- คำนำ
- ภาค ๑ การสร้างทรัพย์
- หมวด ๑ ว่าด้วยคุณประโยชน์
- หมวด ๒ ว่าด้วยลักษณทรัพย์
- หมวด ๓ ว่าด้วยสิ่งสำคัญที่จะต้องใช้ในการทำให้เกิดผลเปนทรัพย์
- หมวด ๔ ว่าด้วยลักษณแรงทำการ
- หมวด ๕ ว่าด้วยวิธีปันหน้าที่ทำการ
- หมวด ๖ ว่าด้วยการระดม
- หมวด ๗ ว่าด้วยทำนองทำการอย่างใหญ่และทำการอย่างน้อย
- หมวด ๘ ว่าด้วยลักษณทุน
- หมวด ๙ ว่าด้วยการลงทุน
- หมวด ๑๐ ว่าด้วยกฎธรรมดาทั้งหลาย ซึ่งเปนที่บังคับสำหรับให้เกิดผลเปนทรัพย์เพิ่มพูลยิ่งขึ้น
- หมวดที่ ๑๑ ว่าด้วยกฎธรรมดาซึ่งเปนที่บังคับให้ทุนเพิ่มพูลยิ่งขึ้น
- ภาคที่ ๒ การแบ่งปันทรัพย์
- หมวด ๑ ว่าด้วยกรรมสิทธิ์แห่งทรัพย์สมบัติ
- หมวด ๒ ว่าด้วยทรัพย์ซึ่งสร้างเปนผลขึ้นแล้ว จะได้เปนส่วนแบ่งปันแก่คนจำพวกใดบ้าง
- หมวด ๓ ว่าด้วยค่าเช่าที่ดิน
- หมวด ๔ ว่าด้วยค่าแรง
- หมวด ๕ ว่าด้วยกำไร
- หมวด ๖ ว่าด้วยสมาคมคนทำงาน และการที่คนทำงานพร้อมใจกันละทิ้งการงาน
- หมวด ๗ ว่าด้วยผลที่ร้ายของการประมูลแข่งขัน
- หมวด ๘ ว่าด้วยวิธีทำการร่วมกัน โดยร่วมทุนร่วมแรงและร่วมผลประโยชน์ในระหว่างคนทำงาน
- หมวด ๙ ว่าด้วยการศึกษาและการประหยัดทรัพย์
หมวด ๕ ว่าด้วยวิธีปันหน้าที่ทำการ
วิธีปันหน้าที่กันทำการนั้น แท้ที่จริงก็ไม่ปลาดอะไร เพราะวิธีทำการเช่นนี้มีอยู่ในนิสัยของมนุษย์มาแต่เดิม ความพึ่งพาอาศรัยเอื้อเฟื้อเจือจานซึ่งกันและกันโดยความรักใคร่เมตตากรุณามีอยู่ในบ้านเรือนทุกครอบครัว ชายทำการหนัก หญิงและเด็กทำการเบา ปันหน้าที่กันตามกำลังและร่างกายแข็งแรงของบุคคล สามีไถนาเข้าป่าตัดฟืน ภริยาตักน้ำตำเข้าหุงต้มจัดเตรียมอาหารการเรือนอยู่บ้าน บุตรสาวปั่นฝ้ายทอผ้า บุตรชายเล็กเลี้ยงโคกระบือขับนกตกเบ็ดหาปลา ถ้าครอบครัวมีมากก็แยกกันออกทำการปลูกผักดายหญ้า หรือค้าขายแลกเปลี่ยนหากำไรมาเจือจานเลี้ยงกันต่อไป ผู้ใดถนัดทำการอย่างไร ซึ่งจะเปนผลมากกควรจะทำหน้าที่อย่างนั้นมาก ธรรมดาของมนุษย์เปนเช่นนี้ จึงเกิดมีช่างไม้ช่างเหล็กช่างหล่อช่างอิฐช่างปูนช่างเขียนช่างปั้นสาระพัดอย่าง มีหมอยารักษาโรคและครูอาจารย์เกิดมีขึ้นทุกบ้านเมือง เมืองใดประเทศใดมีคนหนาแน่นเบียดเสียดกันมาก เมืองนั้นยิ่งมีการแบ่งปันหน้าที่กันทำงานเปนด้านเปนแพนกแยกกันละเอียด และแพร่หลายกระจายกว้างขวางออกเสมอไป เพราะเหตุที่มนุษย์มีความกังวลขวนขวายในทางที่จะทำการให้ได้ผลเปนทรัพย์อย่างมาก โดยความสดวกที่สุดอย่างเดียว ต่างคนจึงอุส่าห์แสวงหาที่และฝึกหัดทำการแต่ล้วนที่เห็นว่า จะเหมาะและจะถนัดฝีมือหรือความคิดความรู้ที่ดีที่สุดที่จะทำได้ ความจริงมีปรากฎอยู่เช่นนี้ก็จริง แต่เมื่อเราเห็นชินตาอยู่ทุกวันก็ย่อมจะเผลอขาดความสังเกตเห็นได้ว่า ลักษณปันหน้าที่กันทำการนั้นเปนสิ่งสำคัญในการทำมาหากินเพียงใด
