หมวด ๙ ว่าด้วยการศึกษาและการประหยัดทรัพย์

ในภาค ๑ ได้ชี้แจงถึงการสร้างทรัพย์และเมื่อสร้างเปนทรัพย์ขึ้นแล้วได้ชี้แจงต่อไปในภาค ๒ นี้ว่า คนจำพวกใตจะต้องได้ส่วนแบ่งบันในทรัพย์นั้นบ้าง มีเจ้าของที่ดินได้ส่วนเปนค่าเช่าที่ เจ้าของทุนได้ส่วนเปนกำไร และผู้ทำงานได้ค่าแรงเปนต้น ทั้งรัฐบาลก็ได้ส่วนเปนภาษีอากร ซึ่งแม้แต่เรี่ยรายแบ่งเอาจากพลเมืองแต่คนละเล็กน้อย เมื่อรวมกันเข้าแล้วส่วนนี้ก็เปนเงินทองกองใหญ่สำหรับจะได้ใช้บำรุงทะแกล้วทหารไว้ป้องกันความอิศรภาพของชาติ ทั้งจะใช้เปนค่าบำเหน็จเจ้าพนักงานฝ่ายพลเรือน และเปนค่าใช้สรอยสาระพัดอย่างในการปกครองราษฎรโดยเจตนาที่จะให้อยู่เย็นเปนศุขได้ เพียงอำนาจของจำนวนเงินมากน้อยที่เรี่ยรายเปนเงินภาษีอากรขึ้นได้ ส่วนแบ่งปันภาคนี้จึงเปนส่วนสำคัญอันใหญ่ยิ่งของแผ่นดิน ถ้าพลเมืองมีปัญญาหมั่นประกอบการเลี้ยงชีพ อุส่าห์มัธยัสต์ประหยัดทรัพย์ไว้ก่อกองทุนให้ยิ่งมั่งมีขึ้น ยิ่งแบ่งส่วนเรี่ยรายให้รัฐบาลได้เปนจำนวนเงินภาษีอากรมากขึ้น ข้างฝ่ายรัฐบาลถ้าได้จำหน่ายใช้ทรัพย์ภาคนี้โดยความมัธยัสต์ และโดยความมุ่งหมายทางเดียวแต่ที่จะบำรุงรักษาให้พลเมืองจำเริญยิ่งขึ้นในการทำมาหากินโดยรอบไปได้แล้ว ความอิศรภาพและความศุขของชาติก็มีแต่จะรุ่งเรืองถาวรยิ่งขึ้นเสมอไป ข้างฝ่ายความพินาศเสื่อมทรามจะเปนไปได้ก็เพราะเหตุที่ความเปนอยู่นั้นเองจะกลับตรงกันข้ามไป ตั้งต้นเพราะราษฎรโง่เขลาเกียจคร้าน ใช้จ่ายเผอเรอเกินผลประโยชน์ที่ทำมาได้ โดยที่ไม่มีปัญญาคิดเผื่อไปถึงวันหน้า ต้องยากจนค่นแค้นลง รัฐบาลเก็บภาษีอากรได้น้อยเปนต้น

ตามธรรมดาที่เปนอยู่ตามนา ๆ ประเทศทั่วไปในโลกนั้น จำนวนพลเมืองที่โง่เขลาโดยมิได้ศึกษาเล่าเรียนเปนส่วนมากอยู่เสมอ แต่ส่วนนี้ไม่เท่ากันบางเมืองมีส่วนคนที่ได้เล่าเรียนศึกษามากกว่าคนบางเมือง เมืองซึ่งมีคนเล่าเรียนศึกษาเปนส่วนมากจึงมั่งมีบริบูรณ์และมีอำนาจเข้มแข็งกว่ากัน เมื่อปัญญาเปนกำลังที่จะทำให้พลเมืองดีขึ้น ทั้งจะให้แผ่นดินอานุภาพอยู่ได้เช่นนั้นแล้ว นักปราชญ์และรัฐบาลทั้งหลายจึงเห็นรวมกันว่า การศึกษาเล่าเรียนของพลเมืองอย่างเดียวที่สามารถจะพยุงอำนาจและความอิศรภาพของชาติให้ถาวรมั่นคงอยู่ได้ ถ้าพลเมืองโง่เขลารัฐบาลก็ต้องจัดการสั่งสอนให้พลเมืองนั้นฉลาดขึ้น โดยอุบายอย่างเดียวที่จะจัดการศึกษาให้แพร่หลายออกไป ให้ทั่วถึงกันทั้งชายและหญิงในแผ่นดิน

การศึกษาซึ่งรัฐบาลได้เริ่มจัดการมาประมาณ ๒๕ ปีที่ล่วงมานี้ (พ.ศ. ๒๔๕๘) จะเปนแต่ว่าค่อยทำค่อยขยายให้ใหญ่โตขึ้นทีละเล็กน้อยก็ดี ถึงฉะนั้นทุกวันนี้ก็ได้เห็นผลดีปรากฎอยู่แก่ตาแล้วว่า นักเรียนที่ออกจากโรงเรียนแล้วหางานทำเลี้ยงชีพได้ดีและสูงกว่าเพื่อนพลเมืองชั้นเดียวกันอยู่มาก มีตัวอย่างที่ได้เข้ารับราชการตามกระทรวงของรัฐบาลเปนต้น คนพวกนี้ได้ความรู้ประกอบสติปัญญา ตริตรองเห็นความดีชั่วในปัจจุบันและวันหน้าชัดแจ้งขึ้น ก็ประพฤติตัวดีมีความอุส่าห์ทำการงานจนได้รับเกียรติยศของแผ่นดิน หรือมีทรัพย์พอที่จะพึ่งตนเองได้เปนอันมาก ในที่สุดถ้าไม่ใช่เพราะการศึกษาแล้ว ผู้ที่ไม่ได้เกิดมาในเทือกเถาเหล่ากอที่เปนตระกูลสูง คงจะไม่ได้รับราชการตำแหน่งสูงเปนจำนวนมากคน ดังที่ปรากฎอยู่ในราชการทุกวันนี้ ผลดีมีประจักษ์ขึ้นแล้วก็ส่งเสริมให้ผู้ที่เปนบิดามารดามีความขวนขวายที่จะให้บุตรได้เล่าเรียนให้ได้ดีเสมอเพื่อนบ้านนั้นแก่กล้าขึ้นกว่าเก่าเปนอันมาก

