ยง พรผะสงค์ สรรพเทีญ
ขอลิลิตยืนสฤษฎิคง คู่แคว้น
ขอกะวิชะวิทยาจง เจรีญยืด สยายแฮ
ขอระหัสจับหัตถ์แม้น หัตถ์ข้าลาละหนอ เพื่อนเอย ฯ

----------------------------

อัปปมาท

พ่อเฮยยามนี้พ่อ เพลินฟัง ลิลิตพี่
ละเลีงลิบนราธิป ฯ ยัง หย่อยถ้อย
ประมาทถวิลหมิ่นมระณังค์ ไฉนใช่ ช้าเลย
นราธิป ฯ หายฉิบชะม้อย หมดชั้นฉาริกา ฯ
๏ เผยอหาสาริกโอ้ อนาถแหงน เปล่าเจ้า
ฝันฝากฝีปากแทน เทียบริ้น
เถีงสูอยู่เก้าแสน โมงไม่ ม้วยฤา
คงจะ, มีขณะสิ้น สะภาพเพี้ยงเผือประลัย ฯ
๏ ถึงไว้คุณะวุฒิ์ก้อง เกียรติ์ทนง ไฉนรา
ถึงมะหิทธิ์สิทธิศักดิ์ยง ยอดแกล้ว
ถึงอะธึกเครื่องระลึกผะจง ประเจีดโลก เฉลีมฤๅ
ถึงอย่างไรใช่แคล้ว พินาศมื้อหรือฝืน ฯ
๏ ยืนแต่เยี่ยงเท่านั้น เนาเฉนียน นานพ่อ
หมื่นชั่วอะนุชนเลียน เลือกค้าน
หิตาภรณ์อักษรเขียน ขยายประโยชน์ ก็ดี
เหมือนอื่นอื่นตื่นต้าน สุดโต้,อะโห! หาย ฯ
๏ สุโรบายบำราบเขี้ยว ขืนใจ คนรา
แม้ขยาดอาชญาไฉน เหนื่อยดิ้น
เห็นนิทัศน์จักระพรรดิพิชัย ะสินธุเทศ เถีดเพื่อน
ไผท, เผ่า,เท่าปีกริ้น หละล่อนเรื้อเหลือควัน ฯ
๏ ถวิลธรรม์พุทธะเจ้าโปรด เทศนา สูเอย
ตามสมัคร์จักศรัทขา เทีดใช้
เซี่ยวนะหุตพุทธะพงศา ยังสืบ สยายฮือ
เหตุมิขืนใจให้ เหี่มแค้นเสียคม ฯ
๏ ไฉนบรมะจักริชะแกล้ว แกลภพ เดียวพ่อ
อเนกะชาติ์อำนาจสลบ รอบด้าน
เดชไทร่วมหะทัยซบ ประศังสะบาท เกษมแฮ
เจ้าไพร่ไมตรีสร้าน เสน่ห์น้อมถนอมกัน ฯ
๏ โลกแข่งขันเข่ญค้า คะนองใจ
ภายนอกดอกศิวิไลส โลภเอื้อม
สุขศันต์นั่นภายใน แหน่งมนุยย์ ถนอมนา
ทุกแพ่งแหล่งโลกชะเงื้อม สงบเที้ยรไทหรือ ฯ
๏ เดชถือพุทธะศาสน์ดุ้ง แดประดอย ธรรมพ่อ
ภายนอกผิจ๊อกกร๋อย จิตแกล้ว
ทะเยอขยันหมั่นเรียนทะยอย ผยองกิจ ตระการเทีญ
สักะเทศไทไม่แคล้ว ครึกครื้นยืนเกษม ฯ
๏ เอมโอชปราโมทย์ใช้ ฉะฬายัตน์ ฉลองฤา
เปล่า, จิตธรรมะสัมผัส เท่านั้น
ศิวิไลส์เลีสะไพรัชย์ สุดเลีก ศาลรา
จิตใฝ่ศิวิไลสชั้น คุกต้องปองหรือ ฯ
หากถือธรรมะนิเทศดิ้ง แดผะเดีม ญาณเพื่อน
เรียนสงบก่อนเรียนเหีม เห่อดิ้น
เสริศวร์สิทธิภาพเริ่ม กำเรีบ เหลีงแฮ
โลก่จักรักศันติ์สิ้น แสร่ร้อนวิชาเฉ ฯ
๏ ลงเฮกันแล้วตื่น ฮือตาม เตลีดโฮ
ไม่เลือกคุณโทษลาม ลวกหล้า
บุญไทที่ดะนัยสยาม ยังเสงี่ยม สงวนพ่อ
หน่วงหน่อยอย่าปล่อยบ้า ระห่ำฟุ้งปรุงศันติ์ ฯ
๏ กะตัญญูรู้เสงี่ยมนี้ ศรีจะรงค์ โลกแล
อุทัยะรัฐแต่อัสดงค์ เดีดเพี้ยน
เหตุผลักหลักธรรมทะนง ทิฐิล่อย กิเลสพ่อ
เลียนเลือกเปลือกยุโรเปี้ยน ปัดแล้วเรีงสมัย ฯ
๏ โลกเกลียดใดไป่สู้ สงคราม สิเออ
ไฉนโลกโยกพยายาม แหย่ร้าว
ถือชาติ์อุกอาจหยาม แย่งประโยชน์ กันเล่า
เกลียดรบน่าตลบน้าว มะนุษยะค้าสามะคี ฯ
๏ อ้าศรีอารยะเมตตยเจ้า จงประศาสน์ พรเพื่อน
ผะดาสะมาคมชาติ์ เชื่อมเกื้อ
พละเมืองทุกเมืองมาด สมานมนิฐ สนองเทีญ
ถือโฉลกพละโลกเอื้อ โอบอ้อมประนอมศันติ์ ภิยโยฯ ฯ
๏ ขวัญชิวาสาระทิศแท้ ศึกษา นิเอย
พุทธะศิษย์เผยพิทยา ศาสตร์พ้อง
แผกนามแต่นิยามะสา โรชะร่วม แถลงแฮ
สกละโลกเรีงโฉลกซร้อง ประสาทมื้อระบือเสรีญ ฯ
๏ เชีญท่านอ่านแล้วชื่น ชะเลงฤทัย ถวิลเทีญ
ถึงพุทโธวาทะนัย หน่ายน้อย
เหตุธรรมส่อกรรมกษัย สะบาปเบีก เกษมเพื่อน
จบพจน์เพียงจรดถ้อย เท่านี้พะลีสะหาย พี่อา ฯ