ในสมัยนี้ถ้าไม่มีวิธีในหน้าที่กันทำการแล้ว การทำมาหากินอาจจะหยุดยั้งไปได้ทั้งสิ้น ขอให้คิดว่าถ้าเราจะไม่อาศรัยแรงเพื่อนมนุษย์ช่วยเลย เราจะทำการแต่ลำพังตัวและครอบครัวของเราเท่านั้น เราจะมีความศุขบ้างหรือไม่ ในชั้นต้นจะต้องทำนาเองตัดฟืนเองปั้นหม้อหุงเข้ากินเอง ปลูกฝ้ายปั่นด้ายทอผ้าเอง ที่สุดต้องขุดแร่ตีเหล็กทำเครื่องมือมีตพร้าเอง สาระพัดทุกอย่าง ถ้าการเปนเช่นนี้ เราก็ต้องกลายเปนคนป่าไปเท่านั้น จะปลูกกระท่อมอยู่แต่พออาศรัยนอนก็แทบจะไม่มีเวลาทำ
ช่างเย็บรองเท้าขาย ถ้าไม่ซื้อของสำเร็จใช้ ในชั้นต้นจะต้องไปตั้งกองเลี้ยงโคเสียก่อน โคโตสมควรแล้วจึงจะฆ่าถลกหนังไปขึงผึ่งแดดและขูดขนแล้ว เที่ยวหาเปลือกไม้ฝาดมาขุดหลุมแช่ฟอกและแต่งหนังนั้น ไหนยังจะต้องตีเหล็กทำเครื่องมือทำตะปูต่อไปอีก กว่าจะได้เปนรองเท้าขึ้น จะต้องเปลืองเวลาช้านานเหน็ดเหนื่อยสักปานใด และเมื่อขายได้แล้วจะได้ผลคุ้มทุนค่าเสบียงอาหารที่เลี้ยงตัวมาในเวลาที่ทำรองเท้าตั้งแต่ต้นจนปลายนั้นหรือไม่ ไม่ต้องพูดไปถึงว่าจะได้กำไรเท่าใด
ขอให้พิจารณาดูแร่เหล็กอย่างเดียวว่า แรงทำการดัดแปลงแต่งสรรขึ้นทำเปนคุณประโยชน์ได้อย่างใด และในทางที่แร่จะกลายเปนรูปและเกิดเปนคุณต่าง ๆ ขึ้นได้นั้น คนต้องผลัดมือช่วยกันทำมากมายหลายทอดเพียงใด คนพวกหนึ่งไปขุดแร่, พวกหนึ่งขนไปส่งถึงเตาถลุง ถลุงออกเปนรูปเหล็กแท่งมีราคาซื้อขายกันได้ชั้นหนึ่ง ต่อนั้นไปมีพวกอื่นมารับไปหล่อหลอมฟอกเปนเหล็กหล่อแล้วเอาเข้าลูกหีบ ๆ รีดออกเปนเหล็กเหนียว มีราคาเปนสินค้าขึ้นอีกลำดับหนึ่ง ยังจะมีพวกเอาเหล็กหล่อมาหลอมปนกับเหล็กเหนียวและธาตุบางอย่างตามส่วนที่รู้กัน หรือเอามาไล่ธาตุถ่านและของโสโครกที่ปนอยู่นั้นออกเสีย แปรเหล็กหล่อเปนเหล็กกล้าขึ้นอีก
แต่เหล็กแท่งอย่างเดียวเท่านั้น ก็มีพวกทำงานที่ประกอบด้วยความรู้ความชำนาญและฝีมือร้อยอย่างต่างพวกมารับเอาไปทำ เครื่องเรือไฟรถไฟ, สมอ, สายโซ่และเครื่องภาชนะใช้สรอยต่าง ๆ นานา นับได้ตั้งหมื่นอย่าง ส่วนเหล็กกล้าก็เอาไปทำมีดพร้าสิ่วขวานเครื่องมือเครื่องจักร์ต่าง ๆ นานา จนที่สุดถึงกับเอามาชักเปนใยสปริงนาฬิกาพกผู้หญิงขนาดเล็กที่สุดได้
ลักษณการปันหน้าที่กันทำการพอจะเปรียบกันได้กับเครื่องนาฬิกาว่า มีกลไกหลายชิ้นและต่างขนาดกันอย่างใด จักร์วงใหญ่หรือจักร์วงเล็กจะหมุนแต่ลำพังตัวกหาสามารถที่จะทำผลซึ่งจะต้องการได้ไม่ จักร์ใหญ่และจักร์เล็กต่างก็ต้องช่วยแรงกันหมุนให้เข้ากันไปทางเดียวได้เรียบร้อยสนิท ไม่มีที่ขัดข้อง เครื่องนาฬิกานั้นจึงจะบอกเวลาได้เที่ยงตรง เปนผลได้สำเร็จดังความปราถนา
