๒๙๕ ประกาศห้ามไม่ให้ชักสื่อแลชวนภิกษุสามเณรประพฤติอนาจาร

(ปีฉลู พ.ศ. ๒๓๙๖)

ด้วยเจ้าพระยาธรรมาธิกรณ์เสนาบดีผู้ใหญ่ในกรมวัง รับพระบรมราชโองการใส่เกล้าฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สั่งว่า ให้หมายประกาศให้กรมเมืองนายอำเภอกำนันพันนายบ้าน เป่าร้องแก่อาณาประชาราษฎรให้รู้จงทั่วกันว่า ตั้งแต่นี้สืบไปเมื่อหน้าอย่าให้ผู้ใดไปมาคบค้ากับพระสงฆ์แล้วแลคิดจะให้พระสึกออกมาอยู่กินเปนผัวเมียกัน ถึงจะยังไม่ได้เปนปาราชิกแต่พระยังบวชอยู่ก็ดี เปนแต่ติดพันกันก่อนแล้ว จึงสึกออกมาเปนผัวเปนเมียกันต่อภายหลังนี้แล

อนึ่งผู้ใดเปนแม่สื่อได้นำเอาหนังสือเพลงยาวกาพย์โคลงสิ่งของที่การเขาจะทำบุญให้ทานกับถ้อยคำเปนเชิงเกี้ยวข้างพระไปให้กับผู้หญิงไปบอกกับผู้หญิง เอาข้างผู้หญิงไปให้ข้างพระก็ดี รู้เห็นเปนใจด้วยกันดังนี้ ถ้ามีผู้ใดมาร้องฟ้อง ฤๅเกิดความด้วยประการใดๆ ก็ดี จะเอาโทษแก่ผู้นั้นเปนตะพุ่นหญ้าช้างเหมือนเปนปาราชิกกับพระนั้น ถ้าเปนแต่รู้เห็นมิได้ช่วยในการสื่อสน ไม่เอาความมาร้องฟ้องว่ากล่าว ด้วยคิดเห็นว่าชั่วชั่งชีดีชั่งพราหมณ์ เปนคนใจบุญนอกทางดังนี้ จะปรับผู้นั้นเปนโทษละเมิดลาหนึ่ง เอาเปนพินัยไปจำหน่ายทำพระอารามหลวง

อนึ่งพระสงฆ์ใส่บ่อนถั่วบ่อนโปแลการพนันต่างๆ ถ้าผู้ใดไปเล่นกับพระก็ดี หรือใครเอาลูกไปฝากเปนศิษย์วัดไว้ พระใช้ให้ต้มเหล้าต้มฝิ่นแลลักภาษีอากรใดๆ ก็ดี จะปรับไหมเอาตามความแผ่นดินเมืองแก่ศิษย์วัดคฤหัสถ์ที่ไปคบกับพระด้วย จึ่งทรงพระราชดำริห์ว่าแต่ก่อนมาก็จะมีคนไปคบกับพระอยู่ดังนี้ก็จะมีมาก จึงทรงพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯ สั่งให้ประกาศว่า ผู้ใดไปคบกับพระมีความสิ่งใดๆ อยู่ดังนี้ให้มาลุกะโทษเสียต่อกรมพระธรรมการแต่ในเดือนอ้าย ปีฉลูเบญจศก จะโปรดเกล้าฯ มิให้เอาโทษกับผู้นั้น

อนึ่งห้ามมิให้ผู้ใดนิมนต์พระไปเทศน์ไปสวดโลนก็ดี แลให้พระกินเหล้าก็ดีกินเข้าค่ำก็ดี อนึ่งจีนไทยผู้ใดห้ามมิให้ขายหมี่ขายเหล้าให้พระกินที่โรงที่ร้านของตนก็ดี แลใส่บ่อนถั่วบ่อนโปก็ดี แลการพนันต่างๆ ห้ามมิให้คบให้พระสงฆ์ไปเล่นในบ้านเรือนในโรงบ่อนของตัวก็ดี อนึ่งผู้ใดมีลครเปนเจ้าของงานก็ดี หรือเปนเจ้าของลครก็ดี แลมีพระสงฆ์เข้าไปดูลครในบ้านของตัวแลโรงลคร ให้จับเอาพระมาส่งกรมธรรมการ ถ้ามิจับเอามาส่งอย่างพระราชบัญญัติดังประกาศไว้นี้ จะปรับไหมกับผู้นั้นตามโทษละเมิดลาหนึ่งตามศักดินา เอาเปนสินไหมให้กับผู้มาฟ้องบ้าง ให้กับผู้ชำระบ้าง เหลือนั้นจะเอาเปนพินัยหลวง จำหน่ายให้ทำพระอารามหลวง ด้วยว่าพระสงฆ์ทำอนาจารดังนี้ ให้เสื่อมเสียพระเกียรติยศต่อบ้านต่อเมือง อายกับนาๆ ประเทศ แลผู้ที่ล่วงพระราชบัญญัติดังนี้ เปนคนใจบุญนอกทางตามใจพระสงฆ์ไม่ว่ากล่าวร้องฟ้องนั้นหาชอบไม่ จึงให้ปรับผู้นั้นให้เสียสินพินัยจำหน่ายให้แก่ผู้นั้นทำพระอารามหลวงก็จะเปนกุศลเปนอันมาก แลเปนพระเกียรติยศงามพระนครถาวรนานไปข้างหน้า และนาๆ ประเทศจะมิได้หมิ่นประมาทได้ตามรับสั่ง

หมายมาณวัน ๗ ๑๒ ๑๒ ค่ำ ปีฉลูเบญจศก

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