ความรักของแม่

[ประพันธ์จากเค้าเรื่องภาสาอังกริสชื่อ Maternal Affection ไนหนังสือ Phylosophy of Life]

กลอนสุภาพ  
๏ ปางป่วยไข้ได้ทุขยุคยากยับ ปราสสิ่งสัพซึ่งอำนวยความช่วยเหลือ
มีมิตรไหนไจกรุนมาจุนเจือ โดยเอื้อเฟื้อเฝ้าถนอมพร้อมพนอ
เหมือนหนึ่งท่านมารดาผู้มาด้วย ร่างระทวยระทดแท้แน่เทียวหนอ
ต้องหม่นหมองมองหน้าน้ำตาคลอ ไนไจคอข้องระทมตรมด้วยทุข
ถึงอ่อนแออแม้ระโหยแต่โดยจิต จดจ่อนิตย์เนืองหยู่สู้เฝ้าขลุก
ด้วยตรากตรำทำธุระทะนุทะนุก ช่วยปลอบปลุกปลาบปลื้มยิ่งดื่มยา
ความเจ็บปวดรวดเร้าบันเทาผ่อน หมอนที่หนุนกรุ่นร้อนริทธิ์ไข้กล้า
ทำไห้เปลี่ยนแปรกลายพิสคลายคลา อ่อนละมุนละไมมาไม่ช้าที
มวนมิตไนสมัยเรารุ่งเรืองนั้น ต่างเหหันหามิพบหลบหน้าหนี
เนื่องโชคร้ายกรายพลันวันและปี ก้าวย่างรี่เร็วไวไกล้ทุกครา
ต้องออกปากเปนวาจาว่าเรานี่ ช่างไม่มีที่จะรื่นจะเริงร่า
เมคคือเคราะห์เดาะด้อยลอยต่ำมา อนาถาทุขทุ่มเข้าคลุมงำ
เมื่อหัวไจเจ็บร้าวคราวบกพร่อง ความหวังปองต้องคลาดพลาดถลำ
หยาดชีวิตถูกยาพิสคือเคราะห์กัม เข้าวางซ้ำทำอาการเหลือทานทน
พายุไร้รุ้งระยับสลับสี และราตรีไม่มีดาวกลางหาวหน
กลางวันอับลับแสงสุริยน ไม่ชวนชนชอบชมนิยมยอ
เมื่อโครงการน์ความทยานทเยอชีพ ถูกเค้นบีบเบียนบ่อยลงร่อยหรอ
เสียงนินทาก็มาสู่เปนคู่คลอ ไปตามข้อเสื่อมซามความย่อยยับ
เขาเหล่านั้นดั้นด้นไปหนไหน เงาซึ่งไต่ตามเคลื่อนเขยื้อนขยับ
นะคราสูริย์ส่องกะจ่างสว่างวับ เลยแลลับเลือนมัวไปชั่วคราว
ซ่อนเสียไหนหนอปักสาไนหน้าร้อน เมื่อเสียงถอนหทัยแรงแห่งหน้าหนาว
นะวันอันนพรรนไม้ไบร่วงพราว อนิจจา ! ถ้าจะกล่าวก็คือเคราะห์
ย่อมเปนหยู่เนืองเนืองเนื่องไปตาม ความสนไจหรือไนความสดวกเหมาะ
หรือเคยชินชอบถูกที่ปลูกเพาะ หรืออีกข้อก็เพราะสมัยนิยม
สิ่งทั้งสี่นี้ไนหย่างไดหนึ่ง เท่านั้นซึ่งส่งเสิมเพิ่มผสม
เพื่อสงวนมวนมิตรสมาคม ไห้ปรารมย์รักไคร่หยู่ได้แล ฯ
๏ แต่สัมพันธ์มั่นแม่นทั้งแน่นหนา ของมารดานั้นมิได้เปลี่ยนไปแน่
เหมือนเช่นกับสัพสภาพโชคลาภแปร ทั้งมวลแม้แต่จะอาดสามาถแปลง
เปนต้นคือชื่อเสียงเสื่อมเสียสุด หรือความหลุดสละพรากจากตำแหน่ง