ในการทำนาฬิกาพกนี้เองที่ในเมืองสวิศซะแลนด์ ซึ่งเปนทำเลที่ทำมากอยู่แห่งหนึ่งนั้น ช่างทำเครื่องต่าง ๆ ปันหน้าที่ทำสักห้าสิบอย่าง คนพวกหนึ่งทำการต่างกันอย่างหนึ่งแจกงานกันทำในหมู่ชาวเมืองโดยแพร่หลายทั่วไป ต้องการฝีมือละเอียดและช่ำชองชำนาญดีแทบทุกชนิด เมื่อผู้ใดตั้งหน้าทำการอย่างเดียวเปนนิจอยู่แล้ว ความช่ำชองสามารถจะให้ผู้นั้นทำการได้แรงเปนผลรวดเร็วกว่าผู้ที่ไม่ชำนาญเปนอันมาก ตามที่กล่าวมานี้พอจะเห็นได้ว่า วิธีปันหน้าที่กันทำการเปนสิ่งเปนอย่างนั้นได้เปรียบแก่แรงทำงานสามประการ
(๑) ผู้ทำงาน ถ้าทำการประจำซ้ำซากอยู่หน้าเดียวอย่างเดียว ก็ย่อมมีความชำนาญทำการเปนผลได้ว่องไวยิ่งขึ้น
(๒) เมื่อทำการหน้าเดียวอย่างเดียวก็ไม่ต้องป่วยการเสียเวลาเปล่าเหมือนต้องทำการหลายหน้าหลายอย่าง ซึ่งต้องเคลื่อนที่วางการอย่างหนึ่ง ไปจับทำการอย่างอื่นบ่อย ๆ
(๓) ผู้ที่ทำการประจำอยู่อย่างเดียว อาจจะคิดทำเครื่องมือเครื่องใช้เครื่องจักร์ให้ที่มีผลยิ่งขึ้นกว่าเก่าได้
การได้เปรียบข้อ ๑ ซึ่งว่าด้วยความชำนาญฝีมือนั้น ถ้าฝึกหัดทำการอย่างเดียวอยู่เสมอเปนนิจ ก็อาจจะทำใจและกายให้พรักพร้อมกันได้ ตาหมายที่แห่งใดมือก็จับลงถูกต้องตรงที่หมายแม่นยำ จะบังคับไปทางไหนมือก็ผ่อนตามได้ทันกัน อย่างการดีดสีเครื่องดนตรีเปนต้น จะนึกดีดสีเสียงใดนิ้วก็จับสายพอเหมาะกันกับสำเนียง ถ้าตาจะไม่ช่วยดูแต่ลำพังมือก็ดีดทำเพลงได้ดังใจ
ช่างเหล็กธรรมดาซึ่งไม่เคยทำตะปู ถ้าจะลองทำบ้างบางทีวันหนึ่งจะทำไม่ถึงร้อยตัว ช่างเหล็กที่เคยทำตะปูบ่อย ๆ แต่ไม่ได้หากินในการทำตะปูอย่างเดียว วันหนึ่งอาจจะทำตะปูได้สักพันตัว แต่ช่างที่หากินด้วยการทำตะปูอย่างเดียว วันหนึ่งอาจจะทำได้ถึงสองสามพันตัว ความชำนาญทำการได้ผลผิดกันเปนอันมากเช่นนี้
อีกประการหนึ่งความชำนาญอาจจะทำให้เครื่องมือ หรือสิ่งของที่ทำนั้นแตกหักสูญเสียเปลืองน้อยลงได้ เพราะโดยความชำนาญจะกะประมาณแรงหนักเบาของมือได้พอเหมาะกันกับเครื่องมือและสิ่งของที่ทำอยู่
การได้เปรียบข้อ ๒ ซึ่งว่าถ้าทำการอย่างเดียวจะไม่ป่วยการเสียเวลาเปล่าเหมือนทำการหลายอย่าง โดยที่จะต้องเคลื่อนที่ไปมาจากที่ทำการอย่างหนึ่งไปหาที่ทำการอย่างหนึ่งนั้น เมื่อดูแต่เผิน ๆ ก็จะไม่เห็นว่าจะเปลืองเวลาได้มากสักปานใด แต่เมื่อใดได้กะเวลาสอบดูการที่เปนจริงก็อาจจะเห็นได้ว่า การที่ต้องโยกย้ายทำอย่างหนึ่งแล้วไปทำการอย่างอื่นนั้นป่วยการมากเพียงใด ช่างทองบ้านนอกเมื่อทำทองค้างอยู่จะต้องวางมือไปช่วยเขาไถนาวันใด วันนั้นคงทำทองไม่ได้ต่อไปอีก หรือถ้าจะทำได้ก็ต้องป่วยการเสียมาก เพราะจะต้องอาบน้ำชำระกายแล้วกลับมาติดไฟชักสูบ หรือเลือกหาเครื่องมือและเพ่งเลงทำการต่อรอยเดิมต่อไป แต่เวลาที่ต้องเดินไปมาจากเรือนและที่ไถนานั้นก็เปลืองเสียมากแล้ว