เชีญเริ่งในความไม่เลินเล่อเสมอเถีด

----------------------------

ถ้อยแถมพระบรมราชาภิเษก

โคลงสี่

๏ ภายหลังเขียนลิลิตแล้ว ปรากฎ
ข้อที่, ควรมีบท บอกไว้
เพื่อถะเกีงเกียรติยศชด เฉลีมศักดิ์ สูงแฮ
แด่ท่านผู้ที่ได้ รับน้ำกะรุณา ฯ
๏ เสมาผ่านฟ้าโปรด เลียนขนาด ขนานฤา
สมเด็จปิยะมะหาราช เรี่มสร้าง
มีบรมะรูปพระบาท สัปดะมะรัชย์ ผวนแฮ
อักขระพระนามข้าง หนึ่งแม้นแผนเดีม ฯ
๏ เพิ่มอักขรอีกข้าง หนึ่งแถลง
บรมะราชะอภิเษกสะแดง เด่นรู้
ระลึกลักษณ์เจี่งประจักษ์แจง ความชอบ ฉลวยแฮ
เพื่อพระราชะทานผู้ ภักดิเกื้อสนองการ ฯ
๏ ท่านชมบรมะรูปแล้ว ลืมระลึก ไฉนเลย
ถึงบาทปิยะราชระธึก ทั่วหน้า
อุปะริมเฉกพิมพ์ผนึก สองกษัตร์ เสมือนเอย
หากปิดเบื้องหะนุท้า สุดเอื้อนองค์ไหน ฯ
๏ พระโฉมชะไมราชแม้น กันไฉน
ขอพระราชะหฤทัยชะไม ยี่งแม้น
ปรีชาพิทยาไหว ทันเล่ห์ เฉลียวฤา
ชูชิวาตม์สยามะชาติ์แป้น เปี่ยมน้ำใจหา ฯ
๏ พระชันมะษาช้าชื่น เฉลีมสกนธ์ เกษมเอย
เสมือนพระมุขะมงคล ที่เพี้ยน
ผะดุงรัฐขัตติยะถะกล ะเกียรติสืบ สยายแฮ
ที่พึ่งไพร่ฟ้าเที้ยร อุเทศฉอ้อนพรถวาย นี้เทีญ ฯ

ไชย์โย

----------------------------

แถมท้ายพระบรมราชาภิเษก ราชบัณฑิตถวายน้ำอภิเษกที่พระแท่นอัฐทิศ

(คัดจากหนังสืออังกฤษที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ให้รจิตขึ้น เพิ่มข้อราชประเพณีและบอกนามเทพะดาอัฐะมหาทิศะวิทิศาภิบาลชัดเจน จึ่งไม่อยากให้ล่วงไปเสียเปล่า)