จักทำลายไห้สลายหย่างร้ายแรง ก็จงแจ้งประจักส์ไจไม่ปรวนแปร
โดยความที่มีชัยชำนะหรือ แม้เสียชื่อโชคร้ายทั้งหลายแหล่
บุตรธิดาได้รับสิ่งสัพแล ของท่านแท้ถ้วนทั่วต้องพัวพัน
เลือดหัวไจไหลหลั่งและทั้งเหตุ ชลเนตรนองตาออกมานั่น
ก็เพราะลูกผูกจิตนิตย์นิรันดร์ เนื่องด้วยสัชาติานบันดาลเปน
เมื่อลูกหยู่ฉเพาะหน้าตาทั้งสอง ท่านมุ่งมองหมายไว้ด้วยไคร่เห็น
เมื่อไม่หยู่วิานท่านไม่เว้น ต้องตื่นเต้นไต่เต้าต้องตามไป
ปลงอุททิสปลิดทิ้งสิ่งสุขสานต์ จะยากนานเหนื่อยนั้นมิหวั่นไหว
ปติเสธเหตุซึ่งพึงพอไจ หวังลูกไห้หรรสาด้วยปรานี
ตั้งจิตมั่นมุทิตาปรารมย์รอบ เล้าโลมปลอบปลุกปล้ำทำหน้าที่
รู้สึกคิดขึ้นทั้งสิ้นโดยยินดี ไม่ต้องมีพิธีไดหรือไครเตือน
พร้อมสดชื่นชื้นเย็นเปนสภาพ อันเอิบอาบอิ่มไจหาไหนเหมือน
ความเปนมิตรสนิทเนานะเหย้าเรือน ไม่คลายเคลื่อนคลอคู่หยู่เนืองนิจ
ทั้งหากล้าสามาถปราสระย่อ เข้มแข็งต่อมรนะประจำจิต
อัสสาสะสุดท้ายปลายชีวิต ถอนด้วยคิดคุนพระรัตนตรัย ฯ
๏ ความหวนนึกระลึกนี้เนื่องประกอบ เปนเครื่องครอบคลุมทุกยุคสมัย
ระยะแห่งเหตุการน์อันผ่านไป โดยผ่องไสสุขสงบเรียมอบรม
เมื่อท่านมีชีวิตประสิทธิ์ประสาท ธัมชาติแช่มชื่นระรื่นร่ม
น่าเปรมปรีย์ปีติน่านิยม หย่างอุดมแด่เหย้าเนาสำราน
ความรักที่ท่านสลัดปัดลูกสร แห่งทุขร้อนโชคร้ายกลายพ้นผ่าน
ความสุภาพปราบข้อทรมาน วิประติสารโสกเส้าซึ่งเร้ารุม
ความอ่อนโยนหย่างพร้อมละม่อมละมุน ทำหมอนหนุนขนะไข้ไห้นิ่มนุ่ม
อนึ่งคือมือที่เคยประคองกุม เสียรปวดรุ่มร้อนเร่าบันเทาไป
ความเคารพนบไหว้เปรียบได้ดุจ เปลวเพลิงจุดแจ่มแจ้งแสงสุกไส
หมายบูชาสักการะนะดวงไจ ของเราไนท่านนั้นมั่นกระทำ
และทั้งอีกอาการท่านยิ้มย่อง ฉายแสงส่องเหนือเราทุกเช้าค่ำ
คงไสแจ่มจ้าเจิดหยู่เลิสล้ำ แม้โลกจำจักต้องมืดหมองมล
เสน่หาการุนย์คุนเสถียร อันไม่เปลี่ยนแปลงนั้นบันดาลผล
โอบอุ้มเอื้อเกื้อกู้ชูชีพชนม์ เรารอดพ้นภัยปลอดตลอดกาล
นะท่ามกลางความร้างเมตตาจิต และมิคิดกตัูรู้คุนท่าน
สิ่งเหล่านี้ที่พรรนนามามากมาน ทุกสถานจะลืมได้ไฉน – เอย ฯ

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