แม้แต่การในเรือนนั้นเอง ถ้าหากว่าต้องเปลี่ยนเครื่องมือทำการต่าง ๆ นานาวันละหลายอย่างแล้ว การเหล่านั้นก็ไม่เปลืองเสร็จไปได้ตามสมควรแก่เวลาเปนเหตุให้ผลของแรงทำการน้อยไป
การได้เปรียบข้อ ๓ ที่ว่าผู้ทำการประจำอยู่แต่อย่างเดียวอาจจะคิดเห็น หรือนึกทำเครื่องมือหรือเครื่องจักร์กลไกอย่างใหม่ให้ดียิ่งขึ้น ช่วยแรงทำการให้ได้ผลงอกออกอีกนั้น ก็มีตัวอย่างปรากฎอยู่ในเครื่องมือเครื่องจักร์อย่างใหม่ที่มีเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ของเหล่านี้โดยมากออกจากความชำนาญของผู้ที่สนใจทำการอยู่อย่างใดอย่างหนึ่ง รถยนต์ที่มีใช้อยู่ทุกวันนี้ พวกช่างต่าง ๆ ที่หากินในการทำรถนั้น คิดอ่านทำการเปลี่ยนแปลงดีขึ้นทุกที เครื่องจักร์เครื่องมือที่ใช้สำหรับการทำรถ โดยเฉภาะนั้นก็ทำดีมีผลขึ้นตามกัน
พวกที่ศึกษาหากินในเครื่องไฟฟ้าเครื่องจักร์ ทำไม้ทำเหล็กเครื่องทอผ้าสาระพัดอย่าง ก็พยายามทำเครื่องนั้นให้ดียิ่งขึ้น จนที่สุด แม้แต่การเพาะปลูกที่มีมาแต่ดั้งเดิมแล้ว ก็ยังมีผู้คิดทำดียิ่งขึ้นเสมอ ทดลองเลือกหาปุ๋ยที่ดีมาประสมดินทำเครื่องไกเครื่องคราดเครื่องเกี่ยวสาระพัดอย่าง ล้วนแต่จะมุ่งหมายทำการให้ได้ผลมากและเปลืองแรงน้อยเท่านั้น
การใช้เครื่องจักร์เปนวิธีทำการวิเศษมากเพียงใด ย่อมเห็นอยู่ทั่วไปแล้วได้อาศรัยกำลังไอน้ำร้อนช่วยผ่อนแรงของมนุษย์ให้เบาลงเปนอันมาก คนระวังเครื่องจักร์คนเดียวสามารถจะทำงานเกิดผลเท่ากับคนหลายคน เครื่องจักร์ในโรงทำงานใหญ่ ๆ บางแห่งสามารถจะคุ้มแรงคนนับได้ตั้งร้อย และการใช้เครื่องจักร์นั้นยังเปิดทางให้คนทำงานหาการอย่างใหม่ หรือปันหน้าที่กันทำการได้มากอย่างออกไปกว่าเก่าอีก แม้แต่เครื่องจักร์จะแย่งการของช่างบางอย่างไปทำเปนการตัดผลประโยชน์ของช่างเหล่านั้นบ้าง คุณของเครื่องจักร์ที่ทำผลประโยชน์ในบ้านเมืองให้สมบูรณ์ดียิ่งขึ้นได้เปนอันมากนั้นก็เกินกว่าที่จะลบล้างกัน เครื่องจักร์ในการบางอย่างที่ไม่สู้จะสับสนเข้าใจใช้ยาก ไม่ช้าพวกช่างที่ต้องหยุดการไปก็กลับหันเข้าทำการอย่างเดิมกับเครื่องจักร์นั้นได้ กลับได้ผลของค่าแรงมากไปกว่าเก่าอีก
มีเครื่องจักร์เย็บผ้าเปนต้น ไม่เลือกว่าสาวหรือแก่ถ้ามีแรงและมีตาดีพอเย็บผ้าได้แล้ว ก็คงจะใช้เครื่องจักร์เย็บได้ช่ำชองรวดเร็วกว่าฝีมือเย็บในน้อยวัน