ในสมัยที่ล่วงมาแล้วนี้ นักเรียนส่วนมากมุ่งแต่จะเข้ารับราชการ เพราะเห็นผลว่าจำเริญได้เร็ว ทั้งขวนขวายไปในทางที่จะแสวงหาเกียรติยศที่จะยกตัวให้สูงปรากฎขึ้นในหมู่และชั้นคนที่เสมอกันอยู่แต่ก่อนนั้นเปนธรรมดา แต่นอกจากการเลี้ยงชีพโดยอาศรัยราชการนั้นยังไม่สู้ปรากฎนักว่า นักเรียนออกจากโรงเรียนแล้ว ได้ไปตั้งทำมาค้าขาย ทำการช่างหรือการเพาะปลูกอันเปนผลประโยชน์ในส่วนตัวจนได้ชื่อว่าเปนผู้มั่งมีบริบูรณ์ปรากฎ แท้ที่จริงบ้านเมืองที่จะจำเริญขึ้นได้นั้นจะต้องอาศรัยกำลังของคนที่ทำผลประโยชน์ได้เปนใหญ่กว่าอย่างอื่น ถ้าการทำผลประโยชน์ของพลเมืองไม่จำเริญหรือไม่ดียิ่งขึ้นการปกครองของรัฐบาลก็ไม่ดียิ่งขึ้นได้เหมือนกัน

นักเรียนที่ตั้งใจศึกษาหมายจะเข้ารับราชการฝ่ายเดียวนั้น แม้จะสรรเสริญได้ว่าเพราะเขามีความรักพระมหากรษัตริย์ชาติและแผ่นดิน ยิ่งไปกว่าความคิดแคบที่มีเจตนาแต่เฉภาะจะทำผลประโยชน์ให้แก่ตัวฝ่ายเดียวก็ดี แต่เมื่อใคร่ครวญดูแล้วก็จะเห็นเปนความจริงว่า ผู้ที่อุส่าห์ทำมาหากินในการกศิกรรม หัดถกรรม พานิชกรรม หรือการที่ชอบอย่างไรก็ดี ถ้าหากว่าผู้นั้นมีความมัธยัสต์ตั้งความเพียรสู้อดทนประหยัดทรัพย์ที่หาได้มาสะสมจนเปนทุนงอกงามขึ้นได้เสมอไปแล้ว แม้แต่จะทำการเพื่อประโยชน์ตนฝ่ายเดียวก็จะได้ชื่อว่าเปนผู้รักชาติ และมีคุณแก่ชาติบ้างเหมือนกัน ตามธรรมดาผู้ที่จะให้ผู้อื่นพึ่งได้แน่นอนนั้น จะต้องพึ่งตนเองให้ได้เสียก่อน ถ้าพึ่งตนเองไม่ได้ ผู้อื่นจะไปพึ่งตนอย่างไรได้ เมื่อตัวหาผลประโยชน์ได้ก็จะเข้าเรี่ยรายเสียค่าภาษีอากรช่วยรัฐบาลได้โดยสดวก และจะสะสมทุนขึ้นไว้พอบำรุงเลี้ยงครอบครัวและลูกจ้างคนใช้การงานซึ่งมาอาศรัยเลี้ยงชีพอยู่ได้ ก็เพราะเหตุที่ตัวได้อุส่าห์ประหยัดทรัพย์ขึ้นไว้เปนกองทุนได้นั้นเอง ในที่สุดราชการจะดำเนินไปในความจำเริญไม่ได้ ถ้าหากว่าพลเมืองส่วนมากยากจนขัดสนไม่มีเงินจะเสียภาษีอากรให้เปนกำลังแก่รัฐบาล

