๒๙๙ ประกาศเรื่องให้สำรวจคฤหัสถ์อาศรัยวัด

(ณวันอาทิตย์ เดือน ๕ แรม ๗ ค่ำ ปีมะโรง พ.ศ. ๒๓๙๙)

ด้วยมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ สั่งว่า คฤหัสถ์ซึ่งอาศรัยวัดนั้น ทรงพระราชดำริห์เห็นว่า มักเกิดความเกี่ยวข้องเนืองๆ เกิดความขึ้นครั้งใดก็หลบหนีไปทุกครั้ง เหมือนความอ้ายพู่แหยมครั้งนี้ อ้ายพู่แหยมก็เปนผู้ร้ายเก่าหลบหนีคุก ไปอาศรัยสำนักหนีอยู่กับพระสงฆ์สามเณร แลซุ่มซ่อนอยู่ในวัดวาอาราม แล้วเที่ยวกระทำอันตรายต่างๆ ตั้งแต่นี้สืบไป พระราชาคณะ พระครู ถานานุกรม เปรียญ เจ้าอธิการ แลพระสงฆ์สามเณรอารามใดๆ ที่มีศิษย์คฤหัสถ์อยู่นั้น ให้ทำหางว่าวมายื่นต่อกรมพระธรรมการ แต่ณวันขึ้นค่ำ ๑ เดือน ๖ ปีมะโรงอัฐศก เสมอไปทุกเดือนๆ ว่านายนั้นอายุเท่านั้น เปนบุตร์คนนั้น อยู่บ้านนั้น เปนบ่าวคนนั้น สักหลังมือแล้ว ยังไม่ได้สักหลังมือ เปนศิษยพระสงฆ์สามเณรรูปนั้นๆ อนึ่งแม้นบิดามารดาญาติพี่น้องผู้ใดผู้หนึ่งมาเยี่ยมเยือน จะนอนค้างที่กุฎีสักคืนหนึ่ง ก็ให้พระสงฆ์สามเณรเจ้าของกุฎีไปบอกแก่พระสงฆ์ซึ่งเปนใหญ่ในพระอารามว่า คนนั้นจะขออาศรัยนอนค้างที่กุฎีสักคืนหนึ่ง แล้วจะลาไป ถ้าพระสงฆ์สามเณรรูปใดๆ เอาความไปบอกดังกล่าวแล้วนี้ ให้พระสงฆ์ซึ่งเปนผู้ใหญ่ในพระอารามนั้นๆ ไต่ถามคฤหัสถ์ผู้ที่จะนอนค้างนั้นดู ถ้าเห็นควรจะนอนค้างได้ ก็ให้นอนค้างสักคืนหนึ่ง ห้ามไม่ให้พระสงฆ์สามเณรคบคฤหัสถ์นอกบาญชีไว้ แลนอนค้างที่กุฎีพ้นคืนหนึ่งขึ้นไปได้เปนอันขาด ถ้าพระสงฆ์สามเณรรูปใดคบคฤหัสถ์นอกบาญชีไว้ดังกล่าวแล้ว มีผู้จับคฤหัสถ์นั้นมาได้ในโบถวิหารการเปรียญ กุฎีอารามใด ฤๅเกิดความสิ่งใดสิ่งหนึ่งขึ้น จะให้มีโทษแก่พระราชาคณะ พระครู ถานานุกรม เปรียญ เจ้าอธิการในอารามนั้น แลพระสงฆ์สามเณรเจ้าของกุฎีโดยโทษานุโทษนั้น ให้พระครูทักษิณคณิสร พระครูอุดรคณารักษ์ หมายประกาศคณะเหนือคณะใต้คณะกลางคณะวัดพระเชตุพนให้รู้จงทั่วทุกอารามทั้งวัดเดิมวัดขึ้นแลวัดบาง แลหัวเมืองนครเขื่อนขันธ์ คณะนั้นให้ทำหางว่าวมายื่นต่อผู้รับสั่งจงทุกเดือนๆ อย่าให้ขาดเสียราชการได้ตามรับสั่ง

หมายมาณวันอาทิตย์ เดือน ๕ แรม ๗ ค่ำ ปีมะโรงอัฐศก

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