คนที่หากินในการระวังเครื่องจักร์นั้น ก็อาจจะเลี้ยงชีพได้ดีกว่าคนที่ต้องทำการหากินด้วยความชำนาญด้วยน้ำพักน้ำแรงแท้ ๆ ด้วยทำการไม่ต้องออกแรงหนักตรากตรำหรือไม่ต้องก้มหน้านั่งเพ่งเลงทำการมือด้วยความประณีตบรรจงอย่างยิ่ง คนผู้นั้นก็พึงจะมีเวลาและโอกาศตริตรองในทางที่จะใช้สติปัญญาให้รู้การกว้างขวางออกอีกได้
อีกประการหนึ่ง เครื่องจักร์โดยมากแม้ผู้มีปัญญาคิดให้ทำการได้มากอย่างต่างสิ่งก็จริง แต่โดยที่กลไกและหลักฐานธรรมดาคล้ายคลึงกัน คนทำงานที่เคยใช้เครื่องจักร์อย่างหนึ่งแล้วก็จะใช้เครื่องอย่างอื่นได้โดยง่าย ถึงจะเปนเครื่องที่ทำการเที่ยงแท้แม่นยำละเอียดอย่างใด ค่าที่เครื่องกลไกทำไปได้แต่ลำพังตัว คนที่จะระวังเครื่องจักร์นั้นก็จะไม่ต้องฝึกหัดฝีมือให้ช่ำชองเท่ากับเมื่อจะทำด้วยฝีมือของตนเองแท้ ๆ
เครื่องจักร์ทำการได้ผลมากยิ่งขึ้นเพียงใด ก็ยิ่งเปิดทางให้คนทำการหาผลเพาะปลูกและสัมภาร ซึ่งเกิดขึ้นจากแผ่นดินไปป้อนเครื่องจักร์นั้นมากขึ้นตามกัน ในกรุงสยามถ้าไม่มีเครื่องจักร์สีเข้าแทนแรงคนได้อย่างทุกวันนี้ ที่ไร่นาคงไม่เกิดผลเปนทรัพย์มาก และไม่ช่วยบ้านเมืองให้เจริญขึ้นเท่าเดี๋ยวนี้ได้
เมื่อยังไม่มีเครื่องจักร์สีเข้า ชาวนาขายเข้าได้เพียงเกวียนละแปดบาทถึงสิบสองบาท มาบัดนี้ขายได้ราคามากขึ้นกว่าเก่าถึงสี่ห้าเท่า แต่เช่นนั้นก็ยังบ่นว่าไม่มีความสุขยิ่งกว่าเก่า ถ้าเปนจริงดังนี้ ก็เห็นเหตุได้อย่างหนึ่งว่า ความปราถนาของคนในสมัยนั้นไม่ฟุ้งส้านมากมายเหมือนทุกวันนี้ ซึ่งมีผ้าพื้นนุ่งแล้วยังจะต้องหาผ้าม่วงเสื้อหมวกและของใช้แปลกต่าง ๆ นานา ทั้งต้องการสุรายาฝิ่นและเล่นการพนันเปนอันเผอเรอมากมายกว่าเก่าหลายเท่าด้วย คนแต่ก่อนไม่รู้สึกต้องการของเหล่านี้เพราะไม่เคยเห็นมีแพร่หลายจึงมีความพอใจอยู่ได้
การได้เปรียบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเพราะวิธีปันหน้าที่กันทำการนั้นยังมีต่อไปอีกหลายอย่างที่ควรจะยกมากล่าวด้วย คือ
๑ ทวีคูณผลแห่งแรงทำการให้มากขึ้นได้
๒ ทวีคูณแบบอย่างให้มากขึ้นได้
๓ มีทางให้คนเลือกหาการทำตามถนัด
๔. มีทางให้ได้ทำการในทำเลที่เหมาะ
วิธีปันหน้าที่ทำการบางอย่าง ซึ่งจะทวีคุณผลแห่งแรงทำการให้มากขึ้นนั้นเปนวิธีจัดการให้คน ๆ เดียว หรือน้อยคนทำการแทนคนมากได้