๏ ภายบูรพ์บัณฑิตน้อม ภิเษกสะลิล เฉลีมท่าน
ผสมสุทกมณฑลประจิน เจีดเผ้า
พ่างท้าวธตะรฐะภิญ ญวาภิสิต สุพรเอย
พร้อมพะสกยกทูนเกล้า กระหม่อมตั้งหวังถวาย ฯ
๏ ภายอาคเขย์นั่นน้ำ จันทระบูร บวงเอย
ภูตพินิตอะนุทิศะพูน ภักติ์น้อม
พุทธะมนตร์ทิพะชละทูน อุเทศกษัตร์ ภิเษกท่าน
สะหะเท่ห์ชาวชะเลพร้อม จิตด้วยอวยถวาย ฯ
๏ ภายทักษิณสุทกเบื้อง ศรีธรรม ะราชเอย
กับปัตตานีนำ นอบไท้
พ่างพิรุฬหะราชปะถัมภ์ มะหาทิศ ถนองท่าน
สะหะภักดิ์ชาวปักษ์ใต้ ตลอดด้าวเทาถวาย ฯ
๏ ภายหระดีนั้นอุทก ทิพยะมนต -ราเอย
ภุเก็ตกับชุมพรคน ตก,ใต้
พ่างเสพน์เทพะดาหน อะนุทิศ ถนองท่าน
ร่วมสมัคร์ราษฎร์รักไท้ เทีดช้อนชะเยนทร์ถวาย ฯ
๏ ภายปัศจิมะทิศะน้ำ นครชัย ศรีเอย
กับที่ราชบุรีไผท เทีดเกล้า
พ่างพิรูปักษ์เทพะไทย์ ทวยพะสก สมานฤา
อวยสวัสดิ์โสมะนัสพะเน้า นเรศะน้อมพรถวาย ฯ
๏ ภายพายัพะทิศะน้ำ พายัพ ะรัฐแล
มะหาราษฎร์,พิษณุโลกถับ ถัดแคว้น
นะครสวรรค์มิ่งขวัญรับ ขวัญกษัตร์ ภิเษกท่าน
นาคะฤทธิ์อะนุทิศะแม้น มะนุษยะน้อมพรถวาย ฯ
๏ ภายอุดรบัณฑิตน้ำ มนตร์อุดร สรวงท่าน
พ่างประกาศกุเวระราชะพร พ่วนน้อม
สะมะนัสนะระรัฐนิกร เกษตร์อยุธ ยาฤา
จงรักภักดีพร้อม สะพรั่งก้มสะการถวาย ฯ
๏ ภายอิศานปานยักษ์ทั้ง มะลาวเขบ็จ บวงฤๅ
น้ำอุบละร้อยเอ็จ เอีบเคล้า
นะคระราชะสิมาเคล็ด ขลังเสก ผสมแฮ
บัณฑิตอัญชะลิตเกล้า ภิสิตไท้ชัยะสรวง สนองเอย ฯ

----------------------------

ถ้อยท้าย

๏ พวงพินิตโคลงลิลิตต้อง ตำรับ เฉลยเอย
บรมะราชะอภิเษกฉบับ ใหญ่นี้
จอมกษัตริย์ตรัสสั่งจับ พิมพ์แจก เฉลีมท่าน
กรมะพระนราธิป ฯ ชี้ ขาดสิ้นสนองขะบวน ฯ
๏ ทวนตรวจอักษระศัพท์เบื้อง บรรเจีด จะแรงเอย
พึ่งพระสารประเสรีฐ ส่ำเกื้อ
กระชั้นนักออกประดักประเดีด สมสดวก รดมแฮ
ได้ดะนุชะชายาเอื้อ อ่านซ้อมถนอมกะวิน ฯ
๏ เขียนระบินลิ้นฝรั่งทั้ง แทนชะนก คุมนา
เขียนภาพเขียนแผนปก ปัดพลั้ง
มะหาศิวาฯ,ดุละภาฯยก เป็นดูก ผะดุงพ่อ
พิมพะกิจวรกิจฯ ตั้ง จิตตั้งตาสนอง ฯ
๏ ปรองประกวดรวดรัดแล้ว ทันงาน เรียบรา
ฉลองพระราช,ะประสงค์สมาน แมกรู้
สมุดประหลาทพระราชทาน เถลีงระลึก นิรันดร์เอย
ขอลิขิตขอบจิตผู้ นุเคราะห์ไว้ในวะสานฯ
๏ เชีญท่านอ่านแล้วเทีด ถวิลคุณ
เจ้าอยู่หัวการุญ เหล่าข้า
น้อมประณตศิรพจน์พิบุล ะภักดิท่วม ถวายเทีญ
หวังสวัสดิ์เรีงรัชชะช้า ชะโยษะเกื้อเกษมสยาม ภิยโยฯ
๏ พยายามขยันหย่งเอื้อม อาสา เสนีมท่าน
ช่วยชาติ์ศาสนามะหา กษัตริย์เจ้า
สุจริตรักพิทยา ผยองศักดิ์ สยมเทีญ
เชีดชื่อไทไว้เผ้า ผนวกหล้าสามะคี ไชย์โย ฯ

----------------------------

ศุภมัสดุ

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