- คำนำ
- ภาค ๑ การสร้างทรัพย์
- หมวด ๑ ว่าด้วยคุณประโยชน์
- หมวด ๒ ว่าด้วยลักษณทรัพย์
- หมวด ๓ ว่าด้วยสิ่งสำคัญที่จะต้องใช้ในการทำให้เกิดผลเปนทรัพย์
- หมวด ๔ ว่าด้วยลักษณแรงทำการ
- หมวด ๕ ว่าด้วยวิธีปันหน้าที่ทำการ
- หมวด ๖ ว่าด้วยการระดม
- หมวด ๗ ว่าด้วยทำนองทำการอย่างใหญ่และทำการอย่างน้อย
- หมวด ๘ ว่าด้วยลักษณทุน
- หมวด ๙ ว่าด้วยการลงทุน
- หมวด ๑๐ ว่าด้วยกฎธรรมดาทั้งหลาย ซึ่งเปนที่บังคับสำหรับให้เกิดผลเปนทรัพย์เพิ่มพูลยิ่งขึ้น
- หมวดที่ ๑๑ ว่าด้วยกฎธรรมดาซึ่งเปนที่บังคับให้ทุนเพิ่มพูลยิ่งขึ้น
- ภาคที่ ๒ การแบ่งปันทรัพย์
- หมวด ๑ ว่าด้วยกรรมสิทธิ์แห่งทรัพย์สมบัติ
- หมวด ๒ ว่าด้วยทรัพย์ซึ่งสร้างเปนผลขึ้นแล้ว จะได้เปนส่วนแบ่งปันแก่คนจำพวกใดบ้าง
- หมวด ๓ ว่าด้วยค่าเช่าที่ดิน
- หมวด ๔ ว่าด้วยค่าแรง
- หมวด ๕ ว่าด้วยกำไร
- หมวด ๖ ว่าด้วยสมาคมคนทำงาน และการที่คนทำงานพร้อมใจกันละทิ้งการงาน
- หมวด ๗ ว่าด้วยผลที่ร้ายของการประมูลแข่งขัน
- หมวด ๘ ว่าด้วยวิธีทำการร่วมกัน โดยร่วมทุนร่วมแรงและร่วมผลประโยชน์ในระหว่างคนทำงาน
- หมวด ๙ ว่าด้วยการศึกษาและการประหยัดทรัพย์
หมวด ๓ ว่าด้วยสิ่งสำคัญที่จะต้องใช้ในการทำให้เกิดผลเปนทรัพย์
ในการที่คิดจะทำมาหากินนั้น ทีแรกจะต้องตกลงเสียก่อนว่าจะปราถนาสิ่งใด แล้วจึงคิดต่อไปว่าจะทำประการใดจึงจะได้สิ่งนั้นโดยง่าย
เพื่อประสงค์จะรู้ความนี้ เราต้องพิจารณาต่อไปว่า ในธุระที่จะทำให้เกิดผลเปนทรัพย์นั้น จะต้องอาศรัยใช้สิ่งใดบ้าง
นักปราชญ์ทั้งหลายชี้แจงร่วมกันว่า สิ่งสำคัญที่จะต้องใช้ในการที่จะทำให้เกิดผลเปนทรัพย์มีสามอย่าง คือ
๑. ที่ดิน
๒. แรงทำการ
๓. ทุน
คำ “ที่ดิน” ที่ใช้ในที่นี้ต้องไขความเติมว่า ที่เกิดของสัมภารทั้งหลายซึ่งการกของธรรมดาโลกคือดิน, ฟ้าอากาศ, ความร้อนความเย็น และแสงสว่างประกอบกันทำให้เกิดมีขึ้นเปนขึ้นเอง เช่นพืชพันธุ์ต้นไม้สัตว์และแร่ธาตุโลหะทั้งหลายเปนต้น
พัสดุทุกอย่างที่คนทำขึ้นเปนชิ้นเปนอัน ต้องทำจากพันธุ์ไม้, สัตว์, หรือโลหะและธาตุทั้งหลายทั้งสิ้นการกธรรมดาผันแปรตกแต่งสัมภารเหล่านี้ขึ้นไว้ในที่ดินแล้ว เราต้องออกแรงประกอบกิจเพิ่มเติมอีก สมภารเหล่านั้นจึงจะเปนผลเปนประโยชน์
ที่ดินซึ่งเปนที่เกิดแห่งอาหารของมนุษย์นั้น ถ้าไม่มีใครไปออกแรงหักร้างถางพงฟันดินไถคราด และหว่านพืชพันธุ์ไม้ลงแล้ว ก็ไม่เปนเรือกสวนไร่นาที่เกิดผลประโยชน์ขึ้นได้ ต้นไม้ซึ่งงอกอยู่ในป่าถึงจะใหญ่โตงดงามอย่างใดหาค่ามิได้ ถ้าหากว่าไม่มีใครไปตัดฟันชักลาก มาเลื่อยทำให้เกิดผลเปนประโยชน์ขึ้น แร่โลหะต่าง ๆ ที่มีอยู่ในพื้นแผ่นดินก็เหมือนกัน แม้จะเปนทองอยู่ ทองนั้นก็ไม่มีค่าอันใด ถ้าไม่มีใครไปออกแรงขุดคุ้ยเอามาใช้
ผ้านุ่งห่มบ้านเรือนภาชนะใช้สรอย และเสบียงอาหารซึ่งมีขึ้นไว้สำหรับความศุขของเรานั้น กว่าจะได้มาแต่ละสิ่งกว่าจะเปนรูปเปนผลขึ้น คนจะต้องออกแรงประกอบกิจทำการดัดแปลงแต่งสรรมากมายนักหนาสักเพียงใด เพราะฉะนั้นจึงเห็นความจริงว่าที่ดินนั้นถึงจะเปนที่เกิดแห่งสัมภารอันบริบูรณ์ดีวิเศษอย่างใด ก็ต้องใช้แรงทำการโดยขยันขันแข็งประกอบความคิดความชำนาญและความอุสาหด้วย สัมภารและแรงทำการนั้นจึงจะเกิดผลเปนทรัพย์ขึ้นได้
ที่ดินและแรงทำการประกอบกันเข้าจึงจะเกิดผลเปนทรัพย์ได้ดังที่กล่าวมาเช่นนั้นแล้วก็จริง แต่เพื่อจะให้เกิดผลเร็วขึ้นโดยที่จะทำการให้สดวก คนทำงานในชั้นต้นจำจะต้องได้กินอาหารเสียก่อนแม้แต่มื้อเช้าสักมื้อเดี๋ยวก็ยังดี มิฉะนั้นจะไม่มีแรงพอที่จะทำการให้สำเร็จได้ อาหารนี้คือทุนซึ่งต้องมีใช้ด้วยจึงจะทำการได้ดี ยิ่งมีสั่งสมสำรองอยู่มากก็ยิ่งทำการได้สดวกมาก แต่เสบียงอาหารก็เปนผลซึ่งเกิดจากที่ดินและแรงทำการเหมือนกัน จะสั่งสมขึ้นไว้ให้กินได้หลายมื้อ ก็โดยที่ผู้หาอาหารนั้น เมื่อหาได้มาจะไม่กินให้หมดไปเสียในมื้อเดียวคราวเดียว ต้องอุส่าห์ผ่อนกินผ่อนเก็บสั่งสมขึ้นไว้สำหรับกินในวันหน้าต่อไป จึงจะเปนทุนขึ้นได้
เมื่อการเปนดังนี้ก็จะเห็นได้ว่า ทุนนั้น คือผลของการที่เราได้ผ่อนเหลือเก็บสั่งสมประหยัดไว้ สำหรับจะใช้ให้เกิดผลเปนทรัพย์ในภายหน้าต่อไป หรือจะกล่าวแต่ย่อก็คือทุนนั้นเปนที่เกิดแห่งกำไร หรือทุนเปนสิ่งสำหรับใช้ให้เกิดกำไร
คนทำนา เมื่อลงมือไถคราดไปจนได้ตกกล้าดำนาแล้ว ยังจะต้องคอยไปอีกหลายเดือนจนกว่าเข้าจะสุก ได้เกี่ยวมาสีดำฝัดแล้วจึงจะหุงเข้านั้นกินได้ ในระหว่างเวลาหลายเดือนนี้ ถ้าไม่ได้อาศรัยเสบียงซึ่งได้เก็บเปนทุนสำรองไว้แต่ก่อนแล้วไหนเลยจะทำไปได้ นอกจากเสบียงยังต้องมีเย่าเรือนที่อาศรัยโคกระบือ ไถคราดและเครื่องมือเครื่องใช้ต่าง ๆ ทั้งผ้านุ่งห่มด้วย ถ้าได้เตรียมของเหล่านี้สำรองไว้พร้อม หรือเตรียมไว้แต่พอให้ได้ทันใช้ในเวลาต้องการ ก็สามารถจะทำนาได้โดยสดวก และได้เข้าเปนผลคุ้มค่าแรงที่ได้ออกไปมาก แต่ถ้าหากว่าในเวลาที่กำลังทำนาอยู่ บังเอิญขาดเสบียงไปหรือขาดเครื่องมืออะไรลงสักอย่างหนึ่ง ก็จำจะต้องทิ้งงานเสียเวลาไปเที่ยวหาเสบียง หรือเครื่องมือที่ขาดไปนั้นเสียพักหนึ่ง เปนการขัดข้องไม่สดวกและเปนการเสียเวลาซึ่งเปนเหตุที่จะทำให้ได้ผลเปนทรัพย์น้อยไป หรือช้าไปกว่าเพื่อนที่เขามีทุนสำรองอยู่พรักพร้อม การหากินอย่างอื่นก็เหมือนกันเมื่อเอาเวลาเปนที่ตั้งแล้ว ถ้ามีทุนสำรองใช้น้อยก็ได้ผลน้อย ถ้ามีทุนมากก็ได้มากในเวลาเท่ากัน
เหตุฉนี้ในการที่จะทำให้เกิดผลเปนทรัพย์ได้ จึงต้องใช้ทุนประกอบกับแรงทำการ และที่ดินด้วยทั้งสามอย่าง
ต่อนี้ไปจะได้ชี้แจงลักษณแรงทำการและทุนกับที่ดินเปนลำดับไป โดยพิสดาร