ถ้าต่างคนต่างก็จะต้องใช้คนถือหนังสือไปมาถึงกันแล้ว ในเมืองหนึ่งเมืองใดจะเปลืองแรงคนถือหนังสือมากมายสักเพียงใด และถ้าเปนทางไกลก็จะต้องเปลืองค่าเดินทางและค่าแรงเพิ่มเติมขึ้นสักเท่าใด แต่ในสมัยนี้ไปรสนีย์บุรุษผู้เดียวอาจจะทำธุระแทนคนถือหนังสือต่าง ๆ ที่จะถือไปแต่คนละฉบับสองฉบับนั้นได้เปนอันมาก หนังสือไม่หนักหนาอะไรคนหนึ่งจะถือไปส่งสักร้อยฉบับร้อยแห่งในทางที่จะเดินไปนั้นก็จะได้โดยง่าย วิธีการไปรสนีย์เปนการมุ่งหมายที่จะทำให้เปลืองน้อยในการส่งหนังสือเช่นนี้ แม้ผู้ใดจะส่งหนังสือไปถึงเพื่อนที่อยู่ห่างไกลกันคนละซีกโลก ก็จะไม่ต้องเสียค่าส่งหนังสือนั้นเกินฉบับละ ๒๕ สตางค์ การอย่างอื่นเช่นนี้ก็มีอีกหลายอย่าง
วิธีปันหน้าที่ทำการสามารถจะให้คนฉลาดคิดให้เปลืองแรงน้อยที่สุดในทางที่จะทวีคูณแบบอย่างให้มากขึ้นนั้น จะทำได้ด้วยเครื่องมือและเครื่องจักร์เปนต้น เมื่อได้ทำแบบอย่างขึ้นแต่แบบเดียวแล้ว เครื่องมือเหล่านี้อาจจะลอกถ่ายแบบอย่างเดียวกันทวีคูณขึ้นได้อย่างรวดเร็ว มีการทำเงินตราและสตางค์ทองแดงเปนต้น แกะพิมพ์เหล็กขึ้นแต่พิมพ์เดียว ก็อาจจะถ่ายแบบทวีขึ้นได้วันละหลายหมื่นหลายพันแบบ
เครื่องที่พิมพ์หนังสือนั้นก็เปนตัวอย่างที่จะยกมากล่าวได้ เรียงตัวพิมพ์ขึ้นเปนแบบเสียทีหนึ่งแล้ว จะตีพิมพ์ถ่ายถอนสำเนาหนังสือนั้นออกได้ตั้งแสนฉบับ โดยที่ไม่ต้องเปลืองค่าแรงถ่ายถอนสำเนามากไปกว่าค่ากระดาษสักเท่าใด เมื่อยังไม่มีเครื่องพิมพ์เข้ามาใช้ในเมืองเรา ผู้ใดจะมีหนังสืออิเหนาไว้อ่านเล่นสักฉบับเดียว จะต้องเสียค่าจ้างเขียนคัดสักเท่าใดจึงจะพอ ถ้าเปนคนจนแล้วก็เปนอันหมดปัญญาที่จะมีหนังสือเช่นนั้นอ่านได้ตลอดเรื่อง เครื่องตีพิมพ์กระทำให้ความรู้วิชาและข่าวสารทั้งปวงแพร่หลายออกเปนคุณประโยชน์แก่บุคคลและบ้านเมืองมากมายเหลือที่จะพรรณาได้
เครื่องภาชนะใช้สรอยต่าง ๆ ที่เราซื้อใช้ได้ราคาถูกทุกวันนี้ ก็เปนเพราะทำขึ้นด้วยความคิดทำเครื่องมือเครื่องจักร์ที่ถ่ายถอนแบบได้ทีละมาก ๆ เปนต้นจนที่สุดแม้แต่เปนเก้าอี้และโต๊ะไม้ก็ยังให้เครื่องจักร์ถ่ายแบบได้
วิธีในหน้าที่ทำการอาจจะเปิดทางให้คนเลือกการทำตามถนัดได้นั้น ต้องสุดแต่ทำเลที่ ๆ มีคนน้อยหรือมากเปนใหญ่ ตามบ้านนอกซึ่งมีแต่การทำไร่ไถนาเพาะปลูกเปนพื้น บ้านเรือนราษฎรอยู่ห่างไกลกระจายออกทั่วไป การที่จะปันหน้าที่กันทำงานก็ย่อมมีน้อยอยู่เอง ในหมู่บ้านหนึ่งจะหาช่างไม้สักคนเดียวก็โดยยาก ถ้าจะหาได้ฝีมือก็คงไม่ดี โดยเหตุที่ช่างนั้นไม่มีการไม่มากพอที่จะทำได้แต่หน้าเดียว ต้องทำการหากินอย่างอื่นประกอบด้วย ความฝึกหัดชำนาญฝีมือก็ย่อมจะขาดไป การคบหาสมาคมติดต่ออาศรัยซึ่งกันและกันมีน้อย ไม่ใคร่จะได้ยินได้ฟังหรือเห็นการแปลกปลาดอะไรกว่าธรรมดานัก ความฉลาดไหวพริบในการงานทั้งปวงของชาวบ้านนอกจึงสู้ชาวเมืองไม่ได้
ข้างฝ่ายชาวเมืองซึ่งบ้านเรือนอยู่ใกล้ชิดติดต่อกัน มีคนมากรวบรวมเบียดเสียดกันอยู่ในที่อันน้อย ต้องอาศรัยผลเพาะปลูกซึ่งชาวบ้านนอกทำเปนอาหารเลี้ยงชีพ ก็ต้องคิดหาการต่าง ๆ ทำให้ได้ผลไปแลกของนั้นมาบริโภค ชาวบ้านนอกกับชาวเมืองต่างต้องอาศรัยแรงทำการกันเช่นนี้ก็จริง แต่ชาวเมืองได้คบหาสมาคมแลกเปลี่ยนความคิดความรู้ซึ่งกันและกันอยู่เสมอ และมีการปันหน้าที่กันทำมากอย่างต่างชนิด ก็ย่อมจะมีความฉลาดกว่าชาวบ้านนอกเปนธรรมดา ยิ่งอยู่ด้วยกันมากมายหนาแน่นขึ้น ความปราถนามีมากอย่างขึ้น ก็ยิ่งมีการต่างกันทำมากขึ้น ชาวเมืองจึงมีทางที่จะเลือกการที่ถนัดทำได้มากอย่าง ที่มีแรงน้อยและร่างกายแบบบางก็เลือกหาการเบาทำได้ ไม่ต้องตรากตรำลำบากเหมือนชาวบ้านนอก ที่มีสติปัญญาเชาวน์อันดีก็ยิ่งทำการได้ผลดี จะเปนช่างอย่างใดก็หาการทำได้พอแรง ความชำนาญช่ำชองก็ต้องดีขึ้น ทั้งจะหาจ้างลูกมือใช้ก็ง่าย แม้จะเปนนักปราชญ์ฉลาดรู้แต่วิชาหนังสือและศิลปวิทยาไม่ต้องทำการหนักอย่างใด ก็เปนครูอาจารย์เขาหากินเปนผลประโยชน์ได้มาก แต่ถ้าคนชนิดนี้ไปอยู่บ้านนอก ก็คงจะเลี่ยงหนีการขุดดินทำไร่ไถนาไม่พ้น สติปัญญาและวิชาความคิดที่มีอยู่ก็เอาออกเปนทุนใช้หากำไรไม่ได้
หมอยารักษาโรค ถ้าทำการแต่ที่จะทำได้ถนัด ก็จะได้ผลค่าแรงสมควรกับวิชาที่เล่าเรียนมา ประมาณเสียว่าทำการตรวจและรักษาไช้ได้วันละ ๒๐ บาท ครั้นเครื่องยาขาดมือลง หมอไม่จ้างคนชำนาญไปขุดหาเครื่องยา อุส่าห์ไปเที่ยวงมงายหาเสียเอง ถ้าต้องไปหาเครื่องยาทั้งวัน ในวันนั้นหมอจะได้ค่าแรงเท่ากับค่าจ้างคนขุดเครื่องยาประมาณสัก ๗๕ สตางค์เท่านั้น ถ้าบังเอินวันนั้นคนไข้มีอาการเปลี่ยนแปลงร้ายแรงขึ้นในปัจจุบันทันที หมอกลับมาแก้ไม่ทัน คนไข้เคราะห์ร้ายนั้นก็อาจจะตายเพราะขาดหมอขาดยานั้นได้
วิธีปันหน้าที่กันทำการเปิดทางให้ได้ทำการในทำเลที่เหมาะนั้น ได้กล่าวมาข้างต้นแล้วว่าแรงทำการที่จะเกิดผลได้มากอย่างหนึ่ง ต้องทำให้ถูกกาละเทสะคือให้ถูกกับสมัยและประเทศ แต่ที่จะไปตั้งทำการลงในที่เหมาะแห่งใดนั้น ถ้าไม่มีวิธีปันหน้าที่กันทำการที่ทำไม่ได้ เปนต้นว่าผู้ใดจะบรรพชาเปนสามเณรหรือจะอุปสมบทเปนภิกษุจะต้องทำบาตรเอง หรือผู้ใดจะต้องการขันทองเหลืองใช้, ต้องการขมิ้นดินสอพอง, ต้องการปูนกินกับหมาก, จะต้องทำเสียเองทุกอย่างแล้ว บ้านบาตร, บ้านขมิ้น, บ้านปูน, ที่ตั้งทำอยู่เปนหมวดหมู่ในกรุงเทพฯ ทุกวันนี้ก็เปนอันตั้งไม่ติดอยู่เอง บ้านที่ตั้งอยู่เหล่านี้ เหตุเดิมจะเปนอย่างไรก็ยากที่จะทราบความจริงแน่ แต่เห็นมีผลมากอยู่ว่า การอย่างใดที่ได้ทำประจำที่อยู่ช้านานหลายชั่วคน คนทำงานที่เกิดในทำเลที่นั้น เคยเห็นเยี่ยงอย่างวิธีทำการมาแต่เล็กไม่ต้องศึกษาฝึกหัดลำบากยากเย็นอย่างใดก็สามารถทำได้โดยง่าย และเมื่อคนทั้งหลายรู้ทั่วไปว่าที่แห่งนั้นเปนทำเลที่ทำของอย่างใดโดยเฉภาะ มีที่เลือกของดีชั่วได้มาก จะต้องการของเมื่อใดก็ตรงไปซื้อในที่นั้น ผู้ใดจะเอาบาตรหรือขมิ้นดินสอพองแป้งปูนไปเที่ยวตั้งขายที่ไหน ก็ไปรับมาจากทำเลที่ทำของเหล่านั้น เปนการสดวกแก่ผู้ทำและผู้ซื้อทั้งสองฝ่าย การซึ่งไปตั้งทำเปนทำเลที่เช่นนี้จึงเกิดผลได้มาก ที่ตลาดขายของสดของแห้งและห้างร้านทั้งปวงซึ่งรวบรวมขายของต่าง ๆ อยู่ในที่แห่งเดียวกัน ขายของได้สดวกดีกว่าที่อื่นก็เพราะเหตุอย่างเดียวกันนี้เปนต้น
นอกจากนี้ยังมีการทำสิ่งของและผลเพาะปลูกต่าง ๆ ทำอยู่โดยเฉภาะตามเมืองและประเทศที่ห่างไกลกันออกไปอีก มีผ้าพื้นจันทบุรี, ผ้าไหมโคราช, น้ำตาลหม้อเมืองเพ็ชร์, น้ำตาลอ้อยเมืองชล, ยาเพ็ชรบูรณ์, ปากแพรก, กล่องลาวเชียงใหม่ เปนต้น ที่เหล่านี้ต้องเรียกว่าเปนทำเลที่เหมาะทั้งสิ้น เมื่อตรวจไปถึงสินค้าต่างประเทศ ก็จะเห็นแพรเมืองจีน, เมืองฝรั่งเศส, ผ้าด้ายและสักลาดเมืองอังกฤษ, ผ้าเยียรบับเมืองอินเดีย, และของต่าง ๆ ที่ทำส่งเข้ามาขายในเมืองเราจากนานาประเทศ ซึ่งเปนทำเลที่ทำที่เกิดนั้นเปนอันมาก สินค้าสาระพัดทุกอย่างสุดแล้วแต่ความต้องการของมนุษย์ใช้เปนใหญ่ แรงทำการคอยผ่อนผันหันทำตามความต้องการอยู่เท่านั้น
ลักษณวิธีปันหน้าที่กันทำการนั้น แม้ว่าจะมีคุณมากดังที่ได้พรรณามาแล้วก็จริง แต่ลักษณที่ร้ายก็มีอยู่แก่ตัวคนทำการประจำอยู่แต่หน้าเดียวอย่างเดียวนั้นบ้าง
การที่จะต้องทำประจำอยู่อย่างเดียวช้านานจนช่ำชองว่องไวเช่นช่างกลึงจักร์นาฬิกาหรือช่างทำตะปูที่กล่าวมาก่อนนั้น แท้ที่จริงนานไปมีคนฝึกหัดเอาอย่างทำการเช่นนั้นมากขึ้นเกินส่วนที่สมควร คนพวกนี้ก็ย่อมจะลดค่าแรงแข่งค่าจ้างกันน้อยถึงทุกที เพราะต้องแย่งกันทำการเลี้ยงชีพเปนใหญ่ ความที่แข่งแย่งกันกวดขันหนักหนาเพียงใด ก็อาจจะเห็นได้ปรากฎอยู่ทุกวัน เพื่อจะทำการแต่ที่ตัวถนัดแท้ คนพวกนี้อุส่าห์ก้มหน้าทำการตรากตรำอยู่ในการอย่างเดียวได้ตลอดชีวิต ต้องนั่งประจำที่อยู่แห่งเดียวจนหลังขดหลังโกง เช่นช่างเย็บช่างทองเปนต้น ที่ต้องทำการขุดดินหรือหาบหามของหนักก็ทำตรากตรำไป ได้ค่าแรงแต่พอกินชั่ววันหนึ่ง ๆ เท่านั้น จะหาการอื่นทำให้ดีกว่าก็ไม่ได้ เพราะเคยถนัดทำแต่การอย่างเดียว และในการทำของบางอย่างที่มีคนต้องการน้อยลง จะหากินในการอย่างนั้นไม่ได้ต่อไป ก็ยิ่งจะได้ความลำบากเมื่อปลายมือเปนอันมาก
อีกประการหนึ่ง ถ้าสิ่งของอย่างใดซึ่งคนพวกนี้เอามาแต่งสรรทำขายนั้นขาดมือหมดสิ้นไป คนพวกนี้ก็จะหากินในทางนั้นไม่ได้อีก