การเล่าเรียนเพื่อให้มีวิชาความรู้ขึ้นแล้ว ก็จะมีปัญญาที่จะตรองเห็นความดีชั่ว ทางได้ทางเสียโดยลำพังตนเองได้ เพราะความรู้เปนสิ่งสำคัญที่จะกระทำให้ตัวของตัวไว้วางใจตัวเองและพึ่งตัวเองได้, การเล่าเรียนกระทำให้มีปัญญาตรึกตรองการงานและข้อปัณหาทั้งหลาย โดยแจ่มแจ้งขึ้นกว่าแต่เมื่อยังไม่ได้เล่าเรียน, ที่ไม่เคยตรึกตรองโดยรอบคอบเลย ได้เล่าเรียนแล้วก็ตรึกตรองเห็นเหตุผลกระทำให้รู้จักทำการเลี้ยงชีพในทางที่ชอบธรรม และที่เหมาะกันสมกันกับกาละเทสะและคุณวุฒิของตัว, จะคิดการสิ่งใด ประพฤติตัว หรือพูดจาอย่างไร ถ้าเปนการอันมิชอบด้วยธรรมเนียมของชาติสาสนาหรือกฎหมายแผ่นดินแล้ว ปัญญาความรู้ที่เกิดขึ้นจากการศึกษานั้นเองจะคอยเตือนใจสอนใจอยู่ทุกขณะว่า ถ้าขืนคิดขึ้นพูดหรือขึ้นทำไป ความทุกข์อาจจะมาถึงตัวได้, การเล่าเรียนจะทำไม่ให้มีความประมาทต่อความทุกข์ร้อนพินาศฉิบหาย หรือความขัดสนยากจนซึ่งอาจจะเปนขึ้นได้ถ้าไม่ระมัดระวังตัว ทั้งจะสอนให้รู้จักประมาณกาลในปัจจุบันและวันหน้าได้ดีขึ้น, ปัญญาซึ่งเกิดจากการศึกษา เมื่อแสดงให้เห็นชัดว่าความเปนโสดเปนไทยแก่ตัว จะนำความศุขใจพอใจและความสดวกใจมาให้ตัวได้มีเพียงใดแล้ว ความรู้สึกอันนี้จะเปนกำลังส่งเสริมความเพียรให้หมั่นทำการงานหาผลประโยชน์เลี้ยงชีพด้วยน้ำแรงของตนเอง และเมื่อความประมาทต่อความทุกข์ในวันหน้าจะน้อยลงแล้ว ความอดทนอุส่าห์มัธยัดต์ประหยัดทรัพย์สำหรับเปนทุนไว้สำรองเผื่อความขัดสนในภายหน้าก็จะแก่กล้าขึ้นด้วย, การเล่าเรียนจะนำไปให้เห็นว่า ถ้าต้องอาศรัยจมูกผู้อื่นหายใจต้องพึ่งเขาเปนหนี้เขา หรือให้เขามีบุญคุณติดตัวอยู่ข้างเดียว ยังใช้หนี้หรือฉลองคุณตอบแทนเขาไม่ได้เมื่อใด ความเปนโสดเปนไทยแก่ตัว ทั้งผลอันประเสริฐต่าง ๆ ของความเปนไทยนั้น ก็อาจจะเปนอันหมดสิ้นไปได้

การศึกษาวิชาความรู้เปนคุณแก่ตัวแล้ว ยังจะเปนที่พึ่งแก่ญาติและมิตรที่สนิทและห่างได้ต่อไป ในที่สุดผู้มีปัญญาคงจะมีโอกาศที่จะช่วยเหลือเกื้อกูลเพื่อนมนุษย์ด้วยกันได้อย่างใดอย่างหนึ่งเสมอ

ผู้ที่ไม่เคยเล่าเรียนไม่สู้จะเห็นความจำเปนสักเท่าใด ที่จะขวนขวายให้บุตรหลานไปอยู่วัดหรือไปสู่โรงเรียนและสำนักอาจารย์ที่ดี แม้แต่จะส่งบุตรไปบ้างบางทีก็จะเปนเพราะเห็นว่าเพื่อนบ้านเขานิยมทำกัน ครั้นจะไม่ทำตามอย่างเขาบ้างก็จะดูกระไรอยู่ แท้ที่จริงเมื่อตัวไม่เคยรู้รสดีของการศึกษาแล้วก็คงจะไม่มีความเชื่อถือแก่กล้าว่า บุตรที่จะส่งไปเล่าเรียนนั้นอาจจะมีปัญญาดียิ่งไปกว่าตัวได้สักเท่าใด ถ้าเปนคนโง่เขลาก็จะเห็นแต่ประโยชน์จะกักเด็กไว้ใช้ช่วยการงาน ซึ่งเห็นว่าจะมีประโยชน์ยิ่งกว่า

การที่ให้บุตรได้เล่าเรียน ถ้าจะแลกกันกับเงินทองที่จะให้เปนมรดกแล้ว ให้วิชาความรู้แก่บุตรจะดีกว่าให้เงินทองเปนหลายเท่า เพราะเงินทองนั้น ถ้าไม่มีปัญญาก็รักษาไว้ไม่ได้ยืดยืน ถ้ารักษาไม่ดี เอาไปจำหน่ายใช้สรอยโดยความเผยเรอเย่อหยิ่งเกินตัว หรือเอาไปใช้บำรุงความสำราญรื่นเริงในทางชั่ว เงินนั้นอาจจะกลับให้โทษแก่เจ้าของได้โดยสาหัศด้วย, แต่ถ้าจะกล่าวแต่ทางชั่วแล้วส่วนวิชาความรู้ก็จะคล้ายคลึงกัน ถ้าให้บุตรไปแล้ว บุตรเอาไปใช้ทำประโยชน์ไม่ได้ หรือถ้าบุตรนั้นมีสันดานเปนคนชั่วแท้ ยิ่งได้ความเล่าเรียนยิ่งฉลาดขึ้นก็ยิ่งจะมีปัญญาโกงหนักขึ้นคล้ายกันกับที่ให้เงินไปผลาญเสีย แต่ดีผิดกันที่ตรงว่าวิชามีที่ติดตัวอยู่นั้น จะทำอย่างใดเสียก็ไม่สูญสิ้นไปอย่างเงินได้ บุตรมีน้ำใจที่จะเอาวิชามาใช้เปนประโยชน์ในทางที่ชอบเมื่อใดคงจะใช้ได้เสมอ การเล่าเรียนยังได้เปรียบกว่าเงินอีกข้อหนึ่งว่า ความรู้ยังจะนำให้ห่างไกลจากความชั่วได้ดีกว่าผู้ที่ไม่ได้เล่าเรียนเลย

เมื่อเห็นกันว่าเปนหน้าที่ของบิดามารดาจะจัดการให้บุตรได้ศึกษาเล่าเรียน และเมื่อเชื่อว่าเงินทองซึ่งได้จำหน่ายใช้ไปสำหรับการเล่าเรียนของบุตรนั้น จะเท่ากันกับมรดกหรือทุนที่จะให้บุตรมีสำรองไว้ เพื่อประกอบการเลี้ยงชีพของบุตรในภายหน้าแล้ว รัฐบาลกต้องถือเอาเปนหน้าที่จัดการส่งเสริมการเล่าเรียนของพลเมืองโดยทั่วไปให้สดวกดียิ่งขึ้นไปอีก ยิ่งเปนพลเมืองที่ยากจนขัดสนไม่มีโอกาศที่จะเล่าเรียนได้ ก็ยิ่งควรจะต้องเอาใจใส่ให้เข้มงวดขึ้น รัฐบาลได้จำหน่ายใช้เงินไปในการศึกษาอย่างไร ก็เท่ากันกับการที่บิดามารดาของบุตรได้ลงทุนซื้อวิชาให้ รัฐบาลยังจะมีกำไรกว่าบิดามารดาของบุตรอีกชั้นหนึ่งที่ตรงว่า ถ้าพลเมืองโง่เขลาเบาปัญญาเปนส่วนมากอยู่ในแผ่นดินแล้ว รัฐบาลจำเปนจะต้องจำหน่ายใช้เงินเปลืองในการบำรุงรักษาพลเมืองพวกนี้ และพลเมืองชั้นสูงต่อไปอีกด้วย

ถ้าตรวจสำมโนครัวนักโทษในกองมหันตโทษทั่วไปทุกประเทศ ก็จะเห็นได้ว่าจำนวนนักโทษที่เปนส่วนมากที่สุดนั้น เปนพวกที่ไม่ได้ศึกษาเล่าเรียนเปนพื้น, สำหรับป้องกันชีวิตและทรัพย์สมบัติของพลเมืองนั้น รัฐบาลต้องลงทุนตั้งศาลเลี้ยงพลตระเวนและตำรวจภูธร ทั้งสร้างคุกตรางด้วยนั้น เปนจำนวนเงินส่วนใหญ่ในงบประมาณรายจ่ายของพระคลังมหาสมบัติเปนอันมาก ราษฎรยิ่งโง่เขลามาก ความประมาทในการมัธยัสต์ประหยัดทรัพย์ในแผ่นดินยิ่งมากขึ้น โจรผู้ร้ายและผู้กระทำผิดต่อกฎหมายในบ้านเมืองก็ยิ่งจะมากขึ้นตามกัน เมื่อราษฎรขัดสนไม่มีปัญญาจะทำการเลี้ยงชีพได้ในทางสุจริต ก็ต้องอาศรัยทางทุจริตช่วยเปนธรรมดา ถ้าหากว่าราษฎรพวกนี้เปนคนโง่เขลาไม่ได้เล่าเรียนรู้ธรรมเนียมที่ดี รัฐบาลคงต้องเปลืองทรัพย์แผ่นดินในการปกครองมากอยู่เสมอไป

ในประเทศใดที่พลเมืองได้เล่าเรียนศึกษาน้อย มีส่วนคนโง่เขลาอยู่มาก เพราะฉนั้นความคิดจึงสั้น ปราศจากการระวังตัวที่จะต้องอุส่าห์มัธยัสต์ประหยัดทรัพย์ไว้สำหรับวันหน้า ต้องเปนคนเผอเรอ หาได้มาเท่าใดก็จ่ายไปเท่านั้น ความยากจนขัดสนที่เคยเปนมาแล้วแต่ภายหลังอย่างใดไม่ต้องการจะระลึกถึง การภายหน้าจะเปนอย่าไรก็ตามแต่กุศลและอกุศลจะนำไป ขอแต่ว่าให้ได้กินอิ่มหนำสำราญ หรือมีการเล่นสนุกสนานอยู่ในชั่วขณะที่ทำผลประโยชน์ได้นั้นก็แล้วไป คนจำพวกนี้ต้องได้ความเดือดร้อนเพราะความขัดสนอับจนอยู่เนือง ๆ ถ้ามีความเกรงกลัวอาญาแผ่นดินไม่ลักขะโมยหรือฉ้อโกงผู้อื่นได้ ก็คงจะคิดอาศรัยเบียดเบียนเพื่อนต่อไป เพราะพึ่งตนเองไม่ได้ เมื่อต้องอาศรัยแรงของผู้อื่นเลี้ยงชีพ ก็ต้องตกเปนคนที่ไม่เปนโสดแก่ตัว ไม่นับถือตัวเอง หรือที่ผู้อื่นไม่ควรจะนับถือ

ในประเทศใดมีคนจำพวกที่ทำการหาเลี้ยงชีพพึ่งตนเองไม่ได้ ต้องอาศรัยผู้อื่นเปนจำนวนคนส่วนมากเช่นนั้นแล้ว ประเทศนั้นก็จะมีทุนสะสมขึ้นไว้ไม่ได้อยู่เอง การค้าขาย การเดินเรือ การหัดถกรรม ทำของขาย ทำบ่อแร่หรือการใหญ่เช่น กองทัพบกและเรือที่จะไว้วางใจได้มั่นคงเปนอันมีไม่ได้ มีไม่ได้เพราะไม่ได้สร้างสมทุนขึ้นไว้พอจ่าย บุคคลที่เผอเรอเปนโสดแก่ตัวไม่ได้อย่างใด ประเทศหรือบ้านเมืองของพลเมืองที่เปนส่วนมากเช่นนั้น ก็พึงจะมีความอิสรภาพไม่เต็มที่ตามสมควรอยู่ได้เหมือนกัน ประเทศใดมีการศึกษามากมั่งมีบริบูรณ์กว่า เพราะฉนั้นจึงมีอำนาจมากกว่า จะข่มเหงเบียดเบียนในทางอันไม่ชอบธรรมอย่างใด ประเทศที่ยากจนก็ไม่สามารถจะต่อสู้ต้านทานคัดค้านได้ เมื่อความจริงเปนเช่นนี้ จึงควรจะเห็นได้แน่แท้ว่า ทุนที่รัฐบาลจะออกช่วยพลเมืองในการศึกษานั้น อาจจะทำให้งอกกำไร ช่วยชาติและบ้านเมืองให้จำเริญถาวรอยู่ได้เพียงใด ที่แท้จริงในปัจจุบันนี้ก็เห็นได้แล้วว่า ความจำเริญของการศึกษาที่แพร่หลายไปในหมู่พลเมืองส่วนมากนั้น เปนการช่วยให้บ้านเมืองบริบูรณ์ทั้งทรัพย์และช่วยให้มีอานุภาพใหญ่ยิ่งขึ้นได้โดยรวดเร็ว ดังที่จะยกตัวอย่างประเทศเยอรมันนี ซึ่งความจำเริญกำลังจะดำเนินขึ้นอยู่นั้น มาเปรียบเทียบกับประเทศอื่นในยุโรป และในประเทศตวันออกนี้ก็มีตัวอย่างเมืองญี่ปุ่นเปรียบกับเมืองจีนอันเปนประเทศใหญ่ที่สุดเปนต้น จำเริญยิ่งกว่ากันเพราะการศึกษาเล่าเรียนแท้

การเล่าเรียนเปนมูลเหตุอันสำคัญที่จะกระทำให้ราษฎรรู้จักประหยัดทรัพย์ได้ดีกว่าอย่างอื่นทั้งสิ้น ความเจริญของบ้านเมืองที่ต้องอาศัยการศึกษานั้น ก็เพราะการศึกษากระทำให้คนรู้จักประหยัดทรัพย์มากขึ้นนั้นเปนข้อใหญ่

ผู้ที่ทำการได้ผลแล้วอุส่าห์ถนอมทรัพย์ประหยัดไว้ จนเปนทุนแผ่เผื่อเลี้ยงคนทำงานอื่นเปนผลประโยชน์ต่อยาวสาวยืดไปได้อีกนั้น ควรจัดได้ว่าเปนผู้มีคุณแก่แผ่นดินอยู่บ้าง เมื่อทุนงอกงามขึ้นแล้ว การค้าขาย การเดินเรือ และการหัดถกรรมกสิกรรมต่าง ๆ นา ๆ ก็ต้องเกิดมีขึ้นตามกัน ในที่สุดผู้ที่อุส่าห์ตั้งความเพียรประหยัดทรัพย์ไว้ได้นั้น เปนผู้ที่ได้ก่อสร้างตึกร้านบ้านเรือนเรียกสวนไร่นาเรือแพโรงจักร์โรงงานสารพัดอย่างที่เปิดหนทางให้คนทำงานได้อาศรัยรับจ้างหาเลี้ยงชีพอยู่แล้ว ยังจะเปนมรดกตกต่อเปนผลประโยชน์แก่ชาติสืบไปภายหน้าอีก คนจำพวกนี้แหละที่ได้ประสมทุนเข้าหุ้นส่วนกันสร้างเรือกำปั่น รถไฟ ขุดคลองน้ำ ทำบ่อแร่ และก่อสร้างตึกร้านบ้านเรือนขึ้น จนเราท่านทั้งหลายในปัจจุบันนี้ ได้พลอยรับผลแห่งความศุขจากแรงทำการของผู้ประหยัดทรัพย์แต่ต้นมานั้นด้วยไหนยังจะได้รับความชำนาญและเรียนวิชาความรู้ต่าง ๆ นา ๆ ที่การแต่ก่อนได้ก่อเกิดขึ้นนั้นสืบเนื่องจำเริญยิ่งต่อไปอีก ตัวอย่างที่ดีในเรื่องความมัธยัสต์ประหยัดทรัพย์ของพลเมืองส่วนมากนั้น พอจะยกตัวอย่างเมืองฝรั่งเศสมากล่าวในที่นี้ได้ คือเมื่อคริสตศักราช ๑๘๗๐ ชาติฝรั่งเศสแพ้การสงครามแก่ชาติเยอรมัน ในเดือนพฤษภาคม คริศตศักราช ๑๘๗๐ ต้องทำหนังสือสัญญาใช้เงินถ่ายเมืองให้แก่ประเทศเยอรมันนี เปนจำนวนเงินมากมายถึง ๕๐๐ โกฏิแฟรงค์ คิดเปนเงินราว ๒๖๐ โกฏิบาท และในระหว่างเวลาที่ฝรั่งเศสยังชำระเงินค่าถ่ายรายนี้ไม่เสร็จ ทหารเยอรมันก็ยังเข้าตั้งอยู่ในเมืองเพื่อเปนประกัน แต่ตั้งอยู่ได้เพียง ๑๔ เดือนเท่านั้นก็ต้องถอยออก เพราะรัฐบาลฝรั่งเศลหาเงินมาใช้ค่าถ่ายได้ เงินรายนี้พลเมืองฝรั่งเศสล้วนพร้อมใจกันเข้าเรี่ยรายออกเงินให้รัฐบาล ในชั้นต้นรัฐบาลจะต้องการ ๓๐๐ โกฏิแฟรงค์เท่านั้น แต่เมื่อเรี่ยรายแล้วรวมจำนวนเงินที่ราษฎรจะให้กู้ได้มากเกินตัวถึง ๑๔ เท่า ราษฎรพวกนี้มีชาวนาเปนส่วนมาก ความจริงข้อนี้จึงปรากฎอยู่ในจดหมายเหตุของโลกว่า ความมัธยัสต์ประหยัดทรัพย์ดีของพลเมืองมีผลช่วยชาติและบ้านเมืองได้ดียิ่งขึ้นเพียงใด

ในการที่รัฐบาลต้องจ่ายเงินแผ่นดินเพื่อเปนคุณและเปนสาธารณประโยชน์ของชาติทั่วไปนั้น ไม่มีการจ่ายเงินอย่างใดที่จะทำประโยชน์ได้เปนผลกลับคืนมาดียิ่งกว่าที่รัฐบาลจะใช้จ่ายเงินในการบำรุงการศึกษาของชาติ โดยเจตนาที่จะให้พลเมืองชั้นใหม่จาเริญยิ่งขึ้นไปในภายหน้า เพราะการศึกษาจะเปนรากอันปึกแผ่นแน่นหนาที่แผ่นดินจะตั้งอยู่ได้โดยมั่นคง ในสมัยนี้นา ๆ ประเทศใหญ่ในโลกเห็นร่วมกันทั่วไปโดยชัดแจ้งแล้วว่าเพื่อจะให้เปนคุณประโยชน์แก่บุคคลทั่วไปในแผ่นดิน พลเมืองทุกคนจะต้องได้รับการศึกษาอย่างต่ำที่สุดเพียงชั้นปถม เห็นร่วมกันว่ารัฐบาลจำเปนต้องจ่ายเงินจัดการให้เปนไปได้เพียงนี้ ต้องเกณฑ์ให้บุตร์พลเมืองได้เล่าเรียนทุกคน แต่ไม่ต้องให้เสียเงินค่าเล่าเรียน ถ้าการศึกษาเปนไปได้เพียงเท่านี้ แม้แต่เศรษฐีที่ไม่มีบุตร์เลยก็จะพลอยได้รับคุณประโยชน์แห่งการศึกษาของบุตร์คนอนาถาที่อยู่ใกล้เคียงกัน ประดุจดังว่าได้รับคุณประโยชน์จากพลตระเวร ในการที่เขาช่วยป้องกันรักษาทรัพย์สมบัติของเศรษฐี เพราะถ้าพลเมืองมีความรู้ดี เศรษฐีนั้นก็จะหาคนดีรับใช้การงานได้ง่าย ลูกจ้างที่ฉลาดและมีความรู้ดี คงมีความสามารถทำการงานให้บังเกิดผลได้มากกว่า ลูกจ้างที่โง่เขลาเปนแน่ จึงเปนการสมควรที่เศรษฐีจะต้องเต็มใจยอมเสียทรัพย์ช่วยในการศึกษานั้นด้วย

ถัดจากการศึกษาชั้นประถมที่เห็นกันว่าเปนที่ต้องการสำหรับพลเมืองทั่วไปแล้ว ยังมีการศึกษาวิชาช่างชั้นประถม (Rudimentary Mechanical Arts) ซึ่งจะฝึกหัดให้พลเมืองมีฝีมือทำการเลี้ยงชีพเปนวิชาเพิ่มเติมการเล่าเรียนเพียงเขียนอ่านและคิดเลขได้เล็กน้อยนั้นอีก เห็นกันว่าเปนการจำเปนที่รัฐบาลจะต้องบำรุงทางนี้ขึ้นให้ทันกับความต้องการของการช่างทั้งหลายที่เกิดขึ้นใหม่มากอย่างต่างชนิดอีกเสมอ

การศึกษาวิชาช่างชั้นประถมสำหรับพลเมืองข้อนี้ ถ้าสำหรับกรุงสยามแล้วดูจะเปนการสำคัญซึ่งต้องรีบร้อนจัดทำขึ้นเปนอย่างยิ่ง เมื่อคิดไปถึงว่าผีมือช่างไทยทุกวันนี้เสื่อมทรามลงเปนอันมาก เสื่อมลงเพราะสินค้าต่างประเทศที่ราคาถูกเข้ามาขายประมูลลดราคาสินค้าเดิมที่ทำด้วยฝีมือไทยนั้นให้พ่ายแพ้ไป เช่นการทอผ้าเปนต้นแล้ว ยังมีการช่างไม้ช่างเหล็กช่างแกะช่างสลักช่างกถึงช่างทองและช่างทำสิ่งของและเสบียงอาหารการต่าง ๆ นา ๆ ซึ่งแต่ก่อนมาทำด้วยฝีมือไทยแท้ทั้งสิ้นนั้น มาบัดนี้กลายเปนฝีมือช่างชาวต่างประเทศเสียเปนอันมาก พวกจีนเข้ามาทำการแข่งขันประชันขับไล่ช่างไทยเสียแทบทุกอย่าง จนชั้นที่สุดแม้แต่การซ่อมแซมช่อฟ้าใบฎีกาประดับกระจกปิดทองและลายเขียนลายสลักเปนของที่จำเภาะตาของคนไทยจะเห็นงามได้โดยทรวดทรงที่ต้องตาไทยแท้นั้น จีนก็อุส่าห์เข้ามาแย่งงานไปทำได้ จนชั้นการทำขนมต้มแกงซึ่งเปนรสของไทยแท้จีนก็อุส่าห์มาทำขายได้ ถ้าไม่มีการแก้ไขในทางนี้บ้าง ชาติไทยนับวันนี้แต่จะถอยหลังออกไปหากินเลี้ยงชีพตามไร่นาป่าดงกระชั้นขึ้นทุกที

แท้จริงนั้นจีนซึ่งเข้ามาแย่งงานทำเหล่านี้ เมื่อแรกเปนจีนใหม่ซึ่งเข้ามา โดยมากไม่ได้มีวิชาอะไรติดตัวมาด้วยเลย มาแต่ตัวเปล่าก็จริง แต่ความอดทนความขยันและความเพียรของเขาที่มีเปนอุปนิสัยเดิมแก่กล้าอยู่กว่าพลเมืองไทยนี้เอง ได้เปนกำลังต่อสู้จนพลเมืองพายแพ้ไปได้ เมื่อดูไปว่าโดยมากคนพวกนี้ไม่รู้หนังสือหรือฝึกหัดวิชาอย่างใดมาแต่ก่อน เข้ามาถึงเมืองไทยแล้วจึงได้ตั้งต้นฝึกหัดเรียนทำตามแบบแผนของไทยเสียเปนพื้นเช่นนั้นแล้ว ความหวังใจของชาติไทยที่ยังมีอยู่ก็แต่ว่าจะต้องจัดการศึกษาให้พลเมืองสามัญได้เล่าเรียนวิชาหนังสือและวิชาช่าง ให้มีสะติปัญญารู้คิดรู้ทำดีกว่าชาวต่างประเทศที่ไม่ได้ศึกษามาแต่ก่อนเท่านั้น การศึกษาวิชา อ่านเขียน คิดเลข และวิชาช่าง แม้แต่เปนชั้นประถมก็ยังจะต้องการเวลาในการศึกษานั้นหลายปีอยู่ ถ้าพลเมืองไทยชั้นเด็กได้ตั้งต้นมาก่อนแล้ว ถึงจะอย่างใดเมื่อถึงเวลาจะเข้าทำการงานเลี้ยงชีพได้จริง คนต่างประเทศเช่นจีนใหม่ซึ่งมิได้มีวิชาข้าแต่มาก่อนเลย คงต้องเปนรองคนไทยชั้นใหม่อยู่เสมอ จึงเปนความหวังใจว่าชาติไทยจะเอาตัวรอดได้ก็จะเปนเพราะการศึกษาอย่างเดียว

ในประเทศอเมริกาและออสเตรเลียซึ่งมีความครั่นคร้ามต่อการแข่งขันประชันแรงทำงานของพวกจีนสามัญ จนถึงกับห้ามไม่ให้จีนพวกนี้เข้าไปแย่งการทำในเมืองของเขาได้นั้น แท้ที่จริงพวกจีนที่เข้าไปได้แต่ก่อน มีความสามารถทำได้แต่การเลวการหนัก เช่นการขุดดินการแบกหามเปนพื้น ส่วนการที่ดีขึ้นไปกว่าเพียงชั้นนายงานเท่านี้จีนก็สู้ฝรั่งไม่ได้ สู้กันไม่ได้เพราะพลเมืองฝรั่งได้เล่าเรียนศึกษาและฝึกหัดวิชาช่างชั้นประถมอยู่ก่อนแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นฝรั่งก็ยังเกรงจีนอยู่มาก เกรงความมัธยัสต์ประหยัดทรัพย์ของจีนที่เข้มงวดกว่านั้นเปนใหญ่ อาหารการเลี้ยงชีพของจีนเปลืองน้อยกว่ากัน จึงรับจ้างทำการลดหย่อนราคาค่าแรงให้ต่ำลงได้

การศึกษาชั้นสูงเช่นที่สอนกันในโรงเรียนมหาวิทยาลัยนั้น แน่แล้ว เปนการที่อาจทำให้เกิดผลกลับคืนได้มากกว่าทุนที่ได้ลงไปในการสร้างมหาวิทยาลัยหลายเท่า เพราะเหตุว่าสะปัญญาความคิดที่จะนำให้ชาติไปสู่ความเจริญได้รวดเร็วทันสมัยนั้น ต่อไปภายหน้าจะเปนเพราะคนพวกนี้ ในสมัยนี้คนเล่าเรียนชั้นสูงที่เปนชาติไทยแท้มีไม่พอกับความต้องการ เราจึงต้องจำเปนปราศจากทรัพย์ราคามากไปแลกเปลี่ยนซื้อหรือจ้างแรงคนพวกนี้มาใช้ไปพลาง มีพวกฝรั่งในราชการและพวกฝรั่งตามห้างร้านโรงสีโรงเลื่อยโรงเหล็กที่มีทั่วไปในกรุงเทพฯ นั้นเปนต้น ถึงโดยว่าคนบางจำพวกจะเข้ามาตั้งทำการหาผลประโยชน์แต่ลำพังตัวของเขาเอง เราไม่ได้ชักชวนหรือจ้างเขามา แต่ค่าที่เขาทำสิ่งของขายให้เราใช้เปนประโยชน์ได้ หรือที่เขาช่วยขนของขนสินค้าของเราออกไปขายชาวต่างประเทศ นำราคาอย่างดีมาให้เราได้ เราต้องใช้ค่าแรงและค่ากำไรให้เขาจนเพียงพอ ก็เท่ากันกับว่าเราจ้างเขามาใช้ หรือเราต้องซื้อของซื้อแรงชาวต่างประเทศเข้ามาใช้ในบ้านเมือง เราต้องเสียราคาแพงโดยเหตุที่เขาต้องทิ้งบ้านเมืองถิ่นที่เดิมของเขาเข้ามาทำการงานให้แก่เรา หรือต้องขนสินค้าทางไกลเข้ามาส่งเปนธรรมดาอยู่เอง ถ้าพลเมืองเราทำการเหล่านี้ได้โดยลำพังในบ้านเมือง ผลประโยชน์ที่ได้ของไทยกจะไม่ต้องแพร่หลายกระจายออกไปอย่างเดี๋ยวนี้ ถ้าเราพึ่งตัวเราเองได้ไม่ต้องอาศรัยชาติอื่นแล้ว ความเจริญของเราก็นับวันแต่จะรุ่งเรืองถาวรขึ้นทุกที การศึกษาจึงเปนข้อสำคัญอันใหญ่สำหรับชาติแท้ไม่เลือกว่าแห่งไหนตำบลใด

แต่ก่อนมานักเรียนทุกชั้นในประเทศยุโรป ต้องเสียเงินค่าเล่าเรียนทั่วไป มาในปัตยุบันนี้ค่าเล่าเรียนชั้นประถมของพลเมืองเปนอันยกเลิกกันแล้ว ยังเหลืออยู่ก็แต่การศึกษาชั้นกลางและชั้นสูงซึ่งบางประเทศนักเรียนต้องเสียค่าเล่าค่าเรียนส่วนตัวอยู่บ้าง แต่การนี้นับวันต่อไปก็มีแต่จะลดน้อยลงเสมอ ประเทศอังกฤษเปนประเทศที่จัดการทางนี้ล้าหลังกว่าประเทศใหญ่ทั้งหลายมาก จึงเห็นปรากฎได้ในทุกวันนี้ว่า พลเมืองชั้นต่ำของอังกฤษมีส่วนที่เขียนอ่านไม่ได้อยู่เปนอันมาก แต่ฝ่ายคนส่วนน้อยที่ได้รับการศึกษาชั้นสูงถึงมหาวิทยาลัยนั้นโดยมากเปนคนในตระกูลชั้นสูงและตระกูลผู้มีทรัพย์เปนพื้น เมื่อการศึกษาชั้นสูงจะต้องเสียเงินค่าเล่าเรียนมากแล้ว ก็เปนอันพ้นกำลังที่บุตร์พลเมืองชั้นต่ำและอนาถาจะเอื้อมถึงได้ ผิดกันกับประเทศอเมริกา ประเทศเยอรมันนี และบางประเทศในทวีปยุโรปซึ่งรัฐบาลเกื้อกูลช่วยเสียค่าสั่งสอนแทนเปนกำลัง มหาวิทยาลัยในประเทศเหล่านั้นเก็บแต่ค่าธรรมเนียมจดทะเบียน ค่าธรรมเนียมประกาศนียบัตร์ และค่าใช้สรอยเบ็ดเตล็ดช่วยการขาดเหลือในของพิเศษที่ต้องใช้เปนเครื่องมือหรือเครื่องทดลองฝึกหัดในวิชาต่าง ๆ เปนสิ่งเปนอย่างไป คนเล่าเรียนวิชาชั้นสูงในประเทศยุโรปและอเมริกาจึงมีคนในตระกูลชั้นกลางเปนส่วนมาก คนในตระกูลชั้นต่ำเรียนขึ้นไปไม่ถึงโดยเหตุที่บิดามารดาขัดสนต้องจำเปนเลิกการเล่าเรียนในชั้นกลางออกทำการเลี้ยงชีพเสียแต่เนิ่น ตามธรรมดาการขวนขวายของบุตร์ผู้บริบูรณ์ไปด้วยทรัพย์สมบัติไม่สู้จะแก่กล้าเข้มงวดเหมือนผู้ที่ขัดสนไม่บริบูรณ์ ถ้าคนชั้นกลางได้รับการสั่งสอนในมหาวิทยาลัยเปนส่วนมากอยู่แล้ว การขวนขวายในการเลี้ยงชีพของคนพวกนี้แพร่หลายมากก็สามารถจะนำความเจริญมาให้แก่ชาติและบ้านเมืองของตัวได้รวดเร็วยิ่งขึ้น รัฐบาลต้องออกเงินช่วยบำรุงการศึกษามากขึ้นเท่าไร ราษฎรก็ต้องจำเปนออกเนื้อเข้าเรี่ยรายเสียภาษีอากรมากขึ้นตามส่วนกัน

เงินที่จะเสียไปในการศึกษาชองชาติจะไม่ได้ผลเปนกำไรกลับคืนในทันที เพราะผลนั้นจะได้เปนคุณอยู่แก่บุตร์หลานที่จะเปนคนชั้นหลังนั้นก็จริง แต่ถ้าคิดดูว่าเงินซึ่งรัฐบาลกู้หนี้มาสำหรับทำประโยชน์ให้แก่ชาติเราในปัจจุบัน เช่นกับที่เอามาใช้ในการทำทางรถไฟและการโยธาทั้งหลายนั้น จะต้องไปตกหนักอยู่แก่บุตร์หลานของเราที่จะต้องรับใช้หนี้รายนี้เปนมรดกตกต่อไปด้วยแล้ว ก็เห็นเปนความยุติธรรมว่าเราควรจะลงทุนเพื่อจะให้บุตร์หลานได้รับการศึกษามีวิชาหาเลี้ยงชีพให้เปนเครื่องมืออันดี สำหรับทำการหาผลประโยชน์ใช้หนี้ที่เราทำไว้ เพื่อประโยชน์ส่วนเราในปัตยุบัน ทั้งจะให้เปนกำลังไว้สำหรับดำรงรักษาความอิศรภาพของชาติต่อไปในกาลภายหน้าด้วย

จบเล่ม ๑

เล่ม ๒ ยังพิมพ์ต่อไป

 

แชร์ชวนกันอ่าน

แจ้งคำสะกดผิดและข้อผิดพลาด หรือคำแนะนำต่างๆ ได้ ที่นี่ค่ะ